คอลัมน์ คุยกับดาว
เรื่อง / ภาพ – อนันต์ ธัญญ์รัตน์
เชื่อว่าสาววายค่อนประเทศคงอิจฉาผมแน่นอน เพราะตอนนี้ผมนั่งอยู่ข้างๆ “กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง” นายเอกจาก “Love Sick The Series” ซีรีส์วัยรุ่นน้ำดีสุดฮิตในขณะนี้ ด้วยบทบาทของ “โน่” ประธานชมรมดนตรีที่ต้องตกกระไดพลอยโจนมารับบทเป็นแฟนชั่วคราวของ “ปุณณ์” เพื่อนชายร่วมรุ่นที่ต้องเอาใจน้องสาวเลือดวายพันธุ์แท้ ทำให้เขาแจ้งเกิดในชั่วข้ามคืน ทำให้เกิดวลีเด็ดขึ้นว่า “ผมอยากมีโน่”
วันนี้เขามาในลุคสบายๆ ตามสไตล์ของเขา หากจะบอกว่าเพราะเขาเป็นลูกคนจีนตัวขาวปากแดง ไม่ว่าจะมาลุคไหนก็แลดูน่ารักไปเสียหมด ทำให้อยากรู้มากขึ้นไปอีกว่าชีวิตในวัยเด็กของเขาเป็นอย่างไร?
“เมื่อก่อนเป็นโรคภูมิแพ้ แต่ก็เล่นกีฬาจนทำให้ดีขึ้น จนกลายมาเป็นนักกีฬาครับ”
ณ เวลานี้ เขาอาจจะไม่ได้เป็นนักกีฬาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว หากแต่เป็นนักแสดงหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง แต่กว่าจะได้มาทำงานตรงนี้เขาก้าวเข้ามาได้อย่างไร
“พี่ทีมงานติดต่อผ่านเข้ามาทาง IG ฝากคอมเม้นท์ไว้ให้มาลองแคสดู ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจ กลัวโดนหลอกว่าไปทำอะไรไม่ดีหรือเปล่า แต่เห็นว่าน่าเชื่อถือดีเพราะคนก็ไปแคสกันเยอะ วันนั้นผมก็สะดวกพอดี เลยลองเข้าไปแคสดูครับ”
แล้ววางตัวเองอย่างไรบ้าง? ผมถามต่อ
“พยายามทำตัวเองให้น่ารัก ไม่เยอะต่อคนอื่น รู้จักไปมาลาไหว้ครับ”
“ไม่เลยครับ” กัปตันบอกกับผม หลังจากที่ผมถามไปว่า คิดไหมว่ากระแสตอบรับจะออกมาดีขนาดนี้ “ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นซีรีส์ธรรมดาเรื่องหนึ่ง แต่ผ่านไปได้สักพักก็มีแฟนคลับเข้ามาเยอะแยะ ผมก็รู้สึกดีใจมากครับ”
ซีรีส์น้ำดีเรื่องนี้ออกจะมีวัยรุ่นเยอะแยะไปหน่อย จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเวลาอยู่ในกองจะวุ่นวายมากน้อยแค่ไหน
“วัยรุ่นมันเยอะครับ บางคนก็ซน บางคนก็หายตัวออกไปเซเว่น พี่ทีมงานก็หากันวุ่นเลย แต่ผมไม่มีครับ นั่งนิ่งตลอด เป็นเด็กที่ดีครับ (หัวเราะ) ส่วนพี่ไวท์จะแกล้งคนอื่นไปทั่ว ชอบไปแหย่พี่ทีมงานเขาเล่น”
แต่เรื่องการแสดงคงต้องพักไว้ก่อน เพราะนาทีนี้ผมอยากจะรู้เสียเหลือเกินว่าเวลาที่ต้องเข้าฉากกุ๊กกิ๊กกับไวท์เขาจะรู้สึกอย่างไร
“ตอนแรกก็ทำใจฮะ มันเป็นการแสดง ก็เลยคิดว่าเป็นไงเป็นกันวะ (หัวเราะ)”
แล้วคิดว่าฉากไหนหนักใจมากที่สุด ผมรีบถามต่อ “ก็ฉากจูบนั่นแหล่ะครับ (หัวเราะ) เกิดมาไม่เคยจูบกับผู้ชายสักที” (ประหม่าบ้างไหม?) “เซ็งครับ (หัวเราะ)” (เหมือนจูบกับผู้หญิงไหม?) “มันไม่เกิดอารมณ์อ่ะ ถ้าเกิดอารมณ์ก็แย่นะ (หัวเราะ)”
เขาค่อนข้างเฮฮาเมื่อผมถามถึงเรื่องที่ต้องเลิฟซีนกับผู้ชาย แต่ในความอารมณ์ดีนั้นผมไม่แน่ใจว่าเขาจะคิดอย่างไรและที่บ้านของเขาจะว่าอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้
“ตอนแรกไม่กล้าเล่นครับ บอกกับพี่ทีมงานว่าขอเป็นตัวประกอบอะไรก็ได้ แต่คาแรคเตอร์ของผมดันตรงกับตัวโน่พอดี ก็เลยได้กลายมาเป็นโน่ครับ พ่อแม่ก็เข้าใจครับว่าเป็นการแสดง แต่พวกเขาก็สนับสนุนนะ ถ้าชอบอะไรก็ทำไปเถอะ” (กลัวคนจะมองว่าติดภาพเกย์?) “แล้วแต่คนจะคิดครับ แต่ผมคิดว่ามันเป็นการแสดง ถ้าเราแสดงให้เขาอินกับบทบาทก็ถือว่าเป็นเรื่องดี” (ถ้าวันข้างหน้ามีแต่บทแบบนี้ จะรับไหวไหม?) “ถ้าให้มาก็รับไหวครับ แต่เปลี่ยนให้หน่อยก็ได้นะ (หัวเราะ)”
มีสาวๆ จำนวนไม่น้อยที่คาดหวังว่าเขาจะชอบผู้ชายด้วยกันเหมือนในซีรีส์ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะคิดอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้
“เขาก็เข้าใจอยู่แล้วว่าเราเป็นชาย แต่เราก็คล้อยตามให้เขาเยิ้มกันบ้างนิดนึง แต่ก็โอเคครับ มีแฟนคลับ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ก็ต้องขอบคุณพี่ๆ เขาเหมือนกัน”
ในปัจจุบันหนังหรือละครของไทยที่มีบท ชายรักชาย กระแสค่อนข้างดีในต่างประเทศ แล้วอย่างเลิฟซิกฯ พอจะมีโอกาสไหม?
“ก็น่าจะมีนะครับ ผมก็อยากไปต่างประเทศเหมือนกับเขาบ้าง (หัวเราะ)” (คิดจะโกอินเตอร์บ้างไหม?) “ก็มีครับ ถ้ามีโอกาสนะ”
พอใจกับตัวเองในตอนนี้แล้วหรือยัง? ผมถามต่อ “คิดว่ายังทำได้ดีกว่านี้ครับ ถ้ามีโอกาสที่งานต่างๆ เข้ามาก็จะทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ”
เขาเริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น เวลาไปไหนมาไหนก็อาจจะถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายในสังคมจนทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไป
“ตั้งแต่ก่อนจะเข้ามาทำงาน พ่อแม่ก็บอกว่าต้องเสียตรงนี้ไปนะ ผมก็ทำใจไว้แล้วครับ ซึ่งผมก็คุยกับคนรอบข้างเขาก็เข้าใจเราครับ”
การเสียความเป็นส่วนตัวอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเขา แต่มีนักแสดงจำนวนไม่น้อยที่เปลี่ยนไปเมื่อมีชื่อเสียงมากขึ้น เขาจะเป็นแบบนั้นบ้างไหมนะ
“ผมคิดว่าหลายคนก็เปลี่ยนไปนะ แต่ผมพยายามวางตัวให้เหมือนเดิมที่สุด เพราะทุกคนก็คอยบอกว่าถ้าเราเปลี่ยนไปเขาก็จะมองเราไม่ดี”
เสียงใสๆ กับท่าทีที่เป็นกันเองของเขา บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเขาได้อย่างชัดเจน เขาแลดูพร้อมเสมอที่จะปล่อยให้ผมค้นตัวตนของเขาต่อไปอีก
“หลายคนอาจจะคิดว่ามันดีไปหมด ใครๆ ก็อยากจะเป็นนักแสดง แต่พอได้เข้ามาแล้วก็รู้ว่ามันก็ไม่ได้ดีไปหมดนะ มันก็มีข้อเสียบ้างในตัวของมัน แต่อาชีพนักแสดงก็ให้อะไรหลายอย่างกับเรานะ เจอสังคมมากขึ้น มีโอกาสในการทำงานต่างๆ มากขึ้น และความตรงต่อเวลา ผมก็จะไปก่อนเวลาที่พี่ทีมงานนัดครับ”
ถ้าวันนี้ไม่ได้เป็นนักแสดง อยากจะทำอะไร ผมป้อนคำถามให้เขา “อาจจะเป็นนักกีฬาครับ เพราะก่อนหน้านี้ก็เป็นนักแบดมินตัน ถ้าจะให้นั่งทำงานออฟฟิศก็ไม่ใช่แนวผมครับ แต่ก็ยังอยากเป็นนักแสดงมากที่สุดครับ หรือจะเป็นนายแบบก็ได้” (พิธีกรหรือนักร้องล่ะ?) “นักร้องก็สนใจนะ ขอเป็นแนวที่ไม่ต้องนั่งในออฟฟิศก็พอ (หัวเราะ)”
ด้วยความที่เขายังเรียนอยู่ระดับชั้นมัธยม ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะแบ่งเวลาเรียนกับเวลาทำงานได้ลงตัวมากน้อยแค่ไหน
“ผมจะขอกับพี่ๆ เขาไว้ว่าขอเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ถ้าเป็นช่วงปิดเทอมก็กระหน่ำงานมาได้เลย” (เวลาเรียนกับเวลางานมีชนกันไหม?) “ก็มีครับ ที่โรงเรียนก็ให้หยุดได้ แต่ขอให้เรียนให้ได้ ผมก็พยายามตั้งใจเรียนครับ” (วางแผนเรื่องการเรียนอย่างไร?) “อยากเรียนนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ ธรรมศาสตร์ ถ้าเข้าได้ (หัวเราะ)”
ผมนั่งพิจารณาใบหน้าของเขาอย่างละเอียดก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เขามีเคล็ดลับในการดูแลตัวเองอย่างไรให้รูปหล่อหน้าใสได้ถึงเพียงนี้
“ผมเป็นคนชอบออกกำลังกายครับ เมื่อก่อนเป็นเด็กอ้วน ชอบนอนดึก จนรู้สึกว่าหน้าตัวเองไม่ไหวแล้ว ก็เลยเปลี่ยนมานอนเร็วขึ้น นอนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และไม่กินขนมครับ”
ถึงแม้วันนี้เขาจะแต่งตัวสบายๆ ตามสไตล์ของเขาแต่ผมก็เริ่มอยากรู้ว่าปกติไลฟ์สไตล์ของเขาเป็นอย่างไร
“ส่วนมากจะเป็นกางเกงยีนส์ เสื้อยืด รองเท้าผ้าใบ ครับ” (ช็อปปิ้งที่ไหน?) “ผมเป็นคนไม่ค่อยช็อปปิ้งอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะไปเดินเล่นกับเพื่อนที่สยามมากกว่าครับ”
กัปตันเริงร่าตลอดเวลาการสนทนา รอยยิ้มนั้นบวกกับปากแดงๆ และหน้าหวานๆ ของเขา ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยต่างพากันหลงใหลเขาได้มากมายถึงเพียงนี้ หรือสิ่งเหล่านี้จะเป็นเสน่ห์ของเขากันนะ
“ผมก็ไม่รู้นะ แต่หลายคนเขาบอกว่าน่ารักอ่ะ (หัวเราะ) ก็คงหน้าหวานแหล่ะมั้ง”
อาจจะเพราะเขายังเด็ก ในสายตาของผมเขาจึงน่าเอ็นดูราวกับลูกแมวตัวน้อยที่พร้อมจะให้คนโอบกอดได้ทุกเวลา แต่ไม่รู้ว่าเขาพร้อมที่จะให้คนโอบกอดแล้วหรือเปล่า?
“ก็ต้องมีอยู่แล้วฮะ” (ผู้ชายหรือผู้หญิง?) “ผู้หญิงงงงง” (ในวงการหรือนอกวงการ?) “นอก” (รักแรกหรือเปล่า?) “ไม่ครับ คนละคนครับ”
หลายคนอาจจะเห็นว่ามีคนใช้สารพัดวิธีตามจีบเขาในซีรีส์ แต่ในชีวิตจริงล่ะ..เขาจะมีวิธีเทคนิคพิชิตใจสาวแบบไหนกันบ้าง
“โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าจีบใครก่อน ต้องรอให้เขาเข้ามา ถ้าเกิดเขาเข้ามาหาเราก็แสดงว่าเขารักเรา จริงใจต่อเรา ก็รอคนที่เขารักเราดีกว่าคนที่เรารักเขา เพราะถ้าเกิดเราไปรักเขาแล้วเขาไม่จริงใจต่อเราก็จะเลิกกันง่าย” (แล้ววิธีมัดใจหนุ่มๆ ล่ะ?) “โอ๊ย!! อย่าเลยพี่ (หัวเราะ)”
ตัวขาวปากแดงแบบนี้ มีหนุ่มๆ มาจีบบ้างไหม? ผมถามต่อ “มีครับ เขาก็ไม่ได้จีบถึงขั้นจะเอาให้ได้ ก็จะคุยเป็นเพื่อนอะไรอย่างงี้มากกว่า” (มีสเป็คในใจหรือเปล่า?) “ตัวขาว ผมยาว สูงหน่อยก็ได้” (หนุ่มผมยาว?) “โอ๊ย!! ไม่ใช่ล่ะ (หัวเราะ)”
เรื่องการจีบหรือสเป็คอาจจะต้องพักไว้ก่อน เพราะเขาแอบเหม่อเป็นระยะ จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาคิดถึงใครบางคนอยู่หรือเปล่านะ เขามีท่าทีเขินอายเล็กน้อย เมื่อผมป้อนคำถามว่า อย่างพี่ไวท์ยังพอจะมีความหวังบ้างไหม? “ก็รอดูกันต่อไปฮะ (หัวเราะ)”
สุดท้ายก่อนจากกัน เขาฝากทิ้งท้ายว่า “ฝากติดตาม Love Sick The Series ของผมด้วยนะครับ ออนแอร์ทางช่อง 9 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.50 น.”
หลังจากที่ใช้เวลาสนทนากันมาพักใหญ่แล้ว ผมว่าคงถึงเวลาแล้วที่จะปล่อยให้ลูกแมวตัวน้อยได้ไปสู่อ้อมกอดของใครสักคนเสียที…
หมายเหตุ: ขอขอบคุณ ร้านกาแฟดอยช้าง สุขุมวิท21 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่
ติดตามชมเรื่องราวอัพเดทของศิลปินได้ที่ คอลัมน์: คุยกับดาว น้องๆ คนไหนที่อยากอัพเดทเรื่องราวของศิลปินดาราสุดที่รักของคุณแบบนี้ ส่งมาได้ที่ startalk@prsociety.net หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.prsociety.net และ www.facebook.com/PRSocietyNews
5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนออกเดทกับกัปตัน
ประวัติ กัปตัน-ชลธร
ชื่อเล่น: กัปตัน
ฉายา: ไอ้ตัน หรือ ตัวเขมือบ
วันเดือนปีเกิด: 2 กุมภาพันธ์ 2541
อายุ: 16 ปี
ส่วนสูง: 180 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 66 กิโลกรัม
การศึกษา: มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล
งานอดิเรก: ออกกำลังกาย นอนเล่น
บุคลิกส่วนตัว: สนุกสนาน เฮฮา
กีฬาสุดโปรด: แบดมินตัน
สีที่ชอบ: ดำ ขาว (เหมือนพี่ไวท์)
สัตว์เลี้ยงที่ชอบ: สุนัข
สิ่งที่ไม่ชอบ: แมลงที่สามารถต่อยคนได้
ภาพยนตร์เรื่องโปรด: MARVEL
แนวภาพยนตร์ที่ชอบ: ทุกแนว
แนวเพลงที่ชอบ: ป็อปร็อก หรือ สากล
นักแสดงในดวงใจ: มาริโอ้ ณเดชน์
เป้าหมายสูงสุดในชีวิต: ทำงานให้ดีที่สุด หาเลี้ยงครอบครัวให้สุขสบายได้