“หนวดเขี้ยว” อาจเป็นภาพจำที่ทุกคนนึกถึง “ท่านขุนพันธ์ พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช” ท่านคือวีรบุรุษมือปราบ คือนายตำรวจหนังเหนียวผู้มีจิตศรัทธาอันแรงกล้า ในการผดุงความยุติธรรม ไม่ก้มหัวให้คนเลวหน้าไหน เป็นตัวอย่างและต้นแบบของตำรวจดีๆ ที่เคยมีอยู่จริงในประเทศไทย นอกจากความดีอันเป็นที่ตั้งแล้ว การรับมือกับศัตรูที่คงกระพันหนังเหนียว ยิงแทงไม่เข้า ท่านก็มีวิชามีความสามารถพิเศษ เรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน อาคมต่ออาคม ที่เหล่าโจรร้ายเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์ ยังต้องก้มหัว เมื่อเป็นภาพยนตร์ของวีรบุรุษมือปราบ 108 ปี ผู้เป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ ย่อมเป็นตัวจุดประกาย และสร้างแรงบันดาลใจให้คนอีกหลายล้านคนได้ตระหนัก และเห็นพ้องต้องกันที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อประกาศให้รู้ว่า “คนดี” ยังมีอยู่ และมีเยอะกว่า “คนเลว” ซึ่ง อนันดา เอเวอริงแฮม ซุปเปอร์สตาร์ชายที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถ บทไหน แสดงเรื่องอะไร ยอมทุ่มสุดตัว ไม่ห่วงลุค ผู้รับบท “ขุนพันธ์” ก็ถือเป็นเกรียติอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ถ่ายทอดบางช่วงบางตอน ของเรื่องราวในชีวิตท่าน
“ ตัวขุนพันธ์เองท่านเป็นคนที่แลกทุกอย่างด้วยความดีครับ ท่านไม่ใช่คนธรรมดา เอาแค่จำนวนของโจรที่ท่านปราบนี่คือเป็นหลักร้อย คือท่านเป็นนายตำรวจ ที่อาจจะนับว่าสุดยอดที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยก็ว่าได้ ถ้าให้คำจำกัดความ ท่านขุนพันธ์คือนักสู้ นักล่า แล้วก็นักต่อรองครับ อาวุธหลักของท่านก็จะมีปืนแล้วก็ดาบ ตัวท่านขุนพันธ์เองจะมีประโยคเด็ดของท่านเวลาไปจับโจร เป็นประโยคที่ผมชอบมากครับ ถ้าพวกมึงสัญญาเลิกเป็นโจรแล้วไปบวชซะ กูสัญญาว่าจะจับเป็นพวกมึง เป็นประโยคที่เท่มากของขุนพันธ์ครับ ชอบมาก คือมันก็ได้เห็นว่า ขุนพันธ์เอง ท่านก็เป็นคนที่เหี้ยม แต่ว่าก็แฟร์ ซึ่งอันนี้ก็มาจากประวัติศาสตร์จริงด้วย นอกจากนั้นก็จะมีความพิเศษอยู่ตรงที่ว่าท่านเป็นคนที่มีวิชาอาคม ยึดมั่นในความดี และนับถือความถูกต้อง ก็นับว่าเป็นเกียรติมากที่ได้มารับเล่น เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต โชคดีมากครับที่เขาเลือกผม ความประทับใจที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้มีเยอะมาก เพราะนับได้ว่าเป็นหนังสุดเกือบทุกทาง ตัวละครเราได้ทำในสิ่งที่ค่อนข้างพิเศษมาก แอ๊คชั่นที่ดุเดือด ที่สู้กันด้วยคาถาอาคม ซึ่งมันก็ให้อีกมิติหนึ่ง ซึ่งผมว่ามันไม่ค่อยได้เห็น ผมว่าสำหรับคนไทยมันจะเป็นฉากบู๊ที่พิเศษมาก การไล่ล่าระหว่าง 2 ตัวละครที่จะมีวิชาอาคมมีความสามารถเท่าเทียมกัน ฆ่าไม่ตายทั้งคู่ คือขุนพันธ์ ที่ต้องปราบอัลฮาวียะลูหัวหน้าโจรร้ายที่โหดเหี้ยม และยังไม่เคยมีใครสยบลงได้ซึ่งแสดงโดย พี่น้อย กฤษดา สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือต่างคนก็ทำด้วยเหตุผลที่ตนเองรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ว่าในโลกของ 2 คนมันอยู่ทั้งคู่ไม่ได้ สุดท้ายมันก็ต้องตายสักคนหนึ่ง มันต้องมีผู้แพ้ ซึ่งจุดนี้น่าสนใจมากอยากให้ได้ดูกันเพราะทุกคนยอมเหนื่อยและทุ่มสุดตัวมากๆ ในภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์ครับ”
เตรียมพบกับบทบาทล่าสุดของ อนันดา ในการสวมชีวิตเป็น “ขุนพันธ์” สุดยอดโปรเจกต์ภาพยนตร์แอ๊คชั่นฟอร์มยักษ์สุดมันส์ ที่ว่ากันว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่เรียกศรัทธา และตอกย้ำหน้าที่ที่พึงมีของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ บนผืนแผ่นดินนี้อย่างไร 14 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์