กรรไกร ไข่ ผ้าไหม ผลงานการกำกับฯและเขียนบทโดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เพราะเป็นหนังเด็กจึงนำเอาการละเล่นของเด็กๆมาตั้งเป็นชื่อหนัง กับเรื่องราวความวุ่นวาย ความอลเวงแสบซ่าของเด็กนักเรียนหลากรุ่นหลายแก๊งทั้งแก๊งนางฟ้า, แก๊งโอเลี้ยง, แก๊งนักดนตรี, แก๊งเด็กแสบ, แก๊งหนุ่มหล่อ, แก๊งกะโหลกกะลา ฯลฯ
แก๊งเด็กแสบเป็นแก๊งหนึ่งที่ผู้กำกับฯบิณฑ์ ตั้งใจนำเสนอให้มาเรียกร้อยยิ้มแก่ผู้ชม นำแสดงโดย จีน่า-ณพัศพร บุญธรรมรัตน, นัท-ธัญญรัตน์ ไอยเรศกร สองสาวน้อย น่ารัก ที่ชอบเรียนแบบ แอบชอบรุ่นพี่ และมักจะจดจำและติดคำพูดหวานๆ ในทีวีมาพูดกับรุ่นพี่ในทางน่ารักๆ แก่แดดแต่พองาม จีน่า-ด.ญ. ณพัศพร บุญธรรมรัตน รับบทเป็น จีน่า สาวน้อยวัยประถม 2 เด็กแสบที่ชอบเรียนแบบรุ่นแอบชอบรุ่นพี่มัธยม 1 อย่าง โฟร์ – ด.ช.ศุภกิจ คิ้วศุภกร รับบทเป็น โฟร์ เด็กชายหน้าตาดีสะอาดขาว เป็นเด็กเรียบร้อย รักดนตรี มองโลกสวยงาม เล่นดนตรีกับเรียนเท่านั้น เรื่องรักไม่สนใจ เป็นสุภาพบุรุษ เป็นขวัญใจสาวๆ จีน่า มีเพื่อนซี้ คือ นัท-ด.ญ. ธัญญรัตน์ ไอยเรศกร ที่ค่อยให้กำลังใจและสนับสนุนให้เพื่อนจีน่าชอบกับพี่โฟร์ สองสาวน้อยจะค่อยแอบดูแอบมองและเรียนแบบ ไม่ว่าใครจะทำอะไรใครจะชอบใคร เธอทั้งสองจะเรียนแบบและแสดงท่าทางการพูดออกมาได้อย่างน่ารักน่าชัง ตามประสาเด็กชังจดชังจำ
ผู้กำกับฯ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า ดูเป็นอะไรที่น่ารักสำหรับน้องจีน่าและน้องนัท ในเรื่อง จีน่าอยู่ประถม 2 แอบชอบรุ่นพี่มัธยม 1 ก็เป็นประสบการณ์สมัยผมอยู่ประถม 1 ก็แอบชอบเด็กประถม 4 พอผมอยู่ประถม 4 ก็แอบชอบรุ่นพี่ประถม 7 บางคนอาจจะคิดว่าดูแก่แดดไปรึเปล่า เค้าก็ไม่ใช่เด็กที่ว่าจะดูแก่แดดหรอก แต่มันเป็นความรู้สึกของผมว่าสมัยนี้ อยากลืมว่าเด็กจะติดทีวี ติดเกม ติดการ์ตูน แล้วในทีวี ในการ์ตูนต่างๆก็มีคำพูดหวานๆที่เป็นแบบให้เด็กจดจำ และเด็กพวกนี้ก็จะจำมาพูดกันและพูดกับรุ่นพี่ในทางน่ารักๆ ผมดูแล้วว่าเป็นมุมวัยเด็กน่ารักๆที่น่านำเสนอ ก็ถ้าผู้ใหญ่ในระดับเป็นพ่อแม่ดูมันก็อาจดูแก่แดด แต่ผมว่าน่ารักดี ทั้งสองแสดงได้น่ารักจนผมคิดว่าคนดูต้องหันมารักเธอ
“กรรไกร ไข่ ผ้าไหม ” เป็นหนังที่ดูเพื่อความบันเทิงเริงรมย์ สบายใจ ดูกับครอบครัวดูได้ทุกเพศทุกวัย ตั๋วร้อยกว่าบาทก็ถือว่าช่วยบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เพราะกำไรผมก็เอาไปช่วยเหลือคนอื่นเท่านั้นเองอย่าคิดอะไรมาก ผมก็บอกอยู่แล้วว่าใครอยากจะช่วยเหลือผมใครอยากจะสนับสนุนผม หรืออยากจะให้กำลังใจผมก็ไปดูหนังผมนะครับ ก็ไปดูหนังผมแล้วได้ความบันเทิงใจและก็ได้อีกสิ่งหนึ่งคือความสนุกสนานเฮฮาแล้วก็ได้ทำบุญกับผม ผมเองก็ไม่ได้เอาเงินไปไหนก็มาช่วยเหลือคนที่ยากจนก็ให้กำลังใจ ดูคนละสองรอบสามรอบก็ถือว่าให้กำลังใจผมๆ เผื่อผมจะได้ทำหนังดีๆ อย่างนี้ต่อไปให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยที่รักหนังไทย กรรไกร ไข่ ผ้าไหม ทุกโรงภาพยนตร์ ฉายจริง 10 เมษายน 57 นี้”