บรรยากาศคึกคักตลอดสองริมฝังแม่น้ำเจ้าพระยามาตลอดทั้ง 6 วันจนถึงวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันลอยกระทง ที่ถือเป็นไฮไลท์สุดยอดของงาน “ River Festival 2014 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม” เทศกาลร่วมสมัยและมหกรรมลอยกระทงบนโค้งน้ำเจ้าพระยาที่ยาวที่สุดที่จัดขึ้นในบริเวณสถานที่สำคัญริมโค้งน้ำเจ้าพระยา ภายใต้แนวคิด 6 ท่าน้ำ 6 อารมณ์ ประกอบด้วย วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดอรุณราชวราราม วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ยอดพิมานริเวอร์วอล์ค และเอเชียทีค ที่ถูกเนรมิตให้เป็นฉากในการเล่าเรื่องความเป็นมา วิถีชีวิตของชนชาติไทย ถ่ายทอดให้เห็นถึงศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ ที่จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือครั้งสำคัญของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีแนวคิดสอดคล้องกันในเรื่องของการอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทย โดยมี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เป็นแม่งานหลัก
ซึ่ง คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เปิดเผยว่า “จากแนวคิดในการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยให้โดดเด่น โดยเฉพาะในเรื่องของศิลปวัฒนธรรม และประเพณี ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้เกิดความน่าสนใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงเป็นที่มาของการผสานมือร่วมกันระหว่าง บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมไปถึงหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ ในการจัดงาน River Festival 2014 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ต้องการชูจุดเด่นในวิถีความเป็นไทยที่หลากหลาย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ที่จะสร้างและกระจายรายได้ไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับแนวคิดของกระทรวงวัฒนธรรมที่มองว่า เรื่องของวัฒนธรรมไม่ใช่แค่การอนุรักษ์เพียงอย่างเดียว แต่สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมากมาย” โดยมี เป้าหมายหลักสำคัญประการหนึ่งของการจัดงาน “River Festival 2014 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม” คือการปักหมุดกิจกรรมนี้ให้กลายเป็นหนึ่งในงานท่องเที่ยวประจำปีของประเทศไทย”
สำหรับงาน River Festival 2014 สายน้ำแห่งวัฒนธรรม ในแต่ละพื้นจะมีกิจกรรมและไฮไลท์ของงานแตกต่างกันออกไปเริ่มต้นที่เอเชียทีค ที่เป็นศูนย์รวมมหกรรมความบันเทิงหลากหลายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกเพศวัยให้ตบเท้าเข้าชมงานคับคั่งแบบไม่ขาดสายกับกิจกรรมบนเวทีหลักไม่ว่าจะเป็น การแสดงหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ในตอนต่างๆ อาทิ ทศกัณฐ์เกี้ยวนางสีดา นางลอย การแสดงละครเวที “มหานทีการาค้าสู่มหาอำนาจสยามการแสดงคนเชิดคน การแสดงวงตรีต่างๆ ส่วนพื้นที่โดยรอบบริเวณงานนอกจากจะมีร้านค้าของดีของอร่อยจากที่ต่างๆ มารวบรวมไว้ที่นี่ และยังมีศาลาการแสดงต่างๆ ที่สร้างสีสันความสนุกสนานแตกต่างกันออกไป อย่างศาลาการละเล่น ก็จะมีการแสดงต่างๆ ที่หมุนเวียนกันออกมาโชว์การละเล่นแบบไทยๆ ศาลางานจักรสานสาธิตการทำปลาตะเพียน ศาลางานบุญที่สาธิตการทำขนมโบราณต่างๆ ศาลางานงานแกะสลัก ฯลฯ และยังรวมถึงเวทีมวยน้ำที่กลายเป็นศูนย์กลางในการเรียกบรรดานักท่องเที่ยวให้หลังไหลกันเข้ามาดูได้อย่างไม่ขาดสายเพราะมีคู่ชกหลายรุ่นตั้งแต่รุ่นจิ๋วยันรุ่นใหญ่ ถัดออกไปที่ยังเป็นบรรยากาศแบบงานวัด และสารพัดการละเล่นต่างๆ ให้ทุกคนได้สนุกสนานกันตามใจชอบ และสุดยอดไฮไลท์ของที่นี่ในคืนลอยกระทงคือการแสดงพลุ แสง สี เสียง สุดอลังการ
ส่วนพื้นที่การจัดงานวัดต่างๆ อย่างวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือวัดโพธิ์ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะต่อเรือมาจากทางท่าเตียนและแวะเที่ยวงานตรงสวนนาคราภิรมย์กันก่อนที่จะทยอยกันเข้ามาที่วัดซึ่งส่วนมากนักท่องเที่ยวทยอยเข้างานกันตั้งแต่ช่วงบ่าย ไฮไลท์การแสดงต่างๆ ของวัดโพธิ์จะเป็นการแสดงฤาษีดัดตน โขน เพลงทรงเครื่อง ระบำวิชนี รวมไปถึงการบูชารอยพระพุทธบาทเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินชมความงามจุดต่างๆ ของวัดโพธิ์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่ง
วัดอรุณราชวราราม นักท่องเที่ยวส่วนมากจะให้ความสนใจกับบ้านช่างหล่อที่จะมีการหล่อพระพุทธรูปทุกวันโดยให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าไปมีส่วนร่วมได้ด้วย อีกด้านหนึ่งของวัดอรุณฯ จะมีการฉายหนังกลางแปลงท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำยามค่ำคืนที่เรียกผู้คนให้มาดูอย่างหนาแน่นไม่แพ้กัน ส่วนทางด้านหน้าของพระปรางค์วัดอรุณฯ จะเป็นเวทีการแสดงต่างๆ อาทิ เพลงเรือ เพลงอีกแซว รำโคมประทีบ ฯลฯ ซึ่งจุดนี้จะอยู่ติดกันกับพระวิหารน้อยที่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปกราบไหว้สักการะ และลอดแท่นพระเจ้าตากเพื่อเป็นการสะเดาะห์เคราะห์และขอพร
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันของงานด้วยชุมชนรอบวัดส่วนมากเป็นเชื้อสายชาวจีนจึงทำให้การแสดงหลักของที่นี่จะเป็นงิ้วชุดต่างๆ อาทิการเบิกโรงชุดใหญ่ โชว์เปลี่ยนหน้าเสฉวน การแสดงองค์หญิงสะท้านบัลลังก์ ฯลฯ ที่สร้างความสนใจให้กับผู้คนเป็นอย่างมาก และไม่เพียงแต่การแสดงเท่านั้นที่นี่ยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมักมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อซำปอกงองค์ใหญ่ ก่อนที่จะออกมาตีระฆังใบใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยและสร้างความเป็นมงคลกับชีวิต
วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวแห่กันมาคับคั่งจนล้นออกมาท่าเรือริมน้ำ ด้วยเพราะที่นี่นอกจากจะมีเจดีย์ที่ได้ขึ้นเป็นยูเนสโกมรดกทางวัฒนธรรมให้ผู้คนได้กราบไหว้ขอพรลอดองค์เจดีย์ที่เป็นที่ศรัทธาของบรรดาชาวพุทธแล้วภายในวัดยังมีการจำลองสระน้ำขนาดใหญ่ที่ให้นักท่องเที่ยวได้ลอยประทีปเพื่อสะเดาะเคราะห์และขอพรอีกด้วย ในขณะที่ตลอดทางตั้งแต่ริมท่าน้ำเข้ามาถึงในวัดยังเต็มไปด้วยร้านค้าร้านอร่อยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของดีชุมชนให้ได้เลือกซื้อเลือกชิมกันแทบไม่ถูก
ส่วนทางด้านยอดพิมานริเวอร์ วอร์ค ก็เป็นศูนย์กลางการต่อเรือไปท่าต่างๆ รวมทั้งศูนย์กลางตลาดดอกไม้ และทำกะทง โดยเฉพาะในค่ำคืนวันลอยกระทงยิ่งแน่นไปด้วยผู้คนที่มาต่อเรือเที่ยวชมงานจุดต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกับ สถาปัตย์ความงามของตัวอาคารที่งดงาม และยังมีนักศึกษาจากเพาะช่างที่มาวาดรูปจนกลายเป็น Street Art เป็นสีสันตลอดทางเดินและยังเป็นจุดขายเสื้อให้กับนักเที่ยวที่อยากจะได้ไปเก็บไว้เป็นของที่ระลึกอีกด้วย
เรียกได้ว่างานนี้เป็นงานที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้หลั่งไหลกันเข้ามาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ตลอดระยะเวลาการจัดงาน 6 วัน 6 คืน โดยเฉพาะในวันสุดท้ายของค่ำคืนวันลอยกระทงที่สองฝั่งน้ำเจ้าพระยาและทุกท่าเรือแน่นขนัดไปด้วยบรรดาผู้คนที่แห่กันมาเที่ยวงานจนแน่นขนัดไปแทบทุกตารางนิ้ว งานนี้เรียกว่าเปิดตัวได้อย่างอลังการและปิดฉากได้อย่างสวยงามเลยทีเดียวกับเทศกาล “สายน้ำแห่งวัฒนธรรม” (River Festival 2014) ที่จะถูกจารึกไว้ในปฏิทินกิจกรรมการท่องเที่ยวประจำปีของประเทศเทศไทยต่อไป ”