หลังจากเปิดตัวหอศิลป์ “ศุภโชค ดิ อาร์ต เซนเตอร์”(Subhashok The Arts Centre: S.A.C.) หอศิลป์สำหรับคนรักงานศิลปะจนประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ทั้งในด้านของการเปิดพื้นที่ให้แก่สถาบันการศึกษา นักเรียน นิสิตนักศึกษา ผู้ด้อยโอกาส และประชาชนทั่วไปที่มีใจรักในงานศิลปะ ทั้งที่เป็นภาพเขียนและงานประติมากรรมร่วมสมัยได้เข้ามาเรียนรู้ ทำเวิร์คช็อป จัดแสดงผลงาน และร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับศิลปินรุ่นใหญ่ รุ่นใหม่ และศิลปินระดับอาจารย์อย่างใกล้ชิด โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ รวมถึงการจัดแสดงงานศิลปะที่ได้รับความสนใจทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา อย่างการรวบรวม 50 ผลงานศิลปะที่หาชมได้ยากสะท้อนจุดเปลี่ยนที่เป็นเสี้ยวสำคัญของชีวิตจาก 30 ศิลปินทรงคุณค่าของประเทศไทย อาทิ เฟื้อ หริพิทักษ์, ศ.ชลูด นิ่มเสมอ, อังคาร กัลยาณพงษ์, ถวัลย์ ดัชนี, เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ และ ม.ล.จิราธร จิรประวัติ ฯลฯ มาจัดแสดงในชื่อ “SPACE+TIME=STORY” ศุภโชค ดิ อาร์ต เซนเตอร์ จึงกลายเป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะรูปแบบอาร์ตเซ็นเตอร์เพียงหนึ่งเดียวของประเทศไทย
ล่าสุดหัวเรือใหญ่ของ S.A.C. “คุณศุภโชค อังคสุวรรณศิริ” เตรียมร่วมกับสองพาร์ทเนอร์ผู้คร่ำหวอดในวงการศิลปะชั้นนำของโลก มาร่วมสร้างปรากฏการณ์ใหม่ แก่วงการศิลปะในประเทศไทย ให้เติบโตเทียบเท่าตลาดศิลปะในต่างประเทศ โดยพาร์ทเนอร์สำคัญที่จะมาร่วมผลักดันในครั้งนี้ คือ “Galerie Adler Paris” แกลอรี่ชื่อดัง ที่การันตีคุณภาพของผลงานศิลปะจากนักสะสมชาวฝรั่งเศสและนักสะสมทั่วโลก ซึ่งก่อตั้งโดย คุณโจเอล โคเฮน (Joel Cohen) คุณอาร์แมล โคเฮน (Armelle Cohen) และผู้เชี่ยวชาญด้านงานศิลปะร่วมสมัยที่มีสายตาเฉียบคม “คุณโลรองต์ เดอร์ ปาส” (Laurent de Pass)
โดยงานนี้ “คุณศุภโชค อังคสุวรรณศิริ” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการเตรียมจับมือดังกล่าวนี้ว่า
“โปรเจคใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของสามฝ่าย คือ “ศุภโชค ดิ อาร์ต เซนเตอร์, แอดเลอร์ แกลอรี่ ปารีส และ คุณโลรองต์ เดอร์ ปาส ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาวงการศิลปะในทิศทางเดียวกัน นั่นคือ ต้องการที่จะผลักดันและยกระดับวงการศิลปะในประเทศไทย ให้ก้าวไปสู่ระดับสากล เนื่องจากมองว่าประเทศไทยยังเป็นตลาดที่ค่อนข้างเล็กอยู่ ยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้อีกมาก จากการที่เห็นผลงานศิลปะของคนไทยฝีมือดีๆ มากมายถูกซื้อไปสะสมอยู่ในต่างประเทศ จึงเห็นว่าเราน่าจะมีการสนับสนุนศิลปินในวงการศิลปะไทยอย่างจริงจัง
ซึ่งผมมองว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างโอกาสที่ดีให้กับศิลปินไทยในการพัฒนาผลงานศิลปะให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล พร้อมออกสู่สายตานักสะสมทั้งในและต่างประเทศ”
โดยไอเดียดังกล่าวแว่วมาว่า จะมีการเปิดตัวให้ทราบกันในแบบเอ็กซ์คลูซีฟ งานนี้รับรองว่าผู้ที่ชื่นชอบในงานศิลปะ ทั้งผู้เสพงานศิลป์และอาร์ตติสต์ผู้สร้างสรรค์ไม่ควรพลาดโอกาสนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหว ได้ที่ www.facebook.com/adlersubhashokgallery และข่าวความคืบหน้าจะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป