นายบรรณหาร อินทร์ภิรมย์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก พล.ต.อ. วุฒิ ลิปต-พัลลภ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเป็นเกียรติเปิดตัวโครงการ “รวมพลคนดีถนนสีขาว…Hero on the Road” ถือเป็น การบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อมทั้งบริษัทประกันภัยรถยนต์อีก 9 แห่ง เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการเชิดชูบุคคล ที่ทำดีบนท้องถนน เฟ้นหาคนดีมีน้ำใจช่วยเหลือผู้ใช้รถใช้ถนน เคารพกฎจราจร ไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนน เพื่อลดอุบัติเหตุอย่างเป็นรูปธรรม โดยจัดงานฯ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 ณ โรงแรมโอกุระ ถนนวิทยุ
จากการดำเนินธุรกิจของโตโยต้าในประเทศมากว่า 52 ปี โตโยต้ามีความมุ่งมั่นร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความสุขสู่สังคมไทย ภายใต้สโลแกน “โตโยต้า ขับเคลื่อนความสุข” ด้วยการเป็นองค์กรที่ดี มีจิตสำนึกรับผิดชอบและร่วมพัฒนาสังคมไทย โดยหนึ่งในความมุ่งมั่นและตั้งใจของโตโยต้า คือ ด้านความปลอดภัยทางถนน ภายใต้โครงการ “ถนนสีขาว” เพื่อกระตุ้นและสร้างจิตสำนึก และร่วมรณรงค์ในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ด้วยวินัยและน้ำใจ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุและการสูญเสียบนท้องถนน
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งเครือข่ายถนนสีขาวจากบริษัทประกันภัยรถยนต์ 9 แห่ง เปิดตัวโครงการ “รวมพลคนดีถนนสีขาว…Hero on the Road” เพื่อเฟ้นหาและเชิดชูผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย มีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนร่วมทาง เคารพกฎและรักษาวินัยจราจร ไปสู่การสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนน เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุอย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ คือ “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน : 2011-2020” (Decade of Action for Road Safety : 2554-2563) ที่ประกาศโดยสหประชาชาติ
โครงการ รวมพลคนดีถนนสีขาว ได้รับเกียรติจากผู้มีจิตอาสาทำความดีบนท้องถนนร่วมเป็น Hero Model เพื่อเป็นตัวแทนสร้างแรงบันดาลใจในการทำความดีบนท้องถนน ได้แก่ คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ (นักแสดงและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู) คุณภาณุพงศ์ ลาภเสถียร (ปาว – นักปั่นกู้ชีพ) คุณสมควร วังมะฤค (ดีเจอ้อยใจ และอาสาสมัครจราจรหญิง)
โครงการ “รวมพลคนดีถนนสีขาว” แบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 การสร้างแรงบันดาลใจและเชิดชูคนทำดีบนท้องถนน กับ Hero Model ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและยกตัวอย่างพฤติกรรมที่ดีบนท้องถนน
กิจกรรมที่ 2 เฟ้นหาและรับสมัครคนทำดีบนท้องถนน กับกรมการขนส่งทางบก เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปนั้นสามารถเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อปฏิญาณตนเป็นคนดีบนท้องถนน โดยจะต้องไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเป็นระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ
กิจกรรมที่ 3 เคารพกฎ รักษาวินัยจราจร โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการรณรงค์บังคับใช้กฎหมายด้านการจราจร พรบ. ขนส่ง อย่างถูกต้องในพื้นที่ 17 จังหวัด (สามารถดูรายละเอียดจากเอกสารแนบ) ที่มีการละเมิดกฎจราจร และสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด โดยการตั้งด่านตรวจพิเศษขึ้น ณ บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2557 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 โดยกิจกรรมที่ 2 จะเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกายน 2557 ผ่านทางเว็บไซต์ของ
v บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด : www.toyota.co.th/heroontheroad
v กรมการขนส่งทางบก : www.dlt.go.th
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ 2 จะได้รับสติ๊กเกอร์ “รวมพลคนดีถนนสีขาว…Hero on the Road” เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงการเข้าร่วมกิจกรรม และจะได้รับการเชิดชูเกียรติผ่านสื่อ และเว็บไซต์จากกรมการขนส่งทางบก รวมถึง รับ พ.ร.บ.รถยนต์ฟรี หากผ่านเกณฑ์การเข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้
v การตรวจสอบ ชื่อ-นามสกุล ทะเบียนรถ ใบขับขี่รถยนต์ของผู้เข้าร่วมโครงการ โดยจะต้องเป็นชื่อบุคคลเดียวกัน โดยอ้างอิงข้อมูลจากทางกรมการขนส่งทางบก
v การตรวจสอบการกระทำผิดกฎจราจรที่ได้รับใบสั่งจากตำรวจจราจร ภายใน 1 ปีย้อนหลังนับจากวันที่สมัครเข้าร่วมโครงการ โดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
v หลังจากสมัครเข้าร่วมโครงการผู้สมัครจะต้องไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเป็นระยะเวลา1 ปี โดยอ้างอิงจากเอกสารการเรียกร้องการใช้สิทธิ์ประกันภัย
v จะต้องมีบุคคลรับรองตามแบบฟอร์มที่กำหนดไว้
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ เปิดเผยว่า “ในนามของบริษัทโตโยต้าฯ รู้สึกยินดีและขอขอบคุณ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และภาคีเครือข่ายทุกหน่วยงาน ที่ได้ร่วมเปิดโครงการรวมพลคนดีถนนสีขาว เฟ้นหาและเชิดชูคนทำความดี เพื่อเป็นต้นแบบทั้งในด้านของวินัยจราจรและการแบ่งปันน้ำใจให้แก่เพื่อนร่วมทาง ที่จะทำให้เกิดวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ช่วยลดอุบัติเหตุและผู้เสียชีวิตบนท้องถนนอย่างเป็นรูปธรรม ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมืออีกครั้งของภาคีเครือข่ายถนนสีขาว และในครั้งนี้เราได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันภัยชั้นนำ 9 แห่ง สอดคล้องกับนโยบายทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน ภายใต้แนวคิด Time for Action ที่เราทุกคนจะต้องร่วมลงมือปฏิบัติทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความสุขที่ยั่งยืนสู่สังคมไทย ดังความมุ่งมั่นของโตโยต้าในการก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ ที่จะขับเคลื่อนความสุขและสร้างรอยยิ้มให้เกิดขึ้นแก่คนไทย”
นายบรรณหาร อินทร์ภิรมย์ กล่าวว่า “อุบัติเหตุทางถนนถือเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย โดยสาเหตุสำคัญคือ การไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร และการมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ขาดจิตสำนึก ดังนั้น รัฐบาลประกาศให้อุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระแห่งชาติโดยกำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยต้องลดจำนวนอุบัติเหตุให้ได้ครึ่งหนึ่ง ในระหว่างปี 2553 – 2563 หรือมีผู้เสียชีวิตได้ไม่เกิน 10 คนต่อประชากรแสนคน ผมขอขอบคุณบริษัทโตโยต้าฯ ที่ได้ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรม Hero on the Road เพื่อส่งเสริมให้เกิดต้นแบบที่ดีในเรื่องของพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนน โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องเป็นผู้มีน้ำใจเอื้ออาทรบนท้องถนน ปฏิบัติตามระเบียบวินัยไม่ฝ่าฝืนกฎจราจร ตลอดจนไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุตลอดระยะเวลา 1 ปี จะได้รับคัดเลือกเป็นต้นแบบคนดีถนนสีขาว และได้รับฟรี พ.ร.บ.รถยนต์ และส่วนลดเบี้ยประกันภัยฯ รวมถึงได้รับการยกย่องเชิดชูผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก ในนามกรมขนส่งทางบกหวังว่าโครงการนี้จะเกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน สะท้อนให้อุบัติเหตุทางถนนลดลงได้จริง ตลอดจนป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุในสังคมไทยอย่างยั่งยืน”
พล.ต.อ. วุฒิ ลิปตพัลลภ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในฐานะหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบด้านการจราจรในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย และการอำนวยความสะดวกโดยการให้บริการและจัดการจราจร ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตอบรับนโยบายของภาครัฐและยินดีอย่างยิ่งที่จะให้การส่งเสริมและสนับสนุนโครงการ Hero on the Road นี้ โดยจะทำการตั้งด่านตรวจขึ้นพิเศษ ณ บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมพิจารณาคัดเลือก 17 จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุงทั่วประเทศ เพื่อทำให้ถนนทุกสายในประเทศไทยมีความปลอดภัยและปราศจากอุบัติเหตุบนท้องถนนตลอดไป วันนี้ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการลดอุบัติภัยบนถนน และส่งเสริมคนต้นแบบที่มีวินัยบนท้องถนนอย่างจริงจัง”
นอกจากนั้น โตโยต้าได้จัดกิจกรรม “Campus Challenge 2014 โดย โตโยต้าถนนสีขาว” ผ่านมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อประกวดแผนรณรงค์การขับขี่ปลอดภัยภายในรั้วมหาวิทยาลัย รวมทั้งจัดให้มีการนำแผนรณรงค์มาปฏิบัติจริงในมหาวิทยาลัย เพื่อกระตุ้นให้นิสิตนักศึกษาเห็นความสำคัญของการขับขี่ปลอดภัยและลดจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย รวมถึงสร้างจิตสำนึกที่ดีในการใช้รถใช้ถนนในที่สาธารณะ โดยทีมผู้ชนะเลิศจะได้รับสิทธิ์ไปศึกษาดูงานด้านความปลอดภัยทางถนนที่ประเทศญี่ปุ่นระยะ เวลา 5 วัน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.toyota.co.th/campuschallenge2014
“โตโยต้า ขับเคลื่อนความสุข”
- Ø ที่มาและความสำคัญของปัญหา
v รัฐบาลประกาศนโยบาย ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2554 – 2563 (Decade of action for road safety 2011 – 2020 : Time for Action) จัดทำแผนเพื่อดำเนินการ “ลดอุบัติภัยและความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด ส่งเสริมให้ความรู้และการใช้การขนส่งอย่างปลอดภัย ซึ่งถือเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ของประเทศ” พร้อมกำหนดให้จัดทำแผนที่นำทางเชิงกลยุทธ์ (Strategic Map) โดยผ่านความร่วมมือกับทุกภาคส่วน
v ในปี 2555 ความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 14,033 คน หรือเฉลี่ยวันละ 38 คน (ข้อมูลใบมรณบัตร ปี 2555) และผู้พิการรายใหม่ปีละ 5,000 คน คิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 2.3 แสนล้านบาท/ปี หรือคิดเป็น 2.81 % ของ GDP (ข้อมูลจากกรมทางหลวงปี พ.ศ. 2555)
v ในปี 2556 องค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการยอดผู้เสียชีวิตของประเทศไทยสูงถึง 26,000 คน หรือคิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 38.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับประเทศสมาชิก พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก (ข้อมูลจาก WHO ปี พ.ศ. 2556)
v ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ จักรยานยนต์ (ข้อมูลจากกรมทางหลวงปี พ.ศ. 2556)
v สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด เกิดจากการขับขี่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ได้แก่ การขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด การขับตัดหน้ากระชั้นชิด ขับชนท้าย เมาแล้วขับ และยังมีพฤติกรรมเสี่ยงขาดจิตสำนึกที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เช่น เมาแล้วขับ
สำหรับการดำเนินกิจกรรมภายใต้ โครงการถนนสีขาวประจำปี พ.ศ. 2557 นี้ โตโยต้ายังคงมุ่งมั่นส่งเสริมสังคมด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ซึ่งมีภาคีเครือข่ายความปลอดภัย แบ่งเป็น
1. ผู้ริเริ่มโครงการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
2. ภาคีเครือข่ายความร่วมมือ 1. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2. กรมการขนส่งทางบก
3. ภาคีเครือข่ายการสนับสนุน Toyota Insurance Brokers : TIB และ
บริษัทประกันภัยรถยนต์ 9 แห่ง ได้แก่
- บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)
- บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ไอโออิ กรุงเทพ ประกันภัย จำกัด (มหาชน)
- บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ จำกัด สาขาประเทศไทย
- บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน)
- บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
- บริษัท โตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
- และบริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน)
- Ø บทบาทและหน้าที่
หน่วยงาน |
การสนับสนุน |
1.บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด |
|
2.กรมการขนส่งทางบก |
|
3. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ |
|
4. บริษัท ประกันภัยฯ 9 แห่ง และ TIB (Toyota Insurance Brokers) |
|
- Ø วัตถุประสงค์โครงการ
v เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเห็นความสำคัญของความปลอดภัยบนท้องถนน รวมถึง รณรงค์การปฏิบัติพฤติกรรมการขับขี่ที่ดีก่อให้เกิดความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
v เพื่อส่งเสริมและเชิดชูผู้ใช้รถใช้ถนนที่มีพฤติกรรมการขับขี่อย่างถูกต้องและเป็นต้นแบบที่ดี
v เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุทางท้องถนน สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ “ทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน”
- Ø โครงการ “Hero on the Road” แบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม ดังนี้
กิจกรรมที่ 1 : การสร้างแรงบันดาลใจ และเชิดชูคนทำดีบนท้องถนน กับ Hero Model
- รณรงค์ประชาสัมพันธ์โครงการฯ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของผู้ใช้รถใช้ถนน
- นำเสนอเรื่องราวของ “Hero Model” หรือผู้ที่ทำดีบนท้องถนน เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจและรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเข้าใจและเห็นความสำคัญของวินัยและน้ำใจบนท้องถนน
กิจกรรมที่ 2 : เฟ้นหาและรับสมัครคนทำดีบนท้องถนน ผ่านกรมการขนส่งทางบก
v นิยามของคนดีบนท้องถนน หรือ Hero on the Road
1) มีน้ำใจเอื้ออาทรบนท้องถนน เช่น การเสียสละ และการช่วยเหลือ
2) มีวินัยในการใช้รถใช้ถนน เช่น การปฏิบัติตามกฎจราจรพรบ.ขนส่ง อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ
v กลุ่มเป้าหมาย
1) ผู้ขับขี่รถยนต์และรถกระบะ
2) ประชาชนทั่วไป
v ระยะเวลาเปิดรับสมัคร 2 เดือน (ตั้งแต่เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน)
v ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดดังนี้
- ผู้มีใบขับขี่รถยนต์ (อายุ 18 ปี ขึ้นไป)
- ถือใบขับขี่ส่วนบุคคล
- เป็นเจ้าของรถยนต์ส่วนบุคคลและมีอายุการใช้งาน 2-5 ปี
- ต้องมีข้อมูลประวัติถูกต้อง ชื่อ – นามสกุล ผู้ถือใบขับขี่ ทะเบียนรถเป็นบุคคลเดียวกัน
- ไม่มีประวัติพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎจราจร หรือข้อมูลบันทึกการกระทำผิดที่ร้ายแรง หรือละเมิดกฎจราจรต่าง ๆ จากสำนักงานตำรวจแห่งช่าติ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
- ไม่เกิดอุบัติเหตุ อันเป็นผลให้บุคคลอื่นสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ ทุพลภาพ (หลักฐานจาก บริษัท ประกันภัยที่ผู้สมัครนำมาแสดงก่อนและหลัง)
v ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ
- ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและยื่นเอกสารด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ www.dlt.go.th หรือ
www.toyota.co.th/heroontheroad ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 30 พฤศจิกายน 2557
- ประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการในเดือนธันวาคม 2557
- ผู้ผ่านคัดเลือกจะได้รับสติ๊กเกอร์อาสาสมัครทำดีบนท้องถนน “Hero on the Road”
- อาสาสมัครจะต้องไม่เป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเป็นระยะเวลาร่วมโครงการ 1 ปี (นับตั้ง แต่วันที่สมัคร)
- หลังจากตรวจสอบข้อมูลโดยอ้างอิงจากเอกสารการเคลมประกันภัยและมีบุคคลรับรอง (ตามแบบฟอร์ม) จึงจะถือว่าผ่านการเข้าเกณฑ์การเป็นคนดีบนท้องถนนหรือ Hero on the Road
v สิ่งที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับ
- สติ๊กเกอร์ “Hero on the Road” เพื่อเป็นการบ่งบอกถึงการเข้าร่วมกิจกรรม
- รับพ.ร.บ.รถยนต์ฟรี
- จะได้รับการเชิดชูเกียรติผ่านสื่อและเว็บไซต์ต่างๆ ของภาคีเครือข่าย
v คณะกรรมการผู้คัดเลือกมาจากตัวแทนของภาคีเครือข่ายดังต่อไปนี้
- กรมการขนส่งทางบก
- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- บริษัท ประกันภัย 9 แห่ง
- บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
* ผลการพิจารณาของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด
กิจกรรมที่ 3 : เคารพกฎ รักษาวินัยจราจร โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
v บังคับใช้กฎหมายด้านการจราจร พรบ. ขนส่ง อย่างถูกต้องในพื้นที่ 17 จังหวัดที่มีอุบัติเหตุสูงสุดและผิดกฎจราจร ได้แก่
- ภาคเหนือ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย
- ภาคใต้ ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.สงขลา
- ภาคกลาง ได้แก่ จ.สระบุรี จ.นครสวรรค์
- กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้แก่ กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.ปทุมธานี จ.นครปฐม
จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จ.อุบลราชธานี จ.อุดรธานี จ.นครราชสีมา
จ.ขอนแก่น
- ภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ชลบุรี
v โดยเน้น 4 พฤติกรรมเสี่ยง คือ
1. ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
2. เมาแล้วขับ
3. ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
4. คุยโทรศัพท์ขณะขับรถ
ทั้งนี้ ผู้กระทำความผิดจะได้รับโทษตามกฎหมายกำหนด
################################################