สัมภาษณ์เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ประธานกรรมการบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เรื่อง จาพนม ยีรัมย์ 26 สิงหาคม พ.ศ.2556
ณ บริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
เสี่ยเจียง : สำหรับความตั้งใจในวันนี้ จริงๆ แล้วก็คือผมอยากจะคุยเรื่องของคุณจาพนม ให้สื่อมวลชนเข้าใจพร้อมกันเลย คือ กับจาได้มีการเซ็นสัญญากับบริษัทต่อ เพียงแต่ว่าในสัญญาฉบับนี้เขาขอมาว่าในเรื่องของการถ่ายโฆษณา และการถ่ายหนังต่างประเทศเขาจะขอเป็นคนดูแลเอง ซึ่งเขาขอมาตรงนี้ ผมก็ให้เขาไป คือให้เขาสามารถไปรับงานต่างประเทศหรืองานโฆษณาได้โดยที่ไม่ต้องผ่านบริษัท ก็เพื่อที่อยากให้ผู้สื่อข่าวเข้าใจพร้อมกันตามนี้ด้วยว่าทางสหมงคลฟิล์มฯจะเป็นผู้ดูแลทางด้านภาพยนตร์ไทยเท่านั้น
Q. แล้วอย่างนี้ทางสหมงคลฟิล์มฯไม่เสียผลประโยชน์เหรอ
เสี่ยเจียง : ผมว่าเราอย่าไปเรียกว่าเสียผลประโยชน์เลย มันก็ไม่ดี เราเป็นบริษัท เพราะฉะนั้นก็อย่าไปคิดว่าเรื่องจะเอาประโยชน์อะไร แล้วการที่เขาไปถ่ายหนังต่างประเทศได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาตินะ เป็นเรื่องที่เราต้องดีใจกับเขาด้วย ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ประโยชน์ หรือได้ส่วนแบ่งอะไรจากเขา ตัวผมตั้งแต่ทำบริษัทสหมงคลฟิล์มมาเราไม่เคยกินเปอร์เซ็นต์ใคร เราเป็นบริษัทที่ไม่ว่าใครจะมาอยู่กับเราแล้ว แล้วเขาต้องมาไปหาเงินมา เพื่อมาแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้กับเรา ตรงนี้เราไม่เคยทำ เราอยู่ด้วยการสร้างชื่อเสียงทำให้หนังไทยออกมาให้ดี
Q. จริงๆ แล้วสัญญาใหม่ที่บริษัททำกับจาพนมนี่เริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่
เสี่ยเจียง: สัญญาใหม่เริ่มเมื่อ ก.ค. ที่ผ่านมา
Q. อย่างนี้แล้วเสี่ยหรือทางสหมงคลฟิล์มเองรู้สึกเสียดายมั้ยที่เป็นคนแรกๆ เลยที่ตั้งใจจะพาจาไปฮอลลีวู้ด
เสี่ยเจียง : ไม่เสียดาย เพราะเขาอาจจะมีผู้จัดการใหม่ที่ดีกว่า ที่ทำได้ดีกว่า เราก็ควรให้เขาไป แล้วผมถือว่าเขาไปทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและมีชื่อเสียง เราควรจะสนับสนุน ไม่ใช่เห็นแก่ตัว เอาประโยชน์อย่างเดียวไม่มี
Q. สัญญาที่เซ็นมีระยะเวลากี่ปี
เสี่ยเจียง: 10 ปี
Q. แล้วอย่างที่มีข่าวว่าเขาไปรับเล่นหนังเรื่อง THE FAST & THE FURIOUS 7 เขาได้มาปรึกษากับทางเรามั้ย
เสี่ยเจียง : ยังเพราะข่าวเพิ่งมาเมื่อศุกร์เสาร์นี้ ผมคิดว่าไม่ 2-3 วันนี้หลังจากที่ผมแถลง เขาคงจะมาคุย เพราะว่าเขาต้องมาบอก ไม่ว่าเขาจะไปถ่ายโฆษณากับสินค้าใดๆ เขาก็ต้องมาบอก เพราะเรื่องเหล่านี้ทั้งหมดมีอยู่ในสัญญา แต่ว่าบริษัทก็ให้เขาทำได้โดยไม่ต้องผ่านบริษัทแต่ต้องมาแจ้งให้ทราบแค่นั้นเอง
Q. สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นทางตัวจาเองก็ยังไม่ได้มาแจ้งที่บริษัทเลยใช่มั้ย
เสี่ยเจียง : ยัง แต่เรารู้เราเห็นแล้วว่ามีข่าวนี้ขึ้นมา เราก็อยากบอกให้ผู้สื่อข่าวรู้ก่อน แล้วให้ตัวเขาได้สบายใจ
Q. น้อยใจมั้ยเสี่ยปั้นมาแล้วมาบอกเราทีหลัง
เสี่ยเจียง : อย่าไปน้อยใจเลย คนเรามันจะดังขึ้นมาแล้ว ใครอย่าไปว่าอะไรใคร พวกเราไม่เคยเห็นคนดังเหรอ (หัวเราะ)
Q. นี่เสี่ยโกรธรึเปล่า
เสี่ยเจียง : (หัวเราะ) ไม่โกรธหรอก ผมและบริษัททำหนังมา 50 ปีแล้ว ผมว่าดีนะ อย่างน้อยก็ทำให้ประเทศไทยให้ใครก็รู้จัก โดยเฉพาะอย่างที่เราทำหนังเรื่องต้มยำกุ้ง 2 -3D เราตั้งใจทำเป็น 3 มิติอยู่แล้ว มันเยี่ยมอยู่แล้วเราก็อยากให้ทั่วโลกเขาได้รู้
Q. ฟังอย่างนี้แล้วเสี่ยมีข้อกำหนดในสัญญามั้ยว่าใน 10 ปีจะต้องเล่นหนังให้เรากี่เรื่อง ไม่งั้นถ้าเขาไปเทรับหนังโฆษณาหรือเล่นหนังต่างประเทศอย่างเดียว
เสี่ยเจียง : ผมว่ามันก็คงไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก เพราะจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เชื่อว่าเขาก็ต้องเล่นหนังไทยต่อ
Q. แต่ในสัญญาได้ระบุมั้ยว่าในแต่ละปีจะต้องเล่นหนังให้เรากี่เรื่อง หรือ2ปีต่อเรื่อง
เสี่ยเจียง : ไม่ระบุหรอก ผมเชื่อตรงนี้ เพราะผมเป็นคนยุติธรรม อันไหนได้ประโยชน์กว่าและดีกว่า เอาไปทำเถอะ เราไม่ต้องเห็นแก่ได้ ถึงเราไม่ได้มีเขา แต่บริษัทก็ยังมีคนทำหนังไทยอีกเยอะ คนอยากจะทำแอ็คชั่นโอ้โห หนังแอ็คชั่นไม่ใช่ทำง่ายๆ
Q. อย่างนี้เสี่ยปั้นตัวแทนไว้มั้ย
เสี่ยเจียง : อย่าบอกว่าแทนจา เราบอกว่าเรามีนักแสดงใหม่ ขึ้นมาใหม่บ้าง มันก็ต้องมี แต่เราไม่รู้ว่าใครจะขึ้นมาเท่าเขาไม่เท่าเขา ถูกมั้ย คนเราอยู่ที่บุญวาสนา เชื่อผมซิ
Q. เห็นว่าจริงๆ แล้วบริษัทยังมีโปรเจ็คต์ที่จาเขายังทำค้างอยู่กับที่บริษัทประมาณหนึ่ง แต่ว่าหนังเรื่องTHE FASTจะถ่ายเดือนหน้า แล้วต้องออกฉายปีหน้า มันจะมีผลกระทบอะไรเกี่ยวกับบริษัทกับโปรเจ็คต์ที่เราวาง ที่เราให้เขาทำมั้ย
เสี่ยเจียง : ไม่หรอก เพราะโปรเจ็คต์ “จา-ดอล์ฟ” ก็เป็นโปรเจ็คต์ที่เราตั้งใจฉายปีหน้าอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าอย่างการที่เขาไปถ่ายหนังฝรั่งเรื่องนี้ อย่างมากก็ถ่ายไม่เกินเดือนสองเดือนเท่านั้น เชื่อผมเถอะ แล้วอีกอย่างนะ ผมคิดว่าผมให้เขาไปอย่างนี้ดีกว่า ให้เขาไปตัดสินใจเอง เพราะถ้าอยู่กับบริษัท สมมติว่าฝรั่งส่งบทมาให้ผมอ่าน ถ้าไม่ให้พระเอกของผมไปเป็นพระเอก ผมก็ไม่ยอมอยู่แล้ว แต่ถ้าตัวเขาอ่านแล้วตัวเขาพอใจ เราก็ไปว่าเขาไม่ได้
Q. เสี่ยวางแผนแก้ปัญหาสมองไหลอย่างไรบ้างมั้ยในอนาคต อย่างถ้าเกิดดังมาแล้วไหลหมด
เสี่ยเจียง : แล้วแต่คนนะ คนเราเชื่อผมเถอะ มันอยู่ที่ความดี แล้วแต่บุญวาสนาใคร คนเราไม่แน่ ใครจะคิดว่าองค์บากหนังเรื่องแรกของจาพนม คิดดูคุณปรัชญากับผมทะเลาะกัน 3 เดือน ใครจะทำหนังบู๊ลงทุนแบบนี้ แต่ใครจะรู้ เรื่องเดียวพลิกเปรี้ยงเลย แล้วก็มีคนซื้อไปถึงต่างประเทศเลย
Q. ถ้าอย่างนี้เสี่ยเจียงมองถึงการไปต่างประเทศครั้งนี้ของจาอย่างไร เพราะอย่างที่ผ่านมาก็มีหลายสตูดิโอทั้งโกลเด้นฮาร์เวสท์เคยจะจีบไปแล้วเหมือนทางเราถ้าไปบทไม่ดีก็อย่าดีกว่า ถ้าไปตอนนี้ช่วงนี้ถือว่าน่าจะไปได้ดีมั้ย
เสี่ยเจียง : ผมว่าเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเขาดู ผจก.ใหม่ที่เขาไว้ใจดูบทแล้วเป็นไง ผจก.ใหม่เขาอาจจะไม่ได้ดูบทเท่าผมก็ได้ ผจก.ใหม่เขาอาจจะดูแค่ว่าได้เงินมา แล้วให้ไปเล่น ก็เป็นเรื่องของเขา ผมก็คิดว่าผมปล่อยดีกว่านะ เกิดมีเรื่องแบบนี้แล้วอย่ามีเรื่องราวกันเลย ต่างคนต่างสบายๆ เราเป็นคนพูดเอง ผมไม่รู้นะ ก่อนจะมีข่าวเรื่องนี้ขึ้นมา ผมเพิ่งพูดเรื่องที่ว่าหนังต่างประเทศทางเราปล่อยเขา เพิ่งพูดกับเขาเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ ข่าวก็ออกมาเลย เราไม่รู้ว่าเขาเตรียมการอย่างไร เขามาขอเราก็ให้ ให้ถ่ายแต่หนังไทยอย่างเดียวในเมืองไทยก็พอละ
Q. ฟังอย่างนี้แล้วแสดงว่าเขามาขอแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการมาคุยเรื่องรายละเอียด
เสี่ยเจียง : ใช่ วันนั้นเขามาขอเรื่องโฆษณาเราก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็ให้เขาไปเถอะ เขาก็มาขอว่าในเรื่องของหนังต่างประเทศขอเขาดูแลเอง ผมก็ไม่ได้อยากได้เปอร์เซ็นต์จากเขาอยู่แล้ว
Q. เสี่ยพูดถึงวาสนาบ่อย อย่างนี้เสี่ยมองว่าจาพนมจะมีวาสนาในฮอลลีวู้ดอย่างไร มีแนวโมอย่างไรบ้าง
เสี่ยเจียง : ผมไม่รู้ซิ แล้วแต่เขานะ ว่าเขาจะทำได้แค่ไหน
Q. เสี่ยคิดว่าพอไปไหวมั้ย
เสี่ยเจียง : คุณลองดูเฉินหลงหรือเจ็ทลี ว่าทั้งคู่ไปอยู่ฮอลลีวู้ดกี่เรื่องแล้ว แล้วตอนนี้มีเหรอ เดี๋ยวนี้ก็ไม่มี เรื่องหนังผมว่าขึ้นอยู่กับนักแสดง
Q. ถ้าจาอยู่กับเสี่ยแล้วให้บริษัทดูแลเรื่องต่างประเทศให้เองมันจะเป็นไปตามแผนตามเขาคิดเองมั้ย หรือว่าเสี่ยต้องรอให้มันเข้มข้นกว่านี้มั้ย ถ้าเป็นเสี่ยๆ จะทำอย่างไร
เสี่ยเจียง : ผมว่าเราต้องไม่ยอมแน่ ถ้าพระเอกเราไปเป็นอย่างผู้ร้ายหรือเป็นพระรอง เราก็คงไม่เอา
Q. .แต่ว่าดาราจากฝั่งเอเชียจะไปเป็นพระเอกเลยมันก็ยากมากนะ
เสี่ยเจียง : เราก็ไม่แคร์ ถ้าเป็นผมผมก็ไม่แคร์ ผมรอได้ ถ้าไม่เอาผม ผมก็ไม่ไป
Q. อย่างนี้เสี่ยคิดว่าจาเขาใจร้อนไปมั้ย
เสี่ยเจียง : เราอย่าไปว่าเขาเลยบริษัทอยู่กับคุณจามา 10 ปี บริษัทสร้างหนังได้5เรื่องนั่นคือ ต้มยำกุ้ง 1, 2 และองค์บาก 1-3 ยังไม่ทำอะไรเลย สัญญาแรก 10 ปีนะ
Q. เสี่ยมองว่าน้อยไปมั้ย?
เสี่ยเจียง : การทำหนังบู๊ ไม่ใช่เรื่องง่าย มันยากมาก อย่างของเมืองนอก ฝรั่งเขากำหนดไว้แน่นอน 3 เดือนจบ คุณรู้มั้ยว่าต้มยำกุ้งถ่ายไปทั้งหมด 100 กว่าคิว แล้ว 100 กว่าคิวเฉพาะกล้อง 3D เช่ามาถ่ายคิดค่าเช่าคิวละแสน แค่ค่ากล้องอย่างเดียว 100 กว่าคิวเป็นเงิน 10 ล้าน เราเป็นหนังไทยเราต้องคิดความเป็นหนังไทยเรา เพราะเราไม่ใช้จีน เราไม่ใช่อเมริกา เพราะเดี๋ยวเรื่องนี้ไปฉายที่ประเทศจีน เขาให้โรงหนังฉายที 3000 โรง คุณลองคิดดูซิ โรงภาพยนตร์รุ่นใหม่สมัยนี้ไม่ได้ใช้ฟิล์มแล้ว เพราะฉายด้วยระบบดิจิตอล ถ้าฉายด้วยระบบฟิล์ม ลองนึกภาพว่าถ้าหนังเรื่องนี้ใช้ฟิล์ม 3,000 ก๊อปปี้จะต้องใช้เงินเฉพาะค่าฟิล์มอย่างเดียวเท่าไหร่ ก๊อปปี้ละ 30,000 บาท ก็ 9 ล้าน แต่พอเป็นดิจิตอลทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ทุกอย่างในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปเร็วเหลือเกิน เราไม่รู้ว่าเหตุการณ์ภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไรอีก ที่ผมบอกวันนี้ก็เพื่อให้นักข่าวสบายใจไม่ต้องโทรหาผมเรื่องคุณจาอีก (หัวเราะ)
Q. แล้วหนังเรื่องนี้เสี่ยจะดูรึเปล่า
เสี่ยเจียง : เอามาฉายเราก็ต้องดูอยู่แล้ว เพราะขนาด FAST 5 เราก็ดูเพราะว่าเขาทำออกมาดี ถูกมั้ย