“คนตายอยากบอก…คนพลาดไม่อยากจำ” ทาเลนต์ วัน มูฟวี สตูดิโอ บริษัทในเครือ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ภูมิใจเสนอผลงานภาพยนตร์สยองขวัญสะเทือนอารมณ์

LAST  SUMMER    ฤดูร้อนนั้น  ฉันตาย 

ฤดูร้อนนั้น…จอย (อาย-พิมพกานต์ แพร่คุณธรรม)  เด็กสาวอนาคตสดใสในวงการบันเทิง โพสต์สเตตัสว่า   “อยากตาย”   สิงห์ (เก้า-จิรายุ  ละอองมณี) หนุ่มหล่ออนาคตไกลอยากปลอบใจ จึงแอบขับรถพ่อมารับเธอกับเพื่อนสนิท มีน (ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) โดยพาคู่หู กานต์ (สบาย-กฤษ สถาปนพิทักษ์กิจ) ไปเที่ยวทะเลด้วยกันเป็นครั้งแรก!!!

แต่ค่ำคืนแห่งความสนุกกลับกลายเป็นคืนสยอง!!! เมื่อเกิดโศกนาฎกรรมไม่คาดฝันขึ้นคือ จอยตาย  สิงห์ตัดสินใจซ่อนศพเพื่อให้คนที่ยังอยู่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ กานต์และมีนจึงต้องตกกระไดพลอยโจนไปด้วย แต่ผีจอยไม่ยอมให้ตัวเองถูกทิ้ง เพราะเมื่อมีนกลับไปโรงเรียน ผีจอยก็ตามติดไปสร้างความสะเทือนใจและเขย่าขวัญมีนอีก เพราะทั้งสองมีความลับซึ่งเพื่อนสนิทเท่านั้นที่รู้ และไม่เพียงเท่านั้น ผีจอยยังกลับไปที่บ้าน พบว่าน้องชายหรือ ติ่ง (เบสท์-เอกวัฒน์ เอกอัจฉริยา) กลายเป็นคนสำคัญของบ้านแทนเธอ เธอย่อมยอมไม่ได้ ผีจอยมีเรื่องอยากบอกกับคนเป็น แต่คนใกล้ชิดเธอ ไม่ว่าจะเป็นคนรัก เพื่อนสนิท และน้องชาย ล้วนไม่มีใครอยากรับรู้หรือจดจำ จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องราวระทึกขวัญที่เขย่าหัวใจของคนเคยเป็นวัยรุ่นทุกคน

 

บทสัมภาษณ์ทีมงาน และนักแสดง  

Last summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย

อำนวยการสร้างและกรรมการผู้จัดการ

ลัดดาวัลย์ รัตนดิลกชัย  

หนังสยองขวัญ-สะเทือนอารมณ์-วัยรุ่น

“สตูดิโอตั้งใจจะทำหนัง Horror-drama-teenage หรือหนังผีที่มีประเด็นเกี่ยวกับชีวิตร่วมสมัย สำหรับคนดูกลุ่มวัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน เราได้ทำรีเสิร์ชมากพอสมควร จนลงตัวที่เรื่อง “วัยรุ่นพลาด” จนนำไปสู่โศกนาฏกรรม ซึ่งใกล้ตัวเพราะเราทุกคนล้วนเคยเป็นวัยรุ่นและล้วนเคยพลาดมาแล้วทั้งนั้น

“Theme ของหนังคือ ความพลาดของวัยรุ่นนั้น เกิดขึ้นเพียงเพราะพวกเขาแค่อยากเป็นคนสำคัญ หรือไม่อยากเป็นคนไร้ค่าสำหรับคนที่พวกเขาแคร์ และด้วยวัยที่อ่อนเยาว์ การรับมือกับความพลาดจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นหากเรามองจากจุดนี้ เราอาจจะเข้าใจและเห็นใจว่าเป็นบาปบริสุทธิ์โดยแท้จริง เพราะทุกคนล้วนมีตัวตนหรือดำรงอยู่ด้วยความรู้สึกที่คนรอบข้างมีต่อเราทั้งนั้น จะว่าไปก็คือ เหรียญสองด้านของความสัมพันธ์ระหว่างเรากับโลกภายนอกนั่นเอง

“จากมุมมองนี้ คอนเซ็ปต์หนังจึงวางอยู่บนพื้นฐานสำคัญ 2 อย่าง หนึ่งคือ การนำด้วยตัวละคร (character driven) โดยเล่นกับความขัดแย้งทั้ง 3  ระดับของตัวละครหลัก ได้แก่ ความขัดแย้งภายใน (inner conflict) ระหว่างความรู้สึกผิดกับบาปที่ตัวเองต้องทำเพื่อเอาตัวรอด ความขัดแย้งระหว่างบุคคล (personal conflict) ระหว่างตัวคนใกล้ชิดของจอย คือ คนรัก เพื่อนสนิท และครอบครัวกับตัวจอย ทั้งตอนเป็นคนและเป็นผี ดังนั้นจึงต้องทำให้ตัวจอย แข็งแรงพอที่จะเป็นตัวละคร ไม่ใช่ตัวประกอบมาหลอกให้กลัวเฉยๆ และความขัดแย้งระดับที่สามหรือระหว่างตัวละครกับโลกภายนอก (extra-personal conflict) คือ วัยรุ่นกับโลกของผู้ใหญ่ หรือโลกคนของอยากแหกกฎกับกฎนั่นเอง

“พื้นฐานที่สองคือ กลไกของการเล่าเรื่อง (storytelling mechanic)โดยใช้จุดแข็งของหนังที่สร้างตัวละครอย่างดี มีมิติ ผูกเรื่องราวของหนัง เราจึงวางคอนเซ็ปต์ของหนังให้มีกลไกเล่าผ่านตัวละครหลักทั้งสามรอบตัวจอย คนใกล้ชิดที่สุดของวัยรุ่น ซึ่งก็คือ คนรัก เพื่อนสนิท และครอบครัว

“แต่หนังสยองขวัญไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะก่อนอื่นคือต้องสนุก ทำให้คนดูทั้งอยากลุ้นอยากติดตามและเสียวสยองไปด้วย กระตุ้นให้กลัวเพื่อกรี๊ดแล้วปลดปล่อยความรู้สึกข้างในออกมา ขณะเดียวกันก็ต้องมีเนื้อหาที่กินใจด้วย และยิ่งเป็นหนังวัยรุ่น ยิ่งต้องมีสไตล์การเล่าเรื่องและตัวเรื่องที่เชื่อมโยงกับวัยนี้ได้จริง

“เราแบ่งหัวใจหนังออกเป็น 3 ส่วนคือ Horror การทำผีให้มีชีวิต เป็นตัวละครที่ทั้งน่ากลัวและน่าค้นหามากที่สุด เพื่อให้ผีมีมิติมากกว่าเน้นความสยดสยองของรูปลักษณ์  ซึ่งทุกวันนี้ก็ทำกันมากมายจนแทบไม่เหลือช่องว่างอยู่แล้ว องค์ประกอบนี้ต้องใช้การดีไซน์คอนเซ็ปต์ของผี ทั้งรูปลักษณ์ บุคลิก แรงจูงใจ ความต้องการให้ชัดเจนและมีเอกลักษณ์ และต้องใช้ทีมโปรดักชั่นกับโพสต์โปรดักชั่นที่ดีที่สุดด้านผี ไม่วาจะเป็นด้านภาพ ตัดต่อ หรือเสียง

“Drama หรือการทำตัวละครและเนื้อเรื่องให้แข็งแรง ต้องเป็นตัวละครที่คนดูเชื่อมโยงตัวเองได้ง่าย เรื่องที่รู้สึกร่วมได้ทันที ดังนั้นเราต้องใช้คนเขียนบทดราม่าที่ดีที่สุด โดยมีทีมรุ่นเยาว์และการทำรีเสิร์ชซัพพอร์ต และใช้นักแสดงวัยรุ่นดราม่าที่ดีที่สุด ส่วนสุดท้ายคือ Teenage การทำให้หนังมีความเป็นวัยรุ่น ซึ่งต้องพึ่งพาผู้กำกับรุ่นใหม่ที่มีสไตล์ทันสมัย ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับความเป็นมนุษย์ว่าคือแก่นของการเล่าเรื่อง

“และเพื่อไปให้ถึงสามส่วนนี้ เราจึงต้องทำงานด้วยวิธี collaboration คือ เสาะหาคนที่คิดว่าใช่มารวมพลังกันทำงานให้หนังเรื่องนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”

 

ควบคุมงานสร้า

ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์

“หน้าที่หลักเราเริ่มที่เลือกคนมาสร้างงาน โจทย์ของเราคือ บทดีมาก มันไม่ใช่หนังผีแบบที่เราเคยดู คือมันน่า

กลัวแบบมีคุณค่า หากจะสร้างให้ตอบโจทย์ก็ต้องหาและเลือกคนที่เชื่อและมองเห็นว่าจะร่วมกันทำหนังน่ากลัวแบบนี้ได้

“สตูดิโอได้นักแสดงวัยรุ่นที่มีศักยภาพทางดราม่าและสยองขวัญอย่าง เก้า-จิรายุ และปันปัน-สุทัตตา มาแล้ว เรายิ่งต้องเลือกทีมงานสร้างเพื่อส่งเสริมกัน เราปรุงงานสร้างอย่างคนที่เชื่อในการผสมผสาน เริ่มจากการใช้ผู้กำกับ 3

คนคือ  คุณจอห์น-กิตติธัช ตั้งกิจศิริ, คุณโดม-สิทธิศิริ มงคลศิริ และคุณยู-ษรัณยู จิราลักษม์  ซึ่งแต่ละคนมีข้อเด่นที่เหมาะกับการเล่าเรื่องหนังแต่ละองก์ที่มีตัวละครหลักต่างกัน

“เราจึงซัพพอร์ตพวกเขาด้วยช่างภาพรุ่นใหญ่คนเดียวเพื่อความเป็นเอกภาพอย่าง คุณสยมภู มุกดีพร้อม เรา    จัดให้นักแสดงทั้งที่มีประสบการณ์ และนักแสดงใหม่ผ่านการทำเวิร์คช็อป และมีแอ็คติ้งโค้ชประกบ เพื่อที่ว่าในการแสดง คนดูจะเชื่อว่าพวกเขาเป็นตัวละครนั้นจริงๆ ซึ่งผลการแสดงที่ออกมาเราแฮปปี้มาก

“และที่สำคัญสุดเพื่อให้งานสร้างออกมาตอบโจทย์อย่างมีรสนิยม เราก็ต้องเลือกโปรดักชั่นดีไซน์ และเลือกผู้ช่วย

ควบคุมงานสร้างจากโปรดักชั่นเฮ้าส์ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว เพื่อมาช่วยเราให้ควบคุมงานสร้างให้

ลุล่วงราบรื่น ซึ่งระหว่างเตรียมงานถ่ายทำจนถึงตัดต่อ และทำเทคนิคพิเศษก็มีการตรวจสอบคุณภาพกันตลอด มันเป็น

งานสร้างที่ไม่ง่ายและไม่ราบรื่น มีความโหดเรื่องเวลาและข้อจำกัดด้านโลเคชั่น แต่ทีมงานและนักแสดงอดทนและทุ่ม

ให้กับงานนี้อย่างเต็มที่ จนมันลุล่วง

“วันที่ตัดต่อร่างแรกมาดูกันเอง มีคนที่ทำหนังมาเยอะ แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมในงานสร้างเรื่องนี้พูดว่า “งาน โปรดักชั่นดีมากเลยพี่” แล้วก็เริ่มชมการแสดงของตัวละครต่างๆ เราก็ดีใจล่วงหน้าเลยว่าหนังเรื่องนี้คนดูคุ้มราคาตั๋ว ส่วนคนสร้างงานนั้นก็แฝงตัวอยู่ในงาน ซึ่งคนดูไม่ต้องเห็น

 

บทภาพยนตร์

คงเดช จาตุรันต์รัศมี  : หนังผีวัยรุ่น เพื่อวัยรุ่น

“สตูดิโอต้องการจะทำหนังผีที่ตัวละครเป็นวัยรุ่นและมีทีมน้องๆ ที่เริ่มคิดโครงเรื่องไว้ประมาณหนึ่งแล้ว จึงคุย   กันว่า เราอยากจะพูดกับวัยรุ่น หรือวัยรุ่นอยากจะพูดหรือฟังจากหนังเรื่องอะไรบ้าง และลงตัวที่ วัยรุ่นที่ลองผิดลองถูก ซึ่งบ่อยครั้งลองแล้วพลาด ประเด็นจะอยู่ตรงถ้าเราพลาด เราสามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้หรือเปล่า หรือถ้าเราถูกบริบทรอบๆ ผลักให้เลยเถิด ย้อนกลับไม่ได้ แก้ไขไม่ได้ หรือแม้แต่ยอมรับความจริงไม่ได้ล่ะ จะเป็นยังไง???

“เขียนแล้วก็รู้สึกดี เพราะผมไม่เคยเขียนหนังผี จึงเป็นงานที่ยาก แต่ผมยึดโครงสร้างของดราม่าไว้เป็นหลักก่อน และต้องมีประเด็นเนื้อหาที่ตั้งใจไว้จริงๆ ดังนั้นจึงต้องสำรวจคนรอบตัวผีว่ามีอะไรบ้าง เช่น  คนรัก เพื่อนรัก แล้วก็ครอบครัวที่รัก คนรอบตัวนี้มีบทบาทต่อผีและทำให้เรารู้จักตัวผีมากขึ้นด้วย คนดูก็จะมีอารมณ์ร่วมกับหนังได้มากขึ้น    มันเลยไม่ใช่หนังผีที่แค่ออกมาหลอก แต่มีความลับบางอย่างของทั้งคนและผีมีร่วมกันที่รอคนดูมารับรู้ร่วมเฉลยความลับนี้

“แต่หนังผีก็ต้องทำให้ความสยองขวัญไปให้ถึงจุดสูงสุดให้ได้ จึงต้องมีการระดมความคิดว่าจะทำยังไงให้ผีตัว     นี้ไม่ซ้ำกับผีตัวอื่นๆ จนได้ข้อสรุปว่า ผีควรจะมีเจตจำนง ไม่ใช่ออกมาหลอกให้แค่กลัว แต่มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการบอกอะไรกับคนเป็น  หรือต้องการคุกคามเพราะอะไร การคิดรูปลักษณ์ จังหวะการมา และส่วนอื่นๆ ของหนังต้องผลัก    ดันให้ผีไปสู่จุดนี้ด้วยกัน”

 

3 ผู้กำกับเล่าเรื่องผ่าน 3 ตัวละครหลัก เรื่องของสามวัยรุ่นทำให้เกิดเรื่องของคนที่สี่

กิตติธัช ตั้งศิริกิจ (จอห์น)  : อดีตผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณาบริษัทฟีโนมีนา ผลงานรางวัล Bronze Cannes 2012

Dark Romantic  รักแต่ต้องทำลายระหว่างคนรัก

“เรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวละครหลัก 3 คน ที่เป็น คนรัก(สิงห์) เพื่อนสนิท(มีน) และน้องชาย(ติ่ง) ของ ‘จอย’ หรือผีของเรื่อง ซึ่งเมื่อติดตามเรื่องของคนใกล้ชิดจอยทั้งสาม ก็จะได้เรื่องราวของตัวละครที่สี่ คือ จอยด้วย ทั้งหมดหลอมรวมเป็นหนังเรื่องเดียวกัน ซึ่งทั้งยากและท้าทาย หนังจึงมีโครงสร้างเรื่องที่แปลกแต่ก็กลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และน่าสนใจ

“ผมอ่านบทองก์หนึ่งจบแล้วสนุกมาก บทดีมาก องก์นี้เน้นความตื่นเต้นคึกคะนองของวัยรุ่นทั้งสี่ ซึ่งเพิ่งมีอิสรภาพพ้นสายตาของผู้ใหญ่เป็นครั้งแรก แล้วพลิกผันกลายมาเป็นความดำมืดที่สุดครั้งแรกเช่นกัน โดยผมรับหน้าที่เล่าเรื่องผ่านตัวละครสิงห์ คนรักของจอย ผมชอบตัวละครสิงห์มาก เพราะมีความซับซ้อนตรงเริ่มต้นมาจากความพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับวัยรุ่นคนไหนก็ได้ สามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่ความที่สิงห์ตัดสินใจเลือกทางซึ่งเสี่ยงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากความกลัว ความไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร และจากการประเมินสถานการณ์ผิดเพราะวัย ทำให้ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ องก์นี้เน้นความโลดโผนตื่นเต้น แล้วค่อยๆ กลายเป็นสยองขวัญ

“สำหรับเก้าคือนักแสดงที่ผมอยากให้เป็นไอดอลของเด็กรุ่นใหม่ เพราะเขาทุ่มเท อินจริงๆ และไม่ยอมแพ้ บทสิงห์เล่นยากมาก เพราะการตีความมันซับซ้อน แต่เก้าทำได้ดี มีหลายครั้งที่เขาเล่นแล้วรู้สึกยังไม่ใช่ เขาจะมาบอกผมว่า ขออีกที หลังคำว่าแอ็คชั่นเก้าเป็นสิงห์ทุกครั้ง ไม่เคยเป็นเก้าเลย  ส่วนนักแสดงคนอื่นคือ สบาย ที่รับบท กานต์  ทำให้หนังเรื่องนี้มีสีสันมากขึ้น สบายใหม่สำหรับหนัง แต่ต้องเล่นประกบเก้าและปันปัน ทำให้สบายไม่ค่อยสบายนัก แต่ก็พยายามทำการบ้านมาอย่างดี เตรียมตัวมาหนักมาก

“ความรู้สึกของสิงห์ต่อจอยคือ Dark Romantic  ซึ่งเก้าเล่นดีมาก คือสิงห์รักจอยจริงๆ แต่ต้องซ่อนศพ  สิงห์พยายามจะทำต่อศพจอยอย่างดี คือถ้าเธอมีชีวิตอยู่ ฉันก็จะปฏิบัติกับเธอให้ดีอย่างนี้ล่ะ ระหว่างทำไปความรู้สึกข้างใน  ที่ยังรักก็ออกมาด้วย มองมือที่เคยสวย มองหน้าที่เคยรัก แล้วจึงลงมือ ซึ่งคืออะไรอยากให้ดูในหนังครับ”

 

สิทธิศิริ มงคลศิริ (โดม) อดีตผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา บริษัทฟีโนมีน่า

Ugly Secret มิตรภาพและความลับระหว่างเพื่อนสนิท

“ผมชอบบทองก์สอง เพราะชอบบทที่มีคาแรคเตอร์ของผู้หญิงนำอยู่แล้ว ผมว่าผู้หญิงมีความซับซ้อนน่าสนใจ  คือมีทั้งความอ่อนหวาน ความเศร้า นุ่มนวล และน่ากลัว เรียกว่ามีสองด้านที่ขัดแย้งอยู่ในตัว ดังนั้นเมื่อเรื่องราวเพิ่มดีกรีขึ้นไปอีกด้วยความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยมีกันและกันเป็นแรงสนับสนุนให้ชีวิตมีความหมาย ไม่โดดเดี่ยว แต่ก็มีความลับดำมืดฝังอยู่ในมิตรภาพนั้นรอวันเปิดเผย จึงทำให้หนังผีเรื่องนี้น่าติดตามและมีเรื่องราวเข้มข้น

“ผมคิดว่าคนดูจะอินกับเรื่องนี้ได้ง่ายมาก เพราะเพื่อนเป็นส่วนสำคัญสำหรับชีวิตของเราทุกคน นอกจากนั้น โรงเรียนก็เป็นสถานที่คุ้นเคยของเราเช่นกัน การที่จอยยังอยู่ที่โรงเรียนเท่ากับจอยอยู่ในสถานที่ใกล้ตัวของเรา บรรยากาศในองก์นี้จะหลอนจนน่ากลัวมาก

“ส่วนของการแสดง ผมแฮปปี้กับปันปันมาก ปันปันเป็นนักแสดงที่ดีที่สุดสำหรับบทนี้ บทมีนมีความลึก ทั้งฉลาดและมีด้านมืดอยู่ในตัวเอง ปันปันตีความตัวละครได้ดีมาก ทำให้รู้สึกถึงทั้งความไร้เดียงสาแบบเด็กสาว และความขัดแย้งทั้งข้างนอกกับในใจ ทำให้องก์นี้นอกจากผีซึ่งน่ากลัวแล้ว คนกลับน่ากลัวกว่าผีเสียอีก”

 

ษรัณยู จิราลักษม์ (ยู)  กำกับภาพยนตร์เรื่อง “Together วันที่รัก” และ “9 วัด”

Love Hate relationship ผูกพันและชิงชังระหว่างน้องกับพี่

          “องก์สามที่ผมดูแล คือเมื่อผีจอยกลับมาบ้านซึ่งเธอผูกพันมากที่สุด ผีจอยพบว่าชีวิตของคนในบ้านเป็นอย่างไรและกำลังจะเคลื่อนไปข้างหน้า โดยเฉพาะน้องชายชื่อ ติ่ง  องก์นี้ลึกไปที่ความสัมพันธ์ของครอบครัว ในชีวิตจริงแต่ละครอบครัวจะมีดราม่าซ่อนอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว และความสัมพันธ์ในครอบครัวของจอยนี่เองที่นำไปสู่บทสรุปที่ไม่มีใครคาดคิด

          นอกจากนั้น ยังมีความสยองขวัญที่น่าสนใจคือ ในบ้าน ซึ่งน่าจะเป็นแหล่งปลอดภัยที่สุดของเรา แต่หนังเรื่องนี้บ้านคือความน่ากลัว และฉากผีอื่นๆ อีกคือ การที่ตัวละครติ่ง น้องชายของจอย เป็นนักกีฬากระโดดน้ำ กีฬาประเภทนี้หาดูในหนังได้ยากอยู่แล้ว ยิ่งมาอยู่ในหนังผี ก็ต้องมีฉากหลอนๆ ตอนกระโดดน้ำ เรียกว่ายังไม่เคยเห็นหนังเรื่องไหนทำออกมา

“ด้านการแสดง ทั้งอาย(จอย) กับเบสท์(ติ่ง) เป็นนักแสดงใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ประสบการณ์อาจจะน้อย แต่ความตั้งใจเกินร้อย อย่างตัวอายในส่วนที่ผมกำกับ จะยากสำหรับเขามากที่สุด เพราะช่วงแรกยังเป็นอารมณ์วัยรุ่นสดใสกับคนรัก กับเพื่อน แต่ตอนท้ายเราจะรู้ว่าผีจอยเป็นผีมีที่มาที่ไป คือตัวละครจอยที่อายรับบท มีมิติตั้งแต่ตอนเป็นคนไปจนถึงตอนที่ตายแล้ว อายมีสปิริตมาก การแต่งเอฟเฟ็คทรมานมาก แต่น้องอดทนสุดๆ ไม่บ่น ไม่งอแง

“ส่วนเบสท์ต้องรับบทหนัก เพราะนอกจากต้องฝึกด้านการแสดงแล้ว ในเรื่องเบสท์ยังเป็นนักกีฬากระโดดน้ำ เลยต้องฝึกกระโดดน้ำ ต้องออกกำลังกายฟิตหุ่น เบสท์ก็เต็มที่กับการรับบทติ่ง จนพาคนดูไปถึงจุดที่สะเทือนใจได้ ทำให้คนดูเชื่อว่าเบสท์เป็นติ่งจริงๆ

          “หนังเรื่องนี้มีครบทุกอารมณ์ ทั้งความสนุก ตื่นเต้น สยองขวัญ น่ากลัว ซาบซึ้งเกี่ยวกับเพื่อน หรือคนรัก ที่พิเศษที่สุดคือเรื่องราว บทดีมาก แตกต่างไปจากเรื่องอื่น มีมุมมองใหม่ และนักแสดงทุกคนทำได้ดี เป็นหนังที่นักแสดงวัยรุ่นจะได้โชว์ฝีมือ”

 

กำกับภาพ

สยมภู มุกดีพร้อม : จากสนุกสุดเหวี่ยงสู่การบีบให้จนมุม

“องก์แรกภาพมันจะกว้างมาก เรื่องราวเกิดข้างนอกที่ทะเล วัยรุ่น สุดเหวี่ยง พอองก์สองกลับมาในเมือง ในโรงเรียน มุมมองมันจะแคบเข้ามา พอตอนสามหลักๆ คือบ้าน ก็จะแคบสุด บีบสุด

“ชอบฉากผีที่มี body movement มาเล่น เพราะเวลาเขาเคลื่อนไหวดูสวยดี ทั้งน่ากลัว แปลก และสวย ฉากไปทะเลก็ชอบ เพราะมัน open ที่สุด หลังจากนั้นมันเริ่มแคบลงมาเรื่อยๆ แล้วก็ชอบพาร์ทที่ปันปันเล่นหลายฉาก น้องเล่นได้ดีมาก”

 

สร้างผีให้มีชีวิต

Beauty Horror สวย สะพรึง และเศร้า

ชาติชาย  เกษนัส : Post Producer 

ภาพสวยคุณภาพระดับฮอลลีวู้ด

“งาน post-production ในปัจจุบันนับได้ว่าเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตภาพยนตร์มากขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนที่งาน post-production เริ่มต้นหลังจากการตัดต่อ มาถึงตอนนี้ด้วยความซับซ้อนมากขึ้นของ digital technology งานของแผนก post จึงเริ่มต้นตั้งแต่ pre-production ด้วยซ้ำไป

“อย่างแรก เราถ่ายทำด้วยกล้อง Arri Alexa  ซึ่งเป็นกล้องถ่ายทำภาพยนตร์ในแบบดิจิตอลที่ให้ภาพที่มีความนุ่มนวล และสีสันสดสวยคล้ายฟิล์ม 35mm. มากที่สุด เนื่องจากกล้องทำการประมวลผลและบันทึกข้อมูลในลักษณะ RAW ไฟล์ ที่เก็บค่าสีตั้งต้นจาก Sensor กล้องโดยตรง ซึ่งทำให้การทำงานในกระบวนการแก้สีง่ายขึ้น และสามารถสร้างสรรค์ได้มากขึ้น

“แต่ความงามก็แลกมาด้วยหน่วยความจำมหาศาล เราต้องใช้ Hard disk สำหรับออกกองถ่ายภาพยนตร์วันละ 3TB และทางไวท์ไลท์ ต้องเตรียมระบบรองรับอีก 100TB สำหรับการทำงาน LAST SUMMER จึงเป็นหนังไทยเรื่องแรก   ที่ถ่ายทำและผ่านกระบวนการทำ Post ด้วย Alexa Raw file ตลอดขั้นตอน  ภาพที่ได้จึงมีน้ำหนักและมิติของสีไม่ต่าง   จากเวลาที่เราชมภาพยนตร์ Hollywood ทั่วไปครับ

ออกแบบเสียงให้ ‘ผี’

“สิ่งที่เรารับโจทย์มาจากสตูดิโอคือ การสร้าง signature sound design ให้กับตัวผี ซึ่งเราไม่ได้ต้องการเพียงผลลัพท์ของความน่ากลัวแบบที่หนังผีพึงจะมี แต่เราต้องการสร้างมันโดยแฝงความสวยงามและความน่ากลัวเข้าด้วยกัน   และที่สำคัญสตูดิโอให้ความสำคัญเกี่ยวกับงาน conceptual มากๆ คือไม่ได้คาดหวังแค่ความน่ากลัวตามแบบฉบับหนังผี  แต่ต้องการเรื่องที่มาที่ไป คาแรคเตอร์ของตัวผี ความต้องการของผี (motivation) เป็นสำคัญ

“ในส่วนนี้เราได้ 2 ห้องเสียงมาช่วยในการออกแบบเสียง ซึ่งก็คือ Vanilla Sky และ Technicolor ประเทศไทย     มาช่วยกันออกแบบ หลังจากลองทำกันอยู่เดือนกว่าๆ เราก็ได้สองแบบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงออกมา ซึ่งนับได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างยิ่งของทั้งสองห้องเสียง Vanilla Sky โดย คุณนคร  โฆษิตไพศาล (ชัตเตอร์,The Warlord, แฝด ฯลฯ )  ซึ่งเป็นชื่อที่คร่ำหวอดในวงการหนัง horror ก็ได้พยายามฉีกแนวตัวเองด้วยการออกแบบเสียงโดยใช้จังหวะลมหายใจเป็นหลัก เพื่อสร้างความน่ากลัวให้กับผี

“Technicolor ประเทศไทย นำโดย Richard Hocks (ฝนตกขึ้นฟ้า,Together วันที่รัก, ยักษ์ ฯลฯ) ก็ได้สร้างสรรค์วิธีที่แตกต่างออกไป ถึงแม้จะใช้เรื่องลมหายใจเป็นตัวตั้งต้นในการออกแบบ แต่ทีมของ Richard เน้นไปยังการทำเสียงลมหายใจให้มีความเป็นผู้หญิง คือมีความนุ่มนวลผสมกับความหลอนไปพร้อมๆ กัน  แล้วแปลงมันให้สามารถอยู่ในอากาศของภาพยนตร์ได้อย่างน่าสนใจ ต้องติดตามต่อไปว่าส่วนผสมนี้จะเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ในภาพยนตร์

 

ทำให้ผี…มีลมหายใจ

นคร  โฆษิตไพศาล  (Vanilla Sky)

“โจทย์ที่ได้คือ ทำเสียงผีให้แตกต่างจากหนังผีเรื่องอื่นๆ ไอเดียแรกที่อ่านจากบทคือ จอยมีโรคประจำตัวเป็นหอบ เลยเอาเสียงหอบมาใช้ แต่ก็มีพัฒนาความคิดโดยเอาการหายใจของจอยที่ขาดอากาศหายใจมาเป็นคาแรคเตอร์ของผี ปกติคนตายไม่หายใจ แต่ผีในเรื่องนี้มีลมหายใจ จากนั้นก็เอามาดีไซน์ต่อให้เสียงลมหายใจของผีมีความน่ากลัว โดยการเล่นกับจังหวะที่ผีจะโผล่มา บางฉากคนดูอาจจะหายใจไปพร้อมๆ กับผี หรือบางฉากก็ทำให้คนดูตกใจกับเสียงลมหายใจของผี”

 

เมื่อ ‘ผี’ ต้องมีทั้งความน่าสะพรึงกลัวและความสวยงาม

“โจทย์ของผีในเรื่องยังคงเดิม คือคงความเป็น beauty-horror อยู่ โดยครั้งนี้เราคิดบนพื้นฐานของตัวละครจอย ที่เป็นตัวละครหลักของเรื่อง ซึ่งเรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากจอยนั้น ล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลมาจากคนรอบข้าง โดยมีแม่ของตนเป็นใหญ่  เธอจึงเปรียบเสมือนตุ๊กตาเซรามิคที่สวยงามและบอบบางอยู่ในที ทั้งยังถูกควบคุมด้วยคนอื่นๆ อีก

“ทีมโปรดัคชั่นเริ่มต้นด้วยการทำ make-up ผีขึ้นมา โดยตั้งอยู่บนความสมจริงตามเรื่องว่าเธอถูกกระทำอย่างไรบ้างหลังจากที่เธอเสียชีวิต ความยากของมันอยู่ที่การที่จะต้องบาลานซ์ระหว่างความน่าสะพรึงกลัวกับความสวยงามของเธอ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงภาพลักษณ์ภายนอกของผี ทางสตูดิโอต้องการทำอะไรมากกว่านั้น

“เราเริ่มคิดว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะเป็นอย่างไร และเราพบว่าการเคลื่อนไหวของเธอมีสองประเด็นใหญ่ๆ     คือ หนึ่ง การที่ร่างกายเธอถูกทำให้แตกหัก(เพื่อยัดใส่กระเป๋า) กับสิ่งที่เธอเป็น ทั้งตอนที่เธอมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว    นั่นก็คือ การที่เธอไม่ได้มีสิทธิ์ในร่างกายและชีวิตของเธอ การที่ถูกคนอื่นเชิดเหมือนหุ่นอยู่ตลอดเวลา

“เรานึกถึงการเคลื่อนไหวที่ข้อต่อของร่างกายถูกแยกออกจากกันว่าน่าจะตอบโจทย์การที่ร่างของเธอถูกกระทำ และเราก็ไม่อยากที่จะสร้างตัวเธอขึ้นมาใหม่ด้วยวิธีการทาง CGI ทั้งหมด เพราะว่ามันจะทำให้หนังเรื่องนี้ขาดความสมจริงและดูไม่น่ากลัวด้วย texture ของ CGI เราจึงขอความช่วยเหลือจากกลุ่ม Physical Performer ซึ่งก็คือคณะละคร B-Floor นำโดย คุณธีระวัตร มุลวิไล เข้ามาเป็น Physical Director เพื่อให้การเคลื่อนไหวของผีจอยมีลักษณะแปลกประหลาดเพราะข้อต่อต่างๆ ถูกบิดหักไปเรียบร้อยแล้ว

“หลังจากได้ทำการทดลองการเคลื่อนไหวจนสตูดิโอและผู้กำกับฯ พอใจแล้ว เราเติมภาวะที่เธอควบคุมตัวเอง ไม่ได้เข้าไปด้วยการใช้สลิงในการเชิดเธออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งผลลัพธ์คือ การเคลื่อนไหวของเธอดูน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น โดย    ที่ยังคงคอนเซ็ปของผู้หญิงที่ถูกคนอื่น ชัก-เชิด อยู่ตลอดเวลา

“เมื่อถ่ายทำเสร็จสิ้นแล้ว ปัญหาก็ยังไม่จบ เราพบว่าผีของเรามีความเป็นตัวเป็นตนมากเกินไปจนเกือบจะเป็น ซอมบี้ เราจึงขอความช่วยเหลือจากทีม Visual Fx  ซึ่งนำโดยพี่ Tim Schultz จาก KRABI/White Light studio เป็นผู้ทำ ให้ผีตัวนี้มีมิติที่หลุดออกจากโลกเดียวกันกับตัวละครที่เป็นคน มีมิติของมันเอง

 

ดีไซน์ผีที่สวยปนสยอง

เมธาพันธ์  ปิติธันยพัฒน์

“หลังจากได้รับโจทย์ว่าอยากให้ผีเป็นอย่างไร เราก็ต้องมาคิดหารูปแบบของผีที่แตกต่างออกไป สุดท้ายสรุปว่า เราจะทำผีในแนว beauty-horror คือ เป็นผีที่ยังมีความสวยงามอยู่ ในส่วนขั้นตอนการแต่งผีก็มีหลายเวอร์ชั่น แล้วแต่       ผู้กำกับฯ ว่าต้องการผีในรูปแบบไหน แต่หลักๆ จะแบ่งเป็น 2 แบบคือ ตอนเป็นศพ กับเป็นผีที่ค่อยๆ คลี่คลายไปตาม เนื้อเรื่อง

“ส่วนเทคนิคพิเศษ ไม่ได้มีอะไรมาก แต่จะต้องเพิ่มในส่วนการติดชิ้นเนื้อบนใบหน้า หรือต้องแต่งตั้งแต่หน้าถึงเท้า เพราะบางซีนจะเห็นข้อเท้าที่หักเนื่องจากศพถูกโยนทิ้งลงหน้าผา”

สัมภาษณ์ทีมนักแสดง : เก้า, ปันปัน, อาย, เบสท์,สบาย 

‘ต้องทำลาย ทั้งที่รัก’  บทบาทใหม่ที่ซับซ้อนของนักแสดงคุณภาพขวัญใจวัยรุ่น

เก้า-จิรายุ  ละอองมณี  รับบท สิงห์

“ปัจจัยในการรับเล่นหนังของผมมีไม่กี่อย่าง อย่างแรกคือบท อีกอย่างคือทีมงาน ถ้าบทดีและมีทีมงานที่เราเชื่อใจได้ ตั้งใจจริง ซึ่งค่ายหนังใหม่นี้ตั้งใจจริง เป็นทีมงานที่เต็มที่มาก และบทก็แตกต่างจากที่เคยเล่น ทั้งภาพรวมของตัวหนัง และตัวละครของผมด้วย ถึงแม้ผมจะเคยเล่นหนังผีมาก่อน แต่มันก็เป็นความน่ากลัวคนละแบบ

“ความใกล้เคียงของผมกับสิงห์ในเรื่อง อาจจะมีตรงส่วนที่เป็นเด็กผู้ชาย เพิ่งเรียนจบ ถึงนิสัยในเรื่องไม่ได้คล้ายมาก แต่เราก็ต้องเรียนรู้ตัวละครว่าเขาทำแบบนี้เพราะอะไร เป็นคนแบบไหนถึงตัดสินใจแบบนี้ แม้จะหนักใจ แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ เรียนรู้มันไปเรื่อยๆ และตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด เราตื่นเช้ามาเป็นตัวละครนี้ เราก็ต้องเป็นให้ดีที่สุด มีสมาธิกับมัน อย่างตัวละครสิงห์ในเรื่อง เจอกับเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายจนควบคุมสติตัวเองไม่ได้ หลุดความเป็นตัวเอง คนทุกคนไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดีหรอก สิ่งที่สิงห์ทำ สิงห์ก็อาจไม่ได้คิดว่าเป็นสิ่งไม่ดี แค่มองว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ในสถานการณ์ที่บีบคั้น ยิ่งเป็นวัยรุ่นด้วยเลยยิ่งตัดสินใจแบบนั้นไป

“ทุกเรื่องที่ผมเล่น ผมก็ค่อยๆ โตขึ้น  ผมเคยแสดงมาตั้งแต่แค่เล่นตามที่ผู้กำกับเล่นให้ดู แค่ copy สิ่งที่เขาทำ ให้เห็น นั่นเป็นจุดเริ่มต้นตอนเราเด็กๆ แต่ตอนนี้เราพอจะคิดเอง ดีไซน์เองได้บ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด อย่างพี่จอห์น ผู้กำกับฯเรื่องนี้ เขาสามารถบอกผมได้ชัดเจนว่าต้องการอะไร ผมเองก็สามารถแสดงความคิดเห็นกับพี่เขาได้

“ปันปัน เคยร่วมงานกันมาแล้ว เป็นคนเก่ง มีความสามารถ รู้จักกันอยู่แล้วก็ยิ่งทำงานง่าย ไม่มีปัญหาอะไรเลย บทอะไรมาเขาเล่นได้หมดเลย อย่างอายถึงจะใหม่ แต่ก็มีความสามารถ เหมาะกับบท ตรงกับตัวอาย สำหรับเรื่องแรก ทั้งอายและสบายถือว่าเก่งมากๆ ผมไม่ค่อยได้แนะนำอะไรมาก อย่างสบายก็มีข้อดีตรงกล้าเล่น เล่นไปก่อน ถ้าไม่ดีก็ตัดทิ้ง ซึ่งเป็นข้อดี เพราะการสร้างความกล้าเป็นเรื่องยาก อีกอย่างนักแสดงวัยรุ่น ถ้ามีวันไหนที่ทำได้มันก็จะได้ไปทั้งวัน พอวันไหนไม่ได้ก็ต้องปรับเยอะ แล้วไปต่อในทางที่ถูกให้ได้ ซึ่งต้องบอกกันดีๆ เพราะถ้าไปดุ ก็จะเกร็งกว่าเดิม อย่างผมเองก็เป็น  ซึ่งสบายสามารถแบกรับความกดดันได้ดี เป็นคนตั้งใจมาก

โหดที่สุด   ฉากที่หักขาศพจอย มันค้านกับความรู้สึก แต่เราก็ต้องทำ

หวาดเสียวที่สุด  ฉากที่จอยอ้วกใส่หน้า เสียวอ้วกเข้าตา

เครียดที่สุด  ฉากที่ต้องเกี่ยวข้องกับแฟนตายจะเครียดหมดเลย เพราะอินไปกับตัวละคร

เสียน้ำตามากสุด  ฉากที่แฟนตาย

เจ็บตัวมากที่สุด ฉากซ่อนศพ เดินลากกระเป๋ากลางทุ่ง เพราะโดนยุงกัด เป็นครั้งแรกที่โดนยุงกัดมากสุดใน   ชีวิตแล้ว ทุกคนโดนหมด เป็นร้อยๆ ตัว  ถึงแม้จะฉีดยากันยุง แต่ก็ไม่ช่วยอะไรเลย

น่ากลัวที่สุด เวลาอายแต่งเป็นผี แค่เราเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วเดินมาเจอเรายังตกใจเลย

ประทับใจมากที่สุด  การนำพาตัวละครไปถึงในจุดที่บทเขียนได้  มันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้จริงจากความผิดพลาด  สิ่งที่เลวร้ายมากๆ มันเกิดจากอะไรง่ายๆ แค่นี้เอง เป็นเรื่องที่ผมประทับใจที่คนทำภาพยนตร์จะให้อะไรแก่      คนดูบ้าง

ความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับภาพยนตร์เรื่องนี้   สิ่งที่เราทำมันมีอยู่สองอย่างคือ หนึ่ง งานออกมาดีหรือเปล่า     กับ สอง เราสนุกตอนทำงานนั้นมั้ย ซึ่งมันดีทั้งสองอย่าง แค่นี้เราก็พอใจมากๆ แล้วล่ะ ทีนี้ก็เป็นเรื่องของคนดูว่าจะให้โอกาสเราหรือเปล่า

ทำไมต้องดูหนังเรื่องนี้   นอกจากความสนุก ความน่ากลัวแล้ว ยังมีเนื้อเรื่องเข้มข้น  บทดี  เกี่ยวกับชีวิตของวัยรุ่นจริงๆ มีความแปลกใหม่ ต่างจากหนังเรื่องอื่น จังหวะผีหลอกก็แตกต่าง มีอะไรใหม่ๆ

 

‘มิตรภาพและความลับ สวยงามและดำมืด’   บทที่ยากที่สุดในชีวิตการเป็นนักแสดงวัยรุ่น

ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์  รับบท มีน 

“รู้สึกว่าบทเรื่องนี้มันแตกต่าง ชอบ  มีคนพูดเหมือนกันว่าถูกโฉลกกับหนังผี แต่เรื่องนี้กับ ลัดดาแลนด์ ก็คนละแนวกันเลย ตอนลัดดาแลนด์ ตัวละครจะเป็นเด็กที่มีปัญหากับพ่อ แต่เรื่องนี้ตัวละครของมีนจะมีปมในใจแต่ไม่แสดงออก  เรื่องนี้ต้องซ่อนอะไรหลายๆอย่างไว้ ทุกฉากที่เล่นต้องเก็บอาการ มีอะไรอยู่ในใจ

“มีนเป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดา เป็นเพื่อนสนิทของจอย แต่จอยจะเด่นกว่า ที่ผ่านมามีนก็ไม่เคยคิดอะไร แต่มีนขอไว้เรื่องเดียว พอจอยไม่ทำตามที่มีนเคยขอ มันเลยมาถึงจุดเปลี่ยน  มีนกับตัวหนูมีจุดเหมือนกันนิดหน่อย คือถ้าไม่ใช่คนที่สนิทเราจะนิ่งๆ ไม่ค่อยกล้าคุย เฉยๆ ถือว่ามีนแตกต่างจากที่หนูเคยเล่นมา ตอนลัดดาแลนด์ก็เด็กมาก ตอนรักเจ็ดปีฯ    จะเป็นวัยรุ่นใสๆ พอมาเรื่องนี้เป็นวัยรุ่นที่เจออะไรหนักมากขึ้น ซับซ้อนขึ้น  เป็นบทที่ยากที่สุด หนักสุดในชีวิต เพราะตัวละครตัวนี้จะคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา ถึงข้างนอกจะยิ้ม แต่ถ้าดูในตาจะรู้ว่าไม่ได้ยิ้มไปด้วย ต้องอ่านบทเยอะๆ คุยกับครูกุ๊กไก่ ที่สอนแอ็คติ้ง เพราะยากมากที่จะทำความเข้าใจตัวละครได้เอง เราต้องรู้เหตุการณ์ทั้งเรื่อง แล้วเจาะมาถึงตัวเอง

“เป็นเรื่องที่สองที่ได้เล่นกับเก้า เขาตั้งใจทำงาน อย่างฉากที่ต้องร้องไห้ ถ้ากำลังจะเข้าฉากแล้วมีใครยิ้มให้ เขาจะไม่ยิ้มด้วย เพราะเขามีสมาธิมาก ตั้งใจทำงานมาก กับอาย ตอนแรกยังเฉยๆ พอถ่ายด้วยกันไปเรื่อยๆ ก็สนิทกันจริงๆ เขาจะมาถามว่าเล่นยังไง เราก็แนะนำไปว่าเราต้องเข้าใจตัวละคร ไม่ใช่แค่พูดไดอะล็อก แต่ไม่กล้าสอนอะไรเยอะ เพราะเรายังไม่ได้มีประสบการณ์มาก เป็นแนวให้กำลังใจมากกว่า

โหดที่สุด / เครียดที่สุด ฉากสุดท้ายขององก์สอง แต่เล่าไม่ได้เดี๋ยวสปอยล์หนัง อยากให้ติดตามเอง เป็นฉาก  บนดาดฟ้า หนักมาก ต้องร้องไห้อยู่สองชั่วโมงไม่ได้หยุด พอเปลี่ยนเซ็ทก็ต้องโฮลด์อารมณ์ตรงนั้นไว้ให้ต่อเนื่อง น้ำตาไหลตลอด ปกติเราเป็นคนร้องไห้ยาก ไม่ใช่คนขี้แยด้วย เรื่องร้องไห้เลยยากสำหรับเรา

ฮาที่สุด   ฉากธรรมดาๆ อย่างไปทะเล เล่นน้ำทะเล เหมือนได้เล่นไปด้วย

เจ็บตัวที่สุด โดนยุงกัดเยอะมาก ตอนถ่ายเป็นฉากซ่อนศพ เดินไปตามทุ่ง ผ่านมาเดือนนึงแล้วยังเป็นรอยแผลอยู่เลย นับดูได้ประมาณ 60 ตุ่มทั้งตัว กลับมาบ้านจะร้องไห้ กลัวเป็นแผลเป็นไปตลอดชีวิต  โดนทั้งหลัง ทั้งขา ตอนโดนกัดลำบากมาก ต้องถ่ายไปด้วย แล้วต้องทนกับยุงไปด้วย ทั้งร้อน อดนอน ทรมานสุดๆ แต่ทุกคนก็อดทน ไม่ใช่หนูคนเดียว  ขนาดเอาสเปรย์กันยุงฉีด แทบจะเอามาราดตัวยังช่วยไม่ได้ มันกัดทะลุเสื้อมากๆ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนยุงกัดเยอะขนาดนี้

น่ากลัวสุด  ฉากที่มีผีโผล่มาทุกฉาก เพราะอายแต่งเป็นผีจอยได้น่ากลัวมาก มันหยึยๆ หลอนๆ

พูดถึงทีมงาน พี่ต๋อง คอนทินิว เป็นคนจริงจังกับการทำงานมาก เป๊ะสุด แค่ผมเส้นเดียวก็ต้องต่อเนื่อง เส้นผมห้ามกระดก เหงื่อต้องเป็นเหมือนเดิม

ประทับใจที่สุด ประทับใจทีมงานมาก เพราะเป็นกองถ่ายที่ดีมาก ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี งานลื่นไหล ทุกคนรู้หน้าที่ของตัวเอง

 

บทคนเป็นเน้นดราม่า VS บทผีต้องแปลกใหม่ ทั้งสวยและน่าสะพรึงกลัว

อาย-พิมพกานต์ แพร่คุณธรรม รับบท จอย

          “ครั้งแรกไม่รู้ว่าต้องมาเล่นเป็นผี คิดว่าเล่นเป็นวัยรุ่นใสๆ พอรู้ว่าต้องเล่นเป็นจอย แล้วเป็นผีด้วย ก็โอเค เป็นผีก็  ได้  แต่ตอนแรกไม่คิดว่าจะต้องแต่งเอฟเฟ็คยากขนาดนี้ เพราะเคยดูหนังผีบางเรื่องแค่ทาหน้าทาตัวขาวๆ อีกอย่างผีในเรื่องนี้ ตัวผีหรือตัวจอย เป็นผีที่มีชีวิต มีอารมณ์เศร้า โกรธ เสียใจ ต้องร้องไห้ ซึ่งอายเป็นคนร้องไห้ไม่ค่อยได้ เลยต้องไปเวิร์คช็อป พี่เขาเปิดเพลงบิวท์ให้เราก็ร้องได้ พอเขาปิดเพลงแล้วสมมุติว่าต้องถ่ายจริง เราร้องไห้ไม่ได้เลย เครียดมาก แต่พอวันถ่ายจริงมาถึง อยู่ดีๆ มันก็ร้องไห้ได้เอง

“ส่วนมากฉากที่แสดงต้องแต่งผีเกือบทั้งเรื่อง ตอนเล่นเป็นผีไม่ค่อยยาก แต่ยากตอนแต่งผี ส่วนที่ยากตอนแสดง คือตอนเป็นคน  ปกติเป็นคนกลัวผี พอต้องมาเล่นเป็นผีเอง มีซีนหนึ่งต้องแต่งผีแล้วมองตัวเองในกระจก อายมองไปก็กลัวไป พอสั่งคัทแล้วยังกลัวอยู่เลย แต่อายไม่เคยเจอผี ไม่มีเซ้นส์ด้านนี้เลย

“เก้า เห็นครั้งแรกยังไม่ได้คุยกัน มาคุยกันจริงๆ ตอนไปถ่ายที่ทะเล เขาเป็นคนตลกและนิสัยดีมาก ไม่หยิ่งเลย สบาย ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เพราะเข้าฉากด้วยกันน้อย แต่สบายเป็นคนตลก คุยเก่ง น่ารัก ส่วนปันปัน เวลาอยู่ด้วยกันรู้สึกเราเด็กตามน้อง ครั้งแรกที่เจอกัน ไม่กล้าคุย แต่พอได้มาคุยกัน ถึงรู้ว่าเขาเป็นคนน่ารักมาก เสียงจะเล็กๆ น่ารัก รู้สึกว่าเราสองคนไปกันได้อยู่ น้องมีแนะนำเราบ้าง คอยบอกว่าต้องมีสมาธินะ ให้คิดว่านี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับเรา แล้ว ก็ให้กำลังใจเราด้วย ตอนแรกก็เป็นพี่เป็นน้อง พอตอนหลังสนิทกันมากขึ้น กลายเป็นเพื่อนกันไปเลย กับเบสท์  เล่นเป็นน้องชายเรา ครั้งแรกที่เจอยังไม่กล้าคุย แต่พอได้คุยเขาดูเฟรนด์ลี่ดี

โหดที่สุด  ฉากที่ต้องเปลี่ยนสลับแต่งคนกับผี เพราะต้องเปลี่ยนไปมา แล้วทั้งสองแบบต้องร้องไห้ เป็นซีนอารมณ์ทั้งคู่

หวาดเสียวที่สุด  อายกลัวความสูงมาก แล้วต้องมีฉากนั่งแกว่งเท้าบนดาดฟ้า ซึ่งทีมงานทำเป็น platform สูงมาก เราเลยกลัว แต่พยายามเล่นไป ทีนี้ทีมงานคงเห็นเราหน้าซีด เขาเลยรู้ว่าเรากลัวความสูง เลยลดขนาดความสูงของ platform ให้  แล้วก็บอกว่าทีหลังถ้ากลัวหรือมีอะไรให้บอก เพราะไม่อย่างนั้นจะแสดงออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร

ฮาที่สุด เป็นซีนเครียดที่เราฮา  แต่แอบฮานอกจอนะ เพราะกล้องไม่เห็นเรา เป็นซีนที่สิงห์กับเพื่อนพยายามจับ   ตัวเรายัดใส่กระเป๋า ส่วนเราก็ต้องเล่นนิ่งๆ เป็นคนตาย แต่ยุงดันมากัดเราที่หน้า เราก็พยายามทำหน้ายุกยิกไล่ยุง แต่ไม่กล้ากระดุกกระดิก เดี๋ยวโดนสั่งคัท แล้วซีนนี้อายเผลอท้องร้องดังมากเพราะว่าหิว  แล้วต้องขดอยู่ในกระเป๋า ตอนหลังแอบถามทีมงานว่าได้ยินเสียงอะไรกันมั้ย เขาบอกว่าได้ยินเหมือนกัน ตอนแรกนึกว่าเสียงตด เลยแอบขำตัวเองค่ะ

เสียน้ำตามากที่สุด ซีนง้อแม่ ขอโทษที่ทำผิด

ซีนร้องไห้ ยากสุด เป็นซีนที่เราตายไปแล้ว แต่แม่ก็ยังเศร้าคิดถึงเราอยู่ เลยรู้สึกว่าที่แม่เป็นอย่างนี้เพราะเรา

เจ็บตัวมากที่สุด เรียกว่าปวดตัวมากที่สุดดีกว่า เป็นซีนที่ต้องง้อแม่  วิ่งขึ้นบันไดบ้านไปง้อ  แล้วเราถ่ายหลายรอบ วิ่งหลายรอบ พอกลับบ้านรู้สึกปวดตัว เลยนึกว่าไม่สบาย ก็กินยาแต่ทำไมยังปวดอยู่ ตอนหลังมานึกได้ว่าคงเป็นเพราะวิ่งขึ้นลงบันไดหลายรอบ เลยปวดกล้ามเนื้อ

น่ากลัวที่สุด ที่บ้านจอย เป็นสถานที่ถ่ายทำ เพราะเขาบอกกันมาว่า บ้านนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วันหนึ่งมีเหตุการณ์ไฟดับด้วย ไม่รู้ว่าดับเพราะอะไร แล้วเราถ่ายที่บ้านนี้ยาวมาก นอกจากบ้านน่ากลัวแล้วยังต้องเอาผ้าดำมาคลุมบ้าน เพราะต้องถ่ายให้เป็นตอนกลางคืน บรรยากาศมันเลยยิ่งดูน่ากลัว หายใจไม่ค่อยออก อึดอัดด้วย

แสดงอารมณ์ได้ดีที่สุด บทร้องไห้ เรารู้สึกว่าเล่นได้ดีกว่าที่คิดไว้ พอใจ เพราะเราตั้งใจมาก มันออกมาจากอารมณ์จริงๆ

ประทับใจที่สุด ฉากที่ทะเล เพราะอายชอบเล่นน้ำทะเล พอได้ถ่ายฉากนี้มันสนุกมาก ได้เล่นน้ำจริงๆ

ความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับหนังเรื่องนี้   รู้สึกดีใจมาก ได้อะไรจากที่นี่เยอะ ทั้งประสบการณ์ มิตรภาพ ทุก  อย่างเลย ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมาก อยากร่วมงานกับทีมงานนี้อีก

 

เล่นบทใกล้เคียงชีวิตจริง น้อยใจแทนตัวละครติ่ง จนแทบสลัดไม่หลุด

เบสท์-เอกวัฒน์ เอกอัจฉริยา รับบท ติ่ง 

“พอรู้ว่าต้องมาเล่นเป็นบทติ่ง ก็กดดัน เพราะเป็นบทที่ยาก เป็นตัวละครที่น่าสงสาร และมีจุดผิดพลาดของตัวเอง  น่าสงสารเพราะแม่ก็ไม่รัก แม่สนใจแต่พี่ เบสท์ยังอิน ยังน้อยใจแทนติ่งเลยที่แม่ไม่เคยสนใจขนาดนี้ ฉากร้องไห้ สำหรับเบสท์ไม่ยากเท่าไหร่ ไม่ค่อยกลัวฉากร้องไห้ เพราะครูกุ๊กไก่ แอ็คติ้งโค้ช จะไกด์ให้เราสะเทือนใจไปกับบทนี้  ให้เรารู้สึกเป็นติ่งจริงๆ น้อยใจจริงๆ ตัวเบสท์จะมีปมคล้ายๆ กับติ่งบ้าง คือจะเซ้นต์ซิทีฟ ขี้น้อยใจ ร้องไห้ง่าย พอมาเป็นติ่งเลยทำได้ดี

“กับพี่อาย ส่วนมากจะเจอตอนเล่นเป็นผี ช่วงแรกก็เกร็งเพราะใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ตอนหลังดีขึ้น ชินไปเอง  ปันปัน ได้เข้าฉากด้วยกันครั้งหนึ่ง เป็นฉากที่เราต้องไปว่าเขา ด้วยความที่เขาเป็นนักแสดงเราก็เกร็งมาก ตอนซ้อมบทนี่โอเคดีมาก แต่พอถ่ายจริง เกร็ง ลืมบทตลอด พูดไม่ได้ ทีมงานเลยต้องแกล้งบอกว่าซ้อม แต่จริงๆ ถ่ายไปแล้ว สงสัยตื่นเต้นกับปันปัน  กับเก้า ไม่ได้เข้าฉากด้วยกันเลย เสียดายมาก ได้ยินมาว่าเขาเป็นคนตลก

วีรกรรมแสบๆ  ช่วง ม.ต้น จะเกเรไม่ค่อยเข้าเรียน มีทะเลาะวิวาท เบสท์เรียนที่วัดราชบพิตร พ่อกับแม่เลยให้เข้าโรงเรียนประจำตอน ม.ปลาย ที่เกเรน้อยลงเพราะโดนคุมทุกอย่าง เวลามันบีบมาก เราเลยต้องอยู่ในระเบียบไปโดยปริยาย มันเลยค่อยๆ ฝึกเรา ที่ยอมไปเรียนครั้งแรก เพราะไม่คิดว่าจะระเบียบมากขนาดนี้

ตอน ม.ต้น เบสท์อยู่โรงเรียนชายล้วน  พอจะได้มาอยู่สห แล้วอยู่หอเลยตื่นเต้น ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้  ชื่อโรงเรียนบอสโกพิทักษ์ อยู่ที่นครปฐมครับ ตอนนี้รู้สึกดีใจที่ได้เรียนที่นี่ เพราะช่วยฝึกให้เราโตขึ้น ตอนอยู่บ้านเราทำอะไรไม่ค่อยเป็นเลย แค่นุ่งผ้าเช็ดตัวยังทำไม่ได้ ต้องเอาเสื้อผ้าเข้าไปใส่ในห้องน้ำตลอด จะเป็นลูกแหง่ที่เกเร ตอนนี้เบสท์กำลังจะเข้าเรียนที่ ม.รังสิต คณะบริหารการเงินครับ

การเรียนแอ็คติ้ง  ชอบมาก เขาสอนให้เรารู้จักตัวเอง เวลามีอะไรไม่สบายใจเราสามารถเล่าให้ครูฟังได้ เหมือนได้ระบาย มีที่ปรึกษา ในด้านการทำงาน  ครูทำให้เบสท์เข้าใจติ่ง ถ้าไม่มีครูแอ็คติ้งเบสท์คงเล่นไม่ได้ขนาดนี้ นอกจากนั้นครูมีแนะนำว่า เบสท์เป็นคนไม่กล้าแสดงออก ครูเลยบอกว่าดาราหลายคนก็เป็นแบบนี้ แต่เราต้องรู้ตัวด้วยว่า เราต้องการอะไร ถ้าเราอยากเป็นนักแสดงที่ดี เราก็ต้องเอาความกลัวออกไป และแสดงมันออกมาให้ได้

โหดที่สุด / เสียวที่สุด / เครียดที่สุด / เจ็บตัวที่สุด    รวมทุกอย่างไว้ที่ฉากกระโดดน้ำ เป็นฉากที่ยากที่สุด เพราะเบสท์ไม่ค่อยได้เล่นกีฬา ยิ่งกระโดดน้ำนี่ไม่เคยเลย แล้วมีอยู่ฉากนึง เป็นฉากที่กระโดดน้ำแล้วโดนผีจอยหลอกกลางอากาศ ตอนถ่ายทำจะมีสลิงค์มาดึงขาเบสท์ไว้ แล้วให้ห้อยหัวลง ปวดหัวมาก แต่ถึงจะปวดหัว เราก็ต้องแสดงอารมณ์ออกมา กลับไปบ้านต้องพักเลย นอกจากนั้นเรายังต้องฝึกกระโดดน้ำ เพราะในเรื่องเป็นนักกีฬากระโดดน้ำ พอตอนหลังเบสท์พอกระโดดได้บ้าง แต่ยังสูงมากไม่ได้ แล้วก็ยังลงน้ำไม่สวยเท่าไหร่

สนุกที่สุด เป็นฉากที่เบสท์ขาเจ็บต้องนั่งอยู่บนรถเข็น แล้วต้องเจอผี พี่ตากล้องเขาจะเข็นรถเข็นเรา แล้วมีกล้องติดอยู่ตรงหน้าเรา เขาก็จะเข็นพาเราไปตามทาง สนุกมาก คล้ายได้เล่นเครื่องเล่น

น่ากลัวที่สุด กลัว body movement ที่มีคนมาแสดงเคลื่อนไหวเป็นผีจอย

เหตุการณ์สยองในกองถ่าย  มีฉากที่ต้องถ่ายในห้องใต้ถุนที่บ้าน อยู่ดีๆ ห้องล็อคเอง เบสท์อยู่ในนั้นกับครูกุ๊กไก่ ถ้าเป็นตัวเบสท์คนเดียวอาจจะไม่เป็นไรมาก แต่ครูกุ๊กไก่ค่อนข้างตัวใหญ่ เลยหายใจไม่ออก ติดกันอยู่พักนึง มาตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมมันถึงล็อคได้ พี่ๆ ทีมงานพยายามมาช่วยกันเปิด ถึงเปิดได้

ฉากที่แสดงอารมณ์ได้ดีที่สุด  ฉากร้องไห้ ฉากสุดท้ายของเรื่อง เบสท์อินจนรู้สึกว่าเราหลุดออกจากตัวละครไม่ได้ แต่ครูบอกว่านักแสดงที่ดีพอสั่งคัทต้องสลัดบทให้หลุด เบสท์เลยต้องนั่งร้องไห้อยู่สักพักถึงจะดีขึ้น เบสท์รู้สึกสงสารติ่ง น้อยใจแทนติ่งน่ะครับ

 

เมื่อนักแสดงหน้าใหม่ต้องประกบ เก้า-ปันปัน สองนักแสดงไอดอลขวัญใจวัยรุ่น

สบาย-กฤษ สถาปนพิทักษ์กิจ  รับบท กานต์

“กานต์ไม่ใช่คนเลว แต่ชอบลองในสิ่งผิดๆ ไม่ใช่คนที่อยากทำร้ายใคร กานต์กับผมมีความใกล้เคียงกัน เป็นช่วงที่ผมไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกา เพราะตอนนั้นผมได้ไปลองสิ่งใหม่ ใช้ชีวิตด้วยตัวเองคนเดียว บทกานต์สำหรับผม เนื่องจากเป็นหนังเรื่องแรกก็ยังยาก บางทียังดึงอารมณ์ออกมาไม่ได้เต็มที่ พอยิ่งผมตั้งใจมันก็ยิ่งไม่เป็นธรรมชาติ แต่โชคดีที่ได้คำแนะนำจากทุกคนในกองถ่าย คือเราต้องเชื่อว่าเราเป็นกานต์

“เก้า เจอกันครั้งแรกตอนเวิร์คช็อป จริงๆ ตอนนั้นเจอปันปันก่อน  ยังไม่แน่ใจว่าคนนี้เป็นใคร พอครูบอกว่านี่คือปันปัน แล้วพอเห็นเก้า เราก็โอ้โห นี่เราได้เล่นกับนักแสดงระดับนี้เลยเหรอ เราไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะเจอใครเลยวางตัวไม่ถูก เพราะเรารู้สึกว่าเขาเป็นดาราดัง เลยเกร็ง แต่จริงๆ ทั้งสองคนน่ารักมาก อย่างเก้านี่ได้ใจผมเลย เวิร์คช็อปอยู่ดีๆ เขาเดินเข้ามาหาผมแล้วบอกผมว่า เราเป็นเพื่อนกันได้นะ สุดยอดมาก เพราะสำหรับผมเก้าเป็นคนที่เก่งมาก มีให้คำแนะนำบ้าง แต่ไม่ได้สอนตรงๆ จะสอนทางอ้อมให้ผมคิดเองด้วย อย่างนี้ผมเก็ทได้ง่ายกว่าด้วย ส่วนอาย เป็นนักแสดงใหม่เหมือนกัน  แต่เขาก็เก่งมาก เล่นบทที่ยาก แต่ทำออกมาได้ดี

โหดที่สุด  ฉากที่จอยตาย มีคนตายอยู่ตรงหน้า ซึ่งคนนี้เป็นเพื่อนเราด้วย ตอนเราเล่นก็พยายามดูทั้งเก้าและปันปัน  และเล่นให้พอดีกับเขา ระวังไม่ให้ over acting เพราะผมอาจจะติดมาจากโฆษณา

หวาดเสียวที่สุด  เสียวเวลาเห็นภาพที่เราเล่นออกมา  บางฉากเป็นภาพน่ากลัว เราดูเองเรายังเสียวเลย ส่วนตอนเล่นนี่ เสียวว่าจะเล่นไม่ได้มากกว่า

เครียดที่สุด ฉากที่ทะเลาะกับเก้า โยนความผิดใส่กันว่าใครที่ทำให้จอยตาย โทษกันไปโทษกันมา นอกจากอารมณ์ของตัวละครจะเครียดแล้ว เราก็เครียดตรงกลัวพูดแล้วฟังไม่รู้เรื่อง เพราะพอทะเลาะกันมันจะพูดเร็ว เราเลยต้องระวัง แต่พอกังวลกับคำพูด อารมณ์ก็ไม่ได้

น่ากลัวที่สุด  ฉากที่พยายามจะเอากระเป๋าที่ยัดศพจอยเอาไปไว้หลังรถ ผมจินตนาการฉากนี้ไว้น่ากลัวมาก  ตอนถ่ายทำก็รู้สึกน่ากลัว และคิดว่าภาพที่ตัดต่อออกมาก็คงจะน่ากลัวมากๆ เหมือนกัน

ฉากที่แสดงอารมณ์ได้ดีที่สุด ฉากที่เห็นผีจอยครั้งแรก คือเรารู้สึกใจเต้นจริงโดยไม่รู้ตัว อารมณ์มันกลัวจริงๆ ออกมาจากความรู้สึกจริงๆ หัวใจเราเต้นแรงมาก

ประทับใจมากที่สุด  ประทับใจเก้า วันแรกที่ไปเวิร์คช็อป ที่เขาเดินมาบอกเราว่า เราเป็นเพื่อนกันได้นะ รู้สึก   ว่าเขาเป็นดาราที่ไม่ถือตัว เป็นกันเองมาก

 

Profile 3 นักแสดงหน้าใหม่

 ชื่อ-นามสกุล    พิมพกานต์  แพร่คุณธรรม

ชื่อเล่น                    อาย

วันเกิด                         22 กุมภาพันธ์ 2536

การศึกษา                     มหาวิทยาลัยรังสิต คณะบริหารธุรกิจ

น้ำหนัก                         42 กก.

ส่วนสูง                         160 ซม.

ผลงานที่ผ่านมา          Ray Idol Search2012 รองชนะเลิศ / โฆษณามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ให้เล่าถึงตัวเองสั้นๆ     ร่าเริง ภายนอกดูเงียบไม่ค่อยพูด

วีรกรรมสุดซ่า               –

ฉายาที่เพื่อนตั้งให้      -

สีโปรด                         ชมพู ขาว น้ำตาล

อาหาร              ไก่ทอด : ไก่ย่าง ซูชิ ส้มตำ

สัตว์เลี้ยง          สุนัข แมว เต่า ปลา หนูแฮมเตอร์

ของสะสม         ถุงพลาสติก

กลัว                  กลัวโจร / งู หนู แมลงสาบ

หนังที่ชอบดู     Comedy และสยองขวัญ

เพลงที่ชอบฟัง วง SNDS k-pop หรือไม่ก็เพลงชิวๆ เช่น ป๊อป ปองกูล

หนังสือที่ชอบอ่าน       Doraemon / fashion Ray Magazine

สถานที่ท่องเที่ยว          ทะเลสวยๆ เกาหลี ฮ่องกง

นักแสดงในดวงใจ        บี น้ำทิพย์

ไอดอล                         YooNa SNDS

 

ชื่อ-นามสกุล               เอกวัฒน์ เอกอัจฉริยา

ชื่อเล่น                          น้องเบสท์

วันเกิด                          14 พฤษภาคม 2538

การศึกษา                     กำลังเข้าต่อชั้นปริญญาตรี

น้ำหนัก                         50 กก.

ส่วนสูง                         170 ซม.

ผลงานที่ผ่านมา          ภาพยนต์เค้าเรียกผมว่าความรัก

ให้เล่าถึงตัวเองสั้นๆ     ขี้เกรงใจ กวนตีนนิดๆ.

วีรกรรมสุดซ่า                      –

ฉายาที่เพื่อนตั้งให้        เบสหลอน

สีโปรด             แดง.

อาหาร             ข้าวขาหมู

สัตว์เลี้ยง          สุนัข

ของสะสม         พระ

กลัว                 ตุ๊กแก

หนังที่ชอบดู                 แอคชั่น  Fast & Furious 5

เพลงที่ชอบฟัง             พี่เล็ก greasy cafe

หนังสือที่ชอบอ่าน         ประวัติศาสตร์

สถานที่ท่องเที่ยว          ชอบเข้าวัด  อยากไปอิตาลี

นักแสดงในดวงใจ        อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ

ไอดอล                         ณเดชย์ คูกิมิยะ

 

ชื่อ นามสกุล     กฤษ สถาปนพิทักษ์กิจ
ชื่อเล่น              สบาย

วันเกิด              5 พฤษภาคม 2537
การศึกษา         ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
น้ำหนัก             65 กก.
ส่วนสูง             175 ซม.
ผลงาน              โฆษณา รองเท้านักเรียนโกลซิตี้ ยำยำเต็มๆคัพ เคเอฟซี ฟูจิ ลูกอมคูก้า

ให้เล่าถึงตัวเองสั้นๆ     เป็นคนติดเพื่อนมากครับ ขาดเพื่อนไม่ได้ จะรู้สึกว่าตัวจะหายไปครึ่งนึง
ฉายา                สบังกวางเหลียวหลาย
สีที่ชอบ            สีเขียว
อาหารที่ชอบ    ทุกอย่าง(ชอบกิน)เอาไม่เผ็ดมาก
สัตว์เลี้ยง          ไม่มี

เรื่องสุดซ่า        ไม่มี
ของสะสม         เบอร์ ผญ.
สิ่งที่กลัว                       การบ้าน โปรเจค
ภาพยนต์ที่ชอบ            last summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย
เพลงที่ชอบ                   lucky
สถานที่                         ชอบไปบ้านเพื่ีอน
นักแสดงในดวงใจ        นัอง April
ไอดอล                       ไม่มี