เปลือยหมดใจ “ฟลุ๊ค-พงศธร” ไม่หวั่นคนติดภาพเกย์

คอลัมน์ คุยกับดาว
เรื่อง – อนันต์ ธัญญ์รัตน์ / ภาพ – วิวิศน์วรดร จันทรวงศ์

fluke-3

fluke-4

เมื่อพูดถึง หนุ่มหน้าสวย วัยขบเผาะ ในช่วงนี้ เห็นจะนึกถึงใครอื่นเป็นไม่ได้ นอกเสียจากนางเอกจากภาพยนตร์รักสุดโรแมนติกระหว่างพี่ชายและน้องชายเรื่อง “พี่ชาย My Bromance” กับบท “แบงค์” น้องชายที่รักพี่ชายสุดหัวใจแบบไม่มีเงื่อนไข แถมยังมีฉากกุ๊กกิ๊กให้ได้จิ้นกันอีกด้วย จนทำเอาบรรดาเก้งกวาง สาววาย ทั้งหลาย ฟินกันไปถ้วนหน้า

การที่ “ฟลุ๊ค-พงศธร” เปิดตัวเข้าวงการด้วยการรับบทสาวประเภทสองในภาพยนตร์เรื่อง เกรียนฟิคชั่น แล้วยังต้องมารับบทเกย์ในหนังสั้นออนไลน์รักจริงปิ๊งเก้อ และ พี่ชาย My Bromance อีกครั้ง ซึ่ง “ฟลุ๊ค” แสดงได้สมบทบาทมาก ทำให้หลายคนสงสัยว่าฟลุ๊คจะเป็นเกย์แบบบทบาทที่ได้รับหรือเปล่า…

แม้ว่า พี่ชาย My Bromance ได้ออกจากโรงไปแล้ว แต่กระแสของ “ฟลุ๊ค” ยังคงแรงไม่หยุด จนแฟนๆ หลายคนอยากรู้จักหนุ่มน้อยคนนี้ให้มากกว่าในจอหนัง ล่าสุด “Star Talk” สัปดาห์นี้ จึงตอบสนองแฟนๆ ด้วยการคว้าหนุ่ม “ฟลุ๊ค” มาเปิดอกคุย ทุกเรื่องราว แบบเจาะลึกถึงชีวิต และตัวตนที่แท้จริงของเขาแบบหมดเปลือก รวมถึงเรื่องราวความรักว่า 4ห้องหัวใจดวงเล็กๆ นี้ว่ามีใครมาจับจองแล้วหรือยัง ว่าแล้วก็มาเปลือยใจเขากันเล้ยยย

เริ่มเข้าวงการยังไง?
ฟลุ๊ค: เริ่มเข้าวงการจากการแคสติ้งหนังเรื่องพี่ชาย แต่เรื่องแรกที่ได้เข้าฉายก่อนจะเป็นเรื่องเกรียนฟิคชั่นครับ

มาร่วมงานกับทางเวิร์คพอยท์มีอะไรที่เปลี่ยนไปจากเดิม?
ฟลุ๊ค: ฟลุ๊คเพิ่งเข้ามาอยู่กับทางเวิร์คพอยท์ได้ประมาณ 3-4 เดือนครับ การเปลี่ยนแปลงตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยเห็นอะไร เพราะว่าเราก็เพิ่งเข้ามา อย่างมากก็จะมีเรียนการแสดง เพิ่มทักษะการร้องเพลงอะไรอย่างนี้ครับ

รู้สึกยังไงบ้างกับชีวิตนักแสดง?
ฟลุ๊ค: ตอนแรกฟลุ๊คไม่ได้คิดเลยว่า อยากจะเข้าวงการบันเทิง แต่เมื่อมีโอกาสมาถึงตัวเราแล้ว ก็อยากจะลองใช้โอกาสตรงนั้น พอเราได้มีโอกาสลองทำงานตรงนี้ก็รู้สึกว่าสนุกดี เราชอบมัน เรารักมัน เพราะว่าเราก็มีความสุขกับสิ่งที่เราทำไปครับ

เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น รับมือกับความไม่เป็นส่วนตัวยังไง?
ฟลุ๊ค: ตั้งแต่คนรู้จักเยอะ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แต่ก็ยังมีผู้จัดการที่คอยดูแล ช่วยตักเตือน เวลาจะทำอะไรก็ต้องระวังตัวไว้เยอะเหมือนกันครับ ค่อนข้างที่จะไม่เป็นส่วนตัวเท่าไหร่ บางทีเวลาจะไปที่ไหนก็จะมีคนตามไปเยอะเหมือนกัน (รู้สึกอึดอัดบ้างไหม?) ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ เพราะว่าแฟนคลับส่วนมากเขาจะไม่ได้เยอะขนาดนั้น เขาก็จะให้เกียรติเราบ้าง แต่เวลาเราจะทำอะไรก็ต้องระวังตัวดูแลภาพลักษณ์ของตัวเองด้วยครับ

คนมักจะพูดว่าเราเข้าถึงตัวยาก จริงหรือเปล่า?
ฟลุ๊ค: ไม่รู้เหมือนกันนะ เพราะว่าบางคนถ้าฟลุ๊คไม่รู้จัก ฟลุ๊คก็จะไม่ค่อยได้คุยเท่าไหร่ ฟลุ๊คเป็นคนขี้อายไม่ค่อยกล้าเข้าหาคนอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดใครเข้ามาหาเรา เราก็จะเฟรนด์ลี่กับเขาเลย แต่ส่วนมากกับแฟนคลับฟลุ๊คก็จะคุยหมดทุกคนนะครับ ใครเข้ามาก็คุยหมด แต่กับบางคนที่เขาไม่กล้าเข้ามา เราก็ไม่กล้าทักเค้ากลับเหมือนกัน บางคนอาจจะคิดว่าเราเข้าหายาก แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ครับ

อะไรเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เราคิดว่าอยากจะเข้ามาทำงานตรงนี้?
ฟลุ๊ค: แรงบันดาลใจของฟลุ๊ค คือ คุณพ่อคุณแม่ครับ สำหรับฟลุ๊คนักแสดงก็คืออาชีพหนึ่งที่เราสามารถทำและก็หาเงินไปช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวได้ครับ

งานสายไหนที่อยากทำเป็นพิเศษ?
ฟลุ๊ค: สายนักแสดงครับ เพราะ เรารู้สึกว่าถนัด มันได้เล่นเป็นคนอื่น ได้เล่นหลายบทบาท มันทำให้สนุกและมีความสุขครับ

ถ้าไม่ได้ทำงานตรงนี้ อยากจะทำอะไรต่อ?
ฟลุ๊ค: ฟลุ๊คอยากทำธุรกิจส่วนตัวครับ เพราะว่าฟลุ๊คไม่ชอบงานประจำ ไม่ชอบงานที่ต้องเข้าตามเวลา ตอกบัตร ฟลุ๊คชอบงานที่เป็นอิสระ ธุรกิจส่วนตัวสามารถดูแลได้ครับ

แบ่งเวลาเรียนกับเวลาทำงานยังไง?
ฟลุ๊ค: ถ้าเกิดว่ามีงานมา เราก็จะคุยกันก่อนว่าถ่ายยังไงช่วงไหนครับ ถ้าเขาเลี่ยงมาเป็นช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้ก็โอเค แต่ถ้าเกิดว่าเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องขอให้ทางคนจ้างเรามาออกใบลาให้ไปยื่นกับทางโรงเรียน จะได้ไม่ขาดเรียน เพราะมีใบลาครับ

วางแผนเรื่องการเรียนในอนาคตยังไงบ้าง?
ฟลุ๊ค: พอได้มาทำงานตรงนี้ ฟลุ๊คคิดว่าอยากเรียนนิเทศ อยากจะต่อยอดความรู้ไปเรื่อยๆ อยากเรียนเรื่องการแสดง ฟลุ๊คอยากเป็นครูอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสก็อยากเป็นครูสอนการแสดง (มหาวิทยาไหน?) มศว. ครับ หรือไม่ก็เป็น ม.เอกชน อย่าง ม.รังสิต หรือ ม.กรุงเทพ ครับ

จากผลงานที่ผ่านมา รู้สึกชอบเรื่องไหนเป็นพิเศษ?
ฟลุ๊ค: ชอบเรื่องพี่ชายครับ เพราะว่าเป็นหนังที่เนื้อบทดีอยู่แล้ว และพอเราได้มาเล่นก็ยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก (เพราะตรงกับคาแรคเตอร์ของเราหรือเปล่า?) ตรงที่เรานิ่งๆ เงียบๆ ครับ มันไม่ได้เป็นคาแรคเตอร์ที่เยอะอะไรมากครับ

รู้สึกยังไงที่ตอนนี้กลายเป็นขวัญใจของชาวสีม่วงไปแล้ว?
ฟลุ๊ค: จริงเหรอครับ? (หัวเราะ) รู้สึกดีใจมากที่คนชอบเรา ไม่รู้จะบอกยังไง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมาทุกคนชอบ มันก็รู้สึกหายเหนื่อยไปเลย

กลัวคนจะมองไหมว่าชีวิตจริงเราจะเป็นแบบในจอ?
ฟลุ๊ค: ฟลุ๊คคิดว่าคนมองก็ต้องมีอยู่แล้วแหล่ะ อันนี้แล้วแต่คนจะคิดครับ แต่ฟลุ๊คว่ามันคือการแสดง มันคือบทบาทในภาพยนตร์มากกว่าครับ

แล้วที่บ้านว่ายังไงบ้างกับเรื่องนี้?
ฟลุ๊ค: พ่อแม่ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลยครับ (หัวเราะ) แต่เขารู้อยู่แล้ว เพราะเขาเป็นคนสกรีนบทให้ฟลุ๊คเลย แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนหนึ่งก็คือการแสดง และเราช่วยเขาแบ่งเบาภาระทางครอบครัว ก็คือการทำงานอย่างหนึ่ง อย่างเรื่องเกรียนฟิคชั่น พ่อแม่ก็เห็นอยู่แล้วว่าเราเล่นเป็นตุ๊ดเลย เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ตลกเฮฮากันไป เป็นการแสดง เป็นอีกบทบาทหนึ่งครับ

เวลาเข้าฉากกุ๊กกิ๊กกับผู้ชาย รู้สึกประหม่าบ้างไหม?
ฟลุ๊ค: เวลาเข้าฉากกับผู้ชายอย่างพี่ฟลุ๊คใหญ่ในเรื่องพี่ชาย ก็จะมีฉากที่ต้องจ้องหน้าใกล้ๆ กัน หรือ ฉากหอมแก้มกัน ฟลุ๊คจะรู้สึกเขินๆ ไม่ค่อยกล้าเล่น ไม่ค่อยกล้าทำ บอกไม่ถูกเหมือนกันครับ ทั้งอาย ทั้งตลก บางทีเวลาเราจะเล่นก็จะหลุดขำตลอดครับfluke-1

รู้สึกกดดันบ้างไหม ที่ต้องรับบทแบบนี้เสมอ?
ฟลุ๊ค: หลังๆ มาเริ่มกดดันแล้วนะ (หัวเราะ) ทำไมงานหลังๆ มามีแต่บทแบบนี้ตลอดเลย ตั้งแต่เรื่องแรกจนมาถึงปัจจุบันก็ยังจะมีติดต่อเข้ามาเป็นบทแบบนี้อยู่ กลัวว่าถ้าเรายังรับบทแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อนาคตก็จะได้เล่นแต่บทแบบนี้ตลอด ทางผู้จัดการก็จะช่วยสกรีนบทให้ หลังๆ มาก็จะไม่ค่อยรับงานบทนี้แล้ว ให้เปลี่ยนบทบาทบ้าง

ถ้าในอนาคต ทางผู้ใหญ่มองเห็นว่าเรามีศักยภาพในตรงนี้ และมอบแต่บทนี้ให้ จะรับไหวไหม?
ฟลุ๊ค: ถ้าผู้ใหญ่เขาเล็งเห็นว่าเรามีศักยภาพในตรงนี้ เราก็สามารถเล่นได้ ฟลุ๊คไม่ได้ซีเรียสว่าคนจะมอง คือ อย่างน้อยเขาก็เห็นว่าเรามีศักยภาพในตรงนี้ เราสามารถทำในตรงนี้ได้ ฟลุ๊คก็ยินดีที่จะรับบทนี้ครับ

เห็นว่ามีแฟนคลับชาวต่างชาติด้วย ดูแลแฟนคลับที่นั่นยังไง?
ฟลุ๊ค: ชาวต่างชาติที่มีมาคุยด้วย ก็จะมีชาวเวียดนามกับจีน คงจะรู้จักจากหนังเรื่องพี่ชายครับ ส่วนมากเขาจะคุยกับเราทางเฟสบุ๊คหรืออินสตาแกรมมากกว่า เรามีวิธีการจัดการคือคุยกับเขาผ่านเฟสบุ๊ค บางทีเขาทักแชทเรามาเราก็ตอบเขากลับไป เขาก็ไม่ได้จะเยอะอะไรกับเรา fluke-2ส่วนมากเขาจะไปคุยกับทางผู้จัดการมากกว่า แล้วเขาก็จะมีการจัดกิจกรรมที่ประเทศของเขาครับ (แล้วมีเดินทางมาที่ไทยบ้างไหม?) มีครับ อย่างที่เวียดนามก็จะมีเดินทางมา เขามาเพื่อดูหนัง ขอถ่ายรูป พูดคุยกับนักแสดง (เวลาจะสื่อสารกัน ต้องทำยังไง?) อย่างชาวเวียดนามเขาก็จะพูดภาษาอังกฤษ เราก็ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร แต่เราก็ไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษเท่าไหร่ คำไหนไม่รู้เรื่องก็จะให้ทางผู้จัดการหรือพี่ๆ ที่เก่งอังกฤษ พูดอังกฤษได้ เป็นล่ามให้เราคุยกับเขาครับ (แล้วตอนนี้พูดได้กี่ภาษา?) ภาษาหลักเลยคือภาษาอังกฤษครับ (หัวเราะ) แต่ก็ยังถือว่าไม่ค่อยเชี่ยวชาญ ไม่เก่งเท่าไหร่ เอาจริงๆ แล้วก็ได้แค่ภาษาไทยกับภาษาเหนือครับ (หัวเราะ)

มีแพลนจะโกอินเตอร์บ้างหรือเปล่า?
ฟลุ๊ค: ตอนนี้ยังไม่มีครับ แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่ เพราะว่าเคยมีคนมาคุยเหมือนกันว่ามีหนังของจีน แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปครับ

ไอดอลในชีวิตของฟลุ๊คคือใคร?
ฟลุ๊ค: ไอดอลของฟลุ๊คคือคุณพ่อครับ เพราะว่า คุณพ่อเป็นคนที่อดทน ต่อสู้กับชีวิตมา ถึงแม้ปัญหาจะรุมเร้าขนาดไหนเขาก็ยังผ่านมาได้ครับ อย่างคุณพ่อก็จะเจอปัญหามาตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ครอบครัวฟลุ๊คจะไม่ใช่ครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่น เพราะว่าเขาเป็นคนเก่ง

เสน่ห์ของฟลุ๊คอยู่ตรงไหน?
ฟลุ๊ค: ฟลุ๊คว่าอยู่ที่รอยยิ้มครับ ฟลุ๊คเป็นคนชอบยิ้ม คนส่วนมากจะทักว่ายิ้มหวานตลอดเลยครับ (ยิ้มโชว์)

พูดถึงเรื่องความรักบ้าง เรื่องราวความรักในวัยเรียนมีบ้างไหม?
ฟลุ๊ค: คงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า วัยรุ่นแต่ละคนต้องมีความรักกันอยู่แล้ว ของฟลุ๊คก็เคยมีความรักในวัยเรียนครับ แต่เราก็ไม่ได้โฟกัสไปที่ตรงนั้นมากกว่า เพราะว่าพ่อแม่หรือคนในครอบครัวจะตักเตือนตลอดว่า ความรักในวัยเรียนมันไม่มั่นคงหรอก เรียนให้จบก่อนแล้วค่อยหาดีกว่า ความรักในวัยเรียนก็จะรักๆ เลิกๆ เขาก็เลยไม่อยากให้โฟกัสตรงนี้ อีกอย่างหนึ่งเราก็ต้องเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยครับ

มีแบบที่คุยๆ กันอยู่หรือเปล่า?
ฟลุ๊ค: ตอนนี้ยังไม่มีครับ เพราะว่าเราก็กลัว เราเป็นคนอ่อนไหวอยู่แล้วในเรื่องความรัก เวลาเรารักใครไปแล้วเรากลัวว่าเราจะเสียใจ มันจะทำให้เสียทั้งการเรียนและการทำงาน มันจะเสียอะไรหลายๆ อย่าง เราก็เลยคิดว่ายังไม่ดีกว่า

สเป๊กในใจล่ะ?
ฟลุ๊ค: ถ้าเรื่องสเป๊กหน้าตา ฟลุ๊คไม่มีสเป๊กหน้าตาอยู่แล้ว เพราะว่าแต่ละคนที่ฟลุ๊คชอบจะต่างกันไปครับ แต่ส่วนมากเราจะโฟกัสตรงที่นิสัยใจคอกันมากกว่า ชอบคนที่พูดคุยกันแล้วถูกคอไปกันได้ เป็นคนชอบคนที่มีเหตุผลครับ

หน้าหวานๆ แบบนี้ ถามจริงๆ เคยมีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบบ้างไหม?
ฟลุ๊ค: ก็มีอยู่บ้างครับ บางคนเข้ามาแต่เราไม่รู้ว่าเขามาจีบหรือเปล่า บางคนก็เข้ามาคุย แต่บางคนเขาก็เข้ามาบอกเลยว่าชอบนะ ขอจีบนะ อะไรแบบนี้

แล้วอย่างเน็ตไอดอลคนหนึ่ง พอจะมีสิทธิลุ้นบ้างหรือเปล่า?
ฟลุ๊ค: คือพี่คนนี้เรามีโอกาสได้เจอเขาในงานวันเกิดพี่ชิ ฟลุ๊คก็ติดตามเขามานานแล้วตั้งแต่เขามีคู่จิ้นกัน เราก็ติดตามเขามาตลอด แต่พอมีโอกาสได้คุยกันกับเขา เราก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลย เพราะว่าอย่างน้อยเราก็ไม่ได้ชอบเขาด้วย เราก็คิดกับเขาเป็นแค่พี่ เราคุยกับเขาเฉยๆ คุยกันเป็นพี่น้อง ทักทายกันตามปกติ แต่ไม่ได้คุยกันแบบมีกุ๊กกิ๊ก ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน คอนเฟิร์มว่าไม่มีครับ

แล้วกับฟลุค-ธีรภัทรล่ะ?
ฟลุ๊ค: กับพี่ฟลุคใหญ่ เรารู้จักกันมา 2 ปีแล้ว เรากินนอนอยู่ด้วยกันเป็นพี่น้องมาตลอด ก็คงเป็นแค่พี่น้องแหล่ะมั้ง เพราะว่าเราก็สนิทสนมเป็นพี่น้องมากกว่า (มีโอกาสจะพัฒนาความสัมพันธ์หรือเปล่า?) มีหรือไม่มี ก็ต้องรอดูอนาคต แต่เราก็คิดว่าเราเป็นพี่น้องกันน่าจะโอเคกว่า (หัวเราะ)

สุดท้ายนี้อยากให้ฝากผลงานตัวเอง…
ฟลุ๊ค: เร็วๆ นี้จะมีซีรีส์ LOL ชีวิตคิดบวก ของช่องทรู จะเริ่มถ่ายทำเดือนเมษายนครับ ส่วนผลงานภาพยนตร์หรือละครก็คอยติดตามเร็วๆ นี้เช่นกันครับ

 

 
Star Talk สัปดาห์นี้ เรียกได้ว่าแซ่บมากๆ
นอกจากจะน่ารัก ขยัน กตัญญู แถมยังโสดสนิทแบบนี้
จะมีหนุ่มๆ..เอ๊ย!! สาวๆ คนไหน มาจับจองเป็นเจ้าของหัวใจทั้งสี่ห้องดวงนี้กันหนอ…

fluke-7

fluke-8

fluke-6
 


ประวัติ ฟลุ๊ค-พงศธร

ชื่อ-สกุล: พงศธร ศรีปินตา
ชื่อเล่น: ฟลุ๊ค
ฉายา: ฟลุ๊คเล็ก (เพราะเป็นคนตัวเล็ก)
วันเดือนปีเกิด: 1 มิถุนายน 2539
อายุ: 18 ปี
ส่วนสูง: 171 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 54 กิโลกรัม
การศึกษา: มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ ลำพูน กำลังย้ายเข้ามาศึกษาต่อที่โรงเรียนสารวิทยา กทม.
งานอดิเรก: เล่นคอมพิวเตอร์ ช็อปปิ้ง ดูหนัง
บุคลิกส่วนตัว: ขี้อาย ขี้เขิน ยิ้มเก่ง พูดน้อย มีโลกส่วนตัวสูง
อาหารจานโปรด: ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว
กีฬาสุดโปรด: แบดมินตัน ปิงปอง (เป็นอดีตนักกีฬาวิ่ง)
สีที่ชอบ: ฟ้า, เขียว
สัตว์เลี้ยงที่ชอบ: สุนัข กระต่าย (ปัจจุบันเลี้ยงทั้ง 2 ประเภท)
สิ่งที่ไม่ชอบ: แมลงทุกขนิด โดยเฉพาะแมลงสาบ
ภาพยนตร์เรื่องโปรด: ผีชีวะ (ทุกภาค)
แนวภาพยนตร์ที่ชอบ: แอคชั่น, โรแมนติก คอมเมดี้
แนวเพลงที่ชอบ: สตริง
ศิลปินในดวงใจ: เบิร์ด ธงไชย
นักแสดงในดวงใจ: ป๋อ-ณัฐวุฒิ
เป้าหมายสูงสุดในชีวิต: สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ให้สบายได้

ผลงานที่ผ่านมา:

  • ภาพยนตร์ เรื่อง เกรียนฟิคชั่น (พ.ศ. 2556)
  • ภาพยนตร์ เรื่อง ตีสาม คืนสาม 3D (พ.ศ. 2557)
  • ภาพยนตร์ เรื่อง พี่ชาย My Bromance (พ.ศ. 2557)
  • หนังสั้นออนไลน์ รักจริงปิ๊งเก้อ ตอน Change รักไม่เปลี่ยน
  • โฆษณาเมล็ดทานตะวัน ชาช่า