ทำเอาดาราสาวเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง  Halle Berry (ฮัลลี่ เบอร์รี่) ถึงกับออกปากสุดปลื้มในผลงานภาพยนตร์ชิ้นโบว์แดงเรื่องล่าสุดของเธอ กับภาพยนตร์แนวไซไฟฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปลายปีเรื่อง “Cloud Atlas คลาวด์ แอตลาส หยุดโลกข้ามเวลา”  ภาพยนตร์ที่รวบรวมเอาสุดยอดนักแสดงชื่อดังมาร่วมแสดงมากมาย บวกกับการผนึกกำลังผู้กำกับสุดยอดฝีมืออย่าง Tom Tykwer (ทอม ไทเควอร์) ,  Andy Wachowski (แอนดี้ วาโชว์สกี้) และ  Lana (ลานา วาโชว์สกี้) ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จากภาพยนตร์เรื่อง The Matrix ทั้งสามภาค มาร่วมสร้างสรรค์สุดยอดภาพยนตร์คุณภาพที่ใช้งบทุ่มทุนสร้างกว่า 3,000ล้านบาท  งานนี้ดาราสาว Halle Berry (ฮัลลี่ เบอร์รี่)  ได้เปิดใจถึงการถ่ายทำภาพยนตร์ในฉากแอ็คชั่นที่เธอและ Keith David (คีธ เดวิด) ต้องแสดงร่วมกัน   โดยฉากนี้ผู้กำกับยกกองถ่ายทำมาปักหลักที่ย่านGlasgow(กลาสโกว์) ในประเทศ สก๊อตแลนด์ และเปลี่ยนให้กลายเป็นซานฟรานซิสโกในปี1973 ทีมงานฝ่ายศิลป์ได้นำ ป้ายร้านและโคมไฟสมัยก่อนมาตกแต่งให้เข้ากับยุค   และนำรถรุ่นเก่ามาใช้ในฉากไล่ล่านี้    ซึ่งเป็นฉากที่ Luisa Rey (หลุยซ่า เรย์ รับทโดย ฮัลลี่ เบอร์รี่) และ Joe Napier (โจ เนเพียร์ รับบทโดย คีธ เดวิด) ต้องหนีจากการไล่ล่าของ Bill Smoke (บิล สโมค รับบทโดย ฮิวโก้ วีฟวิ่ง) มือปืนรับจ้างที่ได้ใบสั่งมาให้ฆ่าปิดปาก Luisa (หลุยซ่า) เพราะเธอไปล่วงรู้ความลับเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่นของโรงงานพลังงานนิวเคลียร์    Halle Berry (ฮัลลี่ เบอร์รี่) ได้เล่าให้ฟังถึงการตัดสินใจมารับแสดงในหนังเรื่องนี้ และเบื้องหลังกองถ่ายให้ฟังว่า…

“…ฉากนี้เป็นฉากในช่วงยุคปี 1973 (ซานฟรานซิสโก) ซึ่งฉันรับบทเป็น Luisa Rey (หลุยซ่า เรย์) มีลักษณะเด็ดเดี่ยวและเป็นนักข่าวที่รักความยุติธรรม   เธอลงทุนยอมเสี่ยงตายเพื่อหาข้อมูลมาเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลของโรงงานพลังงานนิวเคลียร์  เธอไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เธอทำจะสำเร็จหรือไม่แต่ที่แน่ๆเธอสู้หลังชนฝา  ตอนถ่ายทำฉากนี้ฉันสนุกมาก มีทั้งตื่นเต้น แอ็คชั่นครบสูตร ได้ทำอะไรผาดโผนเยอะ  ฉันจำได้ว่าฉากนี้ทั้งฉันและ Keith David (คีธ เดวิด) เราวิ่งกันเยอะมาก  กว่าจะได้ภาพที่ออกมาถูกใจผู้กำกับ  และซีนตื่นเต้นสำหรับฉันก็คือซีนที่รถของฉันโดนรถคนร้ายชนตกสะพาน   มันน่าหวาดเสียวมากแต่ทีมงานเซฟความปลอดภัยไว้เป็นอย่างดี  เลยทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจ  มัน ออกมาเฟอร์เฟ็กซ์มากๆ

ครั้งแรกฉันได้รับการติดต่อจาก Tom (ทอม)  ว่าเขาและเพื่อนๆ กำลังจะทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉันสนใจมากและตอบตกลงทันที    เพื่อนๆ นักแสดงของฉันหลายคนพูดกับฉันว่าเธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่รับแสดง 6 บทบาททั้งหมดนี้  แถมยังมีคนมากำกับคุณอีกตั้งสามคน(หัวเราะ)    ฉันเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนฉันพูดนะ แต่ฉันจะไม่มีทางปล่อยโอกาสดีๆ แบบนี้ให้หลุดมือไปแน่  คิดดูซิว่าครั้งหนึ่งในชีวิตที่ฉันแสดงหนังหนึ่งเรื่องรับถึง 6 บทบาท   โอมายก็อตมันเป็นอะไรที่ท้าทายฉันมากๆ  ยิ่งพอได้อ่านบทมันยิ่งปลุกไฟในตัวฉันให้สปาคขึ้นมาทันที  มันทำลายกำแพงของการเป็นนักแสดงของฉันไปเลย   เรียกได้ว่าเป็นหนังเรื่องแรกและเรื่องเดียวของฉันที่จะเล่นเป็นตัวละครที่หลากหลาย มีคาแรกเตอร์ที่ไม่ซ้ำกันขนาดนี้   Cloud Atlas (คลาวด์ แอตลาส) คือสุดยอดหนังที่ฉันประทับใจที่สุดในชีวิต   

แต่ละบทบาทของตัวละครที่ฉันได้รับล้วนแล้วแต่มีการพัฒนาความเข้มข้นทางด้านอารมณ์ไปทีละสเต็ป    เริ่มต้นจากบทของ Zachry (แซ็ครี)หญิงชนเผ่าพื้นเมืองที่เป็นทาสในอเมริกา   จากนั้นก็มาเป็น Jocasta (โจคาสต้า) สตรีชนชั้นสูงผู้ไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร   แล้วก็มารับบทเป็น Luisa Rey (หลุยซ่า เรย์) นักข่าวสาวตงฉินที่ยอมเสี่ยงชีวิตแลกกับการเปิดโปงแผนการชั่วร้ายของเจ้าของโรงงานพลังงานนิวเคลียร์   และบทของสาวชาวอินเดียน แขกรับเชิญปริศนาที่  Dermot Hoggin (เดอร์ม็อท ฮ็อกกินส์ รับบทโดย ทอม แฮงค์) มาตกหลุมรัก   และต่อมาผู้กำกับจับฉันแปลงโฉมมาเป็นผู้ชาย ในบท Dr.Ovid (คุณหมอโอวิด) ผู้ถอดปลอกคอพันธนาการให้กับ Sonmi (ซอนมี) ตอนแต่งหน้าเป็นคุณหมอโอวิด    เชื่อไหมว่าฉันแทบจะจำหน้าของตัวเองไม่ได้   ต้องขอยกเครดิตให้ทีมเมคอัพที่แปลงโฉมได้ยอดเยี่ยม  และในบทบาทสุดท้ายคือ Meronym (เมโรนิม) เป็นตัวละครที่มีความแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งแต่ละบทบาทที่ฉันได้รับมีความเชื่อมโยงถึงกันจากศตวรรษหนึ่งไปยังศตวรรษหนึ่ง   อยากให้ทุกคนลองติดตามดูกัน บางทีคุณอาจจะจำไม่ได้ว่าตัวละครที่คุณเห็นเป็นฉัน…”

ติดตามชมภาพยนตร์ไซไฟฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปลายปี เรื่อง “Cloud Atlas คลาวด์ แอตลาส หยุดโลกข้ามเวลา”  ผลงานการกำกับของ Tom Tykwer (ทอม ไทเควอร์) ,  Lana (ลานา วาโชว์สกี้) และ Andy Wachowski (แอนดี้ วาโชว์สกี้)   ผู้กำกับสุดยอดฝีมือที่การันตีความสำเร็จอย่างท่วมท้นจาก The Matrix ทั้งสามภาค      เอ็ม พิคเจอร์ส เปิดรอบพิเศษให้แฟนๆ ได้สัมผัสความมหัศจรรย์เหนือจินตนาการก่อนใครในวันที่ 22-28 พฤศจิกายน นี้  รอบ 20.00น  เป็นต้นไป ณโรงภาพยนตร์ในเครือเอเพ็กซ์ , พารากอน , SFW เซ็นทรัลเวิลด์  และฉายจริง  29 พฤศจิกายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์และไอแมกซ์