เธอคนนี้มาแรงจนฉุดไว้ไม่อยู่ “ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย” หนึ่งในพิธีกรรายการเทยเที่ยวไทยสุดจี๊ด ที่แม้ช่วงนี้จะร้อนแรงจนงานวิ่งชนตลอดไม่เคยได้หยุดพัก แต่เธอก็ยังแบ่งเวลาเพื่อร่วมแสดงในภาพยนตร์ “เกรียน ฟิคชั่น” กับบทของ อ.แดงต้อย ที่ต้องบินขึ้นไปถ่ายทำถึงจ.เชียงใหม่ แต่เธอก็ไม่เคยบ่น เพราะโดยส่วนตัวแอบปลื้มผลงานหนังของผู้กำกับมะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ตั้งแต่เรื่อง รักแห่งสยาม มาแล้ว จึงทำให้ป๋อมแป๋มดี๊ด๊าเป็นพิเศษเมื่อได้มาร่วมงานกับผู้กำกับในดวงใจครั้งนี้
“ทางทีมงานติดต่อมาแล้วบอกว่ามีบทอยากจะให้เล่นเป็นอาจารย์ที่เป็นกระเทย เราก็ถามว่าหนังของใครพอรู้ว่าเป็นหนังของมะเดี่ยวเราก็เลยบอกว่าได้ๆตกลงเล่นทันที ส่วนตัวรู้จักกับมะเดี่ยวมาอยู่แล้ว เราก็ติดตามผลงานเขามาตลอดนะ แอบปลื้มเขามาก่อนหน้านี้แล้ว เราชอบรักแห่งสยามมาก แล้วอีกอย่างตั้งแต่สมัยเรียนจุฬาฯก็ได้ยินชื่อมะเดี่ยวมาตั้งแต่สมัยนั้น ก่อนจะเจอครั้งแรกในความคิดเราคิดว่ามะเดี่ยวน่าจะเป็นคนที่แอบดุ เพราะเราตัดสินจากผลงานของเขา หนังของเขาแต่ละเรื่องมีความเนียบมาก ละเอียดมาก เราจึงรู้สึกว่าเขาน่าจะเป็นคนค่อนข้างดุ แต่พอเจอตัวจริงแล้วคุยกันแล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ร่าเริ่งเป็นกันเองมาก แล้วเราก็แอบปลื้มเหมือนกัน เพราะมะเดี่ยวก็เป็นแฟนเทยเที่ยวไทยด้วยเหมือนกัน ก็เลยคุยกันถูกคอ พอตอนที่เราคุยกันถึงเรื่องคาแร็คเตอร์ มะเดี่ยวค่อนข้างเปิดโอกาสให้เราตีความตัวละครของเราอย่างอิสระเหมือนกัน ป๋อมแป๋มอ่านบทตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วยิ่งอ่านมันก็รู้สึกยิ่งอยากเล่น มะเดี่ยวเป็นคนนิสัยดี ใจดีและมีความเป็นมืออาชีพมากค่ะ”
หลายคนเห็นภาพความน่ารักจากการเป็นพิธีกรมาแล้ว แต่เมื่อต้องมาสวมบท อาจารย์อีโก้จัด ตุ๊ดเหวี่ยงแบบจัดเต็ม ป๋อมแป๋มก็ตีบทแตกและอินกับการแสดงได้จนเป็นที่น่าหมั่นไส้มาก โดยเล่าถึงบทบาทและคาแร็คเตอร์ที่ได้รับครั้งนี้ว่า
“ตอนที่อ่านบทแดงต้อยครั้งแรกก็คิดว่าทำไมกระเทยคนนี้มันร้ายจัง กระเทยคนนี้ทำไมมันไม่มีข้อดีเลยว่ะอ่านแล้วอยากจะขอตบที ปรากฎว่ายิ่งเล่นไปก็ยิ่งอยากตบ คือ จริงๆแล้วต้องขอบคุณมะเดี่ยวที่ช่วยตีความตัวละครว่าคนเราที่มันร้ายกับคนอื่นได้แบบนี้มันต้องรู้สึกว่าตัวเองมีดีมาก แต่มันรู้สึกอย่างเดียวไม่ได้หรอก เพราะกระเทยคนนี้ถึงมันจะเลวแต่มันก็ยังมีความเก่ง มีความสามารถด้านละครเวที มีอีโก้สูง พยายามจะผลักดัน พลอยดาว นักเรียนคนโปรดให้เป็นซุป’ตาร์ แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะแก๊งเกรียนมาสร้างปัญหาทำให้พลอยดาวไม่กล้าขึ้นเวทีอีกต่อไป จึงทำให้ไม่ชอบแก๊งเกรียน และตามราวีจนถึงที่สุด”
แต่ถึงจะโตสุด แถมยังรับบทอาจารย์ เมื่อต้องร่วมงานกับแก๊งเด็ก ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเธอเลย เพราะกลายเป็นขวัญใจและเป็นคุณแม่ของเด็กๆ ที่ต้องคอยดูแล คอยเลี้ยงขนมเลี้ยงข้าวน้องๆไปโดยปริยาย ป๋อมแป๋มเล่าต่อด้วยอารมณ์สนุกสนานว่า
“น้องๆทั้งหมดน่ารักมากเลย วันที่ไปวันแรกป๋อมแป๋มรู้สึกเกร็งนิดนึง เพราะ อายุห่างจากเรามากและเขาก็สนิทกันอยู่แล้ว แต่เอาเข้าจริงเด็กๆก็จะเข้ามาแวะเวียนเล่นกับเราเสมอ เรื่องนี้เด็กๆเยอะแล้วก็พากันเรียกป๋อมแป๋มว่าคุณแม่ เราก็เลยพาน้องๆเลี้ยงขนมเลี้ยงข้าว รู้สึกอบอุ่นดีค่ะ ตอนแรกกลัวจะเป็นช่องว่างระหว่างวัยแต่สุดท้ายก็ไม่มี ก็ไม่รู้เป็นเพราะว่าเรายังเด็กอยู่ หรือเด็กพวกนี้มันแก่แดดมากกว่ากันก็ไม่รู้นะ”
และแม้จะผ่านพ้นวัยเกรียนมาได้สักพักใหญ่แล้ว แต่วีกรรมสุดเกรียนสมัยวัยรุ่นที่ป๋อมแป๋มเคยก่อไว้นั้น เธอยังจำได้แม่นไม่เคยลืมจนถึงทุกวันนี้ “เรื่องที่เกรียนที่สุดของป๋อมแป๋มเกิดขึ้นช่วง ม.ปลาย ซึ่งเป็นช่วงที่เราคิดว่าเราโตแล้ว ช่วงนั้นป๋อมแป๋มก็จะไปเที่ยวหัวหินกับเพื่อนโดยนั่งรถไฟไปแล้วก็จะมีสิ่งที่ชอบทำที่นึกว่าเจ๋งมาก คือ การไปกวนตีนแม่ค้าบนรถไฟ เช่น แม่ค้าเดินไปขายมะม่วงแล้วดันถามว่า มะม่วงมันไหมจ้ะ เราเองก็เลยไปกวนตีนว่าอ้าวขายเองไม่รู้หรือว่ามันไม่มัน เพื่อนก็ชอบใจหัวเราะกันใหญ่ ยิ่งได้ใจเราก็เลยไปแกล้งครั้งที่สอง มีแม่ค้าถามว่าน้ำเย็นไหมจ้ะ แล้วเราก็เอามือไปจับแล้วบอกว่าเย็น คราวนี้แม่ค้าไม่เล่นด้วยมันเควี้ยงขวดใส่เลย อันนี้ก็เลยเป็นบทเรียนว่าเราเป็นเด็กเป็นเล็กอย่าไปเปรี้ยวอย่าไปเกรียน แล้วตอนนั้นรู้สึกจะเป็นกระเทยเกรียนด้วยไม่ใช่เด็กเกรียนอย่างเดียว”
ติดตามชมผลงานการแสดงแบบจัดเต็มของ ป๋อมแป๋ม เทยเที่ยวไทย ได้ในภาพยนตร์ เกรียน ฟิคชั่น ทั้งฮา ทั้งน่าตบ 18 เมษายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์