Fifth Harmony มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน ได้แก่ Ally Brooke Hernandez, Normani Kordei,Lauren Jauregui, Camila Cabello และ Dinah Jane Hansen 

·       พวกเธอออดิชั่นเข้ามาในรายการในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่ Simon Cowellเจ้าของค่ายเพลง SYCO Music และหนึ่งในกรรมการของรายการ ตัดสินใจให้พวกเธอรวมเป็นวงเดียวกัน นับเป็นอีกหนึ่งการตัดสินใจที่ดีที่สุดของเขาหลังจากที่ปั้นห้าหนุ่ม One Direction เลยทีเดียว

·       Fifth Harmony คว้าอันดับ 3 จากรายการ The X factor USA  ตามด้วยการออกผลงาน EP และซิงเกิ้ลที่สร้างปรากฏการณ์เกิร์ลกรุ๊ปฟีเวอร์จนได้รับฉายาว่าเป็น ‘Spice Girls แห่งศตวรรษที่ 21’ เลยทีเดียว

·       จุดเด่นของ Fifth Harmony คือพลังเสียงของสมาชิกแต่ละคน และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือการประสานเสียงอันน่าทึ่งเมื่อทั้ง 5 คนมารวมกันเป็น Fifth Harmony

·       วันนี้ทั้ง 5 สาวมีเพิ่งปล่อยอัลบั้มแรก ‘Reflection’  พร้อมเพลงฮิตที่กำลังมาแรงทั่วโลกอย่าง ‘Bo$$’, ‘Sledgehammer’ และล่าสุดกับ ‘Worth It’ ที่กำลังมาแรงในเมืองไทยในขณะนี้ 

CD อัลบั้ม ‘REFLECTION’ จะวางขายในเมืองไทยวันที่ 26 มิ.ย.ที่จะถึงนี้

คลิกชม Music Video ของ Fifth Harmony

‘Worth It’ feat Kid Ink: https://youtu.be/YBHQbu5rbdQ

‘Sledgehammer’: https://youtu.be/gCJ3rmiZFr8

‘Bo$$’: https://youtu.be/Y4JfPlry-iQ

FIFTH HARMONY – ‘Reflection’

ปี 2014 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีทองของสาวๆ Fifth Harmony เลยก็ว่าได้เพราะพวกเธอทั้งห้าคนมีโอกาสออกทัวร์คอนเสิร์ตกับสาว Demi Lovato ในเดือนกุมภาพันธ์ และมีทัวร์เป็นของตัวเองในช่วงกลางปี จากนั้นพวกเธอยังได้ร่วมแสดงกับศิลปินดังอย่าง Austin Mahone, The Vamps และ Shawn Mendes ในคอนเสิร์ตฤดูร้อนทั่วอเมริกา และในเดือนสิงหาคม พวกเธอยังคว้ารางวัล ‘Artist to Watch’ จากงาน MTV Video Music Awards อีกด้วย ตามด้วยการเปิดตัวตุ๊กตาบาร์บี้ ที่ออกแบบตามคาแรคเตอร์ของทั้ง 5 สาว Dinah, Lauren, Ally, Normani และ Camila  นอกจากนี้ Fifth Harmony  ยังเดินหน้าทำอัลบั้มเต็มชุดแรกกับค่าย Epic Records  อัลบั้มนี้มีชื่อว่า “Reflection” เป็นอัลบั้มแนวป็อบแดนซ์ที่มีจังหวะหนักแน่นพร้อมด้วยพลังเสียงอันน่าทึ่งของพวกเธอ การันตีคุณภาพด้วยซิ้งเกิ้ลแรก “BO$$” ที่ยอดขายสูงจนได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำ และซิงเกิ้ลต่อมาอย่าง “Sledgehammer” เพลงเพราะๆในสไตล์ synth-pop ที่แต่งโดยนักร้องสาว Meghan Trainor

เช่นเดียวกับ “Better Together” EP เปิดตัวชุดแรกของพวกเธอ ที่ปล่อยออกมาในปี 2013 อัลบั้ม “Reflection” ยังคงแสดงให้เห็นถึงการประสานเสียงที่ดีเยี่ยมที่ทำให้พวกเธอคว้าอันดับที่ 3 ในซีซั่นที่ 2 ของ X Factor อเมริกา แต่ความพิเศษของอัลบั้มนี้ก็คือพวกเธอมีโอกาสได้ร่วมงานกับโปรดิวเซอร์มือดีหลายคนที่เคยทำเพลงให้กับศิลปินระดับโลกมาแล้ว อาทิ Stargate (โปรดิวเซอร์ของ Beyoncé, Rihanna, Katy Perry และ Iggy Azalea), Dr. Luke (โปรดิวเซอร์ของ Miley Cyrus, Nicki Minaj, will.i.am และ Kesha) และ Rock City (โปรดิวเซอร์ของ T.I, B.o.B และ Nelly) ทำให้เพลงส่วนใหญ่ในอัลบั้มนี้สามารถนำเสนอความสามารถในการร้องอันยอดเยี่ยมของทั้ง 5 สาว โดยผสมผสานแนวดนตรี R&B, Hip-Hop และ Electro-pop เข้าด้วยกัน ในอัลบั้มนี้ยังมีเพลงแนว EDM อย่าง “This Is How We Roll ”, รวมทั้ง เพลงที่เติมความเซ็กซี่ด้วยเสียงเครื่องเป่าอย่าง“Worth It” และเพลงหวานๆสไตล์ R&B-pop ยุคเก่าอย่าง “Everlasting Love” นอกจากนี้ Fifth Harmony ยังแสดงความชื่นชมต่อ Mariah Carey ไอดอลของพวกเธอในเพลง “Like Mariah” ที่นำทำนองเพลง “Always Be My Baby” ของ Mariah มาใส่ไว้ในเพลงนี้ด้วย และพวกเธอยังมีเพลง “Brave Honest Beautiful” ที่สนับสนุนให้ผู้หญิงมีความมั่นใจในตัวเอง เช่นเดียวกับศิลปินหญิงแถวหน้าอย่าง Beyoncé, Rihanna, Madonna และ Shakira

คอนเซ็ปต์หลักของอัลบั้ม “Reflection” รวมไปถึงคอนเซ็ปต์หลักของวง Fifth Harmony คือการสนับสนุนให้ผู้หญิงรักตัวเองและก้าวไปตามความฝันของพวกเธอ  สาว Dinah กล่าวว่า “ทุกวันนี้ ผู้หญิงหลายๆคนในโลกออนไลน์มีมักใช้คำพูดที่รุนแรงและทำให้สาวๆคนอื่นหมดกำลังใจ เราจึงพยายามจะช่วยให้พวกเธอรู้สึกดีขึ้นค่ะ” และในฐานะเกิร์ลกรุ๊ปที่พัฒนาความสามารถและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่เริ่มวงในช่วงหน้าร้อนปี 2012 อัลบั้มนี้แสดงให้เห็นความเป็นผู้หญิงมากขึ้น “เราเน้นเรื่องความแข็งแกร่งของผู้หญิงมาตลอดค่ะ แต่ในอัลบั้มนี้เราแสดงให้เห็นถึงด้านที่เปราะบางด้วย” Normani พูดถึงอัลบั้ม “Reflection” ว่า “พวกเราอยากให้ผู้หญิงทุกคนรู้ว่าคุณสามารถแสดงด้านที่อ่อนโยนออกมาได้ มันไม่ได้แปลว่าคุณอ่อนแอหรอกนะ”

การสร้างความเข้มเข็งในช่วงที่ยากลำบากเป็นสิ่งที่สาวๆ Fifth Harmony เข้าใจเป็นอย่างดีเพราะพวกเธอได้เจอมาแล้วกับตัวเอง สมาชิกทั้ง 5 คนต่างออดิชั่นเข้ามาในรายการ The X Factor เพื่อเป็นศิลปินเดี่ยว แต่ภายหลัง Simon Cowell ตัดสินใจให้พวกเธอรวมเป็นวงเดียวกัน ทำให้จากคนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนร่วมวงที่สนิทสนมกันเพียงช่วงข้ามคืน “ความเป็นเพื่อนระหว่างพวกเราเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดค่ะ พวกเราต้องการจะผ่านเข้ารอบต่อไป เราก็เลยไม่มีเวลาจะมาพูดคุยเรื่องเล็กๆน้อยๆหรือพูดว่า “ฉันก็ชอบสีชมพูเหมือนกัน!” อะไรแบบนั้น แต่สุดท้ายแล้วเราก็สนิทกันเร็วมากๆเพราะเราต้องอยู่รอดในรายการ” Camila กล่าว

หลังผ่านพ้นช่วงเวลาที่วุ่นวาย และการปรับตัวเข้าหากัน สาวๆ Fifth Harmony ก็พบว่าพวกเธอทั้ง 5 คน มีเคมีที่เข้ากันสุดๆ ซึ่งช่วยให้พวกเธอสามารถก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคงหลังจากรายการ X- Factor สิ้นสุดลง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ “Better Together” ผลงาน EP ชุดเปิดตัวของ Fifth Harmony  ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2013 ซึ่งคว้าอันดับที่ 6 ในชาร์ต Billboard Top 200 กลายเป็นอัลบั้มที่ทำอันดับได้สูงที่สุดในบรรดาผลงานของศิลปินจาก The X- Factor ฝั่งอเมริกา นอกจากนี้ พวกเธอยังได้แสดงในรายการโทรทัศน์และงานต่างๆมากมาย อาทิ The Today Show, Ellen, Arsenio, LIVE With Kelly and Michael, The American Music Awards pre-show และ Macy’s Thanksgiving Day Parade และส่งท้ายปี 2013 กับการร่วมแสดงกับศิลปินระดับแนวหน้าอย่าง Miley Cyrus, Ariana Grande, และ Austin Mahone ในคอนเสิร์ต Jingle Ball ที่จัดแสดงทั่วอเมริกา ทั้ง 5 สาวยังได้รับรางวัล ‘Breakout Artist of  The Year’ และ ‘Best Song To Rock Out To With Your BFF’ (จากเพลง “Miss Movin’ On” ใน EP “Better Together”) จากงาน Radio Disney Music Awards ประจำปี 2014 ในเดือนเมษายน รางวัลต่างๆเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่ล้นเหลือของพวกเธอ และทำให้ Fifth Harmony คว้ารางวัล ‘Artist to Watch’ จากงาน MTV Video Music Awards ไปครองอย่างงดงาม “การที่พวกเราชนะรางวัลในงาน VMA ทั้งที่ยังไม่ได้ออกอัลบั้มเต็มมันวิเศษมากค่ะ รู้สึกราวกับฝันไปเลย” Dinah กล่าว พวกเธอยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Teen Choice Awards ประจำปี 2014 ถึงหกสาขา  และได้รับรางวัล Choice Single: Group ด้วยเพลง “BO$$” ต่อมาในเดือนตุลาคม  สาวๆ Fifth Harmony ก็ชนะรางวัล ‘Best U.S. Act’ และ ‘Best North American Act’ซึ่งส่งให้พวกเธอได้เข้าชิงรางวัล ‘Best Worldwide Act’ ในงานประกาศรางวัลระดับโลกอย่าง MTV Europe Music Awards อีกด้วย

ท่ามกลางความสำเร็จมากมายในปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงก็คือบรรดาแฟนเพลงที่เหนียวแน่น ที่เรียกตัวเองว่า “Harmonizer” ซึ่งมีทุกเพศ ทุกวัย และมาจากทั่วทุกมุมโลก เหล่า Harmonizer เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เพจ Official Facebook ของ Fifth Harmony มียอดไลค์มากกว่า 4.2 ล้านไลค์และมีผู้ติดตามมากกว่า 1.6 ล้านคนทาง Twitter ยังไม่รวมถึง account ส่วนตัวของสมาชิกแต่ละคน “การติดต่อกับแฟนๆเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับพวกเราค่ะ” Ally พูดถึงการที่พวกเธอมักปรากฏตัวในโลกโซเชียลเสมอๆ “พวกเราเองก็เคยผ่านเรื่องราวต่างๆมากมายเหมือนกับสิ่งที่แฟนๆของเราเจอ เราก็เลยอยากช่วยพวกเขาในทุกทางที่เราทำได้ค่ะ”

ในขณะที่ทำอัลบั้ม “Reflection” สาวๆ Fifth Harmony พบว่าพวกเธอเป็นหนึ่งเดียวกันมากกว่าที่เคย Lauren กล่าวว่า “แม้ว่าพวกเราจะมาจากคนละที่ แต่พวกเรามีเป้าหมายเดียวกันและเราก็รู้ว่าจะควรทำงานด้วยกันอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ” Fifth Harmony สร้างสรรค์ดนตรีแบบใหม่ในอัลบั้มโดยการผสมผสานรสนิยมด้านดนตรีของสมาชิกแต่ละคนลงไปในเพลง อย่างเช่น Ally ชื่นชอบ Jennifer Lopez, Dinah ชื่นชอบ Etta James ส่วน Camila เป็นแฟนตัวยงของ Taylor Swift ในขณะที่ Normani ปลื้ม Beyoncé มากๆ และ Lauren ก็หลงรักสไตล์เพลงของ Amy Winehouse และ Lana Del Rey การรวมสไตล์เพลงที่ชอบบวกกับพลังเสียงที่น่าทึ่งของทั้ง 5 สาวทำให้ผลงานของพวกเธอออกมาดีเยี่ยม Ally กล่าวว่า “พวกเราทุกคนเริ่มต้นจากความพยายามในการเป็นศิลปินเดี่ยวค่ะ ซึ่งพวกเรามีความกล้าพอที่ออกผลงานเดี่ยว แต่ตอนนี้เราเป็นวงเดียวกันและทุกคนก็ช่วยเหลือกันและกัน ซึ่งทำให้พวกเราแข็งแกร่งขึ้นไปอีกเวลาที่พวกเรารวมตัวกัน”

รายชื่อเพลงในอัลบั้ม “REFLECTION”

1.    Top Down

2.    BO$$

3.    Sledgehammer

4.    Worth It (Feat. Kid Ink)

5.    This Is How We Roll

6.    Everlasting Love

7.    Like Mariah (Feat. Tyga)

8.    Them Girls Be Like

9.    Reflection

10.  Suga Mama

11.  We Know

DELUXE EDITION:

12.  Going Nowhere

13.  Body Rock

14.  Brave Honest Beautiful (Feat. Meghan Trainor)