“Dragon Blade ดาบมังกรฟัด” (ดราก้อนเบลด ดาบมังกรฟัด) ภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์จีน ด้วยทุนสร้างสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 65 ล้านเหรียญสหรัฐ (4 พันล้านหยวน) หรือราว 2,000 ล้านบาท ที่ใช้เวลาในการสร้างถึง 7 ปีเต็ม ซึ่งดารานักบู๊ขวัญใจชาวไทย “เฉินหลง” เป็นทั้งโปรดิวเซอร์ ผู้อำนวยการสร้าง และยังเป็นนักแสดง นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องแรกที่นำสองนักแสดงแถวหน้าระดับฮอลลีวูด “จอห์น คูแซค” และ “เอเดรียน โบรดี” มาประชันฝีมือกันอีกด้วย
“Dragon Blade ดาบมังกรฟัด” (ดราก้อนเบลด ดาบมังกรฟัด) บอกเล่าเรื่องราวมหาสงครามในแผ่นดินจีนเมื่อ 2,000 ปีก่อน เมื่อทหารโรมัน แม่ทัพลูเชียส (จอห์น คูแซ็ค) พาคนของเขาไปยังตะวันออกเพื่อปกป้องพูบลิอุส บุตรชายคนเล็กสุดของกงสุล แครสซัส จากพี่ชายที่ชั่วร้ายของเขาอย่างทีเบเรียส (เอเดรียน โบรดี้) ซึ่งสังหารพ่อของตัวเองและทำให้น้องชายต้องตาบอด ลูเชียสหนีมาพร้อมกับพูบลิอุสและมุ่งหน้าไปทางตะวันออก และหลงทางในทะเลทรายจนมาถึงประตูห่านป่า ที่ที่ลูเชียสทำการต่อสู้กับฮัวอัน (เฉินหลง) ผู้บัญชาการของกองกำลังคุ้มกันเส้นทางสายไหมทางด้านตะวันตก ชายสองคน ซึ่งต่างคนต่างเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฎ ต่างเคารพซึ่งกันและกันในเวลาต่อมา ฮัวอันได้ให้ทหารโรมันที่เหนื่อยอ่อนหลบภัยจากพายุทราย กองทัพของลูเชียส เขาได้ช่วยคนของฮัวอันในการซ่อมประตูห่านป่าเพื่อเป็นการตอบแทน เมื่อทีเบเรียสยกทัพใหญ่มาถึง เขาได้ยื่นคำขาดให้ฮัวอันส่งตัวลูเชียสและพูบลิอุสมา ไม่เช่นนั้น ทัพของเขาจะเข้าบุกยึดจีน เพื่อเป็นการปกป้องประเทศชาติและกอบกู้ชื่อเสียงจากที่เคยถูกกล่าวหาว่ากบฏ ฮัวอันรวบรวมนักรบ 36 ชนชาติ ให้รวมตัวกันสู้กับทีเบเรียสในศึกครั้งมหากาพย์…
โดยในเรื่องนี้ทั้ง จอห์น คูแซค และ เอเดรียน โบรดี้ ต่างตกปากรับคำเข้าร่วมภาพยนตร์อภิมหาสงครามครั้งนี้ทันที โดยจอห์น คูแซค ให้เหตุผลก่อนว่า “ผมว่าประเทศจีนกำลังเป็นอนาคตของวงการภาพยนตร์ การได้มีโอกาสร่วมงานกับคนจีนและทีมงาน นับว่าเป็นเกียรติอย่างสูง ผมเติบโตมาด้วยการชมภาพยนตร์ของเฉินหลง ผมได้เห็นความสามารถ พลังงานและจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของเขา นี่จะเป็นการเดินทางอันยิ่งใหญ่ของผม ในเรื่องผมต้องเตรียมเพาะกล้าม ฝึกศิลปะการต่อสู้ ทั้งมวยไทย ฟันดาบ ผมอยากให้มันดูสมจริง จึงตั้งใจฝึกฝนเพื่อให้การทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาดีที่สุดครับ”
ส่วน เอเดรียน โบรดี้ เล่าว่า “ผมเป็นแฟนหนังกังฟูมาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเฉพาะหนังที่เฉินหลงแสดง ตอนนั้นผมใฝ่ฝันอยากร่วมงานกับเขามาก จนเมื่อผมได้มีโอกาสร่วมงานกับทีมสตั๊นท์ของเขา ผมเลยพยายามฝึกกังฟูจากพวกเขา จนได้มีโอกาสร่วมงานกับดารานักบู๊ที่ผมฝันอยากเจอคนนี้ในเรื่อง ดราก้อนเบลด ผมรู้สึกประทับใจในความกันเอง เฉินหลงเป็นที่รักของทุกคนในกองถ่าย ผมว่านี่เป็นโอกาสดีที่เราได้ร่วมงานกันจริง ๆ”
ติดตามชมภาพยนตร์บู๊ แอ็คชั่นเรื่อง Dragon Blade ดาบมังกรฟัด (ดราก้อนเบลด ดาบมังกรฟัด)
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 ตรุษจีนนี้ ในโรงภาพยนตร์