เปิดรอบพิเศษไปอย่างยิ่งใหญ่ กับรอบกาล่า พรีเมียร์ไปแล้ว สำหรับ “จันดารา ปัจฉิมบท” ซึ่งเป็นบทสรุปของจันดารา หากใครได้ชมภาคที่แล้วจะต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน กับบทสรุปของ จัน ดารา หลังจากกลับสู่เมืองพิจิตร นำโดยผู้กำกับ หม่อมน้อย หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล และทีมนักแสดง มาริโอ้ เมาเร่อ,ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต,ศักราช ฤกษ์ธำรงค์,สาวิกา ไชยเดช,รฐา โพธิ์งาม,โช นิชิโนะ,ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา,รัดเกล้า อามระดิษ,เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ และ วิว วรรณรธ เรียกว่าในภาคนี้จะดราม่ามากขึ้น และมีแรงกดดันมาขึ้น โดยเฉพาะสำหรับหนุ่มโอ้ มาริโอ้ เมาเร่อ ที่จะพลิกคาแรคเตอร์จากภาคที่แล้วแบบหน้ามือเป็นหลังมือ แถมยังมีบทบาทหวือหวามากขึ้นตามวัยของตัวละคร โดยหม่อมน้อยกล่าวว่า “อยากให้ผู้ชมมาดูกัน และเข้าใจถึงบทละครถึงแง่คิดต่างๆ”
โดยในงานนี้ มีนักแสดงมาร่วมชมความยิ่งใหญ่กันอย่างคับคั่ง อาทิ ชาย ชาตโยดม วิกกี้ สุนิสา บุ๋ม ปนัดดา อาร์ต ศรา มอส ปฏิภาณ ไมค์ พิรัชต์ ซอนญ่า คูลลิ่ง กิ๊บซี่ วนิดา แบงค์ แบล็ควานิลลา นุ่น วรนุช รอน มินต์ เอเอฟ บอย ถกลเกียรติ สน ยุกต์ ศิลปินจากเดอะสตาร์ เป็นต้น
เรื่องย่อ
โศกนาฏกรรมชีวิตของ “จัน ดารา” แวดล้อมไปด้วยผู้คนรอบข้างที่สะท้อนมวลอารมณ์แห่งความรัก ความใคร่ ความเคียดแค้น กิเลสตัณหา และกามารมณ์อันนำมาซึ่งการพลิกผันในชะตากรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หลังจากเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้นในบ้านพิจิตรวานิช ทำให้ “จัน ดารา” (มาริโอ้ เมาเร่อ) และ “เคน กระทิงทอง” (ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต) สหายสนิทของเขาต้องหนีภัยอันเกิดจากการกระทำอันเหี้ยมโหดของ “คุณหลวงวิสนันท์เดชา” (ศักราช ฤกษ์ธำรงค์)ผู้ที่เขาคิดว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้านานถึง 17 ปี ไปพำนักอยู่กับ “คุณท้าวพิจิตรรักษา” (รัดเกล้า อามระดิษ) ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เมืองพิจิตร
ช่วงระยะเวลาที่อยู่ที่เมืองพิจิตรนี้ จันเป็นสุขทั้งกายใจ และรู้สึกถึงอิสรภาพของชีวิตอย่างแท้จริง เขายังคงติดต่อทางจดหมายกับ“ไฮซินธ์” (สาวิกา ไชยเดช) เพื่อนหญิงในดวงใจอันเป็นรักบริสุทธิ์ของเขาอยู่เสมอมา และคาดหวังว่าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่อันสดใสที่เมืองนี้พร้อมๆ กับการตามค้นหาพ่อแท้ๆ ของเขาไปด้วย
แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งให้วันชื่นคืนสุขอยู่กับเขาเพียงไม่นาน เมื่อในที่สุดจันก็ได้ล่วงรู้ความจริงอันไม่คาดฝันเรื่องพ่อผู้ให้กำเนิดแท้จริงที่เขารอคอยมานานจากปากคำของ “ร้อยตำรวจเอกเรืองยศ” (เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) ผู้กุมความลับอันน่าอดสูเกี่ยวกับตระกูลพิจิตรวานิชนี้ไว้มาตลอดทั้งชีวิต
จันพยายามทำใจให้ผ่านช่วงชีวิตอันแสนทุกข์ทรมานนี้ไปให้ได้ จนกระทั่ง “น้าวาด” (บงกช คงมาลัย) ได้เดินทางมาแจ้งข่าวเรื่องคุณหลวงล้มป่วยลงอย่างฉับพลัน เนื่องจากเกิดเหตุบางอย่างขึ้นกับ “คุณแก้ว” (โช นิชิโนะ) และ “คุณขจร” (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา)
และแล้วสงครามแห่งการชำระแค้นและทวงคืนทุกอย่างให้กลับมาเป็นของเขาและตระกูลพิจิตรวานิชก็ได้เปิดฉากขึ้นในทันทีตามคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณท้าวยายผู้คอยบงการและพลิกผันชะตาชีวิตของจันให้ตกอยู่ในด้านมืดอย่างคาดไม่ถึง
จันกลับมาอย่างสง่าผ่าเผยในฐานะเจ้าของบ้านคนใหม่ และมีสิทธิในทรัพย์สมบัติและอำนาจทั้งหมดภายในบ้าน แต่เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจของเขา เมื่อสัตว์ร้ายและตัณหาราคะในใจปะทุออกมาอย่างรุนแรง เมื่อเขาเห็นภาพ “คุณบุญเลื่อง” (รฐา โพธิ์งาม) กับคุณหลวงยังรักใคร่กันเป็นอย่างดี จันจึงใช้เสน่ห์แห่งความเป็นชายหนุ่มรูปงามหลอกล่อจนคุณบุญเลื่องตกเป็นของเขาอย่างสมยอม และเมื่อคุณหลวงได้เห็นภาพร่วมรักอันเร่าร้อนของทั้งคู่ ทำให้เขาสิ้นสติและกลายเป็นอัมพาตไปในที่สุด
กระจกเงาแห่งความชั่วร้ายได้สะท้อนภาพคุณหลวงมาสู่ตัวจันอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
การล้างแค้นอันน่าขยะแขยงนี้ดูเหมือนจะปิดฉากอย่างสมบูรณ์แบบด้วยชัยชนะของจัน ดาราแต่เพียงผู้เดียว ถ้าเขาไม่ได้รับบทเรียนชีวิตอันยิ่งใหญ่จากศัตรูคู่อาฆาตอย่างคุณแก้วที่เอาคืนจันอย่างสาสม รวมถึงคนรอบข้างที่คอยห่วงใยเขาเสมอมาอย่างน้าวาด, เคน และคุณบุญเลื่องที่ค่อยๆ ตีตัวออกห่างจากจันไปเรื่อยๆ
อำนาจและทรัพย์สมบัติจะมีค่าอะไร หากไร้คนที่รักและห่วงใยเราอย่างจริงใจอยู่เคียงข้าง