ใครที่เป็นแฟนหนังของสุดยอดผู้กำกับของเมืองไทย “ก้องเกียรติ โขมศิริ” เตรียมล้างตาดูผลงานเรื่องใหม่ของเขากันไว้ได้เลย เพราะล่าสุดผลงานเรื่องใหม่ที่มีชื่อว่า “ขุนพันธ์” ภาพยนตร์แอ๊คชั่นฟอร์มยักษ์ประจำปีของค่ายใบโพธิ์ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” ร่วมกับ “บาแรมยู” ก็ได้ฤกษ์บวงสรวงไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งงานนี้เหล่านักแสดงคุณภาพก็มาร่วมพิธีกันอย่างครบครัน นำทีมโดย “อนันดา เอเวอริ่งแฮม” ที่มาสวมบท “ขุนพันธ์” ตำนานยอดตำรวจวีรบุรุษที่มีฉายาว่า “นายพลหนังเหนียว” ผู้มีตัวตนจริงอยู่ในประวัติศาสตร์ ร่วมด้วย “กฤษดา สุโกศล แคลปป์” ที่มาสวมบทวายร้ายคู่ปรับของขุนพันธ์ รวมไปถึงนักแสดง เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง, กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร, แฟรงค์เดอะสตาร์-ภคชนก์ โวอ่อนศรี, สนธยา ชิตมณี, กานต์พิสชา เกตมณี ซึ่งในหนังเรื่องนี้ได้เล่าถึง ขุนพันธ์ ผู้เป็นทั้ง นักสืบ มือปราบ และ จอมขมังเวทย์ ซึ่งยังคงเป็นที่เคารพและศรัทธาของเหล่าตำรวจ และ เป็นสัญลักษณ์ของความดีในสมัยนั้น ซึ่ง “ก้องเกียรติ โขมศิริ” พูดถึงแรงบันดาลใจในการหยิบยกเรื่องราวของบุคคลในตำนานมาสร้างเป็นหนังว่า
“แรงบันดาลใจมาจาการที่ผมอยากทำเรื่องของคนดีๆ คนหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะมีแรงบีบคั้นจากบ้านเมือง จากภาวะต่างๆ แต่เค้าก็เชื่อมั่นที่จะทำความดี เพื่อแผ่นดิน ทำเพื่อในหลวง คือมีอยู่ภาพหนึ่งในหนังสืองานศพ ที่ท่านต่อเทียนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วขุนพันธ์ต่อเทียนเล่มนั้นมา ผมก็เรียกทีมงานมาแล้วบอกว่าเราจะสร้างหนังเรื่องนี้จากภาพๆ นี้ เราจะเป็นเทียนเล่มต่อไป เราจะเป็นเทียนต่อจากท่านนะ แต่เราจะไม่ทำหนังแบบยัดเยียดแบบว่าให้คนรู้ว่าท่านคือคนดีนะ แต่เขาเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เจอปัญหาจริงๆ ซึ่งเป็นปัญหาที่หนักกว่าสมัยนี้มาก เราตั้งใจจะต่อเทียนเล่มนั้นต่อจากท่าน ในฐานะคนทำหนัง หลายๆ ครั้ง ที่เราทำเพื่อบำบัดตัวเอง แต่จังหวะหนึ่งในชีวิตเราก็คิดว่า เราจะทำหนังยังไงให้เกิดประโยชน์กับคนอื่นในแบบที่เราถนัดนะ เราจะให้อะไรกับคนดู นอกจากความบันเทิง ความมันส์ที่ต้องให้กับคนดูอยู่แล้ว เราก็คิดว่าคุณงามความดีที่อยู่ในตัวหนังนี้จะมีผลต่อประเทศชาติ ตอนนี้ผมเชื่อว่าบ้านเมืองเราต้องการสัญลักษณ์ที่จะบอกว่าคนดีมีที่อยู่ ไม่ใช้คนขี้โกงที่มีพื้นที่”
นอกจากนี้ “ก้องเกียรติ โขมศิริ” ยังพูดถึงการจับเอาสุดยอดนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทย อย่าง “อนันดา เอเวอริ่งแฮม” และ “น้อย วงพรู” มาเป็นคู่ปรับกันในหนังเรื่องนี้ว่า
“คือจริงๆ มันจะเป็นแอ๊คชั่น ซึ่งสัดส่วนของความเป็นดราม่ามันก็ยังมีอยู่บ้าง ผมยกตัวอย่างอย่างเรื่องฮีทที่เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง อัลปาชิโน่ กับ โรเบิต เดนีโร อันนี้คือการเปรียบเทียบ แต่ตอนนี้ถ้านึกถึงนักแสดงที่มีอินเนอร์มากๆ ในประเทศไทย ก็คืออนันดาที่มารับบทขุนพันธ์ ตัวร้ายคือพี่น้อยวงพรูที่ชื่อว่าอะแวสะดอ แค่นี้มันก็ก่อให้เกิดดราม่าโดยธรรมชาติแล้ว พลังงานของสองคนนี้มาเจอกันมันก็เกิดแอ๊คชั่นได้แล้ว”
ใครที่รอดูผลงานของสุดยอดผู้กำกับ “ก้องเกียรติ โขมศิริ” และเหล่าสุดยอดนักแสดงของเมืองไทย ต้องอดใจรอ “ขุนพันธ์” ปีนี้ได้ดูกันแน่