แถลงข่าวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา งานนี้ “เอ-ไทม์ โชว์บิส” มอบความสนุก ส่งท้ายปี ที่ได้หนุ่ม “มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์” พร้อมล็อคคิวเหล่าบรรดาเพื่อนซี้ ร่อนการ์ดเชิญคนรักมอสมาร่วมปาร์ตี้คอนเสิร์ต ที่ยิ่งใหญ่และสนุกที่สุดในรอบ 25 ปี สำหรับคอนเสิร์ตปาร์ตี้สุดกวน “Patiparn Party 25ปี MR. MOS” งานนี้เจ้าภาพขนแก๊งค์ ซี๊ย่ำปึ๊กที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่างคู่จิ้นตลอดกาล “อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์”, พี่ชายที่คิดถึง “กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี” และ “แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง”, น้องสาวตัวแสบ “อมิตา ทาทา ยัง” และเพื่อนสุดซี้ “เต๋า-สมชาย เข็มกลัด” ที่ตบเท้ามาร่วมงาน แถลงข่าวโดยพร้อมเพรียงกัน ณ ลอบบี้ อาคาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส

เริ่มเรียกน้ำย่อยงานปาร์ตี้ครั้งนี้ หนุ่มมอสจัดโชว์พิเศษให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ขยับแข้งขยับขากันหน่อยในเพลง                 “เชื่อเถอะครับ” และ “ด้วยรักและปลาทู”  ที่ยกทีมแดนซ์เซอร์มาเต้นยับรอบลอบบี้ลืมเหนื่อยกันเลยทีเดียว แถมยังได้คู่จิ้นตลอดกาลอย่าง ดีเจ อ้อม-สุนิสา มาเป็นพิธีกรในงานครั้งนี้ให้ด้วย แอบรื้อฟื้นความหลังนิดหน่อยหลังจบโชว์ที่สองคนยังมีซีนขำๆให้เหล่าบรรดาสาวก อ้อม-มอส ได้จิ้นกันบนเวทีก่อนที่จะเชิญ  พี่ฉอด-สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หัวเรือใหญ่แห่งบ้าน เอ-ไทม์ โชว์บิส ขึ้นมาพูดคุยถึงที่มาที่ไปของปาร์ตี้คอนเสิร์ตครั้งนี้  “หลายคนก็คงจะเห็นแล้วนะคะ ว่าตลอดระยะเวลาในวงการบันเทิงของมอส ได้ร่วมงานกับหลายๆคน มีเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่สนิทสนมกันมากมาย ดังนั้นครบรอบ 25 ปีของเค้าทั้งที พวกเรา เอ-ไทม์ โชว์บิส ก็เห็นตรงกันกับมอสว่า อยากจะรวมคนสำคัญของมอสเหล่านั้นมาร่วมฉลองไปด้วยกัน พร้อมๆกับแฟนๆ ของมอส ปฏิภาณ ที่จะกลับมารวมตัว ร้อง เต้น ไปด้วยกันกับมอสในคอนเสิร์ตนี้ เลยเกิดเป็นไอเดีย ปาร์ตี้คอนเสิร์ตครั้งนี้ขึ้นมา”

ถึงคราวถามความรู้สึกเจ้าของคอนเสิร์ตครั้งนี้บ้าง มอส จะว่ายังไงที่ เอ-ไทม์ โชวบิส จัดให้ขนเหล่าบรรดาเพื่อนซี้มารวมกับบนเวทีได้ “นี่ขนาดคอนเสิร์ตยังไม่เริ่มเรายังสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและสนุกสนานขนาดนี้ บนเวทีผมไม่อยากจะคิด (หัวเราะ)              ถ้าพูดถึง อ้อม มันคือความผูกพัน ของความเป็นเพื่อน ไม่ใช่แค่ความเป็นเพื่อนของมอสกับอ้อมครับ แต่มันคือความเป็นเพื่อนของพวกเราและแฟนๆด้วยครับ ที่ยังรักและติดตามผลงานกันมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วน เต๋า ผมกับเต๋ารู้จักกันมานาน เกือบจะพอๆกับที่รู้จักอ้อม เราเข้าวงการมาไล่เลี่ยกัน เล่นหนังเล่นละครมาพร้อมๆกัน ตอนออกเทปก็ระยะเวลาใกล้ๆกัน คบกันมาจนวันนี้มีลูกกันไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่เคยได้ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตด้วยกันเลยครับ มีความคิดอยากจะชวนเต๋ามาขึ้นคอนเสิร์ตด้วยกันมานานมากแล้วครับ    พอรู้ว่ามีคอนเสิร์ต ผมก็ยกหูโทรไปชวนคุณเต๋าเลยครับ  พอชวนปุ๊ป คุณเต๋าก็ตอบตกลงทันที ขาดไม่ได้สำหรับพี่ชายของผมทั้ง     2 คน พี่กบและพี่แท่ง สามหนุ่มสามมุมเป็นซิทคอมเรื่องแรกในชีวิตของผม คอนเสิร์ตครั้งแรกในชีวิตของผม คือสามหนุ่มสามไมค์ ดังนั้นสำหรับผมก็คงไม่ต้องพูดอะไรมากแล้วล่ะครับ การได้เป็น   หนึ่งในสามหนุ่มสามมุมเป็นโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของมอส   แต่การได้รู้จักกับพี่กบและพี่แท่งคือโอกาสที่สำคัญยิ่งกว่าครับ รู้สึกขอบคุณพี่ๆทั้งสองคนมากครับ ที่มาร่วมเป็นแขกรับเชิญให้มอสในวันนี้ คนสุดท้านน้องสาวตัวแสบ ทาทา จริงๆแล้วผมกับทาทา ร่วมงานกันมาเยอะมาก แสดงทั้งภาพยนตร์ด้วยกัน ก็คือ จักรยานสีแดงเมื่อสักครู่ แล้วก็ยังมีอัลบั้ม มอส-ทาทา ด้วยกันอีก ทำงานมาด้วยกัน โตมาด้วยกันเลยครับ เพราะฉะนั้นคอนเสิร์ตนี้ยังไงเราสองคนก็จะควงแขนกันเต้นให้ลืมอายุไปเลย” แถมงานนี้มิตรภาพไม่มีวันจางสำหรับ 2 หนุ่ม มอส-เต๋า ที่ทำให้ผู้ที่มาร่วมงานอินตามไปด้วยเพราะนี่คือโอกาสแรกที่ทั้งสองขึ้นเวทีเดียวกันครั้งแรกในรอบ 25 ปี พอพูดถึงเหตุผลที่ทำให้ทั้ง 2 คนไม่มีโอกาสร่วมงานบนเวทีเดียวกัน ก็ทำให้หนุ่มมอสถึงกับกลั้นน้ำตาของลูกผู้ชายไว้ไม่ไหว เรียกได้ว่านี่คือน้ำตาแห่งมิตรภาพเพื่อนแท้จริงๆ ก่อนทิ้งท้ายไว้ว่างานนี้น้องโสนสุดที่รักก็ขอมาแจมบนเวทีด้วย แต่จะเป็นโชว์อะไรพ่อมอสต้องขออุ๊บไว้ก่อน รอไปลุ้นพร้อมๆกัน ในคอนเสิร์ตนะจ๊ะ แถมทิ้งท้ายความสนุกของงานแถลงข่าวครั้งนี้ไปด้วยเพลง “ไม่รักก็บ้า” ที่แขกรับเชิญทุกคนก็ร่วมกันทั้งร้อง ทั้งเต้นอย่างอบอุ่น เป็นภาพที่น่าประทับใจของงานนี้เลยก็ว่าได้

..สาวกมอสเตรียมตัวให้พร้อม เพราะปาร์ตี้ครั้งนี้นายมอสจัดเต็ม ตั้งใจชวนแฟนๆทั้งร้องพลงฮิต และโชว์สเต็บฝุ่นตลบ    เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับการรอคอย แถมมากันครบทีมขนาดนี้พูดได้คำเดียว มันส์เวอร์ๆ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับปาร์ตี้สุดกวนครั้งนี้ได้ใน วันเสาร์ที่ 29 และ วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2557 ณ รอยัล พารากอน ฮอล์ล สยามพารากอน จำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา บัตรราคา 3,000 / 2,500 / 2,000 / 1,500 และ 1,200 บาท โดยรายได้ส่วนหนึ่ง หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำไปมอบให้กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมป์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ