ตรีอมร พลัส ร่วมกับ สตาร์ ซีนิม่า โปรดักชั่นส์ ผู้สร้างภาพยนตร์แห่งฟิลิปปินส์ ภูมิใจเสนอภาพยนตร์รักโรแมนติกแห่งปี ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกของ 2 ดาราซุปเปอร์สตาร์ไทย มาริโอ้ เมาเร่อ และฟิลิปปินส์ อีริค กอนซาเลซ พร้อมด้วยดาราสาวคู่ขวัญมาริโอ้จากภาพยนตร์ร้อยล้านอย่าง “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า..รัก” ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ รวมทั้งดาราสาวผู้มากความสามารถและสร้างความประทับใจจาก “คู่กรรม” อาภาศิริ นิติพน
มาริโอ้ เมาเร่อ คือดาราหนุ่มหน้าหวานที่คงไม่มีแฟนหนังไทยคนไหนที่ไม่รู้จัก จาก “รักแห่งสยาม” ที่สร้างชื่อให้หนุ่มโอ้ จนมาถึง “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า..รัก” ที่ทำเงินกว่าร้อยล้านบาท และล่าสุดกับภาพยนตร์ไทยสุดอื้อฉาวอย่าง “จัน ดารา ปฐมบท” ที่พิสูจน์หนุ่มโอ้ว่าแม้แต่บทที่ต้องใช้ฝีมืออย่างยิ่ง เขาก็สามารถฝากบทบาทบนจอหนังได้อย่างน่าประทับใจ แต่สำหรับ “มหัศจรรย์รักกับสิ่งเล็กๆ” หนุ่มโอ้กับหน้าใสๆได้สร้างความชื่นชมแก่ทีมงานชาวฟิลิปปินโนที่มีโอกาสได้ร่วมงานกันอย่างมาก เพราะแม้จะเป็นหนังรักโรแมนติก แต่เมื่ออยู่ในบทที่ต้องใช้อารมณ์ร่วม ทั้งบทรัก บทเศร้าและบทที่ต้องใช้อารมณ์โกรธ มาริโอ้ได้พิสูจน์ว่าเขาไม่ได้เป็นหนุ่มที่ใช้รูปร่างหน้าตาแสดงหนังเพียงเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในฉากเลิฟซีนเกือบทั้งเรื่องกับดาราสาวชาวฟิลิปปินโนผู้มีใบหน้าละม้ายดาราสาวไทยคนหนึ่ง อีริค กอนซาเลซ ซึ่งแม้จะต่างกันทั้งภาษาและความคุ้นเคย พวกเขาทั้งคู่กลับแสดงได้อย่างเข้าขากันดีเหมือนกับว่าเคยเล่นหนังด้วยกันมาแล้วหลายเรื่อง
ทีมงานได้ใช้โลเกชั่นหลากหลายที่ทั้งในเมืองไทยและประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งได้รับสมญานามว่าดินแดนหมื่นเกาะ ทำให้แฟนหนังจะมีโอกาสได้เห็นท้องทะเลกับฟ้าสวยๆหลายซีนด้วยกัน จนแม้แต่มาริโอ้ยังยอมรับว่าประทับใจกับความสวยงามของฟิลิปปินส์ซึ่งสมกับเป็นประเทศหมู่เกาะจริงๆ แต่เมืองไทยก็มิได้น้อยหน้าเช่นกัน เพราะสาวหน้าหวานอย่างอีริคที่ไม่เคยมาเมืองไทยมาก่อนยังถึงกับตกตะลึงกับความสวยงามของทิวทัศน์ที่กลมกลืนกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแยกไม่ออก แต่สิ่งหนึ่งที่ดาราทั้งสองชาติยอมรับตรงกันก็คือ ทั้ง 2 ประเทศมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่างทั้งหน้าตาผู้คนที่แทบจะแยกกันไม่ออก และชีวิตความเป็นอยู่อันเรียบง่ายและยึดมั่นในความเชื่อของชนชาติตน จนไม่ว่าจะถ่ายทำในโลเกชั่นฟากไหนก็ไม่ต่างอะไรกับอยู่ในบ้านของตัวเองเลย ซึ่งทั้งมาริโอ้และอีริคก็คาดหวังเช่นกันว่า แฟนหนังของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นชาติใดเมื่อดูภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ในโรงคงจะยอมรับได้ไม่ยากว่า ถึงมาริโอ้จะเป็นคนไทย และอีริคจะเป็นฟิลิปปินโน แต่ไม่ได้มีความแตกต่างแต่ประการใด นอกจากความประทับใจที่ทุกคนจะได้รับจาก “มหัศจรรย์รักกับสิ่งเล็กๆ” นั่นเอง
เรื่องราวใน “มหัศจรรย์รักกับสิ่งเล็กๆ”
ความล้มเหลวของภาพยนตร์ 2 เรื่องล่าสุดที่ไม่มี ศริริต้า (ใบเฟิร์น) เล่นด้วย ทำให้ในที่สุดการประกบกันของอดีตคู่รักคู่หวาน ศรีริต้าและมาคัส (มาริโอ้) จำเป็นต้องเกิดขึ้น แม้ว่าในใจของมาคัสจะเป็นทุกข์กับการกลับมาใกล้ชิดกันของพวกเขาก็ตาม มาคัสฝืนถ่ายทำจนจบทั้งๆที่ขมขื่น ความพยายามของสื่อข่าวบันเทิงที่คิดจะจับคู่พวกเขาอีกครั้งยิ่งทำให้มาคัสเหนื่อยหน่ายกับชีวิตในเมืองไทย การเป็นซุปเปอร์สตาร์ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งกับการที่ต้องถูกแม่ตัวเอง (อาภาศิริ) ขีดเส้นให้เดินตามตลอดเวลา สุดท้ายด้วยคำแนะนำของแม่บ้านชาวฟิลิปปินโนทำให้มาคัสตัดสินใจหนีไปพักร้อนที่ฟิลิปปินส์อย่างเงียบเชียบที่สุด
ที่รีสอร์ทมาคัสได้พบผู้หญิงคนหนึ่ง โจอี้ (อีริค) เป็นนักทำเบเกอรี่ที่รักงานเท่าชีวิต เธอรู้สึกโมโหเมื่อมาคัสวิจารณ์คัพเค้กของเธอว่าไม่ถูกปาก ทั้งคู่เหมือนจะกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันทันที แต่เมื่อมาคัสทราบจากปากของเธอว่า การวิจารณ์โดยไม่คิดให้ดีอาจจะทำให้เธอเสียสิ่งที่รักตลอดไป เขาก็เริ่มรู้สึกประทับใจในตัวโจอี้ ถึงกับอ้อนวอนขอร้องให้เธอช่วยเป็นไกด์นำเที่ยวในฐานะเจ้าถิ่น คนในร้านต่างเชียร์ให้โจอี้รับปากเพราะต้องการให้เธอหลงลืมอดีตเจ็บๆเสียที ทั้งมาคัสและโจอี้ไม่คิดว่าสิ่งเล็กๆอย่างคัพเค้กชิ้นหนึ่งจะทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันอย่างรวดเร็ว ในที่สุดมันก็กลายเป็นรักต่างเชื้อชาติ ซึ่งแม้เมื่อถึงกำหนดต้องเดินทางกลับแล้ว มาคัสกลับพบว่าสิ่งที่เขาต้องการที่สุดในชีวิตอยู่ที่ฟิลิปปินส์นี่เอง
แต่แม่ของมาคัสที่สืบจนรู้ว่าลูกชายมากบดานอยู่ที่นี่ ตามมาบังคับให้มาคัสรีบกลับเมืองไทยด่วนก่อนจะเสียงานทุกอย่าง มาคัสตัดสินใจพาโจอี้ไปกับเขาด้วย โจอี้ตกลงไปโดยไม่รู้ว่าจะพบอะไรข้างหน้า แต่สิ่งที่เธอพบกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ มาคัสคือซุปเปอร์สตาร์ที่แฟนหนังคลั่งไคล้ นอกจากศรีริต้าแล้วทุกคนไม่ยอมรับผู้หญิงหน้าไหนทั้งสิ้น การมาของโจอี้กำลังจะทำให้อาชีพดาราของมาคัสตกต่ำ เธอตระหนักมันได้ด้วยตัวเองในไม่ช้า แม้แต่มาคัสเองก็เริ่มที่จะเครียดกับความสัมพันธ์ที่กำลังจะทำให้ทุกอย่างพังทลาย ท้ายที่สุดโจอี้ตัดสินใจที่จะกลับบ้าน เพื่อให้มาคัสได้ค้นหาตัวตนที่แท้จริงอีกครั้ง รวมทั้งตัวตนของตัวเธอเองด้วย
ความฝันนั้นไม่บ่อยที่จะเป็นจริงเสมอไป โจอี้แม้จะทราบดีถึงความจริงนี้ แต่กับรักต่างเชื้อชาติที่เกิดขึ้นหนนี้ เธอได้แต่หวังว่าบทสรุปของมันจะเหมือนกับเทพนิยายทุกเรื่องในโลก.