ขุนพันธ์ แรงบันดาลใจสำคัญอันเป็นต้นกำเนิดของ “ขุนพันธ์” ภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ประจำปี พ.ศ.2559 ของ สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล

“เมื่อตอนได้ข้อมูลของท่านมาเป็นหนังสืองานศพ  ในหนังสือเราจะเห็นว่ามีพวงหรีด จากในหลวง  พระราชินี  และ เชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์  จนเปิดไปด้านใน เราได้เห็นรูปถ่ายจริงรูปหนึ่ง  เป็นภาพของท่านขุนพันธ์ใส่ชุดนายตำรวจ ห้อยกระบี่ที่เอว ย่อตัวลงกำลังยื่นมือต่อเทียนเล่มหนึ่งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว….. ในความรู้สึกเราท่านคือ อัศวิน ท่านคือ ทหารพระราชา…  จากภาพนั้นทำให้เรารู้สึกว่านี่แหละคืองานเรา นี่ละโปรเจกต์นี้ ต่อเทียน เราสู้สุดชีวิตละ เราจะต่อเทียนกันต่อไป”  

ก้องเกียรติ โขมศิริ
ผู้กำกับและเขียนบท

ขุนพันธ์ลายสัก

เรื่องราวของ    ขุนพันธ์

จากเรื่องราวชีวิตของ ท่านขุนพันธ์ พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร์ พันธรักษ์)  ยอดตำรวจวีรบุรุษ ผู้มีตัวตนจริงอยู่ในประวัติศาสตร์ด้วยอายุยืนยาวถึง 108 ปี ผู้เป็นทั้งนักสืบ, มือปราบ และจอมขมังเวทย์ คือนายตำรวจผู้แกร่งกล้าด้วยอาคม บ่มเพาะความดี และมีจิตยึดมั่นในพลังแห่งศรัทธา เพื่อปราบปรามคนเลวที่ต้องการตัวมากที่สุดในแฟ้มอาชญากรรมของกรมตำรวจที่มีนับไม่ถ้วน

 สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ บาแรมยู ภูมิใจเรียกศรัทธาอันแรงกล้าคืนกลับผืนดินไทย สู่ปรากฎการณ์ ขุนพันธ์ สุดยอดภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี จากฝีมือเขียนบท-กำกับภาพยนตร์โดย ก้องเกียรติ โขมศิริ (ลองของ,ไชยา,เฉือน,อันธพาล) ควบคุมงานสร้างโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว พร้อมระดมทีมงานสร้างระดับแถวหน้าของเมืองไทยร่วมเนรมิตความยิ่งใหญ่ในโลกภาพยนตร์

ครั้งแรกของการเผชิญหน้าทางด้านการแสดงในระดับสุดยอดที่ทุกคนต้องขนลุก พร้อมการปะทะบทบาทแอ็คชั่นทุ่มสุดตัว ของ อนันดา เอเวอริงแฮม ในบท ขุนพันธ์ และ กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ในบท อัลฮาวียะลู พร้อมเชือดเฉือนบทบาทสุดเข้มข้นกับเหล่านักแสดงคุณภาพอย่าง เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง, กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร, แฟรงค์เดอะสตาร์-ภคชนก์ โวอ่อนศรี, สนธยา ชิตมณี พร้อมด้วย กานต์พิสชา เกตุมณี จาก แม่เบี้ย

ในขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังก่อตัวขึ้น ญี่ปุ่นเริ่มแผ่ขยายอำนาจรุกรานทั่วเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยที่กำลังเกิดการปฏิวัติทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่เพื่อเตรียมก้าวสู่โลกอารยะ เมื่อความเจริญเริ่มรุกล้ำแต่ผู้คนกลับขัดสนยากจน ถูกกดหัวอยู่ภายใต้อาณัติของเหล่าชุมโจรเสือร้ายที่ก่อร่างสร้างอิทธิพลไปทั่วหาได้หวั่นเกรงต่อกฎหมายแต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะมีข้าราชการใจคดขายชาติคอยชักใยหนุนหลังเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อยู่

จังหวัดชุมพร ปีพ.ศ.2481 ทั้งๆที่ปืนในมือเหลือกระสุนเพียงนัดเดียวแต่นายบุตร์ หรือ ร้อยตำรวจโท ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช (อนันดา เอเวอริงแฮม) นายร้อยตำรวจหนุ่มฝึกหัดก็ได้อาศัยความสามารถ และวิชาที่บ่มเพาะติดตัวมาเด็ดชีพ เสือสายหัวหน้าโจรผาแดง พร้อมลูกสมุนที่อุกอาจฮึกเหิมบุกเข้ามาปิดเมืองล้อมตำรวจได้เป็นผลสำเร็จ ขุนพันธ์เลือกที่จะทำในสิ่งที่ยังไม่เคยมีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์รายใดในประวัติศาสตร์เคยทำมาก่อน นั่นคือเสนอตัวในภารกิจลับที่เสี่ยงที่สุด อันตรายที่สุด โดยทิ้งชีวิตที่เหลืออยู่เป็นเดิมพันนั่นคือ การเสาะหาและออกไล่ล่าเพื่อปิดตำนานของ อัลฮาวียะลู (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) มหาโจรผู้โหดเหี้ยม ดุดัน แกร่งกล้า ฆ่าไม่ตาย ครองอิทธิพล แผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วภาคใต้ เป็นที่เลื่องลือกันว่ามหาโจรผู้นี้แกร่งกล้า

เพราะมีวิชาและของดีอยู่ในตัว สามารถเข้าไปในจิตของคู่ต่อสู้ มีกริชเป็นอาวุธ และมีวิธีสังหารเหยื่อพิสดารในดินแดนที่เต็มไปด้วยภยันตรายถิ่นฐานของ“อัลฮาวียะลู” ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก 2 พี่น้องชาวประมง ไข่โถ (สนธยา ชิตมณี) และ มาลัย (กานต์พิสชา เกตุมณี) ไม่เพียงให้ที่พักแต่ยังฝากงานในสโมสรงาช้างของหลวงโอฬาร (ภคชนก์ โวอ่อนศรี) ข้าราชการใหญ่ที่ทุกคนเคารพและยำเกรงให้อีกด้วย นอกจากนี้ขุนพันธ์ต้องเผชิญหน้ากับ 2 มือสังหารข้างกายของมหาโจรที่ว่ากันว่าคือนักฆ่าเลือดเย็น และไร้ความปราณีอย่าง เสือสัง (ชูพงษ์ ช่างปรุง) และบุหงา (พิมลรัตน์ พิศลยบุตร) พร้อมด้วยเหล่าทัพเสือโจรร้าย

ขุนพันธ์ได้รู้ความจริงว่าเมืองทั้งเมืองคือ ชุมโจรขนาดใหญ่ ชาวบ้านตกเป็นเครื่องมือโดยมีนักการเมืองใหญ่ ข้าราชการท้องถิ่นคอยชักโยงและอยู่เบื้องหลังเพื่อกอบโกยผลประโยชน์โกงกิน และขายชาติ การไล่ล่าและเผชิญหน้าระหว่างสุดยอดมือปราบ และมหาโจรฆ่าไม่ตายจึงอุบัติขึ้นท่ามกลางห่ากระสุน คาวเลือด และการต่อสู้

อาคมต่ออาคม ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือก เขาจะพิสูจน์ให้รู้ว่าแรงกระสุน หรือ จะสู้แรงศรัทธา

14  กรกฎาคมนี้   ทุกโรงภาพยนตร์

Khun-Phan_KA-TEASER_c3_r1_FINAL-(1)     

บทบาทและคาแรคเตอร์ตัวละครในขุนพันธ์

GUS_1026_resizeขุนพันธ์ รับบทโดย อนันดา เอเวอริงแฮม (ชั่วฟ้าดินสลาย,อุโมงค์ผาเมือง,ชัมบาลา,ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ)

ร้อยตำรวจหนุ่มอายุ 30 ปี เป็นคนมุ่งมั่น กล้าหาญ จริงจังและเปี่ยมด้วยคุณธรรม ยึดมั่นในความดี ความถูกต้อง ผู้พร้อมจะล้างกฏหมู่ด้วยกฏหมายและความศรัทธา ขุนพันธ์เป็นทั้งนักสู้ นักวางแผน และนักต่อรอง ผู้มีวิชาอาคมแกร่งกล้าและคงกระพัน มีปืนและดาบแดงเป็นอาวุธ ปราบเสือมาแล้วมากมาย จนกระทั่งได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกันที่สุดในชีวิต คู่ต่อสู้ที่จับเป็นยังไม่ได้ จับตายแทบไม่มีทาง เขาคือมหาโจร “อัลฮาวียะลู”

GUS_0585_resizeอัลฮาวียะลู รับบทโดย กฤษดา สุโกศล แคลปป์ (13เกมสยอง, อันธพาล, ลูกทุ่งซิกเนเจอร์)

มหาโจรผู้มีวิถีความเชื่อตามอุดมการณ์ที่ยึดถือ ผู้ยึดครองดูแลทุกอณูพื้นที่แห่งเทือกเขาบูโด โหด สุขุม เลือดเย็น ฉลาด มีไหวพริบ มีอุดมการณ์  พร้อมจะเชือดทุกคนที่ขวางทางได้อย่างไร้ซึ่งความปรานี มีกริชเป็นอาวุธหลักในการต่อสู้ เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยสักและร่องรอยการต่อสู้ทั่วร่าง มหาโจรอย่างอัลฮาวียะลู ฆ่าไม่ได้ ตายไม่เป็น เป็นคนมีของ  มีอาคมชั้นสูง คงกระพัน เป็นคู่ต่อกรของขุนพันธ์ที่กินกันไม่ลงทุกครั้งที่ได้เจอกันจะมีการปะทะเชือดเฉือนกันอย่างดุเดือด ตาต่อตา ฟันต่อฟัน อาคมต่ออาคม

IMG_7947_resizeเสือสัง รับบทโดย เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง

โจรอำมหิต นิ่ง เลือดเย็น ลูกน้องคนสนิทของอัลฮาวียะลูที่ฆ่าคนได้โดยไม่เคยลังเล บ้าคลั่งตั้งแต่คาแรคเตอร์ยันนิสัย สักยันต์ทั้งตัว ตั้งแต่หน้า คอ แขน หลัง อาวุธหลักของเสือสังคือคาลลัมบิด ทุกๆงานที่อัลฮาวียะลูไม่ได้ลงมือจะมีเสือสังเป็นคนจัดการก็จะสำเร็จทุกครั้งไป จนกระทั่งเจอขุนพันธ์ที่มาขวางทางปืน เมื่อถูกสั่งให้ล่าตำรวจหนังเหนียวคนนี้  เสือสังจะไม่ยอมหยุดล่าจนกว่าจะตายกันไปข้างนึง

บุหงา  รับบทโดย กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร

หนึ่งในนักฆ่าที่อยู่ใต้อำนาจของหลวงโอฬารคนขายชาติ และอัลฮาวียะลู สวย เท่ห์ โหด พูดน้อย ทำได้ทุกอย่างที่ไม่ต่างกับที่ผู้ชายอย่างเสือสัง เธอซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ใต้แว่นดำ ชุดทะมัดทะแมงและซิการ์มวนโตที่หยิบออกมาสูบบ่อยๆ มีปืนสั้นเป็นอาวุธและเก่งการสู้ประชิดตัว และเมื่อเขาพบขุนพันธ์ บุหงาก็รู้เลยว่าคู่ต่อสู้คนนี้ไม่ธรรมดา

GUS_9825_resizeหลวงโอฬาร รับบทโดย แฟรงค์เดอะสตาร์-ภคชนก์ โวอ่อนศรี 

ข้าราชการขี้ช่อ เลวในกมลสันดาน เจ้าเล่ห์ ช่างประจบสอพลอที่ซ่อนความเลวใต้รอยยิ้ม ขายชาติเพื่อความสุขของตัวเองโดยใช้อารยะ ความเจริญและการเมืองไต่เต้าสู้ความสำเร็จ เก่งเรื่องการวางหมากชั่วช้า เป็นคนบงการเรื่องเลวๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองนี้โดยไม่สนเรื่องความถูกต้อง ร่วมมือกับอัลฮาวียะลูทำเรื่องผิดกฏหมายและพร้อมจะจัดการทุกคน จนมาเจอก้างชิ้นใหญ่อย่างขุนพันธ์ เขาจึงต้องการกำจัดนายตำรวจคนนี้ออกไปให้เร็วที่สุด

GUS_9926_resizeมาลัย  รับบทโดย กานต์พิสชา เกตุมณี  (แม่เบี้ย)

สาวชาวบ้านที่อ่อนหวาน บริสุทธิ์   ที่เก็บความรู้สึกแสนเศร้าไว้ข้างใน ด้านนึงเธอคือน้องสาวที่อ่อนโยนสดใสของ ไข่โถ พี่ชายคนเดียวที่เธอมีอยู่ ส่วนอีกด้านเธอคือนักร้องเสียงดีประจำสโมสรงาช้างของหลวงโอฬาร ชีวิตเธอวนเวียนอยู่ซ้ำๆ จนกระทั่งขุนพันธ์ก้าวเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้

GUS_8267_resizeไข่โถ รับบทโดย สนธยา ชิตมณี (มหา’ลัยเหมืองแร่, ไชยา, อันธพาล, มนต์เลิฟสิบหมื่น)

พี่ชายของมาลัย ชาวเลจิตใจดี ผู้สืบสานวิถีอันดีของชาวใต้ อีกทั้งยังเป็นหลักที่พึ่งพิงทางจิตใจของหมู่บ้านชาวประมง ถูกอำนาจและอิทธิพลครอบงำมาช้านาน จนกระทั่งถึงเวลาที่เขาต้องลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องผืนน้ำและแผ่นดินเกิดของตน


สหมงคลฟิล์มฯเชิดชูขุนพันธ์วีรบุรุษมือปราบ108ปี

ไม่ใช่หนังอัตชีวประวัติหรือสารคดี 

แต่คือสุดยอดภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์เรื่องยิ่งใหญ่แห่งปีที่เกิดขึ้นด้วยแรงศรัทธา

จากเกร็ดในชีวิตจริงของ  พลตำรวจตรี ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจมือปราบชื่อดังผู้มีอายุยืนยาวถึง108ปีที่แม้แต่ขุนโจรยังเคารพ ศรัทธาและให้การนับถือ  เจ้าของฉายานายพลหนังเหนียว, ขุนพันธ์ดาบแดง, นายพลตำรวจหนวดเขี้ยว, รายอกะจิ(อัศวินพริกขี้หนู) ฯลฯ ผู้กำราบและสยบเสือร้ายในตำนานที่โด่งดังในแฟ้มอาชญากรรมของกรมตำรวจที่ไม่เคยมีผู้ใดปราบได้มาก่อนอย่าง เสือมเหศวร, เสือฝ้าย, เสือดำ, เสือใบ และอีกต่อหลายคน คือ ต้นแบบของตำรวจดีผู้ผดุงความยุติธรรมที่เคยมีอยู่จริงบนผืนแผ่นดินไทย  ถูกนำมาถ่ายทอดเป็น “ขุนพันธ์” ภาพยนตร์แอ็คชั่นเหนือจริง ฟอร์มยักษ์ ที่ สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล มั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์ทางด้านภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปีพุทธศักราช 2559 ที่ทุกคนต่างเฝ้าจับตามองตั้งแต่ประกาศการสร้างและถ่ายทำ จนเป็นที่แน่นอนแล้วว่า 14 กรกฎาคมปีนี้ ผู้ชมจะได้สัมผัสกับเรื่องราวของท่านขุนพันธ์ในรูปแบบภาพยนตร์ อีกหนึ่งความมันส์ที่น่าตื่นตาตื่นใจกับภารกิจไล่ล่า “อัลฮาวียะลู” มหาโจรผู้แกร่งกล้าด้วยอาคม คงกระพัน ฆ่าไม่ตาย ซึ่งแผ่ขยายอิทธิพลครอบครองดินแดนไปทั่วภาคใต้และมีฝีไม้ลายมือชนิดที่ยังไม่เคยมีนายตำรวจหรือผู้คนจากทางการรายใดกล้าต่อกรและสยบลงได้มาก่อน ผู้คนต่างก้มหัวด้วยความหวาดกลัวมีเพียงนายตำรวจมือปราบอย่าง “ขุนพันธ์”  ที่หาญกล้าอาสาไปปราบเสือร้ายในตำนาน ด้วยการแฝงเร้นปลอมตัวเข้าไปสืบสาวถึงตัวการสำคัญที่เป็นนักการเมืองขายชาติคอยหนุนหลัง นำไปสู่การต่อสู้และเผชิญหน้าของมือปราบหนังเหนียวและมหาโจรคงกระพันที่แกร่งกล้า ฆ่าไม่ตาย และมีเพียงบุรุษเดียวที่จะเหลือรอด

ขุนพันธ์ เขียนบทและกำกับภาพยนตร์ชนิดทุ่มเททั้งชีวิต และจิตวิญญาณโดย ก้องเกียรติ  โขมศิริ (อันธพาล, เฉือน, ไชยา) โดยเลือกนำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์แอ็คชั่นเหนือจริงที่สร้างอยู่บนความเคารพ และศรัทธาในตัวท่านขุนพันธ์  ซึ่งเป็นบุคคลมีอยู่จริง แต่หาได้เป็นหนังอัตชีวประวัติหรือสารคดี  เพียงหยิบเอาเรื่องราวที่มีสีสันของท่านขุนพันธ์มานำเสนอโดยมองท่านเปรียบดั่งตัวแทนของความดี เป็นสัญลักษณ์ที่จะสะท้อนกลับไปยังผู้คนในสังคมปัจจุบันว่าครั้งหนึ่งประเทศเรามีคนดีอยู่จริง มีตำรวจหรือผู้พิทักษ์กฏหมายซึ่งเป็นที่พึ่งของประชาชนอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นความตั้งใจอย่างสูงสุดจาก เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ในฐานะผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์และประธานกรรมการ บริษัท สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์ไทยนับร้อยๆเรื่องมาตลอดกว่า4ทศวรรษ ที่ตัดสินใจสร้างภาพยนตร์เรื่อง ขุนพันธ์ เพื่ออยากให้ขุนพันธ์เป็นตัวละครที่ถูกจดจำ  แบบที่มีเจมส์ บอนด์  หรือ  เชอร์ล็อคโฮม  ซึ่งในประเทศเราก็มี “ท่านขุนพันธ์” ตัวแทนของความดี เป็นยอดตำรวจวีรบุรุษนายพลหนังเหนียวสุดยอดมือปราบของไทยที่แกร่งกล้าด้วยอาคม คงกระพัน สามารถกำราบเสือร้ายในตำนานที่โด่งดังในแฟ้มอาชญากรรมของไทย เพื่อให้ประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์ไทยได้รับการบันทึกและผู้คนได้ระลึกถึงความเป็นวีรบุรุษที่ควรได้รับการเชิดชูของไทย


ครั้งแรกของ 2 ซูเปอร์สตาร์มือรางวัลอนันดาปะทะน้อยกฤษดา

ระเบิดอารมณ์ทางด้านการแสดงแบสุดขั้ว

พร้อมระดมทีมนักแสดงคุณภาพ  เดี่ยว ชูพงษ์, แฟรงค์ เดอะสตาร์, อ้อม กานต์พิสชา, สน เดอะสตาร์  และกบ พิมลรัตน์

ทุ่มสุดตัวเข้มจัดแอ็คชั่นเต็ม ทุกฉากทุกซีน

GUS_0902_resizeเพื่อให้สมกับเป็นภาพยนตร์ที่สร้างปรากฎการณ์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์แห่งปีของ สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล อย่างแท้จริง การ “แคสติ้ง” 2 คาแรคเตอร์หลักที่เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาและกระตุ้นต่อมอยากดูให้กับคอหนัง นับตั้งแต่ประกาศสร้างโปรเจกต์ “ขุนพันธ์” เพราะนี่คือครั้งแรก และอาจจะเป็นครั้งเดียวของการเผชิญหน้าทั้งในส่วนของการเชือดเฉือนบทบาททางด้านการแสดงสุดเข้มข้นชนิดที่เรียกได้ว่าทุกๆฉากทุกๆอารมณ์ล้วนมาเต็ม รวมไปถึงการปะทะความมันส์ในทุกๆฉากแอ็คชั่นอย่างเต็มรูปแบบของ 2 นักแสดงซูเปอร์สตาร์ชายระดับแถวหน้าของเมืองไทยที่ได้รับการยอมรับในฝีไม้ลายมือระดับรางวัลที่ได้รับการการันตีในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง  อนันดา  เอเวอริงแฮม (เจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสุพรรณหงส์ทองคำจาก “แฮปปี้เบิร์ดเดย์”และ “ชั่วฟ้าดินสลาย”) รับบท  “ขุนพันธ์” และ น้อย กฤษดา สุโกศล  แคลปป์ (เจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมสุพรรณหงส์ทองคำจาก “13เกมสยอง”) รับบท “อัลฮาวียะลู” ขุนโจรศักดิ์สิทธิ์ ผู้กล้าแกร่งด้วยอาคม เสือร้ายที่ขุนพันธ์ยากจะต่อกร โดยทั้งสองตัวละครล้วนต่างมีความคงกระพัน หนังเหนียว แกร่งกล้าด้วยวิชาอาคม พูดได้ว่าสมน้ำสมเหนือและชวนดูอย่างถึงที่สุด

แต่ไม่เพียงเท่านั้นเพราะงานนี้ นอกจาก 2 คาแรคเตอร์หลักแล้ว สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์เป็นที่จับตามองยิ่งๆขึ้นไปอีก คือการที่ได้เหล่านักแสดงคุณภาพระดับฝีมือชั้นแนวหน้าของเมืองไทยที่มีความลุ่มหลงในการแสดงมาร่วมสวมชีวิตและจิตวิญญาณ พลิกบทบาทเป็นตัวละครสำคัญอีก 5 คาแรคเตอร์ พร้อมโชว์ศักยภาพทางด้านการแสดงอย่างจัดเต็ม ทั้งเชือดเฉือน ปะทะทั้งบทบาท และตะลุยแอ็คชั่นเดือดร่วมกันเกิดขึ้นได้อย่างอลังการในทุกๆฉากทุกๆซีนให้สมกับที่ขุนพันธ์คือ ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่จะกลับมาเรียกศรัทธาผู้ชมอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง พระเอกแอ็คชั่นสตันท์เสี่ยงตายที่พลิกบทบาทมาสวมบทเป็น “เสือสัง” นักฆ่าผู้เหี้ยมโหด  สมุนมือขวาคนสำคัญของอัลฮาวียะลู พร้อมกับโชว์คิวแอ็คชั่นปะทะขุนพันธ์อย่างดุเดือด, แฟรงค์ เดอะสตาร์-ภคชนก์ โวอ่อนศรี สุดยอดนักแสดงจอมขโมยซีนที่รับบท “หลวงโอฬาร” นักการเมืองตัวร้าย คนขายชาติที่พร้อมกอบโกยและเอาเปรียบทุกคนแม้กระทั่งแผ่นดินเกิด, สนเดอะสตาร์ หรือ สนธยา ชิตมณี นักร้องนักแสดงมากฝีมือเจ้าของรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำสมทบชายยอดเยี่ยมจาก ไชยา เด็กปั้นของผู้กำกับ ก้องเกียรติ โขมศิริ รับบท “ไข่โถ” ชาวเลที่อยู่ใต้อาณัติของนักการเมืองชั่ว และต้องสูญเสียคนที่รักเพราะให้ความช่วยเหลือขุนพันธ์, กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร พลิกบทบาทครั้งสำคัญในบท “บุหงา” นักฆ่าสาวผู้ซ่อนเร้นบาดแผลแห่งอดีต สมุนมือซ้ายของอัลฮาวียะลู และ อ้อม กานต์พิสชา เกตุมณี นักแสดงสาวจาก แม่เบี้ย รับบทเป็น “มาลัย” กลางวันคือ หญิงสาวชาวบ้าน แต่กลางคืนคือ นักร้องประจำสโมสรงาช้างของหลวงโอฬาร กับบทบาทที่เน้นอารมณ์ดราม่าสุดชีวิต


ขุนพันธ์วิชวลจัด  แอ็คชั่นแรง  อาคมต่ออาคม  คงกระพัน จัดเต็ม ไล่ล่า ฆ่าไม่ตาย  

ฉากการไล่ล่าที่เหนือความคาดหมายเพื่อสร้างปรากฎการณ์ความมันส์รับปี 59 

cIMG_1874_resizeด้วยวิชวลของภาพยนตร์ที่มีคอนเซ็ปท์อย่างชัดเจน พลังศรัทธา และความกล้าหาญในความเป็นวีรบุรุษมือปราบหนังเหนียวอย่างขุนพันธ์ที่จะต้องปฏิบัติภารกิจที่ยังไม่เคยมีนายตำรวจคนใดเคยทำสำเร็จมาก่อนนั่นคือไล่ล่า อัลฮาวียะลู  มหาโจรผู้แกร่งกล้าด้วยอาคม คงกระพัน ฆ่าไม่ตายทำให้ตัวภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์ จะถูกนำเสนอออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์แอ็คชั่น ที่เราจะได้เห็นภาพการต่อสู้ของขุนพันธ์ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ ที่ทั้งหลากหลายและเต็มรูปแบบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิก และคาแรคเตอร์ของตัวขุนพันธ์รวมไปถึงความแกร่งกล้าสามารถ ความเสียสละในการทุ่มเทเลือดเนื้อและจิตวิญญาณปราบปราบและจัดการกับเหล่าเสือร้ายและคนเลว ส่งผลให้เกิดเป็นฉากแอ็คชั่นสำคัญๆที่เต็มไปด้วยความดุเดือด เลือดพล่าน  หวือหวาและแปลกตา

ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็คชั่นการเผชิญหน้าระหว่างขุนพันธ์ มือปราบหนังเหนียว ที่บ่มเพาะวิชาอันแกร่งกล้าและความสามารถติดตัวมาเพื่อรับมือมหาโจรอัลฮาวียะลูที่มีอาคม คงกระพัน ฆ่าไม่ตาย หลังจากที่ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดสามารถสยบมหาโจรผู้โหดเหี้ยมได้  สำหรับฉากขุนพันธ์ยิงแสกหน้าอัลฮาวียะลูเป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์ที่เราจะได้สัมผัสถึงความแกร่งกล้าสามารถที่ไม่เป็นรองกันของคนสองคนที่อยู่ตรงข้ามของขั้วกฎหมาย เป็นซีนที่ให้เห็นถึงคาแรคเตอร์ และความสามารถในเชิงวิชาอาคมของทั้งคู่ ความเหี้ยมโหด ความมุทะลุของอัลฮาวียาลู ความมุ่งมั่น เอาจริงเอาจังในฐานะนายตำรวจมือปราบของขุนพันธ์ ที่จะต้องปิดตำนานมหาโจรให้ได้ ซึ่งเป็นฉากที่ได้รับการกล่าวถึงในแง่วิชวลทางด้านภาพของซีนแอ็คชั่นที่ผ่านการดีไซน์ได้เด็ดขาด และเดือดจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอินเนอร์มาเต็มในแง่การแสดงของ2 ยอดฝีมือที่ปะทะกัน

อีกฉากสำคัญในภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงความฮึกเหิม โหดเหี้ยม ดุดัน และไม่หวั่นเกรงผู้ใดของมหาโจร อัลฮาวียะลู แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือคนของทางการก็ยังต้องยอมก้มหัว พร้อมมือสังหารคู่ใจอย่างเสือสัง และบุหงา ระดมเหล่าพวกพ้องสมุนโจรบุกปล้นฆ่าจเรตำรวจที่ถูกส่งมาเป็นผู้ตรวจการพร้อมอาวุธของทางการ เป็นฉากที่เราจะได้เห็นแววตาที่ดุดัน เกรี้ยวกราด และการแสดงที่เข้มข้นของ 3 นักแสดงหลักที่เผยให้เห็นคาแรคเตอร์ในความเป็นนักฆ่าในฉากนี้ และแน่นอนว่ารวมถึงไฮไลท์สำคัญในการโชว์ความสามารถในฐานะซูเปอร์สตาร์แอ็คชั่นเสี่ยงตาย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเดี่ยว ชูพงษ์ ที่พลิกบทบาทมาเป็นเสือสังผู้ร้ายที่แสนเหี้ยมโหด ฆ่าคนได้โดยไม่กระพริบตา เป็นการโชว์ทั้งความความสามารถในการต่อสู้ของเดี่ยวและการใช้อาวุธอย่างคารัมบิต  รวมไปถึงการสวมวิญญาณความเป็นนักฆ่าหญิง ที่ไร้ความปราณีของบุหงา ซึ่งรับบทโดย กบพิมลรัตน์ ที่มีมีดสั้นเป็นอาวุธ และความน่ายำเกรงของอัลฮาวียะลู กับการแสดงในแบบอินเนอร์มาเต็มของ น้อย กฤษดา ที่ขี่ม้าระดมสมุนโจรเข้ามาบุกปล้นฆ่าอย่างเหี้ยมโหด เฉพาะฉากนี้ฉากเดียว มีการระดมนักแสดงสมทบ ทั้งฝั่งตำรวจและมหาโจร รวมไปถึงทีมสตันท์นับร้อยชีวิต ยังไม่รวมเหล่าบรรดาทีมงานทั้งในส่วนเสื้อผ้า หน้าผม เมคอัพ ช่างทำรอยสักและทีมเอฟเฟกต์ เลือด กระสุน อาวุธปืน มีด พรอพ ต่างๆ รวมทั้งความสามารถของเหล่าสตันท์แมนในฉากนี้อีกด้วย

นอกเหนือจากการต่อสู้ด้วยอาคมต่ออาคม ตาต่อตา ฟันต่อฟัน แอ็คชั่นเดือดแบบเหนือจริงแล้วเพื่อตอกย้ำในความเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์มาพร้อมบรรดาฉากแอ็คชั่นที่เต็มไปด้วยความ

หลากหลายสุดอลังการอีกมากมายที่เราจะได้เห็นการทุ่มสุดตัวของนักแสดงนำ รวมไปถึงทุกตัวละครจากนักแสดงทุกคน ที่ต้องถูกส่งไปเวิร์คช็อปในการเรียนรู้พื้นฐานในการแสดงแอ็คชั่นไปจนถึงฝึกฝนการต่อสู้รูปแบบต่างๆ ทั้ง ขี่ม้า การใช้อาวุธแต่ละประเภทก่อนการถ่ายทำ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนถ่ายทำ จนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ขุนพันธ์” คือที่สุดของการทำงานในชีวิต  เพื่อให้ทุกจินตนาการของฉากแอ็คชั่นในจินตนาการเกิดขึ้นบนจอภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็น แอ็คชั่นการต่อสู้ไล่ล่าบนหลังม้า, ฉากต่อสู้ทั้งในโบกี้รถไฟ หรือ บนหลังคารถไฟที่กำลังวิ่งอยู่, แอ็คชั่นบนมอเตอร์ไซด์, แอ็คชั่นกลางสายฝน ฯลฯ ยังไม่รวมกับที่นักแสดงจะต้องสัมผัสกับเอฟเฟกต์กระสุนปืนเป็นร้อยๆนัด, ระเบิด, คิวบู๊แอ็คชั่นต่อสู้โดยใช้ส่วนต่างๆของร่างกายไปจนถึงการใช้อาวุธประกอบการต่อสู้อาทิมีดสั้น, คารัมบิตอย่างเชี่ยวชาญ ฯลฯ


โลเกชั่นหลากพื้นที่ในหลายจังหวัด เขาใหญ่, ปทุมธานี, สุราษฎร์ธานี, ประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ 

สู่ปลายทางของการเนรมิตจินตนาการในโลกภาพยนตร์ของขุนพันธ์

GUS_7930_resizeในภาพยนตร์เรื่อง “ขุนพันธ์ “ถ่ายทอดเหตุการณ์ตั้งแต่ ท่านขุนยัง เป็นนักเรียนนายร้อยฝึกหัด ไปจนถึงการที่ต้องออกปฎิบัติการลับ แฝงตัวเข้าไปยังดินแดนที่เป็นถิ่นของ “อัลฮาวียะลู” โดยมีฉากหลังของเรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลังจะก่อตัวขึ้น  ญี่ปุ่นเริ่มขยายอำนาจรุกรานเอเชีย  ประเทศไทยกำลังทำการปฎิวัติวัฒนธรรมครั้งใหญ่ไปสู่โลกอารยะ  ทำให้งานนี้ฝ่ายออกแบบงานสร้างจะต้องทำงานกันอย่างหนักที่จะเนรมิตบรรยากาศ รวมไปถึงงานสร้างของภาพยนตร์ในส่วนต่างๆที่จะเกิดขึ้นตามบทภาพยนตร์และเรื่องราวที่จะเกิดขึ้น โดยงานนี้ฝ่ายออกแบบงานสร้างจะต้องทำงานร่วมกับฝ่ายโลเกชั่นรวมไปถึงฝ่ายอาร์ทอย่างใกล้ชิด การเดินทางเพื่อเสาะหาสถานที่ถ่ายทำในหลากหลายจังหวัดจึงเกิดขึ้น ตามมาด้วยการเนรมิตงานสร้างฉากสำคัญต่างๆตามยุคสมัย เพื่อความสมจริงที่จะปรากฎขึ้นมาในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะป็นการเลือกในหลายพื้นที่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโลเกชั่นหลักในการถ่ายทำ ไม่ว่าจะเป็นที่ บ้านเขาแดง อ.กุยบุรี โดยสร้างหมู่บ้านชาวประมง ชุมชนของชาวเลของ ไข่โถและมาลัยอาศัยอยู่, สถานีตำรวจที่ท่านขุนพันธ์ถูกส่งตัวไปประจำการ, อ.บางสะพาน  เนรมิตชุมทาง และสถานีรถไฟรวมไปถึงจุดยกพลขึ้นบกของกองทัพญี่ปุ่นที่หาดทุ่งมะเม่า,  นอกจากนี้ยังเลือกป่าท้ายเขื่อน บ้านยางชุม อ.กุยบุรี เพื่อถ่ายทำฉากสำคัญที่อัลฮาวียะลู พร้อมด้วยเสือสัง และบุหงาพร้อมเหล่าทัพโจรป่าบุกถล่มสังหารจเรตำรวจซึ่งได้รับแต่งตั้งและส่งตัวให้ประจำภาคใต้ในฐานะผู้ตรวจการจนสิ้น รวมทั้งการเลือกทุ่งหญ้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ถ่ายทำฉากอนันดาในคราบของนายบุตร์ คนเลี้ยงและไล่ต้อนแพะกลางทุ่งสุดลูกหูลูกตา หรือ ฉากขี่ม้าไล่ล่ากันระหว่างขุนพันธ์ กับกองทัพโจรของอัลฮาวียะลู และฉากการเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่าง ขุนพันธ์ ในคราบของนายบุตร์ที่กำลังตกปลา ณ บริเวณคลองปลาเจ้า โดยมีอัลฮาวียะลู ขี่ม้ามาเจอ ท่ามกลางหุบเขาที่โอบล้อมและแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า   และฉากขุนพันธ์นายร้อยตำรวจหนุ่มมาขออนุญาติหลวงอดุลย์ ผู้บังคับการตำรวจเพื่อเสนอตัวรับภารกิจลับลงใต้เพื่อปราบมหาโจรผู้โหดเหี้ยมที่ยังไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ณ หาดสามพระยา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจประจำจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ รวมไปถึงการถ่ายทอดภาพของขุนพันธ์ในคราบของนายบุตร์เดินทางมาถึงถิ่นของอัลฮาวียะลูทางเรือโดยใช้โลเกชั่นเขื่อนรัชชประภา (เขื่อน เชี่ยวหลานจ.  สุราษฎร์ธานี

นอกจากนี้ยังมีการถ่ายทำฉากขี่ม้าไล่ล่าเอาชีวิตขุนพันธ์ของเสือสังและพรรคพวกที่น้ำตกเหวสุวัต  อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา  ยังไม่รวมกับการเนรมิตรสโมสรงาช้าง คลับชั้นสูงที่เหล่านักการเมือง ข้าราการชั้นสูง ท่านฑูต และชาวต่างชาติมาใช้บริการของหลวงโอฬาร , เมืองและชุมชนตลาด ตรอกโจร ที่เราจะได้เห็นขุนพันธ์โชว์ความแกร่งกล้าเด็ดหัวเสือสายหัวหน้าโจรผาแดงผู้เลื่องชื่อที่ปิดล้อมตำรวจที่จังหวัดชุมพร และฉากสำคัญๆที่จะเกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็คชั่นถล่มสโมสรงาช้าง การเผชิญหน้าระหว่างขุนพันธ์และอัลฮาวียะลูครั้งสุดท้าย ,ฉากขุนพันธ์ขี่มอเตอร์ไซด์พุ่งทะลุสโมสรงาช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายทำฉากโลดโผนกับการต่อสู้บนหลังคารถไฟที่กำลังแล่นระหว่างขุนพันธ์และเสือสัง ซึ่งเลือกถ่ายทำที่สถานีรถไฟเชียงรากหรือฉากแอ็คชั่นระหว่างขุนพันธ์กับเสือสังและเหล่าสมุนกว่า20คนต่อเนื่องแบบOne Long Take


รวมทีมสร้างผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ อย่าง ขุนพันธ์

ภาพยนตร์โดย สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล

GUS_0336_resizeกว่า 40 ปีบนเส้นทางของ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ในฐานะสตูดิโอผู้สร้าง ผู้ผลิตภาพยนตร์ไทยรวมไปถึงในฐานะผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ทั้งไทยและเทศ เอกลักษณ์ที่ทำให้สัญลักษณ์ใบโพธิ์ยังคงยืนหยัดและเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั่นคือ มุมมองและวิสัยทัศน์ในฐานะผู้สร้าง ที่ไม่เคยหยุดอยู่กับที่ ไปพร้อมกับการพัฒนา ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง และสร้างความหลากหลายในผลงานมาโดยตลอด โดยไม่ยึดติดอยู่กับแนวทางเดียว ทำให้ทุกๆปี สหมงคลฟิล์มฯ ผลิตผลงานออกมาโดยครอบคลุม และสร้างความแตกต่างในทุกแนวทางภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นแอ็คชั่น, ดราม่า, โรแมนติค, คอมมิดี้, อีโรติค, เฮอร์เรอร์, แอนิเมชั่น, อาร์ท ฯลฯ โดยมุ่งผลิตภาพยนตร์เพื่อรองรับกับผู้ชมทั้งในประเทศและในตลาดต่างประเทศ ในทุกๆปีจะมีการผลิตภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทุนสร้างมหาศาลมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็นองค์บาก1-3, ต้มยำกุ้ง1-2, ปืนใหญ่จอมสลัด, ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, ยักษ์ ฯลฯ และ ในปีพุทธศักราช2559 บริษัทฯมีความภาคภูมิใจที่จะเรียกศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่มิเคยเลือนหายไปจากหัวใจคนไทย กับเรื่องราวของยอดวีรบุรุษมือปราบ108 ผู้มีตัวตนอยู่จริง นายตำรวจผู้แกร่งกล้าและปิดตำนานเสือร้ายบนผืนดินไทย ถ่ายทอดเป็นปรากฎการณ์ภาพยนตร์แอ็คชั่น-เหนือจริงเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี ขุนพันธ์ ภายใต้การกำกับและเขียนบทภาพยนตร์โดย ก้องเกียรติ โขมศิริ (อันธพาล,ไชยา,เฉือน) ควบคุมงานสร้างโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว (องค์บาก,ต้มยำกุ้ง1-2,ช็อคโกแลต) พร้อมระดมทีมงานสร้างมือรางวัลระดับแถวหน้าของเมืองไทยตั้งแต่ ผู้กำกับภาพ ทิวา เมยไธสง (ผู้กำกับภาพยนตร์, โฆษณา และผู้กำกับภาพมือรางวัลจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้เรื่อง มือปืนดาวพระศุกร์, รางวัลกำกับภาพยอดเยี่ยมจากรางวัลสุพรรณหงส์เรื่อง เพื่อนกูรักมึงว่ะ) , โปรดักชั่นดีไซน์ ธนะ เมฆาอัมพุท (อันธพาล,ไชยา,เฉือน) เจ้าของรางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยมจาก ไชยา มารับหน้าที่ออกแบบงานสร้าง, ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย นิรชลา วรรณาวลัย (แหยมยโสธร,วงษ์คำเหลา) ผู้คว่ำหวอดในวงการมากกว่า 15ปี เจ้าของรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำจาก ตั๊ดสู้ฟุต,  แต่งหน้าเมคอัพเอฟเฟกต์ระดับมือรางวัล ด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ของ ศิวกร สุขลังการ  (อาปัติ,เฮี้ยน, The Lady, The Heir Apparent:Largo winch, จอมขมังเวทย์ (คว้ารางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ, สตาร์เอนเตอร์เทนเมนท์อวอร์ด), 5แพร่ง (คว้ารางวัลสตาร์เอนเตอร์

เทนเมนท์อวอร์ด), ตายโหงตายเฮี้ยน (คว้ารางวัลพระสุรัสวดี-ตุ๊กตาทอง) ภายใต้การนำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมือ อย่าง  อนันดา เอเวอริงแฮม, กฤษดา สุโกศล แคลปป์, เดี่ยว ชูพงษ์ ช่างปรุง, กบ พิมลรัตน์ พิศลยบุตร, แฟรงค์เดอะสตาร์-ภคชนก์ โวอ่อนศรี  พร้อมกับเนรมิตยุคสมัยปีพ.ศ.2481ให้กลับฟื้นขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง        

GUS_1027_resizeแรงกระสุน หรือ จะสู้แรงศรัทธา ร่วมพิสูจน์พร้อมกัน 14 กรกฎาคม นี้