ภารกิจพิชิตโบนัส
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นที่ออฟฟิศการตลาดด้านอาหารและเครื่องดื่มแห่งหนึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ทุกคนเตรียมตัวพักผ่อน  จู่ๆ ผู้บริหารกลับประกาศว่าบริษัทแม่ที่เกาหลีให้ผลิตสินค้าตัวใหม่ให้ทันสิ้นปี  และต้องเริ่ม Line การผลิตต้นปีหน้า

ทุกคนจึงต้องมาร่วมหัวจมท้ายร่วมแรงร่วมใจกันในสุดยอดโปรเจ็คต์นี้ที่มี “เงินโบนัส” เป็นเดิมพัน!!!

“ปั้น” (ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี) ผู้อำนวยการหนุ่มหล่อผู้วางแผนชีวิตอย่างรอบคอบมั่นคงด้วยการคิดอะไรเป็นเงินเป็นทอง เป็นเหตุเป็นผล เป็นตัวเลขไปหมด จริงจังกับหน้าที่จนไม่ค่อยใส่ใจกับความรู้สึกของคนรอบข้าง และไม่ค่อยมีเวลาให้แฟนสาวของเขา

“หวาย” (โบ-ณัฐชลัยย์ สุขะมงคล) ผู้ช่วยสาวคนใหม่ของปั้น เธอรักอิสระและมีความฝันที่ยังไม่ลงมือทำซะที บุคลิกขี้เล่นไม่จริงจังของเธอเป็นที่รำคาญและไม้เบื่อไม้เมาของปั้นตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกัน  

“นุช” (ไนซ์-จิรภา วงศ์โฆษวรรณ) เลขาสาวของเจ้านายใหญ่ ที่ต้องเหนื่อยกับทั้งชีวิตส่วนตัวและเจ้านายที่ขาดมือไม้อย่างเธอไม่ได้ เธอใฝ่ฝันถึงรถคันแรกเพราะการนั่งรถตู้มาทำงานวันละ 3 ชั่วโมง มันทำให้เธอตกอยู่ในภาวะจำยอม

“นัน” (ดีเจต้นหอม-ศกุนตลา เทียนไพโรจน์) สาวใหญ่หัวหน้าแก๊งสาวๆ ฝ่ายการเงิน  เธอมีหนี้ท่วมหัวเพราะใช้จ่ายเกินตัว  แถมเงินเดือนไม่ถูกปรับขึ้นมานาน ทำให้เธออยากหางานใหม่เพื่ออัพเงินเดือน

“จือ” (เต๋า AF8-เศรษฐพงษ์ เพียงพอ) เด็กหนุ่มผู้จบใหม่จากต่างจังหวัดและเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ เขาอยากผ่านโปรฯ เพื่อบรรจุเป็นพนักงานประจำ แต่โชคร้ายที่ดันมาเจอกับสาวสวยต่างชาติที่มักชวนเขาเที่ยวจนเสียงาน

“ชัย” (ซ้ง-ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์) หนุ่มใหญ่ผู้พิทักษ์ผลประโยชน์ของบริษัท เที่ยวไล่ปิดไฟปิดคอมทุกวันก่อนกลับบ้านจนทุกคนหมั่นไส้ความชอบเอาหน้าของเขา เพราะอยากเลื่อนตำแหน่งแทนคนเก่าที่ลาออก

และงานนี้ก็ยังข้องเกี่ยวกับเจ้านายใหญ่, เพื่อนร่วมงาน, แฟนหัวหน้า, ลูกค้า ไปจนถึงแม่บ้านประจำออฟฟิศ 

ภาพจำลองเรื่องราวของเหล่ามนุษย์เงินเดือนผู้มีความต้องการ ความหวัง และความฝันที่แตกต่างกันไปจะลงตัวและลงเอยเช่นไร

เงินใช่เหตุผลเดียว ที่ทำให้พวกเขายังมาทำงานอยู่…จริงหรือ

“ยอดมนุษย์เงินเดือน” จะมีคำตอบเป็น “โบนัสชีวิต” ให้คุณ…

เบื้องหลังยอดมนุษย์เงินเดือน

“มันเป็นแรงบันดาลใจจากที่เราไปเจอเพื่อนฝูงที่ทำงานมาแล้วซักพักหนึ่ง ชีวิตที่เรียนมหาวิทยาลัย เรียนมัธยมมามันก็เป็นช่วงชีวิตหนึ่งที่ทุกคนมีความสุข แต่ช่วงชีวิตที่ยาวนานมากกว่านั้น คือช่วงชีวิตหลังเรียนจบจนถึงการทำงาน ตรงนี้แหละที่มันยาวนานมากจนกว่าจะแก่หรือเลิกทำงานกันไปเลย เราว่าไอ้ช่วงชีวิตนี้เนี่ยทำไมไม่ค่อยมีคนเอามาเล่า มาทำเป็นหนังเท่าไหร่นะ เพราะมันมีเรื่องราวสนุกสนานมากมายหลายรูปแบบ ทั้งสนุก ตลก เศร้า ดราม่า มันเต็มไปด้วยสีสันและแง่มุมต่างๆ ให้หยิบจับมาเล่นได้เยอะเลย แต่รู้สึกว่าหนังที่เราเคยดูมาหลายๆ ครั้ง ก็อาจจะเคยเห็นซีนเหล่านี้ที่มันเป็นเรื่องอยู่ในออฟฟิศ แต่ทุกครั้งจะถูกใช้เป็น Background ของหนังรักบ้าง หนังตลกบ้าง หนังฆาตกรรมบ้าง หนังแนวต่างๆ นั่นนี่โน่นบ้าง แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงชีวิตคนทำงานจริงๆ ซักเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องใกล้ตัวและคนส่วนใหญ่มีประสบการณ์ร่วมกันมากๆ ผมก็เลยคิดว่าตรงนี้น่าจะทำให้สัมผัสความรู้สึกคนดูส่วนใหญ่ได้ ก็เลยจุดประกายเป็นโปรเจ็คต์นี้ขึ้นมาครับ”

“โจ้-วิรัตน์ เฮง” ผู้กำกับหนุ่มไฟแรงผู้เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากงานเบื้องหลังรายการวาไรตี้และซิตคอมมาเป็นสิบปี เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้น-ที่มาที่ไปของภาพยนตร์สุดหรรษา “ยอดมนุษย์เงินเดือน” ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา

***วางแผน แพลนงาน ผ่านประสบการณ์จริง***

จริงๆ เราเขียนบทกันหลายร่างมากครับ หากันอยู่ว่าจริงๆ เราอยากเล่าอะไรกันแน่ เราก็รีเสิร์ชจากการสัมภาษณ์คน คุยกับเพื่อนฝูง หนังสือHow to หนังสือมนุษย์เงินเดือน หนังสือความก้าวหน้าอะไรต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาด และจับจุดได้อันนึงว่าสิ่งต่างๆ ที่หนังสือเหล่านี้มักสะท้อนออกมาในมุมที่ว่า มนุษย์เงินเดือนที่ทำงานอยู่ในทุกวันนี้มีความรู้สึกเหมือนเค้าไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่เค้าเป็นอยู่ มีการบ่นการไม่ก้าวหน้าในอาชีพการงาน การใช้เงินไม่พอ ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ปัจจัยภายนอกภายใน มันมีหลายเรื่องมากซึ่งไม่เกี่ยวกับความรัก เราก็รู้สึกว่า เอ๊ะ…ตรงนี้แหละที่เราอยากจะเล่า คนอื่นยังไม่ค่อยเล่าเท่าไหร่ มันมีจุดร่วมกันอยู่ในประเด็นนี้ และมันก็ทำให้พบว่ามีคนอยู่ซัก 4-5 คาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนและรู้สึกว่ามีอยู่ในทุกออฟฟิศ เราก็เลยสนใจเล่าเรื่องของคนพวกนี้ดีกว่า อย่างน้อยๆ ผู้ชมเองน่าจะตรงกับตัวละครไหนซักตัว หรือถึงไม่ตรงก็ต้องเคยสัมผัสเคยผ่านเคยเห็นมาหมดเลยในออฟฟิศ แต่เราก็จะเล่าลึกลงไปอีก เรื่องทั้งหมดเรียกว่าเขียนจากชีวิตจริงก็ได้ แบบที่เราได้พบเจอมาผสมผสานกันหลายๆ คน หลายๆ เรื่อง ซึ่งทุกคนก็จะได้ประสบการณ์ร่วมไม่คาแร็คเตอร์ใดก็คาแร็คเตอร์หนึ่งนะครับ

***ยิงยาวความสนุก กระตุกต่อมมนุษย์ออฟฟิศสุดหรรษา***

เรื่องนี้ก็ตามชื่อเรื่องเลยครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์เงินเดือนในกรุงเทพฯ นี่แหละ โดยเล่าเรื่องราวของออฟฟิศหนึ่งที่รวมพนักงานหลากหลายคาแร็คเตอร์เอาไว้ทั้งหัวหน้าจอมเป๊ะ, ผู้ช่วยสุดเละ, เลขาอึดถึก, แก๊งเมาท์มอย, เด็กทดลองงานขี้หลี, รุ่นใหญ่สอพลอ, แม่บ้านชอบใช้ของออฟฟิศ มากันทุกรูปแบบพนักงานเลย และทั้งหมดต้องมาร่วมหัวจมท้ายทำภารกิจใหญ่ให้เสร็จภายใน 3 เดือนก่อนสิ้นปีเพื่อความหวังที่มีอยู่แทบจะเป็นชิ้นเดียวของทุกคนเลย นั่นก็คือโบนัสปลายปี โดยที่มันจะเล่าสอดคล้องคู่ขนานกันไปกับชีวิตของแต่ละคนว่าต้องการอะไรในชีวิตบ้าง เค้าทำยังไงกับชีวิตที่มันจริงเหลือเกิน บางทีมันอาจเป็นการสะกิดถามกันว่า ที่เรายังมาทำงานอยู่นี้เพื่อเงินอย่างเดียวเท่านั้นเหรอ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ แล้วมันคืออะไรล่ะ ทุกอย่างจะมีให้ชมกันในหนังเรื่องนี้ครับ

***พาหนุ่มติ๊กออกจากป่า มานำทีมคว้าโบนัสสุดป่วนฮา***

ช่วงเวลาแคสติ้งใช้เวลาประมาณเกือบครึ่งปี การคัดเลือกนี่แน่นอนต้องเลือกจากความเหมาะสมกับบท อิงตัวละครเป็นหลัก เรารู้สึกว่าตัวพระเอกเนี่ยน่าจะเป็นคนที่ดูมีเสน่ห์ในขณะที่ขึงขัง ในขณะที่ทุกอย่างเป๊ะ ซึ่งทุกอย่างมันลงตัวกับ “พี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์” พอดี เป็นเจ้านายในฝันของสาวๆ เจ้านายรูปหล่อที่มีการวางแผนในชีวิตที่ดี และก็ดีใจมากที่พี่ติ๊กรับเล่นบทนี้ มู้ดการแสดงของพี่ติ๊กอาจจะฟังดูเครียดๆ แต่จริงๆ แล้วจะออกมาในรูปของคอเมดี้ เค้าจะมีความเกินพอดีอยู่ในคาแร็คเตอร์ เหมือนคนที่เป๊ะจัดมากแล้วหลุด มันจะดูตลกน่ารักไปอีกแบบ

“น้องโบ” ตัวนางเอกก็แคสติ้งมาจากคาแร็คเตอร์เป็นหลัก เรารู้สึกว่าคาแร็คเตอร์นี้แปลกประหลาดมาก แล้วก็พยายามหาว่า มันจะเป็นแบบไหน มันไม่มีตัวอย่างเลยว่าเหมือนตัวละครไหนที่เคยเห็นมา พอยิ่งนึกภาพดารานักแสดงที่มีชื่อยิ่งนึกไม่ออก เราก็เลยคิดว่างั้นลองใหม่ดีกว่า หากันเยอะมากๆ ใช้เวลานานมากที่สุด แล้วพอมาเจอโบ ก็รู้สึกว่าน่าสนใจมาก ทั้งที่ต้องบอกว่า โดยทักษะการแสดงของโบไม่ได้มากกว่าผู้มาแคสติ้งคนอื่นๆ แต่สิ่งที่ทีมงานเห็นตรงกันก็คือ ความมีเสน่ห์ของเขา ความเป็นธรรมชาติของเขา แบบบทนี้เขียนมาจากลักษณะนิสัยของคนนี้เลยหรือเปล่า กลายเป็นว่าเราเพิ่มบทเข้าไปให้มีสีสันมากขึ้น ซึ่งนั่นมันเป็นตัวเขาจริงๆ ในชีวิตจริง ตัวนี้ก็เลยไม่มีช้อยส์อื่นละ

ส่วนตัวละครอื่นๆ ทุกตัวไม่ว่าจะเป็นน้องไนซ์, ดีเจต้นหอม, เต๋า, พี่ซ้ง รวมถึงพนักงานในออฟฟิศนี้ เราก็จะเลือกจากความเหมาะสมเป็นหลักเช่นกัน ทุกตัวก็จะมีคาแร็คเตอร์โดดเด่นเป็นของตัวเองและสามารถสร้างสีสันความสนุกให้กับหนังได้อย่างเต็มที่เลยครับ เรียกว่าเป็นทีมนักแสดงที่เลือกมาไม่ผิดเลยก็ว่าได้ครับ

***สาระบันเทิงผสมผสานให้เป็นหนังของคุณ***

(โจ้ วิรัตน์ – ผู้กำกับ) เสน่ห์ของหนังผมว่ามันอยู่ที่รายละเอียดในภาพยนตร์ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างเฉพาะตัวว่าน่าจะอยู่ในเรื่องนี้เท่านั้นนะ ผมคิดว่าหนังเรื่องนี้ ถ้าเป็นใครก็ตามที่ทำงานแล้วมีเงินเดือน รับเงินเดือน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ หรือข้าราชการ หรือเป็นลูกจ้างรับเงินรายเดือน นี่คือภาพยนตร์ของคุณที่ทำมาเพื่อคุณเลยล่ะ แต่น้องๆ นักศึกษาหรือวัยรุ่นก็จะมีความสุขกับมันได้ด้วย เพราะในวันหนึ่งข้างหน้าก็จะต้องมาเจอกับชีวิตแบบนี้แล้ว มาดูว่าชีวิตข้างหน้าเป็นยังไง  เข้าใจง่าย แล้วก็มีหลากมุมหลายรูปแบบ สนุก เศร้า ซึ้ง ตลก มันส์ครบรสแน่นอนครับ

(ติ๊ก เจษฎาภรณ์) ผมเชื่อว่าใครหลายๆ คนที่คิดว่าองค์กรอื่นหรือบริษัทอื่นดูน่าอยู่กว่าบริษัทของตัวเอง คนอื่นก็จะมองว่าของเราน่าอยู่กว่าบริษัทเค้า เช่นเดียวกันกับที่ว่าสนามหญ้าหน้าบ้านคนอื่นสวยกว่าสนามหญ้าหน้าบ้านเรา ทุกๆ คนจะเห็นแบบนี้หมด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าเรามองให้ลึกกว่าเดิม ไม่แน่ครับว่าในบ้านของเราหรือในองค์กรของเราเองอาจจะน่าอยู่กว่าของใครไหนๆ ก็ได้ และเราก็จะได้รับความสนุกสนานจากหลากหลายคาแร็คเตอร์ในเรื่องที่มันต้องมีอย่างน้อยๆ คนนึงล่ะที่เหมือนกับคนในออฟฟิศตัวเอง หรือไม่ก็อาจจะเหมือนกับตัวเราเองเลยก็ได้ เป็นหนังที่ดูแล้วก็จะได้แง่คิดอีกมุมหนึ่งของการใช้ชีวิตนะครับ แล้วคุณจะเข้าใจคำว่ามนุษย์เงินเดือนได้อย่างดีขึ้น จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของหนังไทยที่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลาย ซึ่งผมก็หวังว่าทุกๆ คนจะดูไปยิ้มไปและมีความสุขกับหนังเรื่องนี้กันครับ

(โบ ณัฐชลัยย์) หนังเรื่องนี้จะมีครบรสเลย มันไม่ใช่แค่พระเอกนางเอกเป็นตัวเดินเรื่อง คือมันมีหลายๆ ตัวแทนของคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีความน่าสนใจของมันเอง คือถ้ามาดูก็จะได้เห็นตัวเองและอาจจะได้คำตอบดีๆ กลับไป แล้วก็คงจะได้อิ่มไปกับมัน ก็ฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

(ไนซ์ จิรภา) ภาพยนตร์เรื่องนี้ ฟังดูชื่ออาจจะแปลกๆ เป็นซูเปอร์ฮีโร่หรือเปล่า จริงๆ ชีวิตมนุษย์ออฟฟิศนี่มันยิ่งกว่าซูเปอร์ฮีโร่อีกนะคะ หลากหลายรสชาติชีวิตมากๆ ค่ะ ไนซ์เชื่อว่าน่าจะโดนใจคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็ว่าได้ รวมไปถึงคนที่อยู่ในวัยทำงาน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะให้ความสนุกสนานและข้อคิดดีๆ กับทุกคนที่ไปชมแน่นอนค่ะ

(เต๋า AF8) เสน่ห์หลักๆ ของหนังก็จะเกี่ยวกับพนักงานเงินเดือน ถ้าใครใช้ชีวิต 8 โมงเช้าต้องไปออฟฟิศ 5 โมงเย็นต้องกลับบ้าน หรือว่าต้องทำโอที หรือมีหนี้ในบัตรเครดิต หรือเป็นเด็กฝึกงานที่ไม่ผ่านโปรฯ สักที ผมคิดว่าหลายคนในประเทศไทยจะมีอารมณ์แบบนี้ เพราะพนักงานออฟฟิศในประเทศไทยก็มีเยอะ ก็น่าจะโดนใจหลายๆ คน และก็มีแง่คิดในเรื่องต่างๆ ด้วย ไม่ใช่ตลกโปกฮาอย่างเดียว ก็อยากให้ทุกคนได้ติดตามหนังเรื่องนี้กันครับ รับรองว่าสนุกและคุ้มค่าแน่นอนครับ

(ดีเจต้นหอม) ต้นหอมว่าหนังเรื่องนี้ใกล้เคียงกับชีวิตจริงของมนุษย์ออฟฟิศหรือมนุษย์เงินเดือน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ สมัยก่อนถ้าเรียนจบ ที่บ้านบอกไม่เป็นครู ก็เป็นพยาบาล เป็นพนักงานออฟฟิศ เป็นพนักงานบัญชี ก็จะมีอาชีพเหล่านี้ที่เป็นพนักงานเงินเดือน หนังเรื่องนี้มันเหมาะกับใครที่ทำอาชีพแบบนี้ หรือถ้าคุณไม่ได้ทำอาชีพเหล่านี้ คุณลองมาดูหนังเรื่องนี้แล้วคุณจะเข้าใจหัวอกของคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนจริงๆ ว่าเขาต้องเหนื่อยกับงาน เหนื่อยกับคนรอบข้างมากขนาดไหน คุณจะสนุกไปกับหนังเรื่องนี้โดยผ่านเรื่องราวและตัวละครต่างๆ ที่น่าจะมีซักตัวละครที่เหมือนกับคุณหรือมีประสบการณ์ร่วมกัน หนังเรื่องนี้สนุกมากค่ะ

(ซ้ง ธรธร) โดยรวมตัวคนเราเวลาทำงานปกติเหมือนเป็นชีวิตประจำวัน แต่บางทีเราไม่เคยมองเรื่องรายละเอียด ผมว่าเสน่ห์ของมันอยู่ตรงที่ว่า เราได้ดูเรื่องนี้เราจะเห็นสิ่งที่เรานึกไม่ถึง แล้วมันก็จะสะท้อนมาถึงตัวเอง บางครั้งมันก็มีมุมมองแบบนี้ ในบริษัทหนึ่งที่เราต้องทำงาน ตอกบัตรเข้า-ออก มันมีเรื่องรายละเอียดซึ่งพอมามองเปรียบเทียบกับตัวเอง อาจจะเห็นมุมมองใหม่ๆ ผมอยากจะให้ทุกคนที่มาดูเรื่องนี้แล้วลองสังเกตรายละเอียด แล้วลองมองตัวเองมองคนรอบข้าง มันจะเป็นความรู้สึกที่ถามว่าแตกต่างจากหนังทั่วไปมั้ย ผมบอกได้เลยว่ามันแตกต่าง คือหนังโดยปกติหรือละครจะไม่เคยมาใส่ใจกับเรื่องแบบนี้ ซึ่งคนที่ทำงานบริษัทหรือเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังจะเข้าไปทำงานกับบริษัท ผมว่ามาดูแล้วจะรู้สึกว่า ชีวิตการทำงานไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อ และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกซะทีเดียว มันมีหลายเรื่องมาก มันคือเสน่ห์ของเรื่องนี้ อยากให้ทุกคนได้ดูตรงนี้แล้วลองสังเกตดูครับ