คอลัมน์ คุยกับดาว
เรื่อง – อนันต์ ธัญญ์รัตน์ / ภาพ – วิวิศน์วรดร จันทรวงศ์

บ่ายวันนี้ผมมีนัดสัมภาษณ์กับหนุ่มสุดฮอต “คชา-นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์” ณ โฟลว์เฮาส์แบงค์ค็อก (Flow House Bangkok) เขามาพร้อมเสื้อแขนยาวกางเกงยีนส์ ผมค่อนข้างแปลกใจว่าเขาไม่ร้อนหรืออย่างไรนะ…

ถึงแม้เส้นผมจะหายไปเยอะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาบนใบหน้าของเขาหายไปด้วยแต่อย่างใด ผมที่สั้นประกอบกับใบหน้าที่แสนจะเยาว์วัยนี้ ทำให้เขาดูราวกับนักเรียนมัธยมปลายทุกกระเบียดนิ้ว เพิ่งลาสิกขาได้ไม่นาน แต่ก็ยังอยากรู้ว่าการใช้ชีวิตในผ้าเหลืองของเขาเริ่มต้นอย่างไรกัน

“มันเป็นสิ่งที่ผู้ชายไทยทุกคนรู้อยู่แล้วว่า คนที่นับถือศาสนาพุทธครั้งหนึ่งในชีวิตจะต้องบวชเพื่อทดแทนคุณ หรือบวชเพื่ออะไรก็ตามแล้วแต่จุดประสงค์ของแต่ละคน แต่สำหรับผมการบวชครั้งนี้ อย่างแรกคือทดแทนคุณพ่อแม่ และที่มากกว่านั้นคือการที่เราเข้าไปบวชแล้วเราจะได้อะไรกลับมา”

เขาต้องตื่นเช้าทุกวัน สำหรับเขาการตื่นเช้าไม่ได้ทำให้เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตในผ้าเหลืองแต่อย่างใด เพราะเขาฝากตัวเป็นศิษย์วัดมาก่อนหน้าที่จะบวชได้สักระยะแล้ว ชีวิตในสังคมของเขามักจะรายล้อมไปด้วยผู้คน แต่เวลาออกเดินบิณฑบาตล่ะ…มีคนจำเขาได้บ้างไหม?

“ส่วนใหญ่ไม่ค่อยนะ แต่ก็มีบ้าง ประมาณว่าคนนี้ไงดารามาบวช เพราะวันบวช คนมากันเยอะ เลยน่าจะจำได้”

แล้วมีแฟนคลับตามไปนมัสการที่วัดบ้างไหม? ผมถาม

“มีแฟนคลับตามไปทุกวัน แต่ก็เป็นเรื่องดีนะ ผมคิดว่าแฟนคลับเข้ามาวัดก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้าง หลักธรรมคำสอน หรือทำประโยชน์ให้กับวัด ไม่ว่าจะเป็นช่วยล้างจาน หรือกวาดลานวัด ทำความสะอาดเล็กน้อย ซึ่งเป็นเรื่องดี รู้สึกดีใจที่พาแฟนคลับมาทำสิ่งดีๆ ได้ครับ”

เขาออกจะเปิ่นๆ หน่อย จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจะวางตัวกับแฟนคลับอย่างไร?

“ต้องสำรวม ถ้าจะเล่นตลก หยอกล้อ กวนๆ คงไม่ถูกกาลเทศะ เราก็อยู่ในระเบียบที่พระสงฆ์ควรปฏิบัติ”

“ส่วนใหญ่ไม่หลุดนะฮะ” เขาบอกกับผม หลังจากที่ผมถามไปว่า เวลาสนทนามีหลุดบ้างไหม? “อาจจะมีแซวบ้าง เช่น เสร็จงานที่วัดแล้วต้องไปตามศิลปินที่ไหนต่อหรือโยม (หัวเราะ)”

สายตาของคชายังคงจับจ้องอยู่ที่กระดานโต้คลื่นข้างล่างเป็นระยะ ราวกับเพนกวินตัวน้อยที่โหยหาทะเลเสียยิ่งกระไร ดูเหมือนเขาจะประทับใจกับกีฬาโต้คลื่นมากทีเดียว แต่ถ้าอยู่ในผ้าเหลืองล่ะ จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เขาประทับใจบ้างหรือเปล่า?

“ความจริงก็ทุกๆ เหตุการณ์นะ สำหรับผมถ้าจะให้เลือกมาสักอย่างก็คงยาก ตั้งแต่เริ่มบวชเราก็หาคำตอบให้กับตัวเองในหลายๆ เรื่องได้ มันมีคำตอบให้เราอยู่ในนั้น”

ผมสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างจากตัวเขา หากจะเรียกว่าออร่าก็คงไม่ผิดแปลกไปเสียทีเดียว อยากรู้ว่าการบวชครั้งนี้ให้อะไรกับเขาบ้าง

“ผมว่าทุกคนก็อยากเป็นคนดี และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางที่ทำให้เราเป็นคนดีได้ เราได้ทำอะไรที่ช้าลง ได้ใช้สติมากขึ้นในการที่จะคิดทำอะไรแต่ละอย่าง เพราะบางครั้งโลกภายนอกมีปัญหารุมเร้าเข้ามาเยอะ ทำให้เราทำอะไรโดยไม่คิด ให้อารมณ์นำพาสติไป แต่อยู่ในวัดสติต้องนำพาอารมณ์ ทุกอย่างมีเหตุและผล”

“ไม่แน่ครับ” เขาบอกกับผม หลังจากที่ผมป้อนคำถามไปว่า ถ้ามีโอกาสจะกลับมาบวชอีกครั้งไหม? “ทุกคนเขาบวชแล้วได้ไปวัดป่า แต่ผมไม่ได้ไป (หัวเราะ)”

ด้วยความที่เขาห่มผ้าเหลือง และอาศัยอยู่ที่วัด เห็นเป็นหนุ่มขี้เล่นอารมณ์ดีแบบนี้ ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะมีความเชื่อในสิ่งลี้ลับไหมนะ

“มีบ้าง แต่ไม่เจอ (หัวเราะ) คนอื่นก็ไม่เจอนะ หลวงตาก็บอกว่าไม่น่ามีหรอก เพราะวัดบวรฯเป็นวัดหลวง ไม่มีเมรุเผา ถ้าเจอก็ถือว่าทำตัวไม่ดีจริงๆ เขาเลยมาเตือน ผมก็เลยไม่เจอ (หัวเราะ)”

เขาคงร้อนมากจนเหงื่อออกค่อนข้างเยอะ หยาดเหงื่อที่ไหลรินจากหน้าผากลงสู่แก้มและตกลงสู่พื้น ทีมงานจึงยื่นกระดาษซับหน้าให้เขาเบาๆ ผมนั่งพินิจพิเคราะห์ใบหน้าของเขา ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าผมสั้นแบบนี้จะมีผลกระทบกับงานบ้างหรือเปล่า

“ถ้าเรื่องงานผมว่าไม่น่าจะกระทบ จะกระทบกับตัวเองมากกว่า ตัวผมเองก่อนบวชและหลังบวชสไตล์การแต่งตัวจะเปลี่ยนไป ถ้าเราไปแต่งตัวเหมือนก่อนบวชด้วยทรงผมนี้มันก็จะดูไม่เข้า ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อย”

อยากให้ฝากแง่คิดที่ได้จากการบวชให้แก่คนอื่น

“เอาจริงๆ สำหรับทุกคนที่เป็นชาวพุทธนะ ผมว่าต้องลองมาศึกษาดูแล้วจะรู้ว่ามีสิ่งดีๆ เยอะแยะมากมายเลย เคยมีหลวงตาบอกว่าคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นชาวพุทธแค่เปลือก เราไม่เข้าใจว่าพุทธแค่เปลือกคืออะไร ซึ่งพอเรามาฟังคำอธิบายก็รู้ว่ามันคือการทำทุกอย่างแบบขาดสติ ทำอะไรให้คิดก่อน ก็อยากฝากทุกคนเรื่องสติล่ะกัน ผมเข้าใจว่าโลกภายนอกมีปัญหาเยอะ สิ่งยั่วยุที่มากระทบจิตใจเราก็มาก เราต้องใจเย็น ใช้สติในการหาทางออก”

สุดท้ายก่อนจากกัน เขาก็ฝากทิ้งท้ายว่า “หลังจากบวชกลับมาแล้ว ก็ยังคงลุยงานทำเพลงต่อ ที่มีตอนนี้ก็คือ เพลงแล้วแต่จะคิด และเร็วๆ นี้ อีกไม่นานเกินรอจะมีซิงเกิ้ลใหม่ออกมา ตื่นเต้นมาก ซิงเกิ้ลนี้ก็มีโอกาสได้ทำงานเองด้วย มีโอกาสลองเขียนเมโลดี้เอง ถ้ามีอะไรคืบหน้าก็จะมาอัพเดทให้ได้ฟังกันแน่นอนครับ”

หลังจากที่คุยกันมานานพอสมควร ผมว่าคงถึงเวลาแล้วที่เพนกวินตัวน้อยพร้อมที่จะทะยานลงสู่ทะเลเสียที…

ติดตามชมเรื่องราวอัพเดทของศิลปินได้ที่ คอลัมน์: คุยกับดาว น้องๆ คนไหนที่อยากอัพเดทเรื่องราวของศิลปินดาราสุดที่รักของคุณแบบนี้ ส่งมาได้ที่ startalk@prsociety.net หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.prsociety.net และ www.facebook.com/PRSocietyNews