บทสัมภาษณ์แบบเจาะลึกกับ “TAEYANG” R&B star ตัวจริง

image001หลายปีผ่านมาแล้วทีค่าย YG Entertainment เปิดโอกาสให้เด็กชายวัย 13 ผู้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นศิลปินมีชื่อเสียงได้เข้ามาเป็นเด็กฝึกในค่ายอยู่ 5 ปี ก่อนจะเปิดตัวในฐานะสมาชิกวง BIGBANG ในปี 2006

G-DRAGON หนึ่งในสมาชิกวงที่มีความโดดเด่นทั้งสไตล์เพลง และสไตล์การแต่งตัวที่ทำให้เขาได้ไปปรากฏบนหน้าบล็อกและหน้านิตยสารทั่วโลก

TAEYANG หรือสมาชิกอีกคนของวง BIGBANG เขามีแนวเพลงที่แตกต่างกันกับ G-DRAGON อยู่บ้าง แต่ด้วยความมีสไตล์ในแบบฉบับของตัวเอง เราจึงไม่สามารถมองข้ามเขากับ G-DRAGON ในงานแฟชั่นโชว์ Paris Fashion Week ไปได้เลย ซึ่งส่วนตัว TAEYANG (Dong Yang-Bae) เป็นนักร้องเกาหลีที่เรียกได้ว่าเป็น R&B star ตัวจริง เขาได้รางวัลต่างๆ ก็จากคุณภาพผลงานเพลงของเขา

ประธาน YG Entertainment (Yang Hyun-suk) ได้เอ่ยว่า “TAEYANG เป็นคนที่เข้าถึงดนตรีและการเต้นลึกซึ้งจริงๆ” ส่วนหลักฐานเราเห็นได้จากผลงานตอนอายุ 25 ของเขา ที่สำคัญ TAEYANG ได้ออกมินิอัลบั้มร้องเดี่ยวอย่าง “HOT” เมื่อปี 2008 ปล่อยเพลงสตริงฮิตติดชาร์ตอย่าง Only Look At Me” ตามติดมาด้วยเพลง “Where U At” “Wedding Dress” และ I Need A Girl” จากอัลบั้มเต็ม SOLAR” ที่เปิดตัวในปี 2010

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ G-DRAGON โชว์ผลงานเดี่ยวที่เอาดนตรีหลายแบบมาใช้ TAEYANG ยังคงสไตล์เพลง American R&B ที่ผสมท่าเต้นลื่นไหลลงตัวจนเขาได้ชื่อว่าเป็นนักเต้น K-pop ที่เต้นได้ธรรมชาติที่สุด

ในที่สุด TAEYANG ก็กลับมาพร้อมกับผลงานเพลงเดี่ยวมาแรงแซงโค้งอย่าง Ringa Linga” ที่ขึ้นไปติดอันดับสูงสุดในชาร์ตเพลงทั่วเอเชียเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แล้วตามมาด้วยเปิดตัวอัลบั้ม “RISE”

Q: มาสนใจทำเพลงได้ยังไง?

TAEYANG : ผมเริ่มจากเล่นเปียโนมาตั้งแต่เด็ก ที่จริงผมไม่สนใจว่าต้องเล่นเครื่องดนตรีไหนเป็นพิเศษ เพราะคิดไว้ตลอดว่าต้องทำอาชีพอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับเพลงแน่ เลยเรียนเปียโนมาจนอายุ 13 หลังจากนั้นก็มีโอกาสได้เจอสมาชิกวง Jinusean ที่แนะนำให้ผมมาทางดนตรีแนว hip-hop แต่ก่อนหน้านั้นผมก็ชอบ Michael Jackson ด้วย จำได้เลยตอนที่เขามาที่เกาหลีครั้งนั้น ผมไม่ได้ชอบแนวดนตรีของเขามากเท่าการแสดงบนเวที แต่พอเห็นเขาเต้นแล้วผมคิดไว้ในใจเลยว่า “โหย…ต้องเต้นแบบนั้นให้ได้” จากนั้นผมก็ดูที่ Michael เต้นในทีวีแล้วเริ่มเลียนแบบท่าเต้นของเขาไปเรื่อย พอถึงงานโรงเรียนก็ออกไปเต้น

Q: แล้วที่ผ่านมาคุณชอบฟังดนตรีของใครบ้าง?

TAEYANG : ถ้าเพลง hip-hop ผมฟังเพลง Blueprint ของ Jay Z บ่อยมาก ถ้าแนว R&B ผมจะชอบของ Boyz II Men, Stevie Wonder แล้วก็ของศิลปินอีกหลายๆ คน

 

Q: แล้วคุณตัดสินใจมาเป็นศิลปินเต็มตัวเมื่อไหร่คะ?

   TAEYANG : ผมว่ายากนะถ้าให้ผมเจาะจงไปเลยว่าช่วงไหน คงตั้งแต่อายุ 13 นั่นแหละ เพราะตอนนั้นผมเข้ามาสังกัดใน YG Entertainment แล้วก็ตัดสินใจเลยว่าจะต้องเป็นศิลปินเต็มตัวให้ได้

   Q: ถ้าพูดถึงตอนที่ YG Entertainment ยังไม่ประสบความสำเร็จเหมือนอย่างทุกวันนี้ คุณรู้สึกกังวลไหมกับบริษัทสังกัดที่ยังไม่มั่นคง?

  TAEYANG : ผมไม่ได้คิดถึงจุดนั้นเพราะผมยังเด็กอยู่ แค่อยากลองทำมันก็เท่านั้นเอง ครอบครัวผมเองตอนนั้นก็มีเป็นห่วงเรื่องที่จะไปเป็นเด็กฝึกในสังกัด YG Entertainment แต่จริงๆ แล้วบริษัทนี้เป็นบริษัทเดียวที่เชี่ยวชาญแนวเพลงที่ผมชอบ เพราะฉะนั้นผมเลยไม่ติดใจว่า “โอ้ ถ้าไม่ได้มาฝึกที่นี่แล้วตอนนี้จะเป็นยังไง” ถึงตอนนี้ผมก็ไม่สนแล้วว่าจะไปทำอะไร แค่ได้ทำตามที่ใจบอกว่าใช่ก็พอ

   Q: คุณกับ G-DRAGON เป็นคู่หูดูโอ hip-hop/R&B ที่ใช้ชื่อ GDYB มาก่อน แล้วตอนที่รู้ว่าต้องมาเข้าวง BIGBANG กับ GD คุณรู้สึกยังไง?

   TAEYANG : ต้องบอกเลยว่าผมรู้สึกแบบเดียวกับ G-DRAGON ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ในตอนแรก แต่ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเพราะเราเปิดตัวกันเป็นวง แค่สงสัยว่านี่ผมต้องไปทำเพลงที่ติดแนว pop หรือเปล่า

  Q: แล้วคุณไม่ได้อยากเป็นไอดอลเหรอ?

    TAEYANG : สำหรับผมแล้ว ถ้าเป็นไอดอลแล้วจำกัดอะไรหลายๆ อย่างที่อยากทำ ซึ่งจริงๆ คนก็มักถามว่า “คุณเป็นไอดอลคุณทำอย่างนี้ไม่ได้ ถูกไหม?” แต่นั่นไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับผมเลย เหตุผลที่มาเป็นศิลปินก็เพราะผมอยากทำในสิ่งที่วาดฝันไว้ ผมคิดว่าไม่มีกฎเกณฑ์อะไรจะวัดว่าไอดอลต้องเป็นแบบไหน

     Q: ตอนที่มีอัลบั้มเดี่ยวออกมา มีข้อเปรียบเทียบสไตล์เพลงและโชว์ของคุณกับศิลปินอเมริกันอย่าง Omarion จนมาถึงตอนนี้สไตล์เพลงของคุณเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง?

     TAEYANG : ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าตัวเองยังติดเพลงแนว R&B อยู่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรตายตัวในสไตล์เพลงที่ผมทำออกมาอยู่ดี แน่นอนว่าผมมีแนวที่ชอบชัดเจน เพราะฉะนั้นเพลงที่ทำก็ต้องได้แรงบันดาลใจจากตัวศิลปินแนวนั้นๆ ไม่แปลกที่ใครๆ ต่างเห็นว่าเพลงของผมจะคล้ายกับเพลงของศิลปินอย่าง Usher หรือ Omarion แต่ที่ผมทำแนว R&B ออกมาก็ไม่ได้หมายความว่าต้องทำแค่แนวนี้

     Q: ถ้ามองย้อนกลับไปแล้วคุณรู้สึกยังไงกับผลงานอัลบั้ม Solar?

     TAEYANG : เอาจริงๆ นะครับผมให้คะแนนตัวเองไม่ได้ คงต้องให้คนฟังเป็นคนให้คะแนนอัลบั้มนี้กัน ไม่มีใครหรอกครับที่จะทำอัลบั้มเพลงแล้วคิดว่า “เรายังทำมันไม่สุด” อย่างน้อยผมก็รู้สึกว่าที่ทำก็เพราะพร้อมจะทำ พอกลับมาฟังเพลงในอัลบั้มนั้นใหม่ก็ไม่รู้สึกว่าเพลงของผมขาดอะไรไป เพราะฉะนั้นคนฟังต่างหากที่จะตัดสิน ถ้าเขาไม่ชอบก็คือไม่ชอบ แต่ถ้าเขาชอบกันผมก็ต้องขอบคุณจากใจ แต่ถ้าย้อนกลับไปมองตอนนั้น ผมก็มีเรื่องให้คิดมากอยู่บ้าง ทั้งที่ควรจะสนุกไปกับดนตรีมากกว่าจะมานั่งคิดอยู่อย่างนั้น ถ้าถามว่าผมอยากกลับไปแก้ไขอะไรตอนนั้น มันก็คงเป็นเรื่องนี้แหละ เพราะผมยุ่งมาก งานก็ต้องส่งให้ทันกำหนด เลยไม่ทันได้รู้สึกสนุกกับการทำอัลบั้มให้มากกว่านี้ ผมเลยแอบเสียดายอยู่หน่อยๆ

Q: คนฟังแนวเพลง R&B จะชอบอัลบั้ม Solar ของคุณมาก แต่ก็รู้สึกเหมือนตลาดเพลง R&B ในเกาหลีไม่ได้เปิดกว้างเท่าที่อื่น

TAEYANG : ผมว่าเราต้องคำนึงข้อจำกัดเรื่องการแสดงออกของคนเกาหลีก่อน ส่วนตัวผมไม่อยากให้มีปัญหาเรื่องความไม่เหมาะสมในอัลบั้มเพลง ตามจริงแล้วมันยากมาก แถมหัวข้อเพลงที่เลือกทำได้ก็ถูกจำกัด

Q: คุณเคยคิดไหมว่าจะออกผลงานรวมให้โหลดกันฟรี?

TAEYANG : โอ้…ผมอยากจะทำอย่างนั้นอยู่เลย อันที่จริงผมอยากลองทำตั้งแต่เมื่อปี 2011 แต่ก็นั่นแหละงานใหม่ๆ ที่อยากทำทยอยเข้ามาอยู่เรื่อยๆ แถมไม่รู้ว่าเพลงที่อัดไว้พวกนั้นจะได้ลงอัลบั้มรึเปล่า ซึ่งมีหลายครั้งเหมือนเพลงที่ผมชอบจะไม่ได้รวมอยู่ในอัลบั้มสำเร็จ ส่วนโปรดิวเซอร์ที่ทำงานกับผมจะเป็นคนเลือกเพลงที่ใช้ในอัลบั้ม สุดท้ายพอเห็นรายชื่อเพลงที่เขาเลือกออกมาแล้วผมก็ไม่พูดอะไร เอาตามตรงผมคิดถึงเรื่องนี้มาตลอด ถ้าให้ทำสิ่งที่อยากทำจริงๆ ผมจะเอาเพลงที่ชอบมารวมเป็นอัลบั้ม แล้วแชร์ให้ฟังกันฟรีๆ บนโลกออนไลน์

Q: เป้าหมายของอัลบั้ม RISE คืออะไร?

 TAEYANG : เป้าหมายของผมคืออยากให้ทุกเพลงในอัลบั้มได้รับความนิยม เป็นซิงเกิลที่จะติดอยู่ในใจของคนฟัง ซึ่งผมก็ให้ความสำคัญกับภาพรวมคอนเซ็ปต์อัลบั้มด้วยไม่แพ้กัน แต่ก็แค่อยากให้มันฮิตทุกเพลง เพราะงานเพลงของผมจะใส่จังหวะ hip-hop ลงไปพอสมควร ผมเลยอยากให้ theme เพลงมันออกมา “ไม่ธรรมดาน” เพราะหลายปีที่ผ่านมาผมชอบแนวเพลงนี้มากที่สุดแล้ว

 Q: ช่วยบอกนิสัยในการทำงานเพลงของคุณให้ฟังสักนิดได้ไหม?    

 TAEYANG : ที่จริงผมไม่ได้ติดนิสัยอะไรเป็นพิเศษ แต่พอไปดูการทำงานของศิลปินต่างชาติอย่าง Chris Brown ก็ย้อนกลับมาปรับเปลี่ยนแนวการทำงานของตัวเองบ้าง เพราะฉะนั้นไม่ว่าผมจะอัดเพลงไปกี่เทค ก็ต้องมาจบที่เอาเทคแรกอยู่เสมอ ความรู้สึกตอนอัดรอบแรกมันไม่เหมือนตอนอัดรอบต่อๆ ไปนะ ถึงจังหวะจะลงตัวมากขึ้น แตะถึงโน้ตดีกว่าเดิม สุดท้ายมันต้องอิงเอาความรู้สึกมาก่อนอยู่ดี ถ้าผมเข้าห้องอัดไปร้องอยู่รอบสองรอบแล้วไม่เกิดอารมณ์ร่วมไปกับเพลง วันนั้นผมจะไม่อัดมันเลยทั้งวัน

Q: ศิลปินคนไหนที่คุณชอบฟังเพลงของเขา?

TAEYANG : ผมชอบฟัง Kaleidoscope Dream ของ Miguel อัลบั้มเขาเจ๋งดี ที่จริงก็ชอบพวกเพลงเก่าๆ อย่างของ Prince ที่ออกแนว classic R&B ส่วนอัลบั้มถัดไปที่ผมทำ ผมไม่อยากให้มันไปซ้ำใคร ถึงจะมีนักร้องหลายคนเป็นแรงบันดาลใจ แต่ก็อยากนำเสนอดนตรีในแบบฉบับของผมเองอยู่ดี

Q: คุณอยากทำงานร่วมกันศิลปินคนไหน?

TAEYANG : ใครก็ได้ครับ ผมไม่ได้วางมาตรฐานอะไรไว้ มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกล้วนๆ เหมือนเวลาผมจะไปสัก อย่างตอนที่อยู่สหรัฐอเมริกา ผมก็คิดเลยว่าอยากได้รอยสักสักลาย แต่ไม่รู้ว่าต้องไปสักร้านไหนหรือกับใคร เลยลงมือเสิร์ชใน Google ดูลายเอา แล้วก็เจอลายที่โดนใจผมอยู่หลายอัน พอมารู้ที่หลังว่าช่างสักลายพวกนั้นคือ Anil Gupta ตอนนั้นผมไม่รู้จักเขานะ ไม่รู้ว่าดังอยู่แล้วด้วย รู้แค่ชอบงานเขามาก เอาจริงแล้วผมไม่สนใจผลที่ออกมาหรอก แค่เคมีเข้ากันได้นี่สำคัญที่สุดสำหรับผม

Q: ถ้าให้พูดถึงผู้หญิงในแบบที่ชอบ?

TAEYANG : สำหรับผมไม่ว่าจะเป็นดนตรี รอยสัก เสื้อผ้า หรือผู้หญิง ที่พูดถึงมาทั้งหมดเชื่อมตรงกับความรู้สึกล้วนๆ เพราะผมรู้ได้เลยตั้งแต่คราวแรกที่ผมเจอเธอ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันมาก แค่เธอเดินผ่านไปผมก็รู้ว่าตัวเองชอบ ถึงกับกลับมานั่งคิดว่า “ผมอยากเจอใครสักคนที่เหมือนเธอ” ที่จริงผมเจอผู้หญิงแบบนี้มาสามคนแล้วครับ ผมก็สะดุดรักพวกเธอทุกครั้ง ตอนนี้ได้แต่หวังว่าจะเจออีก

เลิกกับแฟนครั้งไหนที่เศร้ามากที่สุด? 

TAEYANG : ครั้งที่เลิกกับรักแรกของผมนั่นแหละครับ เราเลิกกันก่อนผมจะเปิดตัว ตอนนี้ผมยังคิดถึงความรู้สึกตอนเลิกกันอยู่เลย เวลาที่ป่วยหรือทุกข์ หรือแม้กระทั่งตอนผมเหนื่อย ผมก็ยังเห็นเธออยู่ในความฝันของผม เรื่องมันยาวครับว่าเราเลิกกันยังไง เหมือนผมยังเก็บเธอไว้ในใจ แล้วก็คิดถึงเธออยู่อย่างนั้น ถึงแม้ว่าผมจะแก่ลง สุดท้ายก็ต้องลงเอยแต่งงานกับใครสักคน เอาจริงๆ แล้วผมไม่รู้สึกอยากแต่งงานหรอก เพราะคนที่ผมรักจริงเธอเปรียบเหมือนรักแรกของผมอยู่ตลอดนั่นแหละ ไว้ผมเจอแล้วจะบอกคุณนะครับ

Q: ที่ผ่านมาคุณไม่มีข่าวแง่ลบเลยตั้งแต่มาเป็นศิลปิน

TAEYANG : ผมไม่ได้มีภาพสวยหรูอะไรขนาดนั้นหรอกครับ เพราะตั้งแต่ได้เปิดตัว ผมก็บอกกับสื่อไปเลยว่าไม่มีแฟน ตอนนั้นไม่มีใครจริงๆ ถึงตอนนี้เหมือนกัน จะว่าไปก็มีบ้างที่ออกไปเดตกับสาวๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ไปกับใครบ่อยๆ อย่างนี้ผมเลยรู้สึกว่าภาพลักษณ์ผมถูกวางกรอบเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบไหน ซึ่งผมก็ไม่ได้ชอบ นี่ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ถ้าพูดตรงๆผมมีความดื้อรั้นอยู่ในตัวอยู่แล้ว แถมยังเป็นคนมองอะไรหลายๆ อย่างในแง่ลบด้วยซ้ำ เพราะเวลาที่ผมชอบใครก็จะทำตัวสุภาพกับคนๆ นั้น แต่ถ้าผมไม่รู้สึกเข้ากันได้ ผมก็จะไม่สนใจเลย เพราะฉะนั้นผมจะซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองเสมอ

Q: เพลงที่คุณออกในอัลบั้มเดี่ยวกับเพลงที่ออกกับวงค่อนข้างแตกต่าง

TAEYANG : ผมคิดถึงเรื่องนี้อยู่แล้วครับ เมื่อหลายปีที่ผ่านมามันเป็นความกังวลใจของผมเลย ยากอยู่นะครับตอนที่ผมออกไปร้องเดี่ยวแล้วต้องฉีกแนวออกไปจากตอนร้องกับวง มันมีช่องว่างอยู่ตรงที่ผมต้องร้องซิงเกิลที่ผมเลือกไม่ได้ ส่วนออกอัลบั้มเดี่ยวก็เป็นความใฝ่ฝันของผม แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยากทำเพลงกับเพื่อนๆ ทำหลายๆ อย่างในฐานะสมาชิกวง แต่ถึงตอนนี้ช่องว่างที่ว่าก็หายไปสักพักแล้วครับ

Q: แล้วจุดเปลี่ยนที่ทำให้ช่องว่างที่คุณพูดถึงหายไปคืออะไร?

TAEYANG : เมื่อปี 2011 ผมได้เห็นว่าเพื่อนในวงของผมอย่าง GD กับ DAESUNG ต้องข้ามผ่านอุปสรรคอะไรกันบ้าง ตอนนั้นเลยผมคิดได้ว่าผมเป็นห่วงแต่ตัวเอง แล้วที่พวกเขาต้องกัดฟันต่อสู้มาทำให้ผมรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่คนที่ผมรัก ถ้าไม่มีพวกเขาไม่ก็ไม่มีความหมายอะไรที่ผมจะได้ทำดนตรีที่ชอบ ผมคงไม่มีความสุขอย่างตอนนี้ ก่อนหน้าผมเอาแต่ห่วงแค่ “ผมอยากจะเป็นศิลปินเดี่ยว แต่วง BIGBANG ทำให้ผมออกไปทำอย่างที่ฝันไม่ได้” แต่สุดท้ายช่องว่างนั่นก็กลับหายไปเลยหลังจากผมได้รู้ว่าสมาชิกวงสำคัญกับผมขนาดไหน ตอนนั้นผมกังวลมากเกินไปว่าคนจะคิดยังไงกับผม เขาหวังในตัวผมไว้แค่ไหน แต่ผลกลับออกมาว่าการอยู่กับสมาชิกวงทำให้เกิดช่องว่างขึ้นมา ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ขณะที่ผมได้เป็นตัวของตัวเอง ผมสนุกมากที่ได้ทำงานร่วมกับสมาชิกวง BIGBANG ส่วนเรื่องที่เป็นห่วงอย่าง “ผมอยากเป็นศิลปิน R&B ที่ไปได้ไกลในวงการเพลงเกาหลี” ก็เป็นแค่ความหวังส่วนตัวของผม

คุณคิดยังไงที่อัลบั้ม Alive ของวง BIGBANG ประสบความสำเร็จ?

TAEYANG : ที่จริงผมมีความรู้สึกร่วมกับเพลงมากครับ เพราะตอนนั่งรถกับผู้จัดการก็ฟังเพลงในอัลบั้มไปด้วย ผมมองเห็นภาพความยากลำบากที่เพื่อนร่วมวงต้องฝ่าฟันกันในตอนนั้น มันทั้งรู้สึกผิดทั้งดีใจที่อัลบั้มเสร็จจนได้ จากใจจริงผมชอบอัลบั้ม Alive มากกว่าโปรเจกต์เพลงเดี่ยวของผมอีก เพราะมันมีเรื่องราวอยู่เบื้องหลังการทำเพลง ใครจะไม่ชอบอัลบั้มนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ผมชอบมันมาก พอคิดถึงเพื่อนๆ กับเรื่องที่เราต้องเผชิญ มันก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาตอนที่ผมฟังเพลงอยู่บนรถ ผมรู้สึกว่าอัลบั้มวงเรายอดเยี่ยมแล้วจริงๆ

Q: มีวง K-pop หลายวงที่ทำเพลงคล้ายกับสไตล์ของ BIGBANG คุณรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้บ้าง?

TAEYANG : ผมโอเคอยู่นะครับ แต่ไม่รู้ว่าที่เขาทำเพราะชื่นชอบพวกเรา หรืออาจจะเพราะค่ายที่พวกเขาสังกัดอยากให้ทำ อีกแง่คือมีวงที่ทำแนวเดียวกับเราไปเลย ผมก็ขอบคุณนะครับ นี่ทำให้ผมคิดว่า “สไตล์วงเรามันเจ๋งขนาดนั้นเลยเหรอ?” [หัวเราะ] เหมือนว่ามีศิลปินอีกตั้งหลายคนที่เก่งๆ แต่ทำไมเขาถึงเลือกเรานะ?

Q: คุณมีมุมมองยังไงกับกระแส K-pop?

TAEYANG : เอาจริงๆ ผมไม่กล้าพูดหรอกว่าวงผมเก่ง หรือตัวผมดียังไง มันรู้สึกเหมือน “ผมอยากรู้ว่าทำไมหลายๆ คนถึงหันมาชอบ K-pop กันเยอะ” ตัวผมเองยังแอบทึ่งอยู่เลย นี่อาจจะเป็นโอกาสดีที่คนทั้งโลกให้ความสนใจ K-pop กับกระแสเพลงเกาหลีมากขนาดนี้ ผมหวังว่าคนดังๆ ในเกาหลีที่เข้าใจว่านี่คือเวลากอบโกยของเรา ผมไม่ได้พูดถึงศิลปินอินดี้อย่าง Jinbo นะ แต่กำลังพูดถึงบริษัทเอนเตอร์เทนเม้นต์ที่เหล่าไอดอลเข้าไปสังกัด ซึ่งกำลังใช้โอกาสนี้ไปหาเงิน ผมเกลียดอะไรแบบนี้ แล้วไอดอลรู้ตัวกันรึเปล่า? ผมแค่คิดว่าเขาแฮปปี้เพราะได้ชื่อเสียงต่างหาก

Q: แต่คุณก็อยู่วงจรเดียวกัน?

TAEYANG : มันก็ใช่ครับ แต่ผมรู้สึกว่า YG Entertainment ไม่ได้คิดแค่เอาชื่อของวงไปใช้ทางนั้น เขาไม่สุ่มงานดนตรีให้เราไปแสดง เพราะฉะนั้นผมเลยรักบริษัทผมมากครับ แต่ไอดอลส่วนใหญ่มักเข้ามาอยู่ในกระแสนี้โดยไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง น่าเสียดายนะครับ ถ้าเกิดไม่ได้จริงใจกับสิ่งที่ทำ สุดท้ายคนอื่นก็จะประณามคุณอยู่ดี ซึ่งนั่นถือว่าแย่มาก และทั้งที่มีศิลปินเก่งๆ ตั้งมากมายในเกาหลีทำเพลงดีๆ ออกมาให้ฟัง แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาไม่ได้รับความสนใจเท่ากับคนที่ใช้ชื่อเสียงมาหาเงินด้วยซ้ำ

ดาวโหลดอัลบั้ม RISE ของ TAEYANG กันได้แล้ววันนี้!

>> http://smarturl.it/TAEYANGRISETH
Deezer: http://www.deezer.com/album/7873511
KKBOX: http://kkbox.fm/Hd0Q3z

Tracklist:

1. Intro – RISE

2. Eyes, Nose, Lips

3. 1AM

4. Stay With Me (feat. G-Dragon of BIGBANG)

5. Body

6. Ringa Linga

7. This Ain’t It

8. Let Go

9. Love You to Death

[MV] EYES, NOSE, LIPS : http://youtu.be/UwuAPyOImoI