สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จัดการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 หรือ The 2nd Thailand Culinary World Challenge 2014ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวม 17,500 เหรียญสหรัฐ ร่วมสนับสนุนการจัดงานโดยธนาคารกรุงเทพ เซ็นทรัล ชิดลม และองค์กรที่เกี่ยวข้อง หวังรณรงค์ให้ใช้วัตถุดิบไทยในการปรุงอาหารไทยและอาหารนานาชาติผ่านเชฟอินเตอร์ที่ตอบรับเข้าร่วมแข่งขันแล้วจาก 10 ประเทศทั่วโลก หนึ่งในกิจกรรมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวโลก เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมหลากหลาย ให้เลือกชิม เลือกช็อปสินค้าอาหารจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน พบสุดยอดไฮไลท์ อาหาร 60 เมนูสุดพิเศษสร้างสรรค์จากเชฟชื่อดัง จำหน่ายเพียง 60 บาททุกเมนู มอบรายได้ให้มูลนิธิรามาธิบดี ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เลือกชมนิทรรศการ 60 นวัตกรรมอาหารแห่งภูมิปัญญาไทย และสาธิตการปรุงอาหารไทยโดยเซเลบริตี้เชฟจากทั่วฟ้าเมืองไทยระหว่างวันที่ 1 – 3 สิงหาคม 2557เวลา 15.00–21.00 น. ณ ลานมรกต เซ็นทรัล ชิดลม
นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่าจากนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรมในการสนับสนุนนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกนั้น สถาบันอาหารได้รับมอบหมายให้ดำเนินการผ่านโครงการต่างๆ หลายโครงการ เช่น โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก(Thailand Food Quality to the World) โครงการเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่อุตสาหกรรมอาหารและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คุณค่าอาหารของไทย (Thailand Food Forward) และโครงการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล โดยสถาบันอาหารมุ่งเน้นที่จะสร้างให้อาหารที่ผลิตจากประเทศไทยมีความปลอดภัย เป็นที่เชื่อถือของผู้บริโภคทั่วโลก ที่สำคัญมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร-อาหารอีกทางหนึ่ง โดยมีเป้าหมายหลักผลักดันให้สินค้าภาคอุตสาหกรรมเกษตร-อาหาร มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นปีละ 10%
โดยการจัดงาน การแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 นี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่กระทรวงอุตสาหกรรมให้การสนับสนุน ภายใต้โครงการThailand Food Quality to the Worldและเป็นการต่อยอดจาก “The 1st Thailand Culinary World Challenge 2013” เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี มีส่วนช่วยกระตุ้นและรณรงค์ให้เกิดการใช้วัตถุดิบไทยทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สามารถเผยแพร่วัฒนธรรมตลอดจนประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยผ่านอาหาร รวมทั้งใช้เวทีนี้เป็นสื่อกลาง ในการรวบรวมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบไทยและอาหารไทย สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในการทำอาหาร เชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้จะประสบความสำเร็จในวงกว้างยิ่งขึ้น เนื่องจากได้ทำการประชาสัมพันธ์ในต่างประเทศถึง 30 ประเทศทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย และกลุ่มในประเทศอาเซียน รวมทั้งจะมีการเชิญท่านทูตประจำประเทศไทยของประเทศต่างๆ ที่เข้าแข่งขัน เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงานครั้งนี้ด้วย
นายเพ็ชร กล่าวต่อว่า การจัดการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 2 นี้ เป็นอีกแนวทางสำคัญในการผลักดันให้ทั้งวัตถุดิบไทยที่ใช้ในการปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยเอง ที่จะเกิดการรับรู้ในวัฒนธรรมอาหารไทยในระดับสากล หรือกรณีอาหารนานาชาติที่สามารถนำวัตถุดิบไทยไปประยุกต์ใช้ได้ ก็จะเกิดการรับรู้ในวงกว้างในระดับเวทีอาหารโลกมากขึ้น เนื่องจากเป็นการแข่งขันระดับนานาชาติที่มีเชฟจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมถึง 10 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, มาเลเซีย,พม่า, สิงคโปร์, กัมพูชา, เกาหลีใต้, สาธารณรัฐเช็ก, สาธารณรัฐประชาชนจีน และไต้หวัน เดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันปรุงอาหารไทยและอาหารนานาชาติด้วยวัตถุดิบไทยในเมืองไทย
การแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่2 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวม 17,500 เหรียญสหรัฐจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 3 สิงหาคม 2557 บริเวณลานมรกต เซ็นทรัล ชิดลม โดยจะมีพิธีเปิดงานในวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป สำหรับการแข่งขันและกิจกรรมภายในงานจะเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00–21.00 น.ระหว่างวันเสาร์ที่ 2 – อาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2557 ผู้ชนะเลิศได้รับรางวัลเงินสดจำนวน 10,000 เหรียญสหรัฐรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับ 5,000 เหรียญสหรัฐรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับ 2,500 เหรียญสหรัฐพร้อมถ้วยรางวัล และประกาศนียบัตร โดยทุกประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันจะได้รับใบรับรองการได้เข้าร่วมการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลก
ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเงินรางวัลจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) และได้รับการสนับสนุนสถานที่จัดงานโดยบริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด พร้อมด้วยองค์กรพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง อาทิ สมาคมเชฟประเทศไทย (Thailand Chefs Associations) ชมรมพ่อครัว-แม่ครัวภาคเหนือ (Northern Chefs Club) สมาคมเชฟเมืองพัทยาและจังหวัดชายฝั่งภาคตะวันออก ชุมนุมเชฟอีสาน (Chef’s Association North Eastern) ชมรมพ่อครัวชะอำ-หัวหิน (Cha-am Hua Hin Chefs Club) และชมรม Thailand Culinary Academy เป็นต้น
นายเพ็ชร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการแข่งขันทำอาหารไทยของเชฟมืออาชีพจากทั่วโลกแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ การมอบเกียรติบัตร World Class Food Safety Standard in Mass Catering สำหรับ 100 ร้านอาหารชื่อดังของไทยที่เข้าร่วมโครงการ GMP in Mass Catering กับสถาบันอาหาร ภายใต้ กิจกรรม“ร้อยครัวไทย ร้อยใจ เทิดไท้องค์ราชินี” พร้อมชมนิทรรศการ 60 นวัตกรรมอาหารแห่งภูมิปัญญาไทยภายใต้โครงการเสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่อุตสาหกรรมอาหารและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คุณค่าอาหารของไทยหรือ Thailand Food Forwardนอกจากนี้ยังมีบูธจากสมาคมเชฟประเทศไทย และเชฟชื่อดังจำนวน 20 บูธ ร่วมกันรังสรรค์อาหาร 60 เมนู สุดพิเศษจำหน่ายเพียง 60 บาททุกเมนู โดยรายได้จากการจำหน่ายอาหารจะมอบให้กับทีมThailand Culinary Academy และมูลนิธิรามาธิบดีในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทั้งยังมีบูธจากบริษัทฯ ผู้ผลิตอาหารชั้นนำจำนวน 10 บูธและบูธจากโครงการ “Thailand Food Forward” จำนวน 10 บูธ นำสินค้ามาร่วม จำหน่ายอีกด้วย
ขณะเดียวกันยังจัดให้มีการสาธิตการทำอาหารสำหรับคุณหนูซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อปลูกฝังให้เด็กรู้จัก และเห็นคุณค่าของอาหารไทยพร้อมชมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง และพบกับเซเล บริตี้เชฟทั่วฟ้าเมืองไทยมาสาธิตการปรุงอาหาร ร่วมกันแสดงพลังในการรณรงค์ให้เชฟทั่วโลกเลือกใช้วัตถุดิบไทย นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีบูธลงนามถวายพระพรออนไลน์ เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวัน พระราชสมภพ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยขอเชิญผู้เข้าแข่งขัน ตลอดจนพสกนิกรชาวไทยทุกคนร่วมกันแสดงความจงรักภักดี ร่วมถวายพระพร และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน
ด้านเชฟวิลเมนท์ ลีออง(Willment Leong) อุปนายกฝ่ายการศึกษาและการแข่งขัน สมาคมเชฟประเทศไทย และประธานชมรม Thailand Culinary Academy หนึ่งในพันธมิตรของการจัดงานครั้งนี้ กล่าวว่า การจัดการแข่งขันครั้งนี้ นับเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ของเชฟไทยที่จะยกระดับคุณภาพและขีดความสามารถให้เทียบเคียงสากลต่อไป ด้วยการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนกับเชฟจากทั่วโลก โดยชมรมฯ ได้ส่งเชฟไทยในสังกัดลงสนามเป็นผู้ช่วยกุ๊กมืออาชีพที่เข้าร่วมการแข่งขันด้วยเพื่อได้เรียนรู้และหาประสบการณ์ ซึ่งหวังจะก่อให้เกิดการต่อยอดการพัฒนาเชฟไทย คือนำความรู้ไปเผยแพร่ให้กับเยาวชนและผู้ที่สนใจแลกเปลี่ยนและแบ่งบันประสบการณ์ ที่มีอยู่ให้กับผู้ที่มีใจรักแต่ขาดโอกาสต่อไป