คนไทยทายถูกเกินครึ่ง เมื่อผู้ที่อยู่ภายใต้แชมป์ The Mask Singer หน้ากากนักร้องซีซั่น 3 ที่ถูกปกปิดมาเกือบ 6 เดือนตลอดการออกอากาศ เป็นใครไปไม่ได้ นอกจากนักร้องหนุ่มชื่อดัง “อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี” หรือรู้จักกันในนามศิลปินชื่อดัง “บอย Peacemaker” กับการใช้ประสบการณ์ทั้งหมดของการเป็นนักร้องมาทั้งชีวิตเพื่อมาทุ่มเทให้กับการทำหน้าที่ปกปิดตัวเองภายใต้หน้ากากหนอนชาเขียว
เดินทางมาถึงด่านสุดท้ายของภารกิจการปกปิดตัวตนได้สำเร็จ สำหรับ หน้ากากหนอนชาเขียว หรือ บอย Peacemaker ด้วยความรู้สึกแรกหลังจากถอดหน้ากาก “รู้สึกยังตื่นเต้นอยู่เลย แต่กลับรู้สึกโล่ง ไม่ต้องโกหกใครอีกต่อไป” ทำเอาคนไทยทั้งประเทศยกนิ้วและยอมรับให้กับความสามารถในการร้องเพลงได้หลากหลายแนว หรือจะเรียกว่าตรงข้ามกับตัวตนที่ได้เห็นจากหน้าจอโทรทัศน์ทั่วไปมาตลอดระยะในการเป็นนักร้องเสียงมาดนุ่มและโรแมนติกของผู้ชายคนนี้ เส้นทางของการตอบรับในการมาปิดบังตัวตนภายใต้ “หน้ากากหนอนชาเขียว” เริ่มต้นจากทีมงานเคยติดต่อให้มาร่วมรายการแล้วตั้งแต่ในซีซั่น 2 แต่ยังอยู่ในช่วงของการคิดว่ายังไงตนเองร้องก็ถูกจับได้ ถึงหลอกอย่างไรก็ถูกจับได้แน่นอน แต่พอมาในซีซั่น 3 ทีมงานติดต่อผ่านทางคุณเจี๊ยบ (แฟนสาว) จึงบอกให้ลองมาพิสูจน์ความเป็นตัวเองให้ทุกคนได้เห็น เพราะความเป็นหนอนคือความเป็นตัวเองที่สุด และ “สาเหตุที่เลือกเป็นหน้ากากนี้เพราะก่อนที่จะเข้าวงการเคยมีวงดนตรีชื่อ Greentea และตัวเองก็ชื่นชอบการกินอะไรก็ได้ที่เป็นชาเขียวจึงเลือกเป็นหน้ากากนี้” โดยเริ่มการปิดบังตัวตนด้วยการเลี่ยงการร้องเพลงที่เป็นเสียงตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งครั้งแรกที่หน้ากากหนอนชาเขียวเปิดตัวทางรายการไม่มีใครสามารถทายถูกและไม่มีชื่อของ “บอย Peacemaker” ถูกพูดถึง แต่เพราะความชื่นชอบจากแฟนคลับในตัวเองจึงเริ่มมีคนสงสัยและเดาถูกในรอบของการแข่งขันรอบที่ 3 ที่เริ่มมีการทายชื่อ “บอย” เกิดขึ้นในรายการและตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายของผู้ต้องสงสัยภายใต้หน้ากากหนอนชาเขียวจนถึงวันสุดท้าย
และสิ่งแรกที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศอยากรู้เมื่อ หน้ากากหนอนชาเขียว ถูกถอด นั่นคือ การดีไซน์
ท่าเต้นประจำตัวให้กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ตรงกันข้ามกับตัวจริง และนอกจากนั้นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำการบ้านมาดีและเรียกว่าสับขาหลอกทำเอาเขวทั้งทีมคณะกรรมการและผู้ชมรายการในทุกรอบของการแข่งขัน นั่นคือ การเลือกเพลงมาใช้ในการแข่งขันแต่ละครั้ง เรียกว่าทุกเพลงที่นำมาใช้ในทุกรอบนั้น ตรงข้ามกับตัวตนที่แฟนคลับหรือคนไทยทั้งประเทศได้เห็นจากภาพลักษณ์ของ ศิลปินหนุ่มคนนี้ โดยที่ผ่านมาเพลงที่ใช้ในการแข่งขันทั้งหมดใช้หลักในการเลือกเพลงที่ให้เกิดความสนุกกับตัวเองและคนดู ให้คนดูเข้าใจง่ายและมีส่วนร่วมไปด้วย ได้แก่ เพลง “แม่สาย” ของ “คาราบาว”, เพลง “พลังงานจน” ของ ”ลาบานูน”, เพลง “Despacito” ของ “Luis Fonsi ft. Daddy Yankee”, เพลง “คำแพง” ของ “แซ็ค ชุมแพ”, เพลง “เรือเล็กควรออกจากฝั่ง” ของ “Bodyslam”, เพลง “บางระจันวันเพ็ญ” ของ “คาราบาว”
ปิดท้ายด้วยการ “ขอบคุณคนไทยทั้งประเทศที่ส่งกำลังใจและชื่นชอบใน “หน้ากากหนอนชาเขียว” ขอบคุณคณะกรรมการทุกคนทุกสัปดาห์ ขอบคุณที่ทำให้คนดูมีความสุขรวมถึงทั้ง 31 หน้ากาก ที่จริงแล้วตำแหน่งแชมป์ไม่ใช่ของผมคนเดียว แต่เป็นของทุกๆหน้ากากในซีซั่น 3 นี้ ขอบคุณทุกคนครับ”
ซึ่งถือได้ว่าเป็นการปิดฉากรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ซีซั่น 3 ได้อย่างสวยงามกับการเฉลิมฉลองจากหน้ากากในซีซั่นที่ผ่านมาอย่างจัดเต็มและอลังการงานสร้างความประทับใจกันถ้วนหน้า สมศักดิ์ศรีของการถอดหน้ากากแชมป์ที่กลายเป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศไปแล้ว ความสนุกของการค้นหาตัวตนภายใต้หน้ากากยังคงเดินหน้าสู่ ซีซั่น 4 จากการเรียกร้องของแฟนๆรายการที่ยังคงอยากเห็นและยังอยากติดตามความสนุกจากรายการนี้อยู่ ยังคงการันตีและเพิ่มความเซอร์ไพรส์มากยิ่งขึ้น ให้สมกับการเป็นรายการที่ไดรับความนิยมมากที่สุดของประเทศเช่นเดิม ติดตามความสนุกสุดยอดของ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ซีซั่น 4 ได้ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่องเวิร์คพอยท์ เริ่มวันพฤหัสบดีที่ 8 กุมภาพันธ์นี้