งานแต่ง ยุค Minimal style เน้นเรียบ น้อย แต่ไม่ธรรมดา

เรามาถึงยุคที่งานแต่ง ไม่ต้องหรู  เว่อร์  อลังการ แต่ให้ความสำคัญกับรายละเอียดที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของผู้จัดงาน  เรียบ แต่ไม่ธรรมดาสไตล์มินิมอล เก๋ๆ

คุณบุณณดา สุขเจริญ ผู้จัดการทั่วไปของ JENIVA เวดดิ้งเพลนเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านการตกแต่งเป็นพิเศษ   เล่าให้ฟังว่า ช่วงที่ลูกค้านิยมจัดงานแต่งมากที่สุด เป็นช่วงปลายปีตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน- มกราคม ซึ่งรูปแบบงานแต่งที่ใช้และกำลังเป็นที่นิยมคือ สไตล์มินิมอลลูกค้าจะเน้นเรื่องการดีไซน์ที่มีความเฉพาะตัวแสดงถึงความเป็นตัวตนของคู่บ่าวสาว ที่สำคัญต้องไม่ซ้ำใคร ในระยะหลังน้อยมากที่ลูกค้าจะเอารูปมากางแล้วบอกว่าเราต้องการแบบนี้ส่วนดอกไม้สดยังคงใช้ประดับตกแต่งภายในงาน แต่ไม่จำเป็นต้องแน่นมาก

คุณบุณณดา บอกด้วยว่า หากต้องการปรึกษาเวดดิ้งแพลนเนอร์ เพื่อวางแผนจัดงานแต่งงาน คุณจะต้องมี 3 ข้อหลัก คือ

1.เช็คจำนวนแขกที่จะเชิญมาร่วมงาน
2. วันจัดงาน และสถานที่จัดงานว่าอยากได้รูปแบบไหน
3.งบประมาณทั้งหมดที่ตั้งไว้

เพื่อทำให้การทำงานของเวดดิ้งแพลนเนอร์ลื่นไหลมากขึ้น เพราะจำนวนแขก และวันจัดงานมีผลต่อการจัดหาสถานที่ ที่ต้องมีคิวว่าง และมีขนาดเพียงพอที่จะรองรับจำนวนแขกที่มาร่วมงาน ที่สำคัญค่าใช้จ่ายทั้งหมด ว่าที่บ่าวสาวต้องตกลงกันให้ชัดเจนว่ามีงบเท่าไหร่สำหรับการจัดงานทั้งหมด ทั้งคู่ต้องคุยต้องตกลงกันให้ลงตัว เพราะเคยมีกรณีที่ต้องมานั่งทะเลาะกันเพราะเรื่องงบจัดงานมาแล้ว แม้ว่าผู้มีอิทธิพลต่อการจัดงานแต่งในแต่ละครั้งจะคือเจ้าสาวก็ตาม สำหรับงบขั้นต่ำที่  JENIVA เคยทำให้คือ 300,000 บาท สำหรับแขก 100 คน ในโรงแรม 4 ดาว แต่ถ้าต้องการเชิญแขก 1,000 คนขึ้นไป และใช้โรงแรม 4-5 ดาว งบจะสูงถึงหลักล้าน

“การทำเวดดิ้งแพลนเนอร์ ต้องเป็นได้ทั้งเพื่อน ที่คอยแนะนำ ให้คำปรึกษา และผู้ช่วยสำหรับลูกค้า เพราะเราคือคนที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ ต้องทำการบ้านและคอยสังเกตความต้องการของลูกค้า ซึ่งค่าตัวของเวดดิ้ง   แพลนเนอร์ในตลาดจะอยู่ที่ประมาณ 4-6 หมื่นบาท”

คุณแคทลียา ท้วมประถม กรรมการผู้จัดการ Idealoungegroup ผู้ผลิต การ์ด และของชำร่วย พูดถึงการแข่งขันในธุรกิจงานแต่งงานว่า  คู่แข่งในตลาดการ์ดและของชำร่วยค่อนข้างเยอะ ลูกค้ามีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น จึงต้องหา option ใหม่ๆ มานำเสนอลูกค้า และคอยติดตาม trend เพราะปัจจุบัน ความต้องการของลูกค้า จะเน้นเรื่องความไม่เหมือนใคร  เป็นตัวของตัวเอง และมีความ Cozy  ซึ่งสีการ์ดที่มาแรงช่วงนี้ คือ     สีเทา ขาว น้ำเงิน น้ำตาล และเขียวใบตอง ส่วนสีที่เคยนิยม อย่างสีชมพู ฟ้า เขียว ก็ยังมีอยู่  โดยราคาการ์ดถูกสุดจะอยู่ที่ประมาณ 14 บาท 300 ใบ แพงสุดหลักพันก็มี ในขณะที่ของชำร่วย นอกจากจะต้องมีสไตล์แล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ยังเลือกของชำร่วยที่ใช้งานได้จริง และไม่แตกหักง่าย อย่างเช่น สมุดโน้ต ช้อนกาแฟ ส่วนประเภทที่เป็นอาหาร มีบ้างแต่ไม่นิยมมากนัก อย่างเช่น ช็อคโกแลต มาการอง เพราะมักจะมีปัญหาเรื่องของการขนส่งที่อาจทำให้ของแตกเสียหาย

คุณแคทลียา บอกด้วยว่า สิ่งที่เปลี่ยนไปนอกจากสไลต์การออกแบบการ์ดและการเลือกของแล้ว คนตัดสินใจก็เปลี่ยนไปด้วย เพราะที่ผ่านมาการเลือกการ์ดงานแต่งงาน พ่อแม่  จะเป็นคนตัดสินใจ เนื่องจากอาจจะมีการจัดงานใหญ่ และแขกส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ด้วย แต่ในระยะหลังมานี้ การจัดงานแต่งงานมีขนาดเล็กลง ว่าที่บ่าวสาวจึงขอเลือกที่เป็นตัวเองมากขึ้น

ด้านคุณบุษยา ประกอบทอง ผู้จัดการ นีโอ ผู้จัดงานแสดงสินค้าและบริการด้านธุรกิจมงคลสมรสครบวงจร Wedding Fair 2017 By NEO กล่าวว่า ทุกๆ ปีมีคู่รักมากมาย มองหามืออาชีพด้านงานแต่งงานเพื่อขอคำปรึกษา เนื่องจากการจัดงานแต่งงาน ต้องจัดเตรียมในหลายด้าน ทั้งชุด สถานที่ และพิธีการ ซึ่งบ่อยครั้งที่เรื่องการเตรียมงานแต่ง ทำให้คู่รัก ต้องมีปัญหาปวดหัว หรือคุยกันไม่ลงตัว การจัดรวมทุกๆ บริการด้านงานวิวาห์มารวมไว้ภายในงานเดียว จึงช่วยตอบโจทย์และแบ่งเบาเรื่องน่าปวดหัวให้กับคู่รักได้มาก ตลอด 25 ปีที่ผ่านมางาน Wedding Fair by NEO จึงเป็นงานที่รวบรวมสินค้าและบริการงานวิวาห์ รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษให้คู่รักที่มาร่วมงานได้เลือกและยังสามารถขอคำปรึกษาจากเหล่ามืออาชีพที่มาร่วมงาน ซึ่งปีนี้ เราจัดภายใต้ธีม “The Bride Way” ให้เส้นทางสู่การเป็นเจ้าสาวของคุณโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ การันตีด้วยเหล่ามืออาชีพในแวดวงการจัดงานแต่งงาน ทั้งโรงแรม ห้องจัดเลี้ยง, เวดดิ้งสตูดิโอ, เครื่องประดับเพชร, Wedding Planner, การ์ดและของชำร่วย ที่สำคัญสาวๆจะได้อัพเดทเทรนด์แฟชั่นชุดแต่งงานจากห้องเสื้อชั้นนำ Amita, Wach, Crescendo, Cosily, Amata, และ ฟิลิปโป้  โดยเหล่านางแบบชื่อดังของไทย ซึ่งปีนี้จัดเต็มด้วยชุด Talk of The Town ที่ประดับด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้สุดอลังการ ที่ได้นางแบบสาว ศรีริต้า เจนเซ่น มาร่วมเดินฟินาเล่  จึงอยากเชิญชวนให้สาวๆ และคู่รักที่กำลังวางแผนสละโสดจูงมือกันมาร่วมชมงาน และทำกิจกรรมสุดพิเศษกับเหล่ากูรูมืออาชีพ ในโซน Love Plus Club  ที่มีการสอน DIY ดอกไม้ประดับข้อมือเจ้าสาว, DIY กระเป๋าสะพายแห่งรัก, การทำอาหารเช้าแสนหวาน, การเพ้นท์เล็บเจ้าสาว, และการตกแต่งต้นไม้แห่งรัก  เข้าร่วมชมงานได้ระหว่างวันที่ 8 – 11 มิถุนายนนี้ เวลา 11.00 น. – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2203-4212-6 หรือ facebook.com/Weddingfairbyneo และ www.thaiweddingfair.com แล้วเส้นทางสู่วันพิเศษของคุณจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ