“บิ๊กเอ็ม-ลิขิต บุตรพรม” นั่งแท่นพระเอกใหม่ ในภาพยนตร์ฮาภาคต่อ ม่วนยกกำลังสาม “แหยม ยโสธร 3”

บทบาท-คาแร็คเตอร์                                                                                                  

สวัสดีครับ ผม “บิ๊กเอ็ม-ลิขิต บุตรพรม” รับบทเป็น “คฑาเทพ” ใน “แหยม ยโสธร 3” ครับ สำหรับคาแร็คเตอร์ของคฑาเทพก็เป็นหนึ่งในลูกของแหยม ก็จะเป็นคนนิ่งๆ สุขุมใจเย็นสไตล์นักเรียนนักกฎหมายครับ กลับมาบ้านช่วงปิดเทอม มาเยี่ยมพ่อแม่ แต่ระหว่างทางได้มาเจอกับ “รำพัน” (อิงฟ้า เกตุคำ) ก็เลยตกหลุมรักกัน แต่ไม่รู้เลยว่ากำลังจะนำปัญหามาสู่ตนเองและพ่อกับแม่ แล้วคฑาเทพจะสู้หรือจะถอย เขาจะผ่านบททดสอบนี้ไปได้ยังไง ต้องติดตามในหนังครับ

  

เป็นไงมาไงถึงได้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้

          มีพี่ที่รู้จักติดต่อมาว่ามีภาพยนตร์เรื่อง “แหยม 3” กำลังหานักแสดงใหม่ ต้องการคาแร็คเตอร์ประมาณนี้ แล้วก็ต้องพูดภาษาอีสานได้ ก็ลองไปแคสดู ตอนนั้นก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรครับ ได้หรือไม่ได้ไม่เป็นไร ถือเป็นประสบการณ์ จำได้ว่าวันไปแคสติ้งผมไปเป็นคนสุดท้ายเลย ก็ต้องทำอะไรหลายอย่าง ทั้งต้องพูดอีสานและแสดงให้พี่หม่ำดู ซึ่งพอรู้ตัวว่าได้เล่น ก็รู้สึกดีใจมากครับ

 

ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ก็ต้องเตรียมตัวเยอะเหมือนกันครับ ก็มีฝึกอ่านหนังสือพิมพ์ให้เป็นภาษาอีสาน ฝึกคุยกับหมาบ้างเป็นภาษาอีสาน เพราะอยู่ในห้องก็ไม่รู้จะคุยกับใครก็ลองซ้อมลองคุยกับหมาดูครับ (หัวเราะ) คือปกติครอบครัวผมจะคุยอีสาน แต่เขาจะคุยกับผมเป็นภาษากลาง ก็พยายามซึมซับ ฝึกฟังฝึกพูดบ่อยๆ

 

ตอนที่ต้องเข้าฉากครั้งแรกในชีวิต รู้สึกอย่างไรบ้าง

ไปกองวันแรกเกร็งมากครับ พะวงหลายอย่าง ก็เป็นฉากที่ต้องเข้ากับ “มิกซ์” (เพทาย วงษ์คำเหลา) ที่เล่นเป็น “คำผาน” น้องเราในเรื่อง เรื่องราวประมาณว่า คำผานมาปรึกษาผมเรื่องความรัก ต้องจีบยังไง วันแรกยอมรับว่าเกรงเพราะไม่เคยแสดงมาก่อน พี่หม่ำก็จะคอยบอกว่าทำตัวสบายๆ ให้คิดว่าเรากำลังคุยกับน้องเรา ต้องคุยแบบไหน อารมณ์ไหน สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี

 

แสดงหนังครั้งแรกแถมต้องมาเป็นพระเอกแบบเต็มตัวอีก รู้สึกอย่างไรบ้าง

จริงๆ กลัวและก็กดดันมาก เพราะเป็นการแสดงหนังเรื่องแรก และงานหนังมันก็มีความละเอียดสูงด้วย แต่ว่าพอมาเล่นจริงๆ แล้วมันไม่กดดันเลยครับ เพราะพี่หม่ำแกเป็นคนฮา เวลากำกับก็คลายเครียด หัวเราะอยู่ตลอด ก็เลยทำให้เราไม่เครียดครับ

 

ส่วนตัวเป็นแฟนหนัง “แหยม ยโสธร” อยู่แล้วหรือเปล่า

เคยติดตามทั้งสองภาคเลยครับ ชอบภาคแรกเป็นพิเศษ ตอนนั้นป๊อปปูล่าร์มากที่บ้านผมที่ขอนแก่น เรียกว่าดังทั้งอีสาน ดังมากไม่รู้ฉายกี่รอบต่อกี่รอบ ทั้งหนังกลางแปลง ฉายในโรงเรียนช่วงพักกลางวัน เราก็รู้ว่าคนชอบหนังเรื่องนี้กันเยอะนะ พอผ่านมาหลายปีก็มีภาคสาม พอรู้ว่าได้เล่นหนังเรื่องนี้ก็ไปตระเวนซื้อแผ่นมาดู ดูทั้งวันๆ ละ 2-3 รอบ ดูแอ็คติ้ง ดูภาษา ดูความฮา ศึกษาวิธีการหยอดมุกอะไรแบบนี้ครับ

 

เรื่องราวใน “แหยม ยโสธร 3”

 

ก็จะเป็นเรื่องราวของพ่อแม่สองครอบครัวที่ไม่ถูกกัน คือครอบครัวของแหยมซึ่งมีลูกชาย 2 คนคือ คฑาเทพกับคำผาน ที่เกิดไปชอบลูกสาวของกำนันปอย ก็คือ รำพันกับรำเพย ก็เลยถูกกีดกันเพราะพ่อแม่ไม่ถูกกัน ถ้าใครเคยดูโรมิโอกับจูเลียต อารมณ์ประมาณนั้นเลย แต่ของเราเป็นเวอร์ชั่นอีสาน คือเป็นเรื่องราวความรักฮาๆ ในสไตล์ของแหยม ยโสธรเหมือนเดิมครับ

 

ส่วนตัวประทับฉากไหนเป็นพิเศษ

ประทับใจหลายฉาก แต่ที่ประทับใจที่สุดคงจะเป็นฉากคฑาเทพที่นั่งอยู่บนรถสองแถวกับรำพันมาจากกรุงเทพฯ กลับมาบ้านพร้อมกัน แล้วมีป้าคนหนึ่งนั่งคั่นอยู่ตรงกลาง แกก็บ่นว่าเมื่อไหร่รถจะซ่อมเสร็จ คือคนบนรถเค้าเครียดกัน แต่คฑาเทพกับรำพันดันปิ๊งกันซะงั้น มองกันไปมาจนป้าอารมณ์เสีย ก็พูดด่าเราว่าไอ้ห่ามึงจะมองอะไรกันนักกันหนา คือฉากที่เล่นมาผมจะไม่ค่อยหลุด แต่พอเข้าฉากกับป้าแดงเนี่ยจะหลุดตลอด เพราะป้าแดงแกเป็นคนที่ฮามาก แล้วผมก็ชอบแกเล่นมากครับ

 

มีฉากไหนที่รู้สึกว่าเล่นยากบ้าง

ฉากยากคงจะเป็นฉากที่นั่งอยู่ในบ้านกับพี่หม่ำกับพี่เขียว มิกซ์เดินเข้ามาแล้วก็โดนพ่อด่า แล้วผมก็จะต้องปลอบก็ไม่เชิงแบบว่าปลอบ แต่ต้องไล่น้องไปทำการบ้าน ต้องสื่ออารมณ์ทางสายตา ก็คือว่าเป็นห่วงน้องที่โดนพ่อด่าด้วย ฉากนี้ก็จะหลุดเยอะเหมือนกัน เพราะว่ามันยากที่ต้องเข้าฉากกับพี่หม่ำ และพี่หม่ำก็จะชอบปล่อยมุกสด ซึ่งผมก็ตั้งตัวตั้งรับไม่ทันเหมือนกัน บางครั้งก็กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่จริงๆ ครับ

พูดถึงผู้กำกับ หม่ำ จ๊กมก

          พี่หม่ำเป็นคนใจดีครับ ตอนแรกก็กลัวเหมือนกัน เพราะเคยเห็นแกอยู่ในทีวี พอมาเจอก็เกร็งๆ แต่ตอนที่ทำงานด้วยกัน แกจะทำให้นักแสดงทุกคนรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด คือเรื่องนี้นักแสดงใหม่เยอะมาก แกจะควบคุมบรรยากาศทุกอย่างเอาไว้ คอยปล่อยมุก ให้กำลังใจตลอดครับ อยากขอบคุณพี่หม่ำที่ให้โอกาสครับ

 

น้องฟ้าที่รับบทเป็นรำพัน-คนที่เรารักในเรื่อง ร่วมงานกันเป็นอย่างไรบ้าง

น้องฟ้าเป็นคนน่ารักครับ ถึงแม้จะเป็นนางเอก แต่ว่าไม่ใช่นางเอกที่สวยสง่าจับต้องยาก แต่ฟ้าจะเป็นแบบว่าน่ารักเด็กๆ แอบมีขี้เล่นและน้องจะชอบหยอดมุกกับมิกซ์ ผมก็ช่วยในเรื่องของการส่งอารมณ์ให้น้องฟ้าเต็มที่ ก็จะช่วยกันแต่น้องฟ้ารู้สึกจะเคยผ่านงานการแสดงมาแล้ว ก็เลยช่วยผมบ้างเหมือนกัน

 

กับมิกซ์ที่เล่นเป็นน้องชายเรา เป็นยังไงบ้าง

กับน้องมิกซ์นี่ป่วนครับ ป่วนจริงๆ เค้าก็เหมือนพ่อเขาคือพี่หม่ำก็จะตลกฮาๆ เหมือนกัน ส่วนการแสดงก็เข้าขากันดีครับ มิกซ์ก็จะชอบมาปรึกษาเรื่องผู้หญิงด้วยครับ

 

พูดถึงสีสันและความสนุกแบบยกกำลังสามของแหยม ยโสธรในครั้งนี้

เสน่ห์ของหนังแหยมตั้งแต่ภาคหนึ่งถึงภาคล่าสุดนี้ ผมว่าเสน่ห์มันอยู่ที่ความฮาที่เป็นเอกลักษณ์เลย แล้วก็เป็นเรื่องสีสันของเสื้อผ้าหน้าผม อันนี้เราจะเห็นเลยตั้งแต่ภาคแรกยันภาคนี้ โดยเฉพาะภาคนี้สีสันจะยิ่งจัดจ้านมากขึ้นกว่าเดิม แล้วก็มีเรื่องวัฒนธรรม ภาษาอีสาน ความฮาก็จะยิ่งคูณสามเพิ่มขึ้นแน่นอนครับ เพราะว่ามันก็เหมือนกับการคูณขึ้นไปเรื่อยๆ ภาค1 ภาค2 มีมุกแบบนี้ๆ ภาค3 ก็จะยิ่งเหนือกว่า เยอะกว่า และเค้าก็จะมีการรวมตัวกันตั้งแต่ภาคหนึ่ง-ภาคสอง มายำใหญ่ มาสร้างความฮาถล่มทลายกันในภาคนี้เลยครับ

ก็ขอฝากงานหนังเรื่องแรกของผมใน “แหยม ยโสธร 3” ไว้ด้วยนะครับ ใครที่เคยดูมาตั้งแต่สองภาคแรก บอกได้เลยว่าภาคนี้ห้ามพลาด เพราะความสนุกความฮาความมันส์คูณสามได้เลยครับ แล้วคุณจะหลงรักคนอีสานและหนังอีสานเรื่องนี้แน่นอนครับ