“ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้”
ภาพยนตร์โดย
เมษ ธราธร
(ผู้กำกับ ATM เออรัก..เออเร่อ)
นำแสดงโดย
ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์
ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร
ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ
เรื่องย่อ
ภาพยนตร์ “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้”
“เพลง” (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) ติวเตอร์ภาษาอังกฤษสาว ต้องพบกับเรื่องราวอันสุดแสนจะน่าปวดหัว เมื่อลูกศิษย์ชาวต่างชาติของเธอตัดสินใจทิ้ง “ยิม” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) แฟนหนุ่มคนไทยไปอเมริกา แต่ด้วยความที่ยิมฟังภาษาอังกฤษไม่ออก เธอจึงอัดคลิปเสียงบอกเลิกใส่ธัมป์ไดรว์แล้วขอร้องให้เพลงช่วยไปเปิดแปลให้ยิมฟัง
เมื่อยิมรู้ว่าถูกบอกเลิกก็โมโหมาก เขาพาลโวยวายใส่เพลงว่าเป็นคนสอนภาษาอังกฤษให้แฟนเขาจนเป็นต้นเหตุให้เธอทิ้งเขาไป ต่อมาไม่นาน ยิมตัดสินใจไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษกับเพลงโดยหวังจะตามไปง้อแฟนที่อเมริกา เพลงไม่อยากรับสอนแต่สุดท้ายก็ต้องจำใจยอม
ทั้งคู่ใช้ร้านกาแฟเป็นที่เรียนหนังสือ แต่ด้วยความที่ยิมเป็นเพียงช่างเทคนิกในโรงงาน ระดับความรู้ภาษาอังกฤษของยิมจึงต่ำมาก เพลงจึงต้องพยายามงัดสารพัดวิธีออกมาสอนยิมไม่ว่าจะเป็นการฝึกออกเสียง การใช้เหตุการณ์สมมุติหรือแม้แต่การให้อ่านหนังสือนิทาน การสอนเป็นไปอย่างยากลำบาก กระนั้นยิมก็ยังคงพยายามฝึกตัวเองอย่างไม่ท้อถอยจนเพลงเริ่มเห็นความตั้งใจในตัวเขา
ในขณะเดียวกัน เพลงก็ไปตกหลุมรักกับ “คุณพฤกษ์” (ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ) ลูกศิษย์ คอร์สภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ หนุ่มหล่อ ชาติตระกูลดีผู้ซึ่งเป็นดั่งชายในฝันของผู้หญิงทุกคน ด้วยความเป็นคนโรแมนติกคุณพฤกษ์มักจะขยันหาอะไรมาทำเซอร์ไพรส์เพลงอยู่บ่อยๆ จนบางทีเพลงก็แอบขำในความพยายามของคุณพฤกษ์ จนในที่สุดทั้งสองก็ตกลงเป็นแฟนกัน
ทว่าระหว่างที่การเรียนการสอนของเพลงและยิมค่อยๆผ่านไปในแต่ละวัน ทั้งคู่ต่างก็ค่อยๆได้เรียนรู้นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน จนทำให้คนซึ่งเคยดูเหมือนเกลียดกันในตอนแรก กลับค่อยๆพอกพูนความรู้สึกดีๆต่อกันขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ทันรู้ตัว
แล้วความสัมพันธ์ระหว่างติวเตอร์และลูกศิษย์คู่นี้จะลงเอยเช่นไร?
“ ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” …จุดกำเนิดเกิดที่ร้านกาแฟ
“เมื่อติวเตอร์สาวสอนภาษาอังกฤษให้หนุ่มช่างฟิต สุดแสนจะอ่อนภาษาที่ร้านกาแฟ กลับกลายเป็นไอเดียบรรเจิด จนเกิดเป็นหนังโรแมนติก คอมเมอดี้ ให้หนุ่มสาวสุดจี๊ด ได้กรี๊ดกันอีกครั้ง”
“เก้ง-จิระ มะลิกุล” โปรดิวเซอร์ ภาพยนตร์โรแมนติก คอมเม ดี้ “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” ค่าย จีทีเอช เปิดใจได้ไอเดียเด็ดของหนังเรื่องนี้ที่ร้านกาแฟ เมื่อโต๊ะข้างๆ คือติวเตอร์สาวสอนภาษาอังกฤษให้ช่างฟิตหนุ่มคนหนึ่งซึ่งอ่อนภาษาอังกฤษเอามากๆ เป็นแรงบันดาลใจให้เกิดหนัง โรแมนติก คอมเมดี้ขึ้นมา
“ผมได้ไอเดียหนังเรื่องนี้มาจากวันหนึ่ง ขณะที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสือในร้านกาแฟ แล้วมีติวเตอร์สาวโต๊ะข้างๆ กำลังถามตอบภาษาอังกฤษกับหนุ่มแต่งตัวแบบช่างฟิต ผมเกิดความรู้สึกสองอย่างขึ้นพร้อมๆกัน อย่างแรกคือประโยคต่างๆที่เขาคุยกันนั้นมันโรแมนติกมาก เพราะว่ามันล้วนแต่เป็นคำถามเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น เช่น อายุเท่าไร วันหยุดนี้จะทำอะไร นี่ถ้าผมไม่รู้ว่าเขาสอนภาษาอังกฤษกัน ผมต้องคิดว่าเขาจีบกันอยู่แน่ๆ อย่างที่สองคือ ผมรู้สึกว่าประโยคภาษาอังกฤษปนไทยที่ไอ้หนุ่มช่างฟิตกำลังพยายามด้นอยู่นี่ มันมุขตลกระดับตำนานคลาสสิคเลยนะครับ แล้วทันใดนั้นผมก็ขนลุกขึ้นมา เพราะสองอย่างที่ผมรู้สึกนี่มันรวมเรียกว่าโรแมนติกคอมเมอดี้นี่หว่า! ผมรีบโทรหาคุณวรรณฤดี โปรดิวเซอร์อีกคนของหนังเรื่องนี้แล้วเล่าไอเดียให้ฟัง ซึ่งผมกับคุณวรรณฤดีใช้เวลาในการพล็อตเรื่องกันอยู่นาน จนได้เรื่องที่คิดว่าลงตัวที่สุดจึงได้ส่งต่อให้กับเมษ ธราธร ผู้กำกับร้อยล้านจาก เอทีเอ็ม เออรัก..เออเร่อ หลังจากเมษทำบทเรื่องนี้เสร็จ คุณวิสูตรได้อ่านแล้วกรี๊ดเลยครับ แกบอกว่าไอเดียคนไทยวิ่งหนีฝรั่งนี่ตลกมาก เป็นความรู้สึกที่คนไทยอินจริงๆ พวกเราดูหนังที่ตัดเสร็จแล้วชอบมากครับ ซันนี่เป็นช่างเทคนิคเถื่อนๆ ประเภทกลัวเสียฟอร์มแต่กลับอ่อนภาษาอังกฤษ ส่วนน้องไอซ์ ปรีชญา เป็นติวเตอร์สาวที่พูดภาษาอังกฤษได้ไพเราะมากๆครับ”
วรรณฤดี โปรดิวเซอร์สาว เผยว่า “วันที่พี่เก้งโทรหาวันบอกว่าเราได้ไอเดียหนังเรื่องนึงแล้วเป็นติวเตอร์สาวสอนภาษาอังกฤษให้กับช่างฟิต วันฟังแล้วก็ชอบเลยเพราะไอเดียมันมีเสน่ห์มาก จากนั้นเราก็ลองพล็อตขึ้นมาหลายทางเลยแต่มันก็ไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ จนกระทั่งเรามาได้ไอเดียรับจ้างบอกเลิก ให้ตัวละคร “เพลง” (ไอซ์-ปรีชญา) เป็นติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่ต้องมารับจ้างลูกศิษย์ชาวต่างชาติให้มาบอกเลิกแฟนคนไทยซึ่งก็คือ ยิม (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) นายช่างโรงงานที่ทั้งห่ามและเถื่อนแต่ภาษาอังกฤษอ่อนแอเอามากๆ พอเอา 2 ไอเดียนี้มารวมกันแล้ว มันเหมือนได้ยินเสียงดังคลิกในหัวเลยนะ รู้เลยว่าเราได้หนังโรแมนติก คอมเมอดี้แบบที่เราอยากดูขึ้นมาเรื่องหนึ่งแล้ว โดยผู้กำกับที่เราคิดถึงคือ เมษ ธราธร ผู้กำกับ เอทีเอ็ม เออรัก..เออเร่อ ซึ่งเรื่องนี้เมษรับหน้าที่ทั้งร่วมเขียนบทและกำกับการแสดง ส่วนบทติวเตอร์ภาษาอังกฤษสาวเราเขียนขึ้นมาเพื่อไอซ์โดยเฉพาะ เพราะรู้ว่าไอซ์มีศักยภาพพูดภาษาอังกฤษได้ดีแถมเสียงยังนุ่มนวลชวนฟัง ส่วนซันนี่เรื่องนี้เขาอินกับสคริปต์มาก ตั้งแต่ได้อ่านบทก็ถามเมษทุกวันว่าเมื่อไหร่จะเปิดกล้องซักทีอยากเล่นแล้ว เรียกว่าเห่อที่สุดในกอง ซึ่งพอทั้งไอซ์กับซันนี่ได้มาเล่นด้วยกันในรสชาติการกำกับฝีมือเมษ เราพบว่าทั้งคู่มีเคมีที่เข้ากันมาก ทั้งห่ามทั้งกวน ตลกแต่ก็ยังโรแมนติก แล้วเราก็ยังเชื่อว่านอกจากความสนุกสนานในฐานะหนังเรื่องหนึ่ง หนังเรื่องนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจเล็กๆ ที่จะทำให้คนดูไทยกลัวการพูดภาษาอังกฤษกันน้อยลง หรืออย่างน้อยๆ เจอฝรั่งครั้งต่อไปก็ไม่ต้องวิ่งหนีแล้วค่ะ”
เมื่อพล็อตมาอย่างฮา ถึงเวลาเมษ ปรุงรสให้ได้เฮ.. แซ่บ ม่วน ชวนฝัน
เมษ ธราธร ผู้กำกับร้อยล้าน จาก ATM เออรัก..เออเร่อ ผู้กำกับตึ่งโป๊ะที่ชื่นชอบมุขคาเฟ่ระดับตำนาน งานนี้ขอรับไม้ต่อจากโปรดิวเซอร์อารมณ์ดี เก้ง-จิระ มะลิกุล และ วรรณฤดี พงษ์สิทธิศักดิ์ นำพล็อตเรื่องสุดฮามาปรุงรสชาติใหม่ให้เป็นรสมือของเมษ ซึ่งงานนี้ เมษได้ปื๊ด-ชัยพฤกษ์ เฉลิมพรพานิช เพื่อนคู่หู มาช่วยเขียนบท ร่วมกับโอ๋-เบ็ญจมาพร สระบัว ใช้เวลาเชียนบทกัน 6 เดือน บทเสร็จ ก็เตรียมขั้นตอนถ่ายทำและคัดเลือกนักแสดงทันที
ไอซ์-ปรีชญา มีดีที่ภาษา พูดอังกฤษได้ไพเราะเสนาะหู
วันที่พี่เก้ง พี่วัน บอกว่ามีไอเดียหนังเรื่องราวเกี่ยวกับติวเตอร์สาวสอนภาษาอังกฤษ กับหนุ่มช่างเทคนิกอ่อนภาษา นางเอกที่ผุดขึ้นมาในหัวผมทันทีคือน้องไอซ์ ผมเคยเห็นน้องไอซ์พูดภาษาอังกฤษเก่งและน่าฟังมาก รวมถึงเคยร่วมงานกันมาแล้วในหนัง เอทีเอ็ม เออรัก..เออเร่อ ไอซ์เป็นคนที่แสดงดีไม่ห่วงสวย เล่นตลกได้และมีความเป็นธรรมชาติ นางเอกผมไม่แคสต์ใครเลย ไอซ์เท่านั้นที่จะมาเป็นนางเอกเรื่องนี้ของผม ซึ่งหนังเรื่องนี้ไอซ์ ได้ไปเข้าคอร์สฝึกพูดภาษาอังกฤษให้เชี่ยวชาญดั่งมืออาชีพ
นางเอกมีดีที่ภาษา พระเอกสุดฮาทั้งห่าม ทั้งเถื่อน แถมยังต้องกวน พลันผุดภาพซันนี่ขึ้นมาในหัว
ผมกับพี่ซันนี่ เจอกันบ่อยสนิทกัน แต่ไม่เคยร่วมงานกันซักที ช่วงที่เขียนบทใกล้จะเสร็จ เราเริ่มคิดถึงใครสักคนที่คาแร็คเตอร์ใกล้กับพระเอก ยิมเป็นช่างเทคนิกที่ห่าม เถื่อน กวน โผงผาง เหมือนจะไม่แคร์อะไรเท่าไร แล้วภาพพี่ซันนี่ ก็ผุดขึ้นมาในหัว ตอนนั้นผมอยากให้เขาเล่นมาก เพราะอยากร่วมงานด้วยมานานแล้ว แต่กลัวเขาไม่เล่น กลัวว่าถ้าเราเล่าให้เขาฟัง แล้วเขาไม่อิน ไม่ยอมเล่นล่ะ ผมนึกไม่ออกเลยว่าจะให้ใครมาเล่น จนกระทั่งบทเสร็จ ผมรีบเอาไปให้เขาอ่าน ผมลุ้นมากว่าพี่ซันนี่จะเล่นมั้ย ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง พี่ซันนี่โทรกลับมาว่าเล่นและชอบบทเรื่องนี้มาก ผมดีใจอยากจะกรี๊ดเพราะได้พระเอกตัวจี๊ดมาร่วมงาน
พระ-นางมาพร้อม บทพระรองแสนดี ชายหนุ่มผู้แสนจะอบอุ่นของพ.ศนี้ ต้องเขา “ตู่-ภพธร”
ผมคิดอยู่นานมากนะครับว่าจะให้ใครมารับบทคุณพฤกษ์ ชายในฝันของหญิงไทย หน้าตาดี ฐานะดี การศึกษาดี มีความอบอุ่นพร้อมพรั่ง แถมมีอารมณ์ขัน ผู้ชายที่โปรไฟล์เพียบพร้อมขนาดนี้คงต้องยกให้เขา พี่ตู่ ภพธร ผู้ชายที่ผมทำการสำรวจจากผู้หญิง9ใน10คน จากทุกสาขาอีพ ต่างโหวตเป็นเอกฉันท์ คุณพฤกษ์ ต้องตู่ ภพธร เท่านั้น ผู้ชายหล่อ แสนดี อบอุ่นที่สุดของพ.ศ.นี้
โจ๊ก โซคูล บร๊ะเจ้าสุดฮา ที่ขอนำพามาเรียกเสียงฮาอีกครั้งกับบทโจ๊ก ลูกน้องคนสนิทของยิม
ผมเลือกพี่โจ๊กเพราะเป็นความคิดถึงส่วนตัว ชอบพี่เขาตั้งแต่เอทีเอ็ม เออรัก..เออเร่อ ร่วมงานด้วยแล้วฮา พอมาเรื่องนี้ผมเขียนบทโจ๊ก เพื่อพี่โจ๊ก ให้มารับบทเป็นลูกน้องคนสนิทของยิม ที่เขารักและเทิดทูน จนเรียกว่าป๋า บูชาป๋ายิมเหมือนพ่อบังเกิดเกล้า เนื่องจากยิมเป็นรุ่นพี่ที่มีบุญคุณมาตั้งแต่สมัยเรียนช่างกล ถ้าต้องเลือกระหว่างป๋ากับแฟน โจ๊กตอบได้ทันทีแบบไม่เสียเวลาคิดเลยว่า “เลือกป๋าสิค้าบ” แล้วทุกซีนที่เราต้องการความฮาจากพี่โจ๊ก เขาก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ช่างเป็นบร๊ะเจ้าเรื่องความฮาจริงๆ
อาตุ่ย เป็นอีกหนึ่งความฮา ที่นำพามาเพราะความคิดถึง
อาตุ่ย-พุทธชาด พงศ์สุชาติ เป็นนักแสดงอีกคนหนึ่งที่ผมอยากร่วมงานด้วย คิดถึงอยากให้มาร่วมงานกันอีก เลยเขียนบทตุ่ย มาให้อาตุ่ยเล่นเป็นผู้ช่วยคนสนิทของเพลง ที่คอยดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนสอนภาษา พูดภาษาอังกฤษเก่งหรือไม่เก่งไม่รู้ แต่สำเนียงกระแดะชนะเลิศ ความสุขของตุ่ยคือการได้แทะโลมตั้งแต่คนที่มาสมัครเรียนยันแมสเซ็นเจอร์ เล่นแค่ไม่กี่ฉากแต่ขำก๊ากเลยจริงๆ
ถึงจะเป็นผู้กำกับหนังตลก อารมณ์ขัน แต่ก็ทำให้นักแสดงมีน้ำตา ดราม่าจนเล่นดี
ในเรื่องนี้จะมีตัวละครตัวหนึ่งชื่อ แอ๊ว แฟนสาวของโจ๊ก ผู้เกลียดยิมอย่างกับขี้ เธอมีกิ๊ก-สุวัจนีเป็นไอดอล จึงไม่แปลกถ้าวิธีการพูดจา จิกด่า และถลึงตา จะลอกเลียนแบบมาจากไอดอลของเธอเป๊ะๆ ถ้ามีช่องให้เธอกระแหนะกระแหนแดกดันยิม เธอไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าเสียบทันที ตัวละครนี้ ผมคิดถึงน้องนิว-กุลญาดา ตาวิยะ ที่เคยร่วมงานตอนซีรี่ส์ เอทีเอ็ม2 คู่เว่อ เออเร่อ..เออรัก เพราะน้องเขามีความตลก มีลูกบ้าที่ฮาโดนใจ แต่พอมาเล่นหนังครั้งแรก ฉากแรกน้องนิว ร้องไห้เลยครับ บทพูดสั้นๆ แต่น้องคงปรับอารมณ์ไม่ถูก เพราะหนังต้องการสมาธิ ละเอียด ถ้าบทพูดผิด อารมณ์ไม่ได้ มันจะมีผลกระทบกับตัวละครอื่น แต่พอผ่านฉากแรกไปได้แล้วก็กลายเป็นว่าเขาเล่นได้เลย ยังงี้เขาเรียกว่าดราม่าจนฮาได้
นักแสดงครบพร้อม เริ่มขั้นตอนการถ่ายทำ
หนังเรื่องนี้ผมประทับใจทุกฉาก เรียกว่าทุกซีนก็ว่าได้ ผมกับทีมเขียนบท ปื๊ด-ชัยพฤกษ์ เฉลิมพรพานิช และพี่โอ๋-เบ็ญจมาภรณ์ สระบัว ใช้เวลาเขียนบทกันมานาน ผมตั้งตารอวันที่เราจะได้ออกไปถ่ายทำหนัง เราจะสามารถทำให้ภาพที่เราคิดตอนเขียนบทออกมาเป็นจริงได้มั้ย ตลอดระยะเวลา 3 เดือน นักแสดงทุกคน พี่ซันนี่ น้องไอซ์ พี่ตู่-ภพธร, พี่โจ๊ก, อาตุ่ย, น้องนิว แกงค์เต้น ฯลฯ รวมถึงทีมงานทุกฝ่าย โลเกชั่น ทีมภาพ ทีมกล้อง ทีมเสียง ทีมไฟ ทุกคนสามารถช่วยกันถ่ายทอดภาพในจินตนาการของผมให้ออกมาเป็นจริงๆได้อย่างสมบูรณ์แบบมาก ไม่ว่าฉากนั้นจะยากที่สุด หรือเพียงฉากที่พูดคุยกันธรรมดา ฉากสุดฮา ฉากโรแมนติก ทุกรายละเอียดของหนังเรื่องนี้ออกมาได้ดีเพราะทีมเวิร์ค
จากหนังร้อยล้าน เอทีเอ็ม เออรัก..เออเร่อ สู่หนังไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้
การทำหนังทุกเรื่องคือการเริ่มต้นใหม่ ความสำเร็จจากเรื่องที่แล้วคือผู้ชมส่วนใหญ่จะบอกว่าเป็นหนังสนุก ตลก ซึ่งความสนุกตลกแบบเถิดเทิงให้ได้หัวเราะยังมีอยู่แน่นอน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนหนัง เอทีเอ็มฯ คือเรื่องนี้จะมีความน่ารัก โรแมนติก ใครที่รู้สึกแอบรักบางคนอยู่ หรือว่ารักกันแล้วผิดหวัง ผมว่าไปดูเรื่องนี้แล้วมันจะอิน เพราะว่ามันมีตัวละครที่มีความรู้สึกแต่ละขั้นตอนของความรักแบบนี้อยู่ ผมว่ามันเป็นหนังรักที่จะให้เสียงหัวเราะ และรอยยิ้มกับทุกคนได้ครับ
ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ รับบทเป็น ยิม
นายช่างโรงงาน หรือเรียกเท่ๆว่า “วิศวกรซ่อมบำรุง” ที่เป็นคนห่าม โหด และ หื่น (บ้างเป็นบางครั้ง) เป็นช่างกลสายหม้อไม่ใช่สายตี ในอดีตเคยทำร้ายจิตใจผู้หญิงไว้หลายคน จึงตั้งใจจะทำดีกับผู้หญิงคนต่อไปที่เข้ามา แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เมื่อแฟนสาวชาวญี่ปุ่นบอกเลิกด้วยเหตุผลสื่อสารกันไม่เข้าใจ จึงหนีไปทำงานไกลถึงเมืองนอก แม้ยิมจะมีความรู้ทางภาษาอังกฤษต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่ด้วยความเป็นคนจริง เขาจึงตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อจะสอบสัมภาษณ์ที่โรงงานให้ผ่าน แล้วตามไปง้อหญิงถึงอเมริกา
ผู้กำกับชวน อ่านบทปุ๊บ ตกลงปั๊บ
ตอนแรกที่ยังไม่มีบทมาให้อ่าน เมษก็มาเล่าเรื่องให้ฟังก่อน จากนั้นก็ส่งบทมาอ่าน พออ่านบทจบก็รู้สึกชอบมาก เลยโทรไปตอบตกลงเดี๋ยวนั้นเลย ชอบบทตรงความน่ารักในเรื่องนี้ สำหรับผู้กำกับ เรารู้จักกันมานานแล้ว ก็เห็นเขาติงต๊อง ทำอะไรไร้สาระมาตลอด แต่พอมาทำงานด้วยแล้วรู้สึกว่าเขาเป็นคนจริงจังและก็เด็ดขาดมาก และมั่นใจในสิ่งนั้นที่ตัวเองทำ ซึ่งเราก็คิดว่าหนังเรื่องนี้เขาน่าจะทำมันออกมาได้ดี
ซันนี่ จูนความเถื่อน ในหนัง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้
ผมรับบทเป็น ยิม อาชีพของยิมเป็นนายช่างซ่อมบำรุง ทัศนคติทุกอย่างซ่อมได้ ถ้าไม่สุดๆจริงๆเราจะไม่เปลี่ยนมัน เราจะพยายามรักษาสิ่งที่มันเป็นอยู่ให้ดีก่อน ยกเว้นแต่ว่ามันใช้การไม่ได้แล้วถึงเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น คาแร็คเตอร์ก็จะเป็นเด็กช่างเก๋าๆ จะพูดจาเถื่อนๆหน่อย พูดตรงๆ พูดห่ามๆ ไม่ว่าจะพูดกับผู้หญิงผู้ชายก็จะพูดแบบนี้เหมือนกันหมด แล้วก็จะเป็นคนไม่เป็นเก่งภาษาอังกฤษเลย คือไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ออกเสียงไม่ได้ไม่เข้าใจ พูดอะไรมาก็ไม่รู้เรื่องเลย เป็นนายช่างที่มีลูกน้อง เรียกว่าเป็นรุ่นใหญ่ใครๆก็เรียกว่า “ป๋า”
หาทางที่ใช่ ในสไตล์คอมเมอดี้
ผมกับเมษมองว่าพื้นฐานทางคอมเมอดี้มันคืออะไรก็ได้ ในแง่ของคาแร็คเตอร์ไม่เกี่ยวกัน เพราะเราไม่ได้อยากมาเล่นตลก คือคาแร็คเตอร์พระเอกเขาเป็นคนแบบไหน ก็เชื่อว่าเขาเป็นคนแบบนั้นมากกว่า เล่นเป็นธรรมชาติ สุดท้ายมันจะออกมาตลกเอง เหมือนเมษเขาเห็นอะไรในตัวเราบางอย่าง แล้วก็มาปรับจูน มาทำความเข้าใจกันว่าแบบไหนที่พอดี ก็เริ่มจากมาลองเข้าบท ให้เป็นทิศทางเดียวกัน เมษเคยบอกว่า อยากได้คนที่เล่นแล้ว ถ้าจะเลวก็คือเลวจริง ไม่ใช่ตั้งใจจะให้เลว ผมเลยมองพี่ซันนี่แหละ ตอนนั้นผม รู้สึกว่า เฮ้ย นี่มันชมหรือมันด่า สุดท้ายเลยรู้ว่า ผู้กำกับเขาต้องการคนที่เวลาพูดดุๆ พูดแบบเถื่อนๆ พูดแบบเป็นคนเลว คือเขาไม่ได้ตั้งใจจะกวน แต่พูดโดยไม่รู้ตัว เพราะเขาเป็นคนแบบนั้น เป็นโดยสัญชาตญาณ ซึ่งออกตัวไว้ก่อนนะครับ ว่าผมไม่ใช่คนแบบนั้นจริงๆ
เตรียมตัวเตรียมใจ สวมวิญญาน “ยิม ยกล้อ”
เรื่องนี้มันต้องมีพาหนะคู่ใจคือมอเตอร์ไซค์ ที่ยากคือไม่เคยขี่รถแบบมีครัช คือเราขี่ออกตัวไปสักพัก รถชอบดับเลยต้องไปฝึกขี่ 1 วันเต็มๆ เพื่อไม่ให้มันดับตอนวันถ่าย แต่พอเข้าฉากก็ดับครับ เหมือนเดิม ความจริงเมษเขาอยากได้ แบบว่าเราขี่มายกล้อ ผู้กำกับกับเขาอยากให้ลุคเราตอนขี่มอเตอร์ไซค์แล้วดูเท่นิดนึง ก็บอกเขาไปว่าทำไม่ได้หรอก (หัวเราะ) สุดท้ายก็ต้องไปลุ้นกันดูนะครับ ว่าจะเท่แบบที่ผู้กำกับเขาอยากได้หรือเปล่า
ร่วมงานครั้งแรกกับนางเอกสุดฮา ผมนี่หัวเราะเลย
คือปกติผมเล่นกับนางเอกคนไหน ก็จะมีไม่กี่คนที่เราเห็นแล้วตลก ไอซ์เป็นคนที่เล่นทางนี้แล้วตลกมาก ผมนี่หัวเราะเลยครับ ผมว่ามีน้องไอซ์นี่แหละครับ ที่ผมนั่งดูพฤติกรรมและการแสดงของเขา แล้วตลกมากจริงๆ ต้องไปดูในหนัง รับรองว่าต้องฮาตาม นอกจอกับในจออาจจะคนละทางกัน แต่การแสดงหน้าตาจะไปหมด ผู้กำกับชอบให้เล่นอะไรแบบนี้ พูดทีคิ้วก็กระตุกเลยครับ
ผู้กำกับยกย่อง ซันนี่ พระเอกเทคเดียวผ่าน!!
จริงๆหลายเทคไว้ก็ดีนะ เพราะเดี๋ยวมันมีปัญหา อะไรพัง โน่นนี่ คือเวลาเล่นเสร็จแล้ว เมษชอบบอกว่า คัท ผ่าน ผมบอก เฮ้ย มันมีเทคเดียวเองนะ ถ่ายเพิ่มเถอะ เดี๋ยวเผื่อเวลามีปัญหาอะไร เมษบอกไม่ต้อง ได้แล้ว ฮึ!! อย่ามาถ่ายซ่อมแล้วกัน
ขอชาบู ยกฉายาให้พี่โจ๊ก ตลกสากล
คือจากใบหน้าของพี่โจ๊ก ต้องยกให้พี่เขาว่าเป็นตลกสากลอยู่แล้วครับ ใครเห็นก็ต้องตลก ตาเขาจะมีอยู่ครึ่งนึงแค่นี้ หันมาถามทีว่าไง ขนจมูกยาวเกือบถึงปาก เจอครั้งแรกผมตกใจตามองที่อื่นไม่ได้ต้องมองขนจมูกเขายาวไม่รู้ไปไดร์ตรงมาหรือเปล่า หรือไปดัดฟรอยมาก็ไม่รู้ จริงๆเขาเป็นคนซีเรียสนิดนึงครับ แต่ว่าพฤติกรรมที่เขาแสดงออกมาตลก เป็นคนที่เล่นอะไรก็เต็มที่ แล้วมันก็ฮา ด้วยสำเนียงหรือท่าทาง ความตัวเล็กของเขา ทำให้ทุกอย่างตลกไปหมด แต่คิดแค่นี้ก็ฮาแล้วครับ
ซันนี่เป็นลูกครึ่ง ต้องพูดภาษาอังกฤษ ด้วยสำเนียงแบบคนที่อ่อนหัด
จริงๆคุณแม่ผมเป็นคนฝรั่งเศสครับ ผมเกิดที่เมืองไทย พ่อก็พูดกับแม่เป็นภาษาอังกฤษ แต่พูดกับผมภาษาไทย แม่เองก็จะเห่อภาษาไทยตั้งแต่ผมเกิด แล้วจะพูดไทยตลอดเลยคับ จะเพี้ยนแค่วรรณยุกต์ จริงๆผมก็ไม่ได้เป็นคนพูดภาษาอังกฤษแบบคนสำเนียงดีเท่าไหร่ สำหรับเรื่องนี้ที่เราต้องมารับบทของคนที่กลัวภาษาอังกฤษ ก็พยายามทำให้สำเนียงของเรามันห่วยลงอีกเพื่อให้สมบทบาทการแสดง
ฝากหนังเรื่องล่าสุด จากคนที่รักการแสดงที่สุด
หนังเรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ผลงานเรื่องล่าสุดของผม รู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้แสดง เรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติกคอมเมอดี้ที่น่ารักมากครับ เราคนไทยจริงๆพูดอังกฤษได้เยอะเลย แต่ว่าเป็นเหมือนกันหมด ผมก็เป็น คือถ้าเจอฝรั่งเราจะไม่พูด ยกเว้นจวนตัวจริงๆ ต้องสื่อสารจริงๆถึงจะพูดเป็น ในอนาคตประเทศเราก็กำลังจะก้าวสู่ AEC กันแล้ว เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์สู่ AEC งานนี้เราก็จะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปด้วยกัน เพราะในเรื่องนี้ผมก็คือคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็จะได้เรียนแบบงูๆปลาๆ เพื่อเป้าหมายที่เราจะสื่อสารกับคนต่างชาติให้ได้ ผมว่าคนดูน่าจะชอบกันนะครับ เพราะหนังดูง่ายดูสนุก ก็อยากชวนทุกคนไปดูกันนะครับ 10 ธันวาคมนี้ ฝากไว้ด้วยอ้อมอกอ้อมใจนะด้วยนะครับ
ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร รับบทเป็น เพลง
ติวเตอร์สาวสุดน่ารักผู้มีวิธีการสอนภาษาอังกฤษให้เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว มองภายนอกเธอก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่แอบฝันหวานว่า วันนึงจะได้เจอเจ้าชายรูปงาม และครองรักกันอย่างมีความสุขชั่วนิรันดร แต่ที่จริงแล้วตัวตนของเพลงไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น เธอความแสบเซี้ยวเฮี้ยวซ่าส์อยู่ในสายเลือด ทำให้เธอตกปากรับคำเป็นติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษให้นายช่างสุดเถื่อน แม้ว่าจะกลัวคำขู่และเกลียดคำด่าของเขาแค่ไหน แต่ลึกๆในใจเธอกลับรู้สึกว่า “สนุกจุงเบย”
ออก S T A R T อีกครั้ง!!
ดีใจมากค่ะที่พี่เมษผู้กำกับชวนมาเล่นหนังอีกครั้ง หลังจากห่างหายไป 3 ปี ตั้งแต่เรื่อง เอทีเอ็ม เออรัก..เออเร่อ สำหรับเรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ เรื่องนี้ไอซ์อ่านบทไปก็อมยิ้มไป เพราะเรื่องราวสนุกมากค่ะ ไอซ์รับบทเพลง ซึ่งคาแร็คเตอร์มีความใกล้เคียงกับตัวเราอยู่เยอะเหมือนกัน เพราะว่าจริงๆแล้วเพลงก็เป็นผู้หญิงธรรมดาคนนึง ไม่ได้มีฟอร์มอะไรมากมาย และที่เหมือนตัวเราที่สุดคือ ชอบภาษาอังกฤษเหมือนกัน บางอย่างที่เล่นออกมาเลยรู้สึกเป็นตัวเองมากๆ
บท “เพลง” เขียนมาเพื่อไอซ์โดยเฉพาะ!!
ดีใจมากค่ะ ที่พี่เมษว่าบอกตั้งใจเขียนบทนี้ให้ไอซ์เล่น ไม่ได้คิดถึงคนอื่นเลย คืออยากให้ไอซ์เล่น ตอนที่รู้ ถามไปว่า จริงเหรอคะพี่ ทำเอาจะร้องไห้ แรงฮึดมาเลย มาขนาดนี้แล้ว อะไรที่มันยาก ที่ตัวเองไม่มั่นใจ ว่าจะเก่งพอที่จะทำได้รึเปล่า พอได้ยินพี่ผู้กำกับพูดแบบนี้ เราในฐานะนักแสดงก็ต้องเต็มที่ ได้ร่วมงานกับพี่เมษ อีกครั้ง รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน เป็นการทำงานที่มีความสุขมาก เจอกันก็มีแต่อะไรขำๆ ไม่เคยซีเรียส
รับบทติวเตอร์ เลยต้องโดนติวหนัก!!
เรื่องนี้เวิร์คช็อบหนักขึ้นกว่าเดิมมากค่ะ มีไปเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม ปรับพวกสำเนียงให้ชัดขึ้น พูดในชีวิตประจำมากขึ้น ไปฝึกพูดกับพ่อกับแม่กับเพื่อน พูดเหมือนเราใช้งานเลยค่ะ จะผิดจะถูกยังไงให้ไปฝึกพูดให้คล่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะเราต้องเป็นติวเตอร์ต้องสอนภาษาอังกฤษ สำเนียงที่ต้องชัดเป๊ะมากๆ ต้องเก่งและดูมือโปร ประโยคที่อยู่ในบท จะเป็นแบบประโยคยาวๆ ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษล้วน ไอซ์ตั้งใจมากอยากให้มันออกมาดี เลยพยายามไปอ่านบท ทำการบ้านก่อนเข้าฉาก อย่างหนัก ต้องอ่านทบทวน ต้องจำบทให้ได้ล่วงหน้า1วัน พอถึงกองถ่ายก็จะได้ทำงานได้เลย จะได้ไม่มีใครเสียเวลาเพราะเรา แถมครั้งนี้ต้องออกกำลังกายเยอะมาก เพราะหลังจากที่ไอซ์เกิดอุบัติเหตุตอนนั้น ก็ต้องเร่งฟิตให้ร่างกายเราไม่เหนื่อยง่าย เพราะต้องใช้กำลังกาย กำลังสมอง ทั้งเวิร์คช็อบการแสดง เรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม และหนักสุดๆคือตอนเรียนต่อยมวย
เคมีเข้ากันมาก กับพระเอกมาดติสท์
ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะได้ร่วมงานกับพี่ซันนี่ ก็แบบเอ๊ะ พี่เขาจะติสท์หรือเปล่า คำตอบที่ได้คือ ใช่ (หัวเราะ) ตอนเข้าฉากแรกก็เกร็งๆกันทั้งคู่ ไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน ครั้งนี้คือเป็นครั้งแรก แต่พอมาเล่นสักพักก็เริ่มแกล้ง เริ่มแหย่ จากนั้นก็สนิทกัน จนเริ่มลามปามกันใหญ่โต เล่นไม่เกรงใจใคร พอได้เข้าฉากด้วยกันจริงๆพี่ๆทีมงานก็บอกว่าเคมีเข้าขากันมากๆ พี่ซันนี่เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน เป็นคนตลกๆคนหนึ่ง ที่ทำให้บรรยากาศการทำงานสนุกมากขึ้น
รับ-ส่งซีนอารมณ์กับ ซันนี่
ถ้าเป็นซีนที่เศร้าหน่อย ไอซ์กับพี่ซันนี่ก็พยายามรับส่งกันเต็มที่ คอยถามพี่เมษว่า อย่างนี้โอเคไหม เศร้าไปไหม คือสิ่งที่เราเล่นออกไป ออกจากตัวเราเอง เราคิดยังไง เราก็เล่นแบบนั้น เราคิดว่าตัวละครจะรู้สึกแบบนี้ เราก็แสดงออกไป ซึ่งถูกไม่ถูกก็ต้องถามพี่เมษว่าแบบนี้ใช่ไหม เวลามีฉากโรแมนติคที่ต้องเล่นด้วยกัน ก็ต้องพยายามรับส่งความรู้สึกกันให้มากที่สุด
รีเทิร์นพบ บร๊ะเจ้าโจ๊ก อีกครั้ง!!
รู้สึกว่าพี่โจ๊กมีการพัฒนาขึ้นเยอะเลยเลยค่ะ ทางด้านความฮา ไม่ได้เจอกันนานมาก แต่ก็ตลกเหมือนเดิมค่ะ ตลกแบบคาดไม่ถึง มีอะไรที่เซอร์ไพรส์ตลอด หน้าตาเขา คิ้ว ทุกอย่าง มันทำให้รู้สึกว่าแบบว่า เออพี่เขาตลก โดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรก็ได้ แค่นี้ก็ฮาแล้ว
เวลานอนต้องทำงาน เวลาทำงานดันอยากนอน แก้ด้วยการกินๆๆๆแก้ง่วง!?!
หนังเรื่องนี้เป็นการออกกองหนักที่สุดในชีวิตการทำงานเลยค่ะ ด้วยคิวของฉากที่ถ่ายก็คือเป็นแบบกลางคืน คือจะไม่ได้นอนกลางคืน กลางวันก็นอนไม่หลับ เพราะถ่ายเสร็จ 6 โมง 7 โมง รถติดถึงบ้าน 8 โมง ตาตื่นแล้ว เลยไม่ค่อยชินกับการที่ทำงานตอนกลางคืน แล้วนอนตอนช่วงเช้า เวลาง่วง ก็ต้องหาอะไรที่ทำให้สดชื่น ร้องเพลงบ้าง นั่งคุยบ้าง เทคนิคอีกอย่างของกองถ่ายเราคือ ถ้าหิวก็ต้องกิน หลังๆเริ่มเป็นข้ออ้างอย่างนึงของตัวเองที่อยากกินโน่นนี่นั่น ยอมรับว่าติดขนมก๊อบแก๊บ อาจจะกินเยอะไปหน่อย หน้าเลยเริ่มบวมขึ้นมาเรื่อยๆ ช่วงหลังๆพี่เมษก็จะบอกว่าวันนี้มีขนมอร่อยมานะ เหมือนให้รางวัล แบบว่าถ้าแสดงดีจะให้กินกล้วยตากนะ ไอซ์ก็จะโอเคทำได้ๆ พอสั่งคัทเท่านั้นแหล่ะค่ะ เรียกหาอะไรมาเคี้ยว เรียกว่ามากองนี้ปากไม่เคยว่างเลยค่ะ
ยิ่งออกกองถ่าย ยิ่งหลงใหลการแสดง
หนังเรื่องนี้ทำให้ไอซ์ลึกซึ้งกับงานแสดงมากขึ้น มันมากกว่าการทำงาน มีความสุขมาก ไม่ได้อยากทำให้มันแค่จบๆไป แต่อยากทำให้มันดีทุกวัน ไอซ์ได้ประสบการณ์มากกว่าเดิม ได้ทำอะไรหลายๆอย่าง ทำงานมากขึ้น รับผิดชอบเยอะขึ้น มีความสุขมากที่ได้ทำ เหมือนเราทุ่มเท เราตั้งใจทำงาน เราเต็มที่กับมัน พอรู้ว่าผลงานมันออกมาดี แค่นี้ก็แฮปปี้แล้วค่ะ
คุ้มค่าทุกนาที ที่ได้ทำงานที่รัก กับผู้กำกับคนเก่ง
พี่เมษนอกจากเป็นผู้กำกับ เรียกว่าเป็นพี่ชายคนอีกคนของไอซ์ ปรึกษากันได้ทุกเรื่อง เรื่องนี้เราสนิทกันมากขึ้น พี่เมษสอนการแสดงและการใช้ชีวิต สอนให้รับผิดชอบ ทำให้พัฒนาตัวเอง ขอบคุณพี่เมษที่ให้โอกาสในทุกๆด้าน
ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ แทรกแง่คิดเรื่องภาษา แฝงไว้ด้วยความสนุก
คนที่ดูหนังเรื่องนี้ อาจจะทำให้รู้สึกรักภาษาอังกฤษกันมากขึ้น อย่างน้อยเลยถ้าใครไม่รู้ศัพท์ ก็อาจจะได้เรียนรู้คำที่ใช้ถูกผิดจากเรื่องราวในหนัง ส่วนความฮาความตลกมาเต็มอยู่แล้วค่ะ เพราะว่าเรื่องนี้เรวมเดอะแก๊ง ไม่ว่าจะเป็น อาตุ๊ยตุ่ย พี่โจ๊ก พี่ตู่ พี่ซันนี่ เรียกว่างานนี้ครบรส อย่างที่แฟนๆหลายคนเฝ้ารอ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ไปดูกันนะคะ อย่าลืมไปดูหนังให้หายเครียดกันนะคะ ดูจบแล้วรับรองได้รอยยิ้มกลับบ้านไปแน่นอน 10 ธันวานี้เข้าฉายแล้วทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ
ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ รับบทเป็น คุณพฤกษ์
ชายในฝันของหญิงไทยกว่าค่อนประเทศ ทุกองค์ประกอบของเขามันช่าง…ใช่ไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น หน้าตาที่คมเข้ม การศึกษาที่ดีเริ่ด ฐานะที่จัดได้ว่าเป็นเศรษฐี หน้าที่การงานกมั่นคง ความอบอุ่นก็พร้อมพรั่ง แถมยังมีอารมณ์ขันเพิ่มเสน่ห์เข้าไปอีก ผู้ชายที่โปรไฟล์เพียบพร้อมขนาดนี้ยังจะมีใครกล้าปฏิเสธได้อีกหรือ
ดีใจได้เล่นหนังเรื่องแรก ถึงกับ “แต๊งกิ้ว เลิฟยู้” ผู้กำกับเมษ ธราธร
นักร้องหนุ่มหล่อ เสียงดี ที่ถูกสาวๆ ทั้งประเทศโหวตให้เป็นหนุ่มหล่อ อบอุ่น แสนดีของพ.ศ.นี้ ดีใจที่ได้เข้ามาแคสต์บท “คุณพฤกษ์” หนุ่มนักเรียนนอก อบอุ่น แสนดี แถมมีอารมณ์ขัน ที่มาเรียนภาษาอังกฤษกับติวเตอร์เพลง ซึ่งวันแรกที่มาแคสต์บทนี้ รู้สึกได้ทันทีว่าตัวละครตัวนี้น่าสนใจ คุณพฤกษ์เป็นผู้ชายที่น่าอบอุ่นมาก มากจนตัวผมเล่นเองยังรำคาญ วันนั้นได้แต่คิดในใจว่า ขอให้ฉันได้เล่นเหอะ เพราะมันมีภาพคุณพฤกษ์อยู่ในหัวที่อยากถ่ายทอดออกมา และแล้วสวรรค์มีตา เมษ ประทานบทนี้มาให้
เล่นหนังเรื่องแรกบทย้าวยาว แถมต้องพูดภาษาอังกฤษ
เข้าฉากวันแรกทำการบ้านมาเต็มที่ ท่องบทย้าวยาวมา เมษ ผู้กำกับบอกว่าให้พูดภาษาอังกฤษเป็นสไตล์เราซะงั้น แถมผู้กำกับยังเป็นกันเอง สบายๆ ขนาดใส่บ็อกเซอร์มาออกกอง ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย งานแสดงเลยสบายๆ ได้ดั่งใจผู้กำกับ เมษทำให้ผมเชื่อมั่นในตัวละครและตัวเขา
เข้าฉากกับไอซ์ นางเอกอะไรส้วยสวย แถมพูดอังกฤษได้นุ่มนวล ชวนฟัง
ผมกับน้องไอซ์ เข้าฉากด้วยกันวันแรก ผมเซอร์ไพร์สน้องไอซ์มากครับ น้องเขาเป็นผู้หญิงที่สวย น่ามอง แถมยังพูดภาษาอังกฤษได้นุ่มนวล น่าฟังมาก พอจะต้องเล่นคอมเมอดี้ก็เล่นได้ฮาไม่ห่วงสวย เรียกว่าช่วยรับส่งบท ส่งอารมณ์ทางการแสดงให้เป็นอย่างดีและยังชอบให้ผมร้องเพลงให้ฟังระหว่างพักกอง
ซันนี่ พระเอกคนนี้ดี๊ดี รับส่งอารมณ์จนอินกับบทคุณพฤกษ์
ผมเข้าฉากกับซันนี่ไม่กี่ซีน แต่ทุกซีนที่เข้าด้วยกัน ผมพูดเลยว่าเขาเป็นสุดยอดนักแสดงที่สมาธิดีมาก และเขาทำให้ผมอินกับตัวละครคุณพฤกษ์มากขึ้น ทุกครั้งที่ได้เข้าฉากกับยิม กองถ่ายหนังเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกสนุก มีความสุขอยากมาทำงาน ได้มาเล่น ได้แสดงอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน โดยเฉพาะฉากเต้น ถ้าเพื่อนสนิทของผมเห็นคงต้องโดนล้อแน่เลย!!
คุณพฤกษ์ ตัวละครที่ทำให้ย้อนกลับมาดูตัว
ใครๆ ก็มักจะพูดว่า ผมมีภาพลักษณ์เป็นผู้ชายที่อบอุ่น โรแมนติก แสนดี เพราะคาแร็คเตอร์นี้ผู้กำกับเลยทาบทามผมให้มาแคส พอแคสเสร็จก็สรุปว่าเป็นผมนี่ล่ะที่เหมาะสมแล้ว ผมเลยย้อนกลับมาดูตัวเอง ว่าเออเราคงมีความโรแมนติก มีความอบอุ่นบ้าง แต่ไม่เท่าคุณพฤกษ์แน่นอนครับ ผมกล้ายืนยัน รับประกันไม่โอเวอร์!!
อยากจะฝากหนังไว้ในใจทุกคน
ผมขอฝากหนังเรื่องแรก ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ด้วยนะครับ หนังเรื่องนี้ผมสนุกตั้งแต่วันแคสติ้ง จนได้มาถ่ายทำ จนวันถ่ายหนังเสร็จ ถ้าคุณอยากขำ อมยิ้ม จนถึงระดับฮาดังๆ ขอให้มาฟังความรู้สึกของผมในหนังเรื่องนี้ ที่มีดีดรีความสนุกให้คุณได้หัวเราะอย่างแน่นอน
กรภพ จันทร์เจริญ (โจ๊ก โซคูล) รับบทเป็น โจ๊ก
ลูกน้องคนสนิทของป๋ายิม ที่ทั้งรัก เทิดทูน เคารพ บูชา ป๋ายิมราวกับเป็นพ่อบังเกิดเกล้า เนื่องจากยิมเป็นรุ่นพี่ที่มีบุญคุณมาตั้งแต่สมัยเรียนช่างกล ถ้าต้องเลือกระหว่างป๋ากับแฟน โจ๊กตอบได้ทันทีแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยว่า “เลือกป๋าสิค้าบ”
เมษ ผู้กำกับโทรหามาเล่นหนังกันมั้ยพี่ ระดับเมษแล้วโทรมาเองไม่รับเล่นได้ไง
หนังเรื่องนี้เป็นการชวนมาเล่นหนังที่ประหลาดที่สุด เพราะเมษ ผู้กำกับโทรมาชวนเอง บอกว่ามีโปรเจ็คให้พี่โจ๊กเล่น ระดับเมษแล้วผมคิดว่าเขาต้องวางเราเล่นในตำแหน่งที่เหมาะสม รับปากไปทั้งที่ยังไม่รู้ว่ารับบทเป็นใคร จนเห็นบทถึงรู้ว่าอ๋อ เรามาเล่นเป็นโจ๊กนั่นแหละ แต่เป็นโจ๊ก ลูกน้องคนสนิทของยิม (ซันนี่) ที่เรารักและเทิดทูนยิมมากถึงขนาดยกย่องให้เป็นป๋า แถมถ้าให้เลือกระหว่างแฟนกับป๋า โจ๊กตอบเลยว่า เลือกป๋าสิค้าบ!!
ซันนี่จึงกลายเป็นป๋าทั้งในจอและนอกจอ
ร่วมงานกับซันนี่ครั้งแรกประทับใจมากครับ เขาเป็นพระเอกที่หล่อ เท่ อารมณ์ขัน เข้าถึงง่าย ผมยกให้เขาเป็นป๋าทั้งในจอและนอกจอนะ เพราะเขามีความคิดดี เล่นดี บางฉากเล่นดีซะจนผมจุกเลยครับ
จุกเพราะฉากอ้วก ที่เมษเขาบรรจงสร้างเพื่อผม
ฉากนี้พูดเลย ผิดที่ไว้ใจพี่เมษครับ เขาให้เล่นบทไหนผมก็เล่น ฉากนี้เลยต้องเล่น เรียกว่าเจ็บจริง อ้วกจริง ฮาจริงกันทั้งกอง แต่สำหรับผมมันเป็นซีนสยองครับเพราะต้องอ้วกออกมา 5-6 ครั้ง กว่าจะสมใจผู้กำกับ
10 ธันวา มาร่วมฮากันนะครับ
ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ หนังเรื่องที่ 2 ของผม อยากให้ทุกคนมาร่วมเป็นกำลังใจ ขอบคุณพี่เมษ ผู้กำกับที่สร้างผมขึ้นมาในวงการหนัง ห่างหายจากหนัง เอทีเอ็ม เออรัก..เออเร่อ ไป2-3 ปี กลับมาครั้งนี้รับประกันความฮา แถมยังได้กรี๊ดไปกับความรักของพระ-นางสุดจี๊ด ที่ผมว่าผู้ชมจะต้องหลงรักพวกเขา และพวกผมอย่างแน่นอน
พุทธชาด พงศ์สุชาติ (ตุ๊ยตุ่ย) รับบทเป็น ตุ่ย
นักแสดงสุดฮาจากภาพยนตร์ เอทีเอ็ม เออรัก..เออเร่อ ที่ผู้กำกับเมษ ธราธร ยังคงความคิดถึงในตัวละคร ที่อยากให้อาตุ่ยกลับมาเรียกเสียงฮาอีกครั้งกับบท “ตุ่ย” ผู้ช่วยคนสนิทของเพลง ที่คอยดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนสอนภาษา พูดภาษาอังกฤษเก่งหรือไม่เก่งไม่รู้ แต่สำเสียงกระแดะชนะเลิศ ความสุขของตุ่ยคือการได้แทะโลมตั้งแต่คนที่มาสมัครยันแมสเซ็นเจอร์ และอาตุ่ยก็ไม่ทำให้เมษ และทีมงานผิดหวัง รับประกันความฮา
กุลญาดา ตาวิยะ (นิว) รับบทเป็น แอ๊ว
จากบทน้องไบร์ทในซีรี่ส์ เอทีเอ็ม2 คู่เว่อ เออเร่อ..เออรัก กับคาแร็กเตอร์บ้า เพี้ยน สุดฮา ให้เธอกลับมาอีกครั้งในหนังครั้งแรก กับบท “แอ๊ว” แฟนสาวของโจ๊ก ผู้เกลียดยิมอย่างกับขี้ เธอมีกิ๊ก สุวัจนี เป็นไอดอล จึงไม่แปลกถ้าวิธีการพูดจา จิกด่า และถลึงตา จะลอกเลียนแบบมาจากไอดอลของเธอเป๊ะๆ ถ้าช่องให้เธอกระแหนะกระแหนแดกดันยิม เธอจะไม่รอช้าที่จะพุ่งเข้าเสียบทันที
“ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้”
10 ธันวา (อินเธียเตอร์) ทุกโรงภาพยนตร์