โดยทางสโมสร ก็ได้มอบเสื้อในการลงแข้งหมายเลข 7 ให้กับ ไผ่ พงศธร ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทางไผ่ ขอมา เพราะเจ้าตัวชื่นชอบ “เดวิด เบคแคม” อดีตนักฟุตบอลสโมสรชื่อดัง “แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด” ที่ใส่เสื้อหมายเลข 7 เหมือนกัน
คุณกริช ทอมมัส ให้เหตุผลว่า “ดนตรี กับ กีฬา สามารถไปด้วยกันได้เสมอ ไม่มีข้อจำกัด อย่าง ตูน บอดี้แสลม ก็เป็นทั้งนักร้องในขณะเดียวกัน เล่นปิงปอง และวิ่งมาราธอน โดยที่ก็ไม่ได้ทิ้งความฝันของตัวเองไปแม้แต่น้อย มันเป็นเรื่องที่ดี และ ‘ไผ่ พงศธร’ ยังถือเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนที่ใฝ่ดีด้านกีฬาด้วย”
นายประสิทธิ์ อิทธิกำจร ผู้อำนวยการสโมสรธนบุรี ซิตี้ เปิดเผยว่า “สาเหตุที่เราดึงคุณไผ่ เข้ามาก็เพราะ เห็นฝีไม้ลายมือของคุณไผ่ มาบ้างจากการที่เขาร่วมลงแข่งในแต่ละครั้ง ประจวบกับมีคนแนะนำมา ที่สำคัญ ผมมองว่า ไผ่ พงศธร คือศิลปินรากหญ้าที่ทุกคนสามารถแตะต้องได้ และคิดว่าจะเป็นนักเตะมืออาชีพได้ไม่ยาก จึงทาบทามเขาเข้าร่วมแข่ง และได้มีการมาขออนุญาตกับทางคุณกริช ทอมมัส อย่างเป็นทางการ ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ”
ส่วนทางฟาก ไผ่ พงศธร พอหลายคนทราบต่างก็เกรงว่าจะหันหลังให้กับการร้องเพลง ซึ่งเป็นอาชีพที่เจ้าตัวใฝ่ฝันและทำมันมาได้ดีตลอด ซึ่งเจ้าตัวขอชี้แจงไว้ ณ ที่นี้ว่า “ผมยังคงร้องเพลงเหมือนเดิม ไม่ได้คิดที่จะหันหลังหรือแขวนไมค์ แม้แต่น้อย เพราะยังไงการร้องเพลง ก็คือสิ่งที่ผมรักมากที่สุดอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการเข้าร่วมทีมกับทางสโมสร “ธนบุรี ซิตี้” ก็เพราะมีคนรู้จักเสนอชื่อผมไป พอทางสโมสรให้โอกาสผม ก็รู้สึกเป็นเกียรติและดีใจมากๆ ครับ ต่อไปนี้ผมก็ต้องฟิตร่างกายมากยิ่งขึ้น เพราะจะไม่ใช่เล่นๆ อีกต่อไป แต่การลงแข้งในแต่ละนัดของผม ก็จะดูคิวร้องเพลงเป็นหลัก ถ้าว่างจากงานคอนเสิร์ต ถึงจะมีโอกาสได้ลงแข่งครับ ซึ่งตอนนี้ผมขอฟิตร่างกายให้เต็มที่ก่อน ส่วนจะอยู่ตำแหน่งไหนก็แล้วแต่ดุลพินิจของทางสโมสรอีกทีครับ”