เปิดฉากอย่างสวยงามสำหรับงานคอนเสิร์ต “จางฮุ่ยเม่ย” A-MEI | Amit “ UTOPIA 2016 World Tour ของซุป’ตาร์ดีว่าสาวแห่งเกาะไต้หวัน เมื่อค่ำคืนวันที่ 16 เมษายน 2559 ณ รอยัลพารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน ที่ผ่านมากับบรรยากาศส่งท้ายวันสงกรานต์ เพื่อให้สมกับการมาเปิดการแสดงครั้งแรกในเมืองไทยงานนี้ อาเม่ย เจ้าของฉายา “มาดอนน่าแห่งเกาะไต้หวัน” ก็เลยขนเพลงฮิตทั้งเก่าใหม่แถมเพลงพิเศษที่มีแค่คอนเสิร์ตในประเทศไทยเท่านั้น มาเอาใจแฟนๆ ในเมืองไทยร้องสดถึง 34 เพลง พร้อมยังมีเซอร์ไพรส์แขกรับเชิญสุดหล่อ “หวงจิ่งอวี๋” จากซีรี่ส์ฮิตทางเว็บ “Addicted & Heroin” ถูกใจทั้งแฟนชาวไทย ชาวจีน นั่งไม่ติดเก้าอี้เต้นกระโดดจนฮอลล์สะเทือน ร้อนระอุตลอด 3 ชั่วโมง!!!
โดยอาเม่ย เปิดตัวคอนเสิร์ตในมาดของ “Amit” ร็อคเกอร์สาวกับเพลงร็อคหนักๆ อย่าง “จ้านจือจี้” (Fighting Ceremony)จากอัลบั้มใหม่ล่าสุด Amit 2015 ต่อด้วยเพลง “ไคเหมินเจี้ยนซาน” (Straightforward) และเพลงรักเจ็บๆ เอาคืนแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” อย่างเพลง “เฮยชือเฮย” (Double Cross) สองเพลงจากอัลบั้ม Amit 2009 ซึ่งก็ทำให้ผู้ชมที่งานนี้มีทั้งชายจริงหญิงจริง และชายไม่จริง (ชาวสีรุ้ง ที่มีมากกว่าเจ็ดสิบกว่าเปอร์เซ็นต์) เครื่องร้อนกันขึ้นมาภายในพริบตา ทั้งร้องเต้นกันอย่างสุดเหวี่ยง ทำเอา อาเม่ย นักร้องเสียงดีคนนี้เอ่ยปากว่า “เพิ่งเริ่มคอนเสิร์ต แต่พวกคุณก็ High กันได้ขนาดนี้ พวกคุณนี่เกินไปจริงๆ นะ” ก็เลยเรียกเสียงฮาครืน
จากนั้น อาเม่ย ก็กล่าวทักทายกับผู้ชมครั้งแรกด้วยภาษาไทยว่า “สวัสดีค่ะ ฉันคืออาเม่ย” และบอกต่อว่า “คอนเสิร์ตรอบนี้เป็นรอบที่ 40 ของ A-MEI | Amit “ UTOPIA 2016 World Tour ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนอาจจะเคยได้เห็นกันกับการแสดงจากที่อื่นๆ มาแล้ว แต่ทุกท่านคะ วันนี้เราอยู่ที่กรุงเทพฯ กันเชียวนะ!!!” อาเม่ย กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและย้ำว่าในกรุงเทพฯ อยู่หลายครั้ง ทั้งนี้เพราะเธอเคยเปิดใจก่อนมาแสดงคอนเสิร์ตว่า เธอชอบเมืองไทยมากก็เลยมาเที่ยวบ่อย และฝันอยากมาเปิดการแสดงที่กรุงเทพฯ แล้ววันนี้ก็เป็นจริงแล้ว แต่กระนั้นเธอก็อดสงสัยไม่ได้ถึงกับเอ่ยปากถามว่า “ฉันได้ยินมาว่ามีหลายคนมาจากต่างประเทศ เลยอยากรู้ว่าในนี้มีคนไทยบ้างไหมคะ? หรือคนจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยบ้างไหมคะ” ปรากฏว่าก็มีคนยกมือกันไม่น้อยทีเดียว เธอก็ยังถามย้ำต่อว่า “แน่ใจนะ… จริงๆ นะ… ขอบคุณมากๆเลย” แต่อย่างไร อาเม่ย ก็ยังใช้ภาษาจีนกลางในการสื่อสารตลอดการแสดง เรียกว่ารักกันจริงต้องฟังกันรู้เรื่องสิน่า!!!
อาเม่ยที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ ด้วยเหตุนี้ทุกครั้งของการแสดงเธอจะบอกให้ผู้ชมทุกคนปลดปล่อยกันให้เต็มเหนี่ยวไม่ต้องเหนียมอาย “ ฉันอยากให้คิดว่านี่เป็นคอนเสิร์ตของทุกคน เป็นปาร์ตี้ที่ทุกคน มาสังสรรค์กัน” แถมย้ำอยู่ตลอดการแสดงว่า“คอนเสิร์ตเพิ่งเริ่มเอง และยังมีอีกยาวมาก ทุกคนไหวกันหรือเปล่า???? ” ปรากฎไม่ว่าจะร้องจะเต้นกี่เพลงก็ดูเหมือนคอนเสิร์ตจะเพิ่งเริ่มอยู่อย่างนั้น เพราะทุกคนดูจะร้องเต้นปล่อยของกันเหมือนกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ด้าน อาเม่ย ก็คุยเล่นเฮฮากับแฟนๆเหมือนกับรู้จักกันมาแสนนาน ด้วยความน่ารักและเป็นกันเองที่เป็นนิสัยส่วนตัวของเธอ จนทำให้เธอลืมตัวบ่อยๆ “ ซักเดี๋ยวพออาเม่ยออกมาค่อยมาคุยกับทุกคนอีกเยอะๆนะ พวกคุณก็รู้ฉันเป็นคนหยุดคุยไม่ได้ (หัวเราะขำ) แต่ตอนนี้ฉันต้องมาในมาด Amit ซึ่งจะต้องเข้มๆ หน่อย ถึงแม้ว่าอยากจะคุยกับทุกคน แต่กลัวว่าจะไปทำให้ทุกคนไปต่อที่อื่นกันไม่ได้ ก็ขอเบรกโชว์ต่อนะ”
หลังจากนั้นทั้งมาดดีว่าสาวอย่าง “อาเม่ย” และร็อกเกอร์สาวมาดเข้มอย่าง “Amit” ก็ผลัดกันออกมาสร้างความสนุกให้กับแฟนๆ สลับกันไปมาระหว่างเพลงรักซึ้ง เพลงเต้นมันๆ และเพลงร็อกหนักๆ ว่ากันตั้งแต่เพลงมันส์ๆ อย่าง “หนี่เสี่ยงก้านเสินเมอ” (What D’ya Want?) ที่มีเสียงแฟนๆ ร้องรับส่งกันกับอาเม่ยตลอดเพลง ตามด้วยเพลงจากอัลบั้มใหม่ Amit 2 เช่นเดิม ในเพลง “Jamaican Betel Nut” ที่ทำให้แฟนลุกขึ้นมากระโดดด้วยท่อนฮุคมันๆ ว่า “Get up! stand up! Get up! stand up!” ตามติดด้วยเพลง “เสี่ยซิงอ้ายฉิงกู้ซื่อ” (A bloody love story) (Amit 2) เพลงที่เปรียบเทียบความรักที่เจ็บปวด ราวกับว่าคนรักได้กินเลือดกินเนื้อจากร่างกายที่บอบช้ำและเดียวดายของเธอ ต่อไปเธอเลยขอให้ได้เขียนนิยายสยองขวัญให้กับเขาบ้าง…แล้วก็ตามด้วยเพลงจังหวะสนุกๆมันส์อีกหลายเพลง อาทิ “เที่ยวจิ้นหลาย” (Jump in) “หนี่ไจ้ค่านหว่อมะ” (Are you watching me) “A จี๋-อวี๋เล่อ” (First class entertainment) และ “Victoria’s Secret”
ก่อนมาพักเบรคกับบทเพลงรักซึ้งๆอย่าง “เพียนจื๋อเมี้ยน” (Faces of Paranoia) ต่อด้วยเพลง “เตี๊ยวเลอ” (Disappear) เพลงรักเศร้าๆ จากอัลบั้มชุด Amit ซึ่งในเพลงนี้แฟนๆช่วยกันร้องตามกันดังสนั่นฮอลล์เป็นบทเพลงที่กินใจ ร้องกันได้แทบทุกคนเลยทีเดียว เช่นเดียวกับเพลง “หว่อจุ้ยชินอ้ายเตอ” (My dearest) เพลงเศร้าๆ ซึ้งๆ จังหวะช้าๆ ก็ร้องตามได้กระหึ่มไม่น้อยหน้าเช่นกัน
แล้วก็มาถึงเพลงเมดเล่ย์ ที่ช่วงนี้ อาเม่ย จะนำบทเพลงที่สร้างชื่อและเพลงฮิตตั้งแต่เธอเข้าวงการมาจนถึงปัจจุบันมาร้อง “ต่อไปเราจะมาร้องเพลงที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว และถ้ากล้องไปจับที่ใครให้ทุกคนอ้าปากร้องกว้างๆ นะคะ ต่อให้ร้องไม่ได้ก็ให้อ้าปากร้องกว้างๆ เอาไว้ก่อน แต่ถ้าบังเอิญถ่ายแล้วไม่อ้าปากกัน ก็ต้องหันหน้าหลบนะคะ (แฟนๆ กรี๊ดรับโดยดี) เอาล่ะค่ะ ฉันไม่พูดแล้ว ไม่งั้นจะพูดไม่จบซักที ฉันไม่บอกว่าเพลงอะไรนะคะ ลองร้องตามกันดูนะคะ” ก็ว่ากันตั้งแต่เพลงซึ้งๆ อย่าง “หว่อเขออี่เป้าหนี่มะ” (Could I hold you) “เจี่ยนอ้าย” (Cut love) “ทิงไห่” (Listen to the sea) “เจี่ยทัว”(Relief) “หรูกั๋วหนี่เหย่ทิงซัว” (Have you heard lately?) “จี้เต๋อ”(Remember) “ฟาซาว”(Fever) “หย่งหย่วนเตอไคว้เลอ”(Forever happiness) เพลงสนุกๆ ภาษาฮกเกี้ยนภาษาพื้นถิ่นของไต้หวันอย่าง “ห่าวต่านหนี่จิ้วหลาย” (Bold for my love) “Bad boy”เพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มชุดที่สองในชีวิตของเธอ เพลงแดนซ์มันๆ ที่เคยสร้างยอดขายทะลุ 1 ล้านก๊อบปี้เป็นปีที่สองให้กับเธอ ก่อนจะเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้กับเพลงด้วยแดนเซอร์สาวในชุดบิกินี่สีชมพูสะท้อนแสงสุดเซ็กซี่ ที่มาพร้อมกับเพลง“ซานเทียนซานเย่” (Three days, three nights) บทเพลงที่เคยถูกห้ามร้องในคอนเสิร์ตที่ไต้หวันเพราะเกรงว่าคนดูจะกระโดดกันแรงมากเกินไปจนเกิดแรงสั่นสะเทือน แต่มีหรือเมืองไทยจะกลัวเมื่อเสียงเพลงดังขึ้นทุกคนก็ทั้งรัองและกระโดดกันอย่างสุดเหวี่ยงทั้งฮออล์จนรู้สึกพื้นไหวสะเทือน แล้วอาเม่ย และแดนเซอร์ ก็ช่วยดับร้อนด้วยการเอาปืนฉีดน้ำมาฉีดใส่ผู้ชม ถือเป็นการเล่นสงกรานต์ไปด้วยในตัว
อีกช่วงหนึ่งที่เรียกเสียงฮือฮา ปลุกแววตาผู้ชมให้ลุกโชนก็ในช่วงเซอร์ไพรส์กับแขกรับเชิญพิเศษ “หวงจิ่งอวี๋” พระเอกหนุ่มหล่อจากซีรี่ส์จีนเรื่อง “Addicted & Heroin” ที่ขึ้นมาร้องคู่กับอาเม่ยในเพลง“หว่อจื่อไจ้หูหนี่” (It’s you I only care about) เพลงซึ้งอมตะของนักร้องสาวชื่อก้องชาวไต้หวัน “เติ้งลี่จวิน” โดยอาเม่ยบอกว่านอกจากที่ไต้หวันแล้วก็มีที่เมืองไทยเป็นที่ที่สองที่เขามาเป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตให้ หลังจากร้องเพลงจบ หวงจิ่งอวี๋ ก็ทักทายกับแฟนๆ เป็นภาษาจีนว่า “สวัสดีครับแฟนๆ ชาวไทย ผมหวงจิ่งอวี๋ครับ และสวัสดีท่านผู้ชมชาวจีนด้วยนะครับ” ซึ่งก็เรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ชมล้นหลาม เขาสารภาพว่าซ้อมแค่ครั้งเดียวก็เลยรู้สึกตื่นเต้นมาก อาเม่ยก็เลยปลอบใจว่าไม่มีปัญหานี่ เพราะเธอก็เคยได้ยินเขาร้องเพลงมาแล้วและรู้ดีว่าเขาร้องได้ไม่เลวเลยจริงๆ แหมก็ทำเอาหนุ่มหล่อเรายิ้มโชว์เขี้ยวจนผู้ชมใจหวั่นไหวไปตามๆกัน
การได้พระเอกหนุ่มหล่อที่กำลังเป็นขวัญใจของสาววายและชาวสีรุ้งมาร่วมแจมในคอนเสิร์ต อาเม่ยก็เลยทำหน้าที่แทนแฟนๆพูดคุยหยอกล้อเรียกเสียงฮาครืน “อุ๊ยท่าทางเขาตื่นเต้นจัง ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกนะ นี่…เดี๋ยวฉันจับเขาแทนพวกคุณ(แฟนๆ) นะ บึ่กมากๆ เลย” ข้างฝ่ายหวงจิ่งอวี๋ ก็ยังย้ำเสมอว่าเขาตื่นเต้นมากๆ แหมก็นานทีปีหนจะได้มายืนข้างเจ้าแม่แห่งวงการเพลงจีนนี่นะ ระหว่างนั้นก็มีเสียงจากแฟนๆ (เสียงผู้ชาย) ตะโกนขึ้นมาว่า “ถอดเลยๆๆๆๆ” อาเม่ยได้ยินก็ตอบกลับไปว่า “ที่รักจ๊ะ เธอเห็นคอนเสิร์ตฉันเป็นที่แบบไหนกัน เอาล่ะ… คุณถอดเลยเถอะ” (หัวเราะเสียงดัง) ทำเอาหนุ่มหล่อออกอาการเขิน ส่วนผู้ชมพออกพอใจส่งเสียงกริ๊ดดังลั่น
อาเม่ย ถามต่อว่าเขาร้องเพลงของเธอได้บ้างไหม หวงจิ่งอวี๋ บอกว่า “เลือกมาได้เลยครับ” แล้วเพลงซึ้งๆ อย่าง “หว่อย้าวไคว่เลอ”( Desire for happiness) ก็ดังขึ้น ซึ่งร้องได้เพราะมากเสียด้วย ทำเอาอาเม่ย ต้องร้องคลอไปด้วย เลยกลายมาเป็นเพลงดูโอเพราะๆ น่าฟังมาก จากความน่ารักมุ้งมิ้งของหนุ่มหล่อทำเอาผู้ชมกรี๊ดไม่หยุดจนอาเม่ย ถึงกับแซวว่า “แหม มีหนุ่มหล่อมาสายตาของทุกคนดูไม่เหมือนเดิมเลยนะคะ แววตาดูเหมือนมีอะไรพิเศษออกมา ฉันไม่อยากให้เขายืนอยู่ตรงนี้นานๆ เพราะฉันเริ่มอิจฉาเขาแล้ว เอาเป็นว่าให้เขากลับเข้าไปก่อน ไว้ขึ้นมาใหม่ดีกว่ามั้ย ถ้าขึ้นมาอีกทีให้เขาถอดเสื้อด้วยนะ” ทำเอาแฟนๆ กรี๊ดเสียงดังกันทั้งฮอลล์
มาถึงเพลงสำคัญอีกเพลง “ไฉ่หง” (Rainbow) เพลงรักที่มอบให้แก่ “กลุ่มรักร่วมเพศ”ทั้งหลาย ซึ่งอาเม่ยบอกว่าถ้าหากกล้องจับไปที่ใคร คนคนนั้นจะต้องแสดงความรักต่อคนข้างๆ ด้วยการ “จูบ” แต่เอาคนที่รู้จักเท่านั้น เว้นแต่เขาจะอนุญาต ซึ่งก็เป็นดังนั้นจริงๆ เมื่อกล้องจับไปที่ใครไม่ว่าจะเป็นคู่ชายชาย หรือชายหญิงก็จูบกันไปทุกคู่ แล้วกลุ่มชาว “สีรุ้ง” ก็พากันชูธงสีรุ้งกันทั่วฮอลล์ แสดงให้เห็นชัดว่าอาเม่ยเป็นขวัญใจของชาว “สีรุ้ง” จริงๆ
ช่วงพิเศษอีกช่วงที่อาเม่ยบอกว่าเพลงต่อไปนี้เธอเพิ่งจะเพิ่มเข้าไปเพื่อคอนเสิร์ตรอบนี้โดยเฉพาะ นั่นก็คือเพลง “ตานเยี่ยนผี” เพลงฮิตติดหูของไชน่าดอลในเวอร์ชั่นภาษาจีนกลาง หรือที่คนไทยรู้จักกันในเพลง “ก็หมวยนี่คะ” นั่นเอง ตามมาด้วยเพลง” Club Broken Heart” หรือเพลง “คู่กัด” ในเวอร์ชั่นภาษาจีนกลาง ซึ่งก็ถูกออกถูกใจทั้งแฟนเพลงชาวไทยและชาวจีนกันมากๆ ทีเดียว เพราะทั้งร้องทั้งเต้นกันกระจาย
และมาถึงช่วงสุดท้ายของคอนเสิร์ตอาเม่ย กล่าวขอบคุณผู้จัด บริษัท วัน ซีสเท็มส์ โปรดักชั่น ( One Systems Production) ทีมงานและแฟนๆ ทุกคน จากนั้นก็ทิ้งท้ายคอนเสิร์ตด้วยท่อนเพลงฮิตตลอดกาลของเธออย่าง “หยวนไหลนี่เสินเมอโตวปู้เสี่ยงย้าว” So You Actually Don’t Want Anything At All” แล้วอาเม่ย ก็กลับเข้าไปหลังเวทีแต่ผู้ชมก็พร้อมใจตะโกน “แองโค่ๆๆๆๆ” กันดังลั่น จนในที่สุดไฟบนเวทีก็กลับมาสว่างอีกครั้ง อาเม่ยบอกว่าเธอจะไม่ร้องเพลงนี้ไม่ได้เพราะเป็นเพลงที่มีความสำคัญกับเธอมากๆ นั่นก็คือเพลง “เจี่ยเม่ย” (Sisters) เพลงชื่อเดียวกับอัลบั้มแรกในชีวิตของเธอ และเป็นเพลงที่ทำให้ทุกคนได้เริ่มรู้จักเธอนั่นเอง แม้จะเป็นเพลงสุดท้ายจริงๆแต่แฟนๆ ทุกคนก็เหมือนกับยังแรงไม่ตก พากันร้องเสียงดังกันจนจบเพลง เป็นการปิดฉากคอนสิร์ตในไทยของนักร้องสาวจีนคนดัง “จางฮุ่ยเม่ย” อย่างสวยงาม และร้องแรงที่สุดส่งท้ายสงกรานต์อีกด้วย