11 ปีที่รอคอย กับการพิสูจน์ว่า นิชคุณ หรเวชกุล ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทยยุคบุกเบิก สมาชิกบอยแบนด์ชื่อดัง 2PM  ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ความสามารถทางดนตรีก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งการเปิด ‘คอนเสิร์ต’ ที่เรียกว่า ‘บ้าน’ เพื่อโชว์สกิลต่างๆให้เหล่า ฮอตเทสต์ไทย (Hottest ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับของวง 2PM) ได้เห็น ได้สัมผัสในคอนเสิร์ตเดี่ยวเต็มตัวครั้งแรก “NICHKHUN SOLO CONCERT ‘HOME’ IN BANGKOK with Dr.Jill” (นิชคุณ โซโล่ คอนเสิร์ต ‘โฮม’ อิน แบงคอก วิท ดร,จิลล์)  ที่จัดโดย บริษัท อะชิ แอคทิเวชั่น จำกัด และ บริษัท “ชาณ แอคทิเวชั่น จำกัด” (CHAN ACTIVATION CO., LTD.)  ก็สร้างความสนุกสุดประทับใจให้กับทุกคน ณ แจ้งวัฒนะ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซา แจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา

นิชคุณ เปิดตัวอย่างหล่อด้วยชุดสูทสีขาว เนคไทสีแดง และวงดนตรีครบวง เรียกเสียงกรี๊ดแรกได้อย่างสนั่นหวั่นไหว ก่อนเข้าประจำที่เปียโนตัวโปรด แล้วเริ่มโซโล่เพลงแรก Home เพลงหวานความหมายลึกซึ้ง ซึ่งถือเป็นการเปิดบ้านต้อนรับ  ฮอตเทสต์ ชาวไทยทุกคนในบรรยากาศแสนอบอุ่น  ก่อนไปต่อกับเพลงภาษาญี่ปุ่น Miss Wonderful ที่นิชคุณ ปล่อยของทั้งร้อง ทั้งเดี่ยวเปียโน ชวนแฟนๆร้องตามท่อนฮุคกันสนุกสนาน จากนั้นเข้าสู่เพลงที่สามที่เป็นภาษาเกาหลี My Valentine เพลงนี้แฟนๆคุ้นเคยกันดี ร้องตามกันเสียงดัง พร้อมโบกแท่งไฟ และกรี๊ดเสียงดังเป็นระลอก โดยเฉพาะตอนที่ นิชคุณ โชว์ท่อนแร็พ ก่อนปิดท้ายข่วงแรกด้วยเพลงบั ลลาดช้าๆ Colorful X’Mas เพลงภาษาอังกฤษที่เต็มไปด้วยสีสัน ไม่เว้นแม้แต่หนุ่มมือคีย์บอร์ดสุดน่ารัก ที่ขโมยหัวใจสาวๆฮอตเทสต์ ไปเต็มๆ เรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่แพ้เจ้าของคอนเสิร์ตเลยทีเดียว 

“ทานข้าวยัง? ก็บอกให้ทานข้าวกันมาอ่ะ” นิชคุณถามแฟนคลับด้วยความเป็นห่วง เกรงไม่มีแรงกรี๊ดจนถึงวินาทีสุดท้าย ก่อนพูดแซวตัวเองว่า “หัวเข่าเริ่มไม่ดีแล้วครับ” แต่แปลกที่ไม่เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แฟนคลับก็ยังเรียก นิชคุณว่า “น้องคุณ” อยู่! คุยกันพอหอมปากหอมคอ ก็ไปยืดเส้นยืดสายกันหน่อย กับเพลง Love is True ที่เร้าหัวใจแฟนๆให้ร้อนแรงขึ้นเล็กน้อย ด้วยท่าเต้นเซ็กซื่เบาๆ และโมเม้นท์ปลดกระดุมเสื้อเม็ดบน! จบจากเพลงเกาหลีก็มาต่อกันที่เพลงญี่ปุ่นแสนไพเราะขื่อ Maybe You Are ที่นอกจากจะมีแดนเซอร์มาช่วยสร้างสีสันแล้ว นิชคุณ เองก็มีท่าเต้นยั่วๆมาเย้าใจแฟนคลับให้กรี๊ดกระจายอีก 

“จบแล้วฮะ ก่อนอื่นขอยินดีต้อนรับทุกคนสู่บ้านผมนะครับ ตามชื่อคอนเสิร์ต ‘HOME’ อยากให้ทุกคนคิดซะว่าผมชวนมาบ้านผม มานั่งฟังเพลง เอาเสื่อมาปูกัน… 11 ปีอ่ะ ขอโทษที่ให้รอนานขนาดนี้ จริงๆแล้วเป็นแผนของคุณตลอด 11 ปี คือรอให้เค้าเข้ากรมกันก่อน คุณถึงได้ปฏิบัติการ (ขำ) ดันไปสัญญาบนเวทีใหญ่ว่าจะโซโล่ ปากรั่วไง ก็เลยต้องทำตามสัญญา”  นิชคุณกล่าวต้อนรับทุกคนอย่างเป็นทางการ ก่อนพูดซึ้งติดตลกถึงแฟนๆ “เพลงแรกที่แต่งให้กับแฟนคลับที่น่ารักของผม เพลงนั้นก็คือ ’30 ยังแจ๋ว’ ล้อเล่น แต่ 31 แล้วอ่ะ แต่งเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ขอบคุณทุกคนที่รักและปกป้องผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!” แล้วพาเข้าเพลง Let it Rain เวอร์ชั่นอะคูสติกในภาษาอังกฤษ กับบรรยากาศนั่งเก้าอี้ร้องเพลงสบายๆ ที่แฟนๆร้องตามกันเสียงดังลั่นฮอลล์ เพลงต่อไปเป็นภาค 2 เพราะเวลาฝนตกก็ต้องมี…”ร่ม” ใช่แล้ว Unbrella เพลงซึ้งที่เป็นเครื่องแทนใจว่า “ต่อไปนี้ผมจะเป็นร่มกันฝนกันแดดให้ทุกคน วันนี้จะเอาเวอร์ชั่นไทยมาร้อง จากทั้งหมด 5 ภาษาที่คุณพูดได้ อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และไทย อยากขอบคุณที่แฟนคลับรักและซัพพอร์ตผมมาตลอด” พอ นิชคุณ เริ่มเปล่งเสียงร้องออกมาเป็นภาษาไทย เหล่าฮอตเทสต์ไทย ต่างพร้อมใจกันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดไฟฉายโบกแทนแท่งไฟกันโดยมิได้นัดหมาย แปลงแจ้งวัฒนะฮอลล์ให้กลายเป็นทะเลดาวส่องสกาวระยิบระยับไปทั้งฮอลล์ 

พักชม VCR กันสักครู่ ระหว่างรอ นิชคุณ เปลี่ยนชุด ในคลิปเป็นภาพกิจวัตรประจำวันกับกีตาร์สุดหวงของนิชคุณ ก่อนพระเอกของงานจะกลับออกมาในชุดเสื้อกาวน์สีแดงสุดร้าวใจ พร้อมโซโล่กีตาร์สีเดียวกันซึ่งเป็นสีประจำตัวของนิชคุณ กับ Lucky Charm เพลงรักจังหวะช้าๆ ที่ยูนิคอร์นสุดหล่อขอพาทุกคนไปท่องเส้นขอบฟ้า ผ่านสายรุ้ง ซี่งโอบล้อมไปด้วยปุยเมฆสีหวานจนแทบไม่อยากลืมตาตื่น พร้อมด้วยกีตาร์คู่ใจที่ซื้อมาเพื่อเล่นโชว์ในเพลงนี้โดยเฉพาะ แล้วไปต่อกันแบบไม่ต้องพักกับเพลงน่ารักใสๆ อย่าง Jealous ที่ใครฟังเป็นต้องเคลิ้ม เพราะในเพลงถามตลอดว่า “ทำไมคุณถึงสวยอย่างออตเทสต์นี้?” จากนั้นตามติดมาด้วยเพลงช้าบรรยากาศฟุ้งๆลอยๆ Endearing ที่ นิชคุณ ใส่พลังร้องเต็มที่ แต่ดูเหมือนแฟนคลับจะโฟกัสผิดจุด เพราะไปสะดุดที่ซิกซ์แพ็ค!

เพลงจบแต่เสียงกรี๊ดยังไม่จบ เพราะแฟนคลับต่างตะโกนขอให้ “ถอด(เสื้อ)เลยๆๆ” แต่นิชคุณหาทางออกแบบเด็กดี “อย่าเลย แม่ดูอยู่!” นิชคุณเล่าว่าไม่เคยร้องเพลงในคอนเสิร์ตถึง 4 ภาษามาก่อน แล้วพาเข้าเพลงเกาหลีที่ขื่นชอบ Quit ที่ เสียง “ตุ๊ก” (เสียงน้ำตาไหล) ยังไปพัองกับเสียง “ตุ๊กตุ๊ก” ในภาษาไทยให้นิชคุณมีมุกมาเล่นกับแฟนๆอีกด้วย กรี๊ดกับซิกซ์แพ็ควับๆแวมๆกันตลอดเพลง ก่อนเปลี่ยนอารมณ์มาเป็นเพลงเศร้าปนเซ็กซี่ในเพลง Like in the Movie กันบ้าง ทว่ายิ่งร้อง เหมือนอารมณ์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะท่อนแร็พอันแสนเจ็บปวด ที่ดึงความรู้สึกคนดูออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ แล้วเปลี่ยนมาโชว์สเต็ปแด๊นซ์ในเพลง Only You ของ 2PM กันบ้าง เพลงนี้มีทีเด็ดอยู่ตรงท่ากอดอกแร๊พ เพราะเรียกเสียงกรี๊ดได้ถล่มทลาย ก่อน นิชคุณ จะแอบไปเปลี่ยนเสื้อมาใหม่ คราวนี้มาในเสื้อเชิ้ตเก๋ๆ สีฟ้าขาว

“พยายามเอาเพลงของ 2PM มาร้องบ้าง เพราะเพลงผมมีแค่ 9 เพลง ร้องทั้งคอนเสิร์ตแค่ 9 เพลงได้มั้ย แต่ค่าบัตรเท่าเดิมนะ” นิชคุณพูดหยอกแฟนๆ ก่อนจะถามว่า “สนุกมั้ยครับ เมืองไทยเป็นที่ๆเป็นห่วงและตื่นเต้นที่สุด เพราะอยากให้ทุกคนประทับใจ เตรียมกีตาร์มาร้องเพลงนี้เลยนะ ซื้อกีตาร์สีแดงมาด้วย ส่วนเพลงต่อไปเป็นเพลงที่คนที่คุณรักคนหนึ่งแต่งมาให้” พอได้ยินแบบนี้ แฟนคลับก็ถามกลับทันควัน “ใคร?” แต่ นิชคุณ ที่อยู่บนเวทีฟังไม่รู้เรื่อง เลยอดรู้เลยว่าใครกันที่แต่งเพลง So Wonderful นี้ให้ แต่ต้องยอมรับว่าเพลงเค้าเพราะจริงๆ แถมนิชคุณยังใส่ท่าเต้นคล้ายคนเมารักเข้าไปอีก ทีนี้ละ ความน่ารักเลยเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว “ขอเสียงปรบมือให้กับวงดนตรีด้วยครับ แต่คุณขอพักก่อนนะครับ จริงๆผมตั้งใจทำคอนเสิร์ตนี้ให้ออกมาเหมือนนั่งฟังเพลงอยู่ใน แจ๊ส บาร์ ไม่ใช่คอนเสิร์ตไอดอล ไปดูคอนเสิร์ตเพื่อนๆใน 2PM ทุกคนมาแล้ว เลยอยากจะแหวกแนวจากเพื่อนๆ ให้มากที่สุด” แม้จะบ่นว่าตัวเองแก่แล้ว และขอพักก่อน แต่ก็ชวนเข้าเพลง Mars เพลงเปียโนเพราะๆที่เกิดแรงบันดาลใจระหว่างไปเที่ยวหัวหิน  ซึ่งเพลงเพราะจัดจนต้องยกนิ้วให้ แถมด้วยเสียงปรบมือดังกระหึ่มในตอนจบ

ตามติดมาด้วยเพลง Again & again ของ 2PM ที่นำมาอเรนจ์ใหม่เป็นเวอร์ชั่นช้า เศร้า แต่มีบีท ก่อนจะเพิ่มความเร็วและความร้อนแรงในครึ่งหลัง ดูแล้วยิ่งคิดถึงบรรยากาศตอนทั้ง 6 หนุ่มอยู่ด้วยกันครบวง ต่อมาเป็นเพลง Bridge เพลงเร็วจังหวะสนุกๆ ที่ทำท่าจะเป็นเพลงสุดท้าย แต่ยังไม่ท้ายสุด…จากนั้นเป็น “VLOG เล็กๆของคุณ” ที่จะพาทุกคนเข้าไปสู่โลกของนิชคุณ บอกเล่าจุดเริ่มต้นกว่าจะออกมาเป็นคอนเสิร์ตโซโล่ในครั้งนี้ ตั้งแต่ออกจากบ้าน ไปห้องซ้อม ร่วมประชุมเสนอความคิดเห็น ทานข้าว ไปจนถึง จุนโฮ เมมเบอร์ของ 2PM โทรมาคุยพร้อมให้กำลังใจ หรือแม้แต่การนั่งสัมภาษณ์ตัวเองบนดาดฟ้า เรียกเสียงกรี๊ดได้ลั่นฮอลล์ “เมื่อกี้ลืมบอกว่าเพลงสุดท้ายแล้ว มีใครรีบกลับบ้านมั้ย? แต่ผมต้องไปขึ้นเครื่องแล้ว!” แกล้งหลอกให้แฟนคลับหวั่นใจเล่น ก่อนชวนร้องเพลง Let it Rain อีกรอบ แต่คราวนี้หันไมค์ให้แฟนๆ ร้องกันเองเลย แม้จะร้องกันเสียงดังบ้าง เสียงหายบ้าง แต่การทำโปรเจ็คท์ชูป้ายที่เขียนว่า “I WILL BE YOUR UMBRELLA” ก็จบลงอย่างสวยงามแสนประทับใจ แต่มิวายตอนขอถ่ายรูปกับแฟนคลับทั้งฮอลล์ยังแอบแซวว่า “แต่งหน้ากันมาแล้วใช่มั้ย?” 

จบจากเพลงอังกอร์ นิชคุณขอกล่าวความในใจ “ขอบคุณที่อุตส่าห์รักอุตส่าห์รอมาตลอด 13 ปี อยากพิสูจน์ให้ทุกคนรู้ว่าที่รักที่รอผมเนี่ย ไม่เสียเวลา นี่เป็นแค่อัลบั้มแรก คอนเสิร์ตแรก ผมค่อนข้างพอใจ แต่ความสามารถของผมยังต่อยอดพัฒนาได้อีก สัญญาว่าจะไม่หยุดพยายาม จะทำให้ดีกว่านี้ ต่อไปอาจมีขลุ่ย กลองยาว สมัยเด็กๆ เคยอยู่วงกลองยาว ด้วยความใส่ชุดสีเขียวนีออน แล้วโดนล้อว่า เด็กฝรั่งตีกลองยาว เป็นคนไทยไม่ใช่ฝรั่งซะหน่อย ในอนาคตมีอะไรสนุกๆ รออยู่ ขอให้รักในความเป็น คุณ คนนี้ จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน!”

สลับมาร้องเพลงไทยกันบ้าง กับเพลงแรกในชีวิตไอดอล We Become One ที่ นิชคุณ กล่าวชื่นชมและขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลังเพลงนี้ด้วย ซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าเพลงเก่ามากแล้ว จนต้องแอบวิ่งไปดูเนื้อเพลงบ่อยๆ สร้างเสียงหัวเราะได้ไม่น้อย ต่อมาเป็นช่วงส่งท้าย พาเหรดกันมา 4 เพลงรวด เริ่มจาก I Can’t เพลงเกาหลีชวนเต้น ก่อนจะขอร้องแกมบังคับให้ทุกคนลุกขึ้น ตั้งแต่เพลง Come back when you hear this song เพลงจังหวะคึกคักสำหรับคนที่เข่ายังดีอยู่ มีการแนะนำแดนเซอร์ และนักดนตรี ขอบคุณทุกคน ทำท่าเหมือนจะกลับแล้ว เครดิตบนจอหน้าเวทีก็ขึ้นแล้ว แต่ทันใดนั้น ทุกอย่างก็รีเพลย์กลับไปใหม่ พร้อมกับ นิชคุณ ที่กลับออกมาใหม่ในเพลง Hot ทำเอาฮอตกันทั้งฮอลล์ ก่อนปิดท้ายจริงๆ ด้วยเพลงฮิตของ 2PM อย่าง Hand’s Up ที่ทุกคนพร้อมใจกันยกมือ ทั้งร้อง ทั้งเต้น กันสุดเหวี่ยง แทบลืมวัยเลยทีเดียว นิชคุณ เลยมอบของขวัญเป็นผ้าเช็ดเหงื่ออุ่นๆ ให้แฟนคลับผู้โชคดีไว้เป็นที่ระลึก “วันนี้คุ้มมั้ยฮะ? ขอบคุณมากนะครับทุกคน สนุกมั้ยข้างหลัง ถ้าสนุกก็กรี๊ดดังๆ หน่อย” คุยกับแฟนคลับแล้ว ก็ขอแซวคนในครอบครัวบ้าง “แม่ไม่ยืน แม่เจ็บเข่า นี่ยังมาไม่ถึงครึ่งตระกูลนะ มี 48 คน โต๊ะจีน 10 โต๊ะ อ่ะครับ” 

ก่อนจากขอย้อนอดีตสักหน่อย เล่าถึงสมัยถูกตั้งฉายาว่า “เรนแห่งเมืองไทย” แต่เจ้าตัวบอกว่า “ไม่อยากเป็น เรน คนที่สอง ขอเป็น คุณ คนแรกดีกว่า!” ระหว่างชวนคุยก็มีแซวน้องสาว เชอรีน ตามประสาพี่ชายหวงน้อง ก่อนทิ้งท้ายว่า “ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเชื่อเลยว่าตัวเองทำแบบนี้ได้ พอลองทำแล้ว ก็ทำได้ จะพยายามทำให้ดีที่สุด อย่างน้อยก็ได้ลองทำ ซึ่งนี่เป็นแค่สเต็ปแรกเท่านั้น ผมจะโชว์ว่าผมทำได้ดีกว่านี้อยู่ตลอดเวลา ขอให้ทุกคนแข็งแรง มีความสุข รวยๆ นะครับ”

แม้คอนเสิร์ตแรกจะจบลงด้วยความประทับใจ แต่ นิชคุณ ของทุกคนยังคงมีผลงานให้ติดตามกันอีกมากมาย ทั้งซีรีส์ ภาพยนตร์ และงานดนตรี ซึ่งนี่ก็น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีกว่า ตลอด 11 ปีในวงการเคป๊อป นิกคุณ หรือ น้องคุณ คนนี้มีดีมากกว่าแค่หน้าตาหลายเท่านัก!

นิชคุณ เผยรู้ตัวไม่ใช่คนเก่ง  แต่พิสูจน์ความตั้งใจมีทั้งอัลบั้มเพลง และคอนเสิร์ต HOME  พร้อมอ้อนฮอตเทสต์ชาวไทย…ชวนดูคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก ณ บ้านเกิด!!

เดบิวต์ในฐานะศิลปินเกาหลีมา 11 ปี แต่หนุ่มหล่อสัญชาติไทย นิชคุณ หรเวชคุณ สมาชิกวงดัง 2PM เพิ่งมีโอกาสเปิดคอนเสิร์ตเดี่ยวในบ้านเกิดเป็นครั้งแรก กับงาน “นิชคุณ โซโล่ คอนเสิร์ต ‘โฮม‘ อิน แบงคอก วิท ดร.จิลล์” (NICHKHUN SOLO CONCERT ‘HOME’ IN BANGKOK with Dr.Jill)  ที่จัดขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม 2562 ณ แจ้ ณงวัฒนะ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ โดยได้ผู้จัดใจดี๊ดีอย่าง อะชิ แอคทิเวชั่น (A Chi Activation) และบริษัท ชาณ แอคทิเวชั่น จำกัด (Chan Activation Co., Ltd.) ที่อาสาพา นิชคุณ กลับบ้าน พร้อมอวดศักยภาพที่ ฮอตเทสต์ไทย อาจจะยังไม่เคยเห็น ทั้งร้อง เต้น เล่นดนตรี ให้ได้ชมกันเป็นครั้งแรก โดยวันนี้ นิชคุณ ก็ขอมาอ้อนพี่ๆสื่อและแฟนๆในงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา  โดยมี ดีเจเจมิกซ์ เจริญ แซ่จู มาทำหน้าที่พิธีกร ซึ่งทันทีที่ นิชคุณ เดินออกมาด้วยรอยยิ้มสดใส พร้อมใบหน้าอันหล่อเหลา ก็มีการโพสต์ท่าให้เก็บภาพกันก่อน ทำเอาเสียงชัตเตอร์รัวกระหน่ำ ก่อนจะเข้าสู่การเปิดใจของการมาเปิดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกในบ้านเกิด 

พิธีกร : ตื่นเต้นมั้ยที่กำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ โซโล่เดี่ยวที่บ้าน เป็นไงบ้างตอนนี้? 

นิชคุณ : “มันเป็นความรู้สึกอเมซิ่ง ยังไม่เชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้นจริงๆแล้ว เพราะว่าเป็นคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก ที่เกิดขึ้นที่บ้านในประเทศไทย  ซึ่งเป็นบ้านเกิด คงต้องทำให้ดีจริงๆ แล้วก็ต้องโชว์ให้ ฮอตเทสต์ ทั้งชาวไทย แล้วก็ทุกคนที่มาดูได้เห็นว่า “เออ คุณก็ทำได้… มันเป็นการพิสูจน์ตัวเองด้วยว่าตัวเองก็ทำได้!“

พิธีกร : แต่ว่าคอนเสิร์ตโซโล่ที่อื่น แน่นอนว่าคอนเซ็ปต์คือ ‘HOME’ แต่ ‘HOME’ ที่เมืองไทยมันไม่เหมือนกัน ความพิเศษมันอยู่ตรงไหน? 

นิชคุณ : “เป็น ‘HOME’ จริงๆ มันไม่เหมือนกัน ไม่เหมือนที่อื่น ความพิเศษอยู่ที่คนดูมากกว่านะครับ เพราะ ฮอตเทสต์ชาวไทยก็ไม่เหมือนใครในฮอตเทสต์ประเทศอื่นอยู่แล้ว ใช่มั้ย? ก็จะมีพิเศษกว่าคนอื่นจริงๆครับ ก็แค่นี้ก่อนละกัน ค่อยมาดูกันพรุ่งนี้ว่าจะยังไง” 

พิธีกร : กว่าจะมาเป็นคอนเสิร์ตโซโล่เดี่ยวในครั้งนี้ หนักใจมั้ย ตอนเตรียมการ? มีอะไรที่ต้องเครียด กลุ้มใจ หรือกังวลใจเรื่องอะไรมั้ย? กว่าจะมาเป็นรูปเป็นร่างแบบนี้?  

นิชคุณ : “หนักใจมาก กังวลทุกเรื่องเลย เพราะว่าจริงๆ แล้วตามสไตล์แนวเพลงที่ผมชอบ ที่ผมทำมันเป็นเพลงง่ายๆ ไม่ได้เป็นเพลงเต้นหนัก เป็นเพลงฟังสบายๆ แต่ถ้าจะทำคอนเสิร์ตขึ้นมา จะแบบร้องเพลงสบายๆ มันก็ดูแบบไม่พยายามขนาดนั้น มันชิลไป ก็เลยบอกว่างั้นผมขอเล่นดนตรีด้วยละกัน แจมกับตัววงไปเลย นั่นแหละ เรื่องใหญ่เลย” 

พิธีกร : นี่คือสิ่งที่ต้องการและกังวลตอนแรก?

นิชคุณ : “ใช่ครับ เพราะพอผมพูดแบบนั้นออกมา ทุกคนในที่ประชุมชอบคอนเซ็ปต์ นักดนตรีร้องเพลงและเล่นไปด้วย เรื่องใหญ่เลยครับ ผมต้องกลับไปซ้อม แล้วก็พยายามจะคุมควอลิตี้ของคอนเสิร์ตครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเวที แสง หรือดนตรี พยายามจะทำให้มันเป็นสไตล์ของผมให้มากที่สุด ก็เลยหนักนิดนึงในการซ้อม”

พิธีกร : พอได้ซ้อมกับวง ได้คุ้นชิน รู้สเต็ปแล้ว สบายใจขึ้นมั้ย?

นิชคุณ : “จริงๆ มันสบายใจขึ้น แต่ก็ด้วยการแสดง อย่างเต้นเนี่ย มันเต้นด้วยร่างกาย ร่างกายมันจำได้ไปเอง แต่ว่าเล่นดนตรีบางทีมันมีหลายอย่างเข้ามาทำให้มันหลุด แบบอยู่ดีๆก็หลุดออกไป แล้วก็เล่นผิดเล่นเพี้ยนบ้าง ซึ่งต้องคิดหลายอย่างมากในการแสดง ซึ่งเล่นทุกครั้ง แสดงทุกครั้งก็ตื่นเต้นทุกครั้ง เพราะอยากทำให้มันดีทุกครั้ง”

พิธีกร : ก่อนหน้านี้ไปโซโล่ที่เกาหลีมาแล้ว ตอนที่เกาหลีกับญี่ปุ่น ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง? ก่อนจะขึ้นเวทีตอนเกาหลีนี่ครั้งแรกกับการขึ้นเวทีในนามของโซโล่คอนเสิร์ตของนิชคุณเลย รู้สึกยังไงบ้าง?

นิชคุณ : “มีที่เกาหลี ที่ญี่ปุ่น คือตื่นเต้นไปหลายวันก่อนที่จะขึ้นเลย พอมาถึงที่ฮอลล์ก็ซ้อมในห้องพัก มีเปียโนตั้งอยู่ ไปนั่งเล่นไม่ให้ใครเข้ามาในห้อง มีสมาธิซ้อม แต่ก็ตื่นเต้นมาก พอเล่นจบแล้ว โล่งมากเลย เพราะมันจบลงด้วยการที่ไม่มีอะไรผิดพลาดมากมายนัก จบลงด้วยความสุขมากครับ อย่างแรกที่ผมอยากทำ คือให้ความสุขกับคนดู โชว์ความเป็นผม ไม่อั้น ไม่ว่าจะเรื่องดนตรี การร้อง การแสดง อย่างที่สอง คือ ทำให้ผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะมันเป็นการแสดงสด เราเป๊ะไม่ได้ทุกครั้ง ตอนแรกๆ ผมไม่เข้าใจในจุดนี้ว่า เออ เราเป็นนักแสดง การแสดงมันต้องเพอร์เฟ็คท์ 100% แต่พอได้แสดงคอนเสิร์ตกับ 2PM มาเยอะๆ เราก็รู้เลยว่าความสำคัญของคอนเสิร์ตไลฟ์มันคือ โมเม้นท์ๆ นั้น ที่เราส่งพลังออกมาให้กับคนดูได้มากขนาดไหน ถ้าเราไปคิดเรื่องอื่นตอนแสดง คนดูก็รู้แหละว่าเราแค่ร้องเพลงให้ฟังเฉยๆ ถ้าเราอยู่กับคนดู เราส่งพลังให้คนดู คนดูก็จะมีความสุขมากขึ้น หวังว่าจะชอบกันนะครับ”

พิธีกร : สมาชิกใน 2PM ให้กำลังใจในการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ยังไงบ้าง?

นิชคุณ : “มาดูกันเกือบทุกคนแล้วนะครับ ตอนที่เกาหลีมีเหลืออยู่ 2 คน ที่ยังอยู่ในกรม ก็มีชานซอง แท็ก จุนโฮมา เค้าก็บอกว่าอึ้ง เราทำได้และทำได้ดี เพราะว่าผมใน 2PM จะไม่ค่อยมีบทบาทด้านดนตรีเท่าไหร่ ไม่เคยแสดงดนตรีมาก่อน แต่ครั้งนี้ต้องรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ละคนก็อึ้งกันไปว่า เฮ้ย ก็เก่งนี่! ชอบ สนุกดี เค้าบอกว่าเป็นรูปแบบที่เค้าไม่เคยเห็นมาก่อน อยากบอกว่าถึงแม้ผมจะเป็นไอดอล แต่ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้มันจะไม่เหมือนคอนเสิร์ตไอดอลที่คุณเคยดูกันมานะครับ ไม่ใช่ไม่ดีนะ แต่ในคำว่า HOME มันมีความสบาย ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ คุณโผล่มาจากบนเวที ไม่มีนะครับ ไม่ได้ใช้ตังค์เยอะขนาดนั้น (หัวเราะ)”

พิธีกร : มีแอบชวนหนุ่มๆ 2PM มาดูที่เมืองไทยบ้างรึเปล่า?

นิชคุณ : “ไม่กล้าชวนครับ เพราะเค้าให้ผมออกค่าเครื่องบิน แล้วเค้าดูที่เกาหลีแล้วก็เลยไม่ได้ชวน”

พิธีกร : เมื่อปลายปีที่แล้ว เราได้ฟังเพลงในอัลบั้ม ‘ME’ ในประเทศญี่ปุ่นกันก่อน ก่อนจะไปเปิดตัวที่เกาหลี ซึ่งนิชคุณคิดเองทั้งเนื้อร้อง ทำนอง มีส่วนร่วมเกือบทุกเพลงในอัลบั้ม หนักใจแล้วเหนื่อยมั้ย?

นิชคุณ : “เหนื่อยมากครับช่วงนั้น แล้วก็อัลบั้ม ‘ME’ ผมใช้เวลาแต่งประมาณ 7 เดือนได้ เพราะว่าเป็นอัลบั้มแรกที่ผมทำขึ้นมา ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เปียโนผมพอเล่นได้ ก็เลยเล่นเปียโนไป ร้องเพลงไป แต่งไป แล้วก็ส่งกลับไปให้นักแต่งเพลงที่ทำงานด้วยกันให้เค้าช่วยหน่อย แต่ผมอยากทำให้มันเป็นของผมจริงๆ ไม่ใช่ว่าแต่งมานิดเดียวแล้วให้เค้าไปทำต่อ ผมไม่พอใจตรงนั้น ก็เลยคุมทุกขั้นตอน ทำทุกอย่างก็เลยหนักหน่อย”

พิธีกร : แต่ว่ามีอยู่เพลงหนึ่ง ซิงเกิ้ลที่ชื่อว่า ‘Umbrella’ นี่ทุกคนบอกเลยว่า อึ้ง ทึ่งมาก เพราะมันมีหลายเวอร์ชั่น หลายภาษามาก แต่ละภาษาอันไหนแต่งยากสุด?

นิชคุณ : “มีภาษาไทย เกาหลี อังกฤษ ญี่ปุ่น แล้วก็จีน ตอนแรกผมแต่งภาษาอังกฤษอย่างเดียว แล้วให้เค้าไปแปลเป็นภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งเกาหลีก็ช่วยกันคิดนิดหน่อย แต่ไทยกับอังกฤษผมเป็นคนแต่งเนื้อร้องเอง อันไหนยากสุด ผมว่าภาษาไทยก็ค่อนข้างยาก เพราะผมพยายามหาคำสวยๆ มาใส่ ตอนแต่งผมอยู่เมืองไทย รู้สึกว่าจะถ่ายทองเอก ตอนนั้นนั่งอยู่ในห้องก็นั่งเขียน ก็คอยถามเมเนเจอร์คนไทยว่าคำนี้สะกดยังไง ไม่เขียนนานเลยสะกดผิดสะกดถูกบ้าง ซึ่งผมคิดว่าภาษาจีนจะร้องยากที่สุด แต่ภาษาไทยก็ไม่ง่ายนะ“   

พิธีกร : เวลามีคนถามว่าชอบเพลงไหนที่สุดในอัลบั้ม ‘ME’ นิชคุณก็จะตอบว่าเพลง ‘Mars’ เสมอ ทำไม มันพิเศษยังไงสำหรับเพลงนี้?

นิชคุณ : “ผมชอบเมโลดี้ของมัน จริงๆ เพลงนี้ผมแต่งตอนอยู่เมืองไทยเหมือนกัน ตอนนั้นกำลังนั่งรถไปเที่ยวหัวหินอยู่บนรถตู้เลย ก็พึมพำเพลงออกมา แล้วอยู่ดีๆ มันก็เอ๊ย ใช้ได้! เลยเอาโทรศัพท์ขึ้นมาอัด แล้วค่อยไปใส่เนื้อทีหลัง  ตอนแรกจะแต่ง Mars ให้เป็นเพลงเร็ว แต่ฟังเพลงอื่นที่แต่งมันไม่มีเพลงเปียโน เพลงบัลลาดเลย แล้วเพลงนี้เป็นเพลงเปียโนด้วย ก็เลยถูกใจ ธรรมดาผมเป็นคนชอบเพลงช้าๆ อยู่แล้ว”

พิธีกร : แต่เพลงไตเติ้ลดันเป็นเพลง Lucky Charm ทำไมต้องเป็นเพลงนี้?ไ

นิชคุณ : “ผมว่ามันฉีกแนวดีนะครับ เพราะทุกคนในวง 2PM ก็เคยร้องโซโล่อัลบั้มกันมาทุกคนแล้ว แต่ละคนก็เป็นเพลงเร็วๆ มีบีทนิดนึง เป็นเพลงเต้นๆ หน่อย จริงๆ Lucky Charm ออกมาพร้อมกับ Bridge ตอนแรกทางบริษัทอยากให้ Bridge เป็นเพลงไตเติ้ล ผมชอบทั้ง 2 เพลง แต่เลือกเพลงนี้เพราะจะได้ดูฉีกแนวออกมาเป็นตัวผมมากกว่า แล้วผมก็ซี้อกีตาร์และซ้อมเล่นกีตาร์เพื่อจะเล่นเพลงนี้บนเวทีด้วย”

พิธีกร : ตอนนี้นิชคุณเล่นซีรีส์ เล่นหนัง มีเรื่องเยอะแยะไปหมด ตอนนั้นบรรยากาศของการเป็นนักแสดงเป็นยังไงบ้าง สนุกมั้ย?

นิชคุณ : “การเป็นนักแสดงผมว่ามันก็สนุกไปอีกแบบ สนุกกันคนละฟีลมากกว่า การอยู่บนเวที เราได้เห็นฟีดแบค รีแอคทันทีเลย แต่การแสดงเราต้องรอให้หนังออกก่อน ละครออกมาก่อน ถึงจะรู้รีแอคของคน ถือว่าเป็นความตื่นเต้นที่แตกต่างออกไปมากกว่า”

พิธีกร : แล้วเรื่อง น้อง.พี่.ที่รัก มีโอกาสไปโปรโมทหลายที่มากๆ ไปที่ไหนบ้าง? แล้วประทับใจที่ไหนที่สุด?

นิชคุณ : “มีสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น ไทยก็แน่นอนอยู่แล้ว แต่ไต้หวันกับมาเลเซีย ค่อนข้างให้การตอบรับที่ดีนะครับ จริงๆเป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินสายโปรโมทหนัง ก็ตกใจนิดนึงว่าคนมาดูเยอะ ซัพพอร์ทเยอะ ที่ดีใจคือเค้าให้ความสนใจหนังไทย ได้ฉาย 10 ประเทศหรือไงนี่ละ เลยดีใจที่ได้อยู่ในโปรเจ็คท์นี้ด้วย ผมก็ดูแล้วเหมือนกัน ก็สนุกดี (หัวเราะ)”

พิธีกร : ตอนนี้เป้าหมายของนิชคุณที่วางเอาไว้ในปีนี้แล้วก็ปีหน้าคืออะไร?

นิชคุณ : “ปีนี้มีงานแสดงเข้ามาเยอะเกินคาด ก็จะพยายามจะทำให้มากที่สุด ตอนนี้รับไปแล้ว กำลังถ่ายอยู่เรื่องนึง รับทุกอย่าง ไม่เรื่องมากครับ ซึ่งก็ถ่ายซีรีส์อยู่เรื่องนึง แล้วก็มีหนังอีกเรื่องนึง แต่ว่าก็มีเพลงด้วยครับ ก็ปลายปีเนอะ”

พิธีกร : ย้อนกลับไป 11 ปี จนถึงตอนนี้ นิชคุณ ภูมิใจอะไรในตัวเองมากที่สุดในวันนี้?

นิชคุณ : “ผมว่าเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรกนะ เพราะว่าอย่างที่แฟนคลับผมรู้แหละ…ว่าผมไม่ได้เป็นนักร้องนำ  ไม่ได้เป็นลีดเดอร์  ไม่ได้ร้องเก่ง  เต้นเก่งอะไร  คือไม่ได้เป็นคนเก่งในด้านดนตรี ผมเคยคิดอย่างนี้มาตลอด จนกระทั่งมีอัลบั้มนี้ คอนเสิร์ตนี้ ทำไปแล้วก็เออ อาจจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในโลก ไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดใน 2PM แต่เราก็ทำได้! แค่เราตั้งใจทำ แค่เราอยากจะทำมัน สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าเราจะทำได้ มันก็ทำได้ขึ้นมา เลยภูมิใจในตัวเองว่า แค่พยายามให้มากกว่านี้ ก็น่าจะทำได้ดีกว่านี้แหละเมื่อคิดแบบนี้ก็เลยบอกว่างั้นอัลบั้มหน้าละกัน เป็นการบอกตัวเองว่า ยูทำได้ๆ!”

พิธีกร : อยากบอกอะไรกับ ฮอตเทสต์ ที่ภูมิใจในตัวพี่คุณบ้าง วันนี้ต้อนรับกลับบ้านกันอย่างอบอุ่น พร้อมกันไปดูคอนเสิร์ตโซโล่พรุ่งนี้

นิชคุณ : “ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ต้องใช้เวลากว่า 11 ปี ทำอัลบั้มเดี่ยวแรก คอนเสิร์ตแรก ขอโทษที่ทำให้รอนาน ถือว่านี่เป็นก้าวแรกของผมละกันในการเป็นศิลปิน นักดนตรี นักร้อง แล้วก็หลังจากนี้ผมจะโชว์ให้ทุกคนเห็นว่า ผมทำได้ดีกว่านี้ ไม่หยุดแค่นี้ จะก้าวต่อไป”

หลังผ่านช่วงสัมภาษณ์แบบเจาะลึกทุกอารมณ์ความรู้สึก ก็ถึงคิวผู้จัดคนเก่ง คุณชลธิชา ศรีทอง ซีอีโอ อะชิ แอคทิเวชั่น (A Chi Activation) พร้อมด้วยเหล่าผู้สนับสนุนก็ขึ้นมอบดอกไม้เป็นกำลังใจให้กับ นิชคุณ  โดยเจ้าของคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรก ก็ไม่วายทิ้งท้ายไว้อีกว่า “ขอบคุณทุกคนที่มากันในวันนี้ นี่เป็นคอนเสิร์ตครั้งแรก อยากให้มาร่วมสนุกกัน อยากให้ทุกคนมาดู และได้พลังกลับไป อย่าลืมทานข้าวมาด้วยนะครับ อยากให้ทุกคนมีความสุขกันนะครับ”