คอลัมน์ คุยกับดาว
เรื่อง – อนันต์ ธัญญ์รัตน์ และ วิวิศน์วรดร จันทรวงศ์ / ภาพ – อนันต์ ธัญญ์รัตน์
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงมากความสามารถสำหรับ “เก้า-จิรายุ ละอองมณี” หลังจากที่สลัดคราบนักแสดง หันมาจับไมค์ร้องเพลง เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับมาได้สักระยะแล้ว ล่าสุดปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ “รักเธอคนเดิม” ที่แต่งเองทั้งเนื้อร้องและทำนอง งานนี้หนุ่มเก้าจะรู้สึกยังไง จะแตกต่างกับเพลงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้หรือไม่ มาฟังกัน…
ครั้งนี้ได้มาร่วมงานกับทาง WE Records รู้สึกยังไงบ้าง?
เก้า: เป็นครั้งแรกที่ได้มาทำงานกับพี่ฟองเบียร์ครับ เริ่มแรกเพลงนี้มาจากการที่ผมได้มาเรียนแต่งเพลงกับพี่ฟองเบียร์ครับ ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ พี่เขาก็สอนมาประมาณหนึ่ง พอเรียนเสร็จพี่เขาก็ใจดีให้เราทำเพลงหนึ่ง อยู่ใน Love Pill 2 เป็นโปรเจคที่พี่ฟองเบียร์เขาทำมาตลอดครับ เป็นซิงเกิ้ลที่ 3 ในโปรเจค Love Pill 2 นี้ ชื่อเพลง รักเธอคนเดิม
อย่างนี้เรียกได้ว่าจับไมค์ เป็นนักร้องเต็มตัว แล้วหรือเปล่า?
เก้า: ก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมว่าเรื่องนั้นต้องให้คนอื่นเขาตัดสินใจเอาครับ ผมรู้สึกว่าผมเป็นแค่เด็กผู้ชายคนนึง เป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่อยากจะพูดอะไรผ่านเพลงสักเพลงหนึ่ง เพราะผมอาจจะไม่ได้เป็นคนเขียนเรียงความอะไรเก่งมากมายครับ ซึ่งมันก็น่าจะทำให้คนหลายๆ คนได้ฟังความคิดของผม ได้เห็นสิ่งที่ผมอยากที่จะถ่ายทอดออกมาก็แค่นั้นเองครับผม ผมก็ไม่ได้จำกัดตัวเองว่าเป็นนักแสดงหรืออะไรเลยครับ
มีความรู้สึกอย่างไรกับการเป็นนักร้องตอนนี้?
เก้า: มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีในระดับหนึ่ง เราไม่เคยคิดว่าเราจะได้มามีเพลง มีเสียงเราที่เปิดผ่านวิทยุ ผมก็โตมาในวิทยุ และภาพที่เราเคยดูในคลิปที่ศิลปินเขาไปเล่นบนเวทีแล้วเขาสามารถที่จะมีความสุขกับคนดูได้ แล้ววันนี้เราก็ได้ใกล้เคียงกับความจริงมันมาในระดับหนึ่ง ฟังแล้วมันก็รู้สึกดีครับ
เห็นตอนนี้มีซิงเกิ้ลใหม่ รักเธอคนเดิม มีที่มาที่ไปยังไง?
เก้า: เพลงนี้เป็นเพลงที่อยากที่จะให้คนฟังร้องได้ และก็เป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างที่จะเข้าถึงได้ทุกคน ผมก็เลยคิดไปถึงเรื่องที่ว่าอะไรที่คนทุกคนน่าจะมีความรู้สึกนี้ มันเริ่มมาจากความคิดอะไรเดิมๆ ทำไมเราต้องคิดถึงอะไรเดิมๆ เสมอ ชอบชีวิตเดิมๆ ชอบช่วงเวลาเดิมๆ ถึงแม้คำว่าเดิมมันจะฟังดูน่าเบื่อ แต่บางทีเราฟังแล้วเรารู้สึกอบอุ่น ผมว่าใครหลายคนน่าจะมีความรู้สึกใฝ่หาสิ่งที่เราเคยประทับใจ ช่วงเวลาหรืออาจจะเป็นใครสักคนนึง ที่จะอยู่ข้างเรา ก็เลยออกมาเป็นเพลงนี้ครับ
กดดันบ้างไหมกับการทำเพลงนี้?
เก้า: ทำให้มันดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ครับ แค่นั้นเอง จริงๆ มันควรจะกดดันกว่าก่อนหน้านี้นะ เพราะว่าก่อนหน้านี้เราก็ไม่ได้แต่งเอง และเราก็แค่มีหน้าที่ร้องเฉยๆ แต่ว่าเพลงนี้มันมีความหมายที่ผมอยากจะสื่อว่าเป้าหมายจริงๆ ก็คือการที่ทำให้เพลงมันไปได้ไกล และก็ให้เพลงเป็นที่จดจำ เวลาไปร้องที่ไหนมีคนร้องกับเราได้ อันนี้คือสิ่งที่ผมคาดหวัง เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเขาไม่เข้าใจหรือว่าเขาไม่ได้ชอบในสิ่งที่เราถ่ายทอดออกไป เราก็ไม่สามารถที่จะมีภาพที่จะร่วมร้องเพลงกับเขาได้ครับ ภาพที่เราฝันไว้มันอาจจะไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่ว่ามันก็ไม่ได้กดดันมาก เพราะว่าผมรู้สึกว่าแค่เขาชอบ ผมก็ดีใจแล้วครับ
มีส่วนร่วมกับเพลงนี้ยังไงบ้าง?
เก้า: แต่งเองทั้งเนื้อร้องและทำนองครับ
คิดว่าเพลงนี้ตรงกับคาแรคเตอร์ของเราไหม?
เก้า: ตรงไม่ตรงไม่รู้ แต่ผมก็แต่งเองครับ (หัวเราะ) ก็น่าจะพูดว่าตรง ตรงที่สุดตั้งแต่เคยออกมาก็ได้ครับ
กระแสตอบรับดีไหม?
เก้า: ค่อนข้างดีนะครับ ตอนนี้ก็เดือนนึงแล้ว ยอดวิวใน YouTube ก็โอเค เสียงตอบรับเขาก็ชมกันเยอะครับ
คาดหวังกับซิงเกิ้ลนี้มากน้อยแค่ไหน?
เก้า: ผมไม่ได้คาดหวังถึงขนาดว่าจะต้องเป็นอันดับ1 ของประเทศครับ ผมแค่รู้สึกว่าเพลงแรกได้ขนาดนี้ก็โอเคแล้ว เวลาไปร้องแล้วมีคนที่เขาร้องตามกับเราได้ แล้วเพลงนี้มันอาจจะให้กำลังใจ คนบางคนกำลังที่แบบว่าไม่รู้จะทำอย่างไง ชีวิตอาจจะแบบว่าไม่ค่อยดีอยู่ อยากกลับไปหาอะไรเดิมๆ คืนสู่เวลาเดิมๆ ผมก็คิดว่าเพลงนี้มันก็เหมือนเป็นเพื่อนเล่นได้ครับ
แฟนๆ ว่ายังไงกันบ้างกับเพลงของเรา
เก้า: คิดว่าชอบนะครับ หลายคนเขาก็มา มาคอมเม้นท์ใน Instagram ว่า มันตรงกับชีวิตเขา บางคนคิดถึงตอนพ่อเสีย (หัวเราะ) เขาพูดแบบนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ
เห็นมีซิงเกิ้ลออกมาหลายเพลงแล้ว คิดจะเอาดีด้านการร้องเพลงไหม?
เก้า: ถ้ามันเป็นไปในทางที่ดี หลายคนให้โอกาสเรา ชอบเพลงของเรา เพราะแค่เขาฟังก็เหมือนว่าให้โอกาสแล้วครับ อีกอย่างมันก็เป็นงานที่เรารักด้วยครับ ก็เหมือนสร้างงานศิลปะอันนึงครับ ถ้ามันมีกระแสที่ดี ผมว่าโอกาสที่จะทำมันต่อๆ ไป ก็ต้องมีแน่นอนครับ
ระหว่างงานด้านการแสดงและงานเพลง สนใจด้านไหนมากกว่ากัน?
เก้า: ผมทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันครับ เราชอบทั้งสองอย่างเท่าๆ กัน อาจจะไม่ได้ทำสองอย่างในเวลาเดียวกันเป๊ะๆ อาจจะหาช่วงแบ่งเวลา แต่มันเป็นงานที่ผมรักเท่าๆ กันทั้งคู่ครับ ผมว่ามันค่อนข้างเติมเต็มซึ่งกันและกัน สมมติเวลาเราเล่นดนตรี ดนตรีมันก็กล่อมเกลาจิตใจ ฟังเพลงเยอะๆ มันก็ช่วยให้การแสดงดีขึ้นนะผมว่า
ในอนาคต มีโอกาสที่จะทำเพลงเต็มอัลบั้มไหม?
เก้า: ผมว่ามันก็น่าสนใจ เราอยากมีสักอัลบั้มอยู่แล้วหล่ะในชีวิต แต่ว่าในยุคนี้มันก็คงเป็นเรื่องที่คนไม่ค่อยสนใจแล้วมั้ง ว่านักร้องคนนี้จะมีอัลบั้มหรือเปล่า ซึ่งก็ดีเหมือนกัน ผมว่าการที่เราทำเพลงให้มันออกมาทีละเพลง มันก็ทำให้ไม่เสียดาย สมมติว่าเราทำอัลบั้มสักอัลบั้มนึง อาจจะได้รับการโปรโมทอยู่สักสามเพลง เพลงที่เหลืออาจจะเป็นเพลงที่ดี แต่ก็ไม่ดีเท่าเพลงที่โดนโปรโมท แต่ว่าสุดท้ายก็ต้องเหมือนทุบทิ้งไป มันออกมาก็จริงแต่ว่าคนไม่รู้จักอยู่ดี เพราะฉะนั้นผมว่าทำทีละเพลงให้เขาได้ฟังทุกเพลงเราอย่างเข้าถึงจริงๆ โปรโมทมันทุกเพลง ถึงเวลามันอาจจะนานหน่อยสุดท้ายแล้วค่อยมารวมอัลบั้ม มันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ
ทุกวันนี้มีศิลปินออกมาเยอะ กลัวคนจะมองไหมว่าเราขายหน้าตา
เก้า: ผมว่าเวลามันจะเป็นเรื่องพิสูจน์ที่สุด เพราะว่าผมเองบอกไว้เลยว่าผมเป็นคนไม่มีพรสวรรค์ แต่ผมทำเพราะว่ามันเป็นงานที่ผมรัก มันรู้สึกว่าผมได้ทำอะไรที่ผมมีความสุข แล้วก็หลายๆ คนก็มีความสุขไปกับสิ่งนั้น ซึ่งผมก็ไม่อยากมานั่งคิดถึงคนที่เขามองเราในแง่ร้าย ในเมื่อมีคนที่เขาฟังเพลง เขาก็ฟังด้วยหู ไม่ได้ฟังด้วยตาอยู่แล้ว ซึ่งใครจะฟังด้วยตามันก็เป็นเรื่องของเขา แต่ว่าในเมื่อมันยังมีคนฟังเพลงของเรารู้เรื่อง และเขาก็รู้สึกไปกับมัน ผมว่าผมก็ยินดีทำต่อไป ไม่มีใครทำงานออกมาแล้วไม่โดนด่าเลย ก็โชคดีแล้วที่แบบคนชมมากกว่าคนด่า เรื่องหน้าตานี่ไม่ต้องห่วง เพราะว่าสมมติผ่านไปอีก 10 ปี ผมแก่กว่านี้ ผมไม่หล่อ ผมหน้าตาทุเรศ วันนึงผมอาจจะโดนสิบล้อทับ (หัวเราะ) แต่ถ้าเกิดว่าผมยังร้องเพลงได้ คุณจะฟังผมไหมล่ะ? มันก็คงต้องรอให้ถึงวันนั้น มันถึงจะรู้ว่าของจริงหรือของปลอมครับ
คิดยังไงกับคนที่ฟังเพลงเพราะรูปลักษณ์ภายนอก
เก้า: มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะว่าเราทำเพลงออกมามันก็เป็นสาธารณะ ถ้าเกิดว่าเขาฟังเพลงของเราเพราะหน้าตาก็ไม่เป็นไร ถ้าให้ผมแนะนำนะ ก็ให้ปิดเพลงผมและก็ดูแต่ MV ดูสิว่าคุณมีความสุขหรือเปล่า ถ้าคุณรู้สึกว่าฟังเพลงไปด้วยแล้วมันมีความสุขมากกว่า ก็หมายความว่าคุณก็ฟังเพลงด้วยแหละ ถูกไหมครับ ผมก็ไม่สนใจอยู่แล้วครับ
สำหรับเก้าเสน่ห์ของการเล่นดนตรีอยู่ตรงไหน
เก้า: ผมว่ามันก็นำพาผู้คนได้ ในหลายๆ ครั้งที่เราเห็นในเวทีคอนเสิร์ต เพลงบางเพลงถูกเปิดขึ้นมามันทำให้คนหลายคนหันหลังมามอง อาจจะมองคนข้างๆ ว่าสวยขึ้นมา เพลงบางเพลงเปิดแล้วทำให้เรากล้าที่จะทำไรสักอย่าง เช่น เปิดขึ้นมาปุ๊บคนก็ตีกันปั๊บ มันเหมือนมีเวทย์มนตร์ วันนึงถ้าเราทำเพลงที่มันทำให้คนพาเขาเข้าไปในที่ที่มันมีความสุขได้ ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมอยู่กับดนตรี ยังทำเพลงได้ครับ
อย่างนี้จะเรียกว่าเกิดมาเพื่อเป็นนักร้องนักดนตรีเลยหรือเปล่า
เก้า: ไม่ครับ ผมเองก็พึ่งเริ่มทำเพลง อีกอย่างเพลงนี้ก็เป็นเพลงแรกด้วยซ้ำ ก็เหมือนเด็กเกิดใหม่ ผมก็อายุ 18 ปี แล้วผมก็พึ่งมาจริงจังกับมันก็ตอนนี้เองครับ นั่นอาจจะไม่ได้หมายความว่าผมเกิดมาเพื่อเป็นนักดนตรี เกิดมาเพื่อเป็นนักร้อง หรืออะไรก็ตาม ผมก็ไม่ได้เสียงดีอะไรขนาดนั้น แต่ผมรู้สึกว่า ถ้าเกิดว่าเราอยากที่จะทำจริงๆ เวลาที่อยากจะพัฒนามันมี และถ้าเรารักที่จะทำ เราก็จะอดทนกับมัน คนที่โดนด่าก็มีตั้งเยอะแยะ อย่างเช่นพี่เป้ เขาก็มีคนว่า แต่เขาก็ยังทำเพราะเขารัก ผมก็เป็นคนชอบเพลงของพี่เป้ ตอนนี้เขาก็พัฒนาให้เห็นว่า เขาร้องเพลงดีขึ้น ผมว่าจริงๆ อคติเป็นสิ่งที่คนไม่กล้าเอาหน้า ถ้าเราอคติกับคนอื่นไม่ว่า แต่อย่าคติกับตนเอง จะเป็นการปิดกั้นความสำเร็จตนเองครับ
อยากให้ฝากอะไรถึงผู้อ่าน
เก้า: ผมก็อยากให้ผู้อ่านทุกคนมีความสุขกับชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในด้านไหนก็ตาม ไม่ว่าจะทำงานเหนื่อยยากแค่ไหน แต่ผมรู้สึกว่าที่สุดชีวิตคนเรามันก็ต้องการความสุข อย่าพยายามหาแต่เงิน แต่ว่าไม่มีความสุขเลย ผมว่าให้เวลาพักผ่อนกับชีวิตตนเองบ้าง แล้วก็มองโลกในแง่ดี บางทีแบบผมว่าชีวิตคนเรามัวแต่มองข้างตัวไม่ค่อยมองตัวเอง ไม่ค่อยสังเกตเห็นว่าตัวเองต้องการอะไรหรือว่ามีความสุขกับอะไรครับ อยากให้ทำตามความฝันกันบ้างก็ดี มีความสุขกันบ้างก็ดีครับ
สุดท้ายนี้ฝากผลงานกันหน่อย
เก้า: อยากฝากเพลง รักเธอคนเดิม ครับ เป็นซิงเกิ้ลล่าสุด ที่ผมได้แต่งเองทั้งเนื้อร้องและทำนองด้วย ดาวน์โหลดกด *1230011 ครับ หรือช่องทางอื่นก็ได้ทุกช่องทางครับ และก็มีภาพยนตร์เรื่อง ตุ๊กแกรักแป้งมาก นะครับ เป็นเรื่องล่าสุดที่จะเข้าฉายวันที่ 28 สิงหาคมนี้ ครับ แล้วก็หลังจากนี้ก็จะมีอีกเรื่องหนึ่งชื่อ โจหัวแตงโม ก็รอติดตามว่าวันที่เท่าใหร่ครับ
ติดตามชมเรื่องราวอัพเดทของศิลปินได้ที่ คอลัมน์: คุยกับดาว น้องๆ คนไหนที่อยากอัพเดทเรื่องราวของศิลปินดาราสุดที่รักของคุณแบบนี้ ส่งมาได้ที่ startalk@prsociety.net หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.prsociety.net และ www.facebook.com/PRSocietyNews