สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล-บาแรมยูระเบิดทุนสร้างกว่า 500ล้านบาท จาพนม ยีรัมย์ *ปรัชญา ปิ่นแก้ว *พันนา ฤทธิไกร* กลับมาระเบิดความมันส์เสี่ยงตาย NON-STOP ครั้งแรกในแบบREAL ACTION-3D สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล/บาแรมยูระเบิดทุนสร้างกว่า500ล้านบาท
จาพนม ยีรัมย์ *ปรัชญา ปิ่นแก้ว *พันนา ฤทธิไกร*
กลับมาระเบิดความมันส์เสี่ยงตาย NON-STOP ครั้งแรกในแบบREAL ACTION-3D
ผนึกกำลังจีจ้าญาณิน*หม่ำ จ๊กม๊ก*หญิง รฐา โพธิ์งาม
เผชิญหน้า2คู่ปรับส่งตรงจากฮอลลีวู้ด
RZAแร็ปเปอร์ระดับโลก*MARRESE CRUMPไฟท์เตอร์เหี้ยมมหากาฬ
พร้อมระดมทีมงานแอ็คชั่นระดับแถวหน้าของเมืองไทย
23ต.ค.นี้มาร่วมสร้างปรากฎการณ์ภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยกระหึ่มโลกอีกครั้ง
เมื่อสาเหตุการฆาตกรรมเสี่ยสุชาติเจ้าของปางช้างผู้กว้างขวาง คือการถูกกระแทกเข้าอย่างจังในจุดตาย 3 แห่งโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้มัดตัว ไอ้ขาม (จาพนม ยีรัมย์) เนื่องจากเขาเป็นคนสุดท้ายที่ถูกพบอยู่ในที่เกิดเหตุกับผู้ตาย เขาจึงต้องหลบหนีจากการจับกุม และการตามล่าเพื่อทวงแค้นจากหลานสาวฝาแฝดของเสี่ยสุชาติ (จีจ้าญาณิน วิสมิตะนันทน์ และธีรดา กิตติศิริประเสริฐ ) แต่โชคยังเข้าข้างเมื่อระหว่างการหลบหนี ขามได้รับการช่วยเหลือจากจ่ามาร์ค(หม่ำ จ๊กม๊ก) ตำรวจสากลที่ถูกส่งมาจากซิดนีย์เพื่อจัดการภารกิจบางอย่าง
ขามหนีการตามล่า พร้อมกับการตามหา ขอน ช้างตัวเดียวที่เป็นเสมือนทั้งเพื่อนและพี่น้อง ที่ถูกขโมยไปเมื่อหลายวันก่อน ยิ่งหนี ขาม ก็ยิ่งต้องเข้าไปพัวพันกับองค์กรลึกลับที่ถูกควบคุมโดย แอล ซี (RZA)นายใหญ่ผู้คลั่งไคล้การสะสมนักสู้จากทั่วโลกอย่างลับๆ ทำให้เหล่านักสู้ที่ถูกตีตราด้วยตัวเลข ไม่ว่าจะเป็น ทเวนตี้ (Twenty – หญิง รฐา โพธิ์งาม) หรือ Number2 (มาริส) ล้วนแต่มีเป้าหมายอยู่ที่การจัดการ ไอ้ขาม เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่างของนายใหญ่
เตรียมพบกับการต่อสู้แบบสุดขีดขั้นของ จาพนม ด้วยศิลปะการต่อสู้นานาชนิด เสี่ยงตายทุกวินาที และการดีไซน์ฉากต่อสู้เสี่ยงตายทุ่มทุนสร้างสูงสุดของภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยที่ทั้งโลกต้องจับตา พร้อมการถ่ายทำในระบบ 3 มิติทุกขั้นตอนในภาพยนตร์ ต้มยำกุ้ง 2 – 3D พร้อมกัน 23 ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์
บทบาทและคาแรคเตอร์ตัวละคร “ต้มยำกุ้ง2-3D”
ขาม คนเลี้ยงช้างที่มีวิชามวยโบราณสุดร้ายกาจ คือนักสู้ผู้ต้องการใช้ชีวิตอย่างสันโดษ กับ ขอน ช้างคู่กายที่เป็นเหมือนพี่น้องที่ผูกพันกันมาตั้งแต่เด็ก หลังจากสูญเสียพ่อใหญ่จากเหตุการณ์ร้านต้มยำกุ้งที่ออสเตรเลีย ทำให้เขารู้สึกผิดและสัญญากับตัวเองว่าจะต้องดูแลไม่ให้ใครมาพรากชีวิตขอนไปได้อีก แต่แล้วเรื่องที่เขากลัวที่สุดกลับเกิดขึ้นอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ ต่างจากครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง เพราะสิ่งที่พวกมันต้องการไม่ได้มีเพียงแค่ช้าง สิ่งที่พวกมันต้องการแท้จริงแล้วคือความสามารถของเขานักสู้ที่สืบเชื้อสายโดยตรงจากบรรพบุรุษซึ่งเป็นทหารจตุลังคบาททหารกล้าผู้มีความสามารถในการใช้แม่ไม้มวยไทยโบราณที่เรียกว่า“มวยคชสาร”ในการต่อสู้เหนือกว่าผู้ใดนั่นเอง
จาพนม ยีรัมย์ คือสุดยอดแอ็คชั่นซูเปอร์สตาร์เบอร์1ของเมืองไทยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของโลกภาพยนตร์ที่มีเอกลักษณ์และลีลาเฉพาะตัวในการเล่นเรียลแอ็คชั่นแบบสมจริงผสมผสานกับศิลปะแม่ไม้มวยไทย รวมไปถึงพื้นฐานในความสามารถเฉพาะตัวในศิลปะการต่อสู้แขนงต่างๆและยิมนาสติก ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดกับผลงานการแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่าง “องค์บาก1-2-3” และ “ต้มยำกุ้ง” ส่งผลให้ชื่อเสียงของ “โทนี่ จา” ขึ้นทำเนียบสุดยอดนักแสดงแอ็คชั่นแห่งทศวรรษ
แอล ซี พ่อค้าอาวุธข้ามชาติ เป็นคนฉลาดมองคนออกทะลุปรุโปร่ง เจ้าเล่ห์แบบพ่อค้าที่ไว้ใจไม่ได้ จอมวางแผนและสิ่งใดที่ต้องการต้องได้มาแบบไม่เกี่ยงวิธีการ หลงใหลในศิลปะการต่อสู้แบบเข้ากระแสเลือด ชอบดูการต่อสู้ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะมวยโบราณ คลั่งขนาดที่ถ่ายเป็นวิดีโอเก็บไว้ดูแบบซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่มีเบื่อ แม้จะอยู่ท่ามกลางแผนการใหญ่ระดับโลกก็ยังสนุกกับการเห็นนักสู้เก่งๆมาอยู่ในคอลเล็คชั่นการต่อสู้ในวิดีโอของเขารวมทั้งขามด้วย
RZA ศิลปินผู้มีความสามารถอันหลากหลาย นอกเหนือจากบทบาทที่คนทั้งโลกรู้จักในฐานะไอคอนของดนตรีฮิปฮอป คือโปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ด,นักดนตรี,นักแต่งเพลง รวมไปถึงการเป็น1ในตัวจักรสำคัญในความสำเร็จของทุกอัลบั้มของ Wu-Tang Clan กลุ่มศิลปินแร็ปชาวอเมริกันที่โด่งดัง อีกบทบาทหนึ่งที่สร้างความโดดเด่นไม่แพ้กันนั่นคือการที่เข้าไปมีส่วนในงานแสดงของภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องทั้ง AMERICAN GANGSTER,COFFEE AND CIGARETTE ฯลฯ รวมทั้งรับหน้าที่ในงานดนตรีประกอบให้กับภาพยนตร์สุดฮิตอย่างkill bill ของเควนติน ทาแรนติโน่ และ ต้มยำกุ้ง หรือ THE PROTECTOR ในเวอร์ชั่นฮอลลีวู้ด และAMERICAN GANGSTER ของผกก.ริดลี่ย์ สก็อตต์ และด้วยความหลงใหลในศิลปะการต่อสู้ ภาพยนตร์ และดนตรี แฟนๆจะได้เห็นผลงานการแสดง,เขียนบท,กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาอย่างTHE MAN WITH THE IRON FITS ล่าสุดรับบทตัวร้ายใหญ่สุดคู่ปรับของจาพนมใน ต้มยำกุ้ง2-3D
จ่ามาร์ค นายตำรวจหนุ่มไทย ซื่อสัตย์ รักความยุติธรรม ผู้มีส่วนสำคัญในการเปิดโปงเหล่าอาชญากรข้ามชาติที่เกี่ยวพันกับการลักลอบค้าสัตว์อย่างผิดกฏหมาย รวมไปถึงเครือข่ายค้ามนุษย์และยาเสพติดที่เกิดขึ้นใน“ร้านต้มยำกุ้ง”ซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย ทั้งๆที่เป็นตำรวจในซิดนี่ย์แท้ๆ แต่ต้องเดินทางมาเมืองไทยพร้อมปฏิบัติการลับบางอย่าง หลังจากที่ค้นพบเบาะแสสำคัญที่คาดว่าจะโยงใยไปถึงเครือข่ายของเหล่าอาชญากรร้ายที่ตำรวจสากลกำลังต้องการตัว และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้จ่ามาร์คได้พบกับขามอีกครั้ง เดิมพันครั้งนี้ไม่เพียงพิสูจน์ฝีมือในการไขคดี แต่ยังเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้เลื่อนขั้นตัวเองหนีจากการดูถูกของเพื่อนร่วมงานและตำรวจรุ่นใหม่ ทำให้เขาทุ่มเทและบ้าระห่ำกับงานครั้งนี้เป็นพิเศษ เพียงแต่งานนี้ไม่ง่ายเพราะเบาะแสชี้เป้ามาที่ขามเพื่อนเก่าแสนซื่อของเขาเอง ทำให้ต้องใช้ทักษะความกะล่อนแหกคอกเพื่อสืบหาคนร้ายที่แท้จริงให้ได้
หม่ำ จ๊กม๊ก หรือ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ตลกศิลปิน นักแสดง พิธีกร นักร้อง ผู้กำกับ ฯลฯ มากความสามารถซึ่งเป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงอย่างสูงสุดมีแฟนๆทุกเพศทุกวัยทั่วประเทศ เริ่มต้นโด่งดังในฐานะตลกเมื่อประกบกับตลกขั้นเทพ เทพ โพธิ์งาม และโด่งดังแบบสุดขีดในฐานะหัวหน้าแก๊งสามช่า หม่ำ-เท่ง-โหน่งในรายการวาไรตี้โชว์ “ชิงร้อยชิงล้าน” ที่ยืนหยัดมากว่า2ทศวรรษ หลังจากความเสร็จในภาพยนตร์เรื่อง “มือปืน/โลก/พระ/จัน” ปีพ.ศ.2544 ส่งผลให้มีผลงานภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องในฐานะนักแสดงนำและรับเชิญมากถึง43เรื่องในระยะเวลา12ปี ก่อนที่จะหันมาเอาดีในฐานะผกก.อย่างเต็มตัวจากบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยมในปี2547 ปัจจุบันมีผลงานการกำกับภาพยนตร์และเป็นโปรดิวเซอร์ถึง11เรื่อง
ปิงปิง แฝดพี่จากเมืองจีน มาอยู่กับเสี่ยสุชาติเจ้าของปางช้าง ปิงปิงมีทักษะวิชาการฝังเข็มแบบจีนที่ด้านหนึ่งใช้รักษาโรคประจำตัวของซือซือแฝดน้องที่เป็นเหมือนดวงใจของเธอ แต่อีกด้านหนึ่งคืออาวุธแสนอันตรายที่สามารถเล่นงานผู้คนได้ตั้งแต่ทำให้เป็นอัมพาต สะกดจุด รีดความลับจนถึงแก่ความตายได้ด้วยเข็มเพียงเล่มเดียว นอกจากนี้เธอเองยังมีวิชาการต่อสู้แบบจีนที่ร้ายกาจอยู่ด้วย พูดได้ว่าเธอคือตัวอันตรายที่สุดที่ซ่อนทุกสิ่งไว้ใต้ความอ่อนโยนสวยงามแบบตุ๊กตาจีน
จีจ้า หรือ ญาณิน วิสมิตะนันทน์ แอ็คชั่นซูเปอร์สตาร์หญิงหน้าหวานเจ้าของฉายา “เล่นจริง เจ็บจริง” อดีตสาวน้อยขี้โรคที่ฝึกฝนเทควันโด้เพื่อร่างกายแข็งแรงแต่กลับคว้าเทควันโด้สายดำดั้งที่1ได้ตอนอายุ13ปี และสายดำดั้ง2และ3จนอายุ14ปีหันมาเป็นครูสอนเทควันโด้ และคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันเทควันโด้เยาวชนกรุงเทพฯ ตอนเรียนม.ปลาย หลังจากนั้นมีโอกาสเข้าไปแคสติ้งภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่อง “เกิดมาลุย” ที่กำกับโดยพันนา ฤทธิไกร โดยต้องทดสอบความสามารถพื้นฐานทางด้านแอ็คชั่นทั้งการเตะ การกระโดดในรูปแบบและท่าต่างๆ ก่อนที่จะได้รับโอกาสทำเวิร์คช็อพเดโมแอ็คชั่นการต่อสู้ให้กับทางปรัชญา ปิ่นแก้วและเสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ แห่งสหมงคลฟิล์มฯ จนสหมงคลฟิล์มฯไฟเขียวสร้างโปรเจ็คต์ภาพยนตร์แอ็คชั่นเรื่อง“ช็อคโกแลต”ให้จีจ้าญาณินรับทนำโดยเฉพาะโดยมีพันนา ฤทธิไกรและท็อปวีระพล ภูมาตย์ฝนบ่มเพาะทักษะและความสามารถทางการต่อสู้ให้กับจีจ้าตลอด4ปีเต็ม และเมื่อภาพยนตร์เข้าฉายชื่อของจีจ้า ญาณินพร้อมสโลแกนเล่นจริงเจ็บจริงก็เป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จไปทั่วทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ ตามด้วยภาพยนตร์เรื่องที่2ในแนวแอ็คชั่นโรแมนติคอย่างจีจ้าดื้อสวยดุ และแอ็คชั่นคอมมิดี้อย่างจั๊กกะแหล๋น No.2 เป็นทั้งชื่อและฉายาถูกจัดอันดับให้เป็นนักฆ่ามือดีที่สุดในอันดับที่2ที่ไม่เคยแพ้ใครโหดและเลือดเย็น รูปร่างสูงใหญ่ เป้าหมายคือพิชิตno.1ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ไอ้ขาม
MARRESE CRUMP จากเด็กน้อยวัย7ขวบที่ถูกพี่ชายนำไปฝากตัวกับครูสอนศิลปะการต่อสู้ชาวเกาหลี หลังจากนั้นก็รู้ว่าศิลปะการต่อสู้คือสิ่งเดียวในโลกที่เขาหลงใหลก่อนที่จะฝึกฝนและเรียนรู้ต่อมาในทุกศิลปะการต่อสู้ที่มีอยู่บนโลกใบนี้ทั้งคาราเต้,มวยไทย,กังฟู,กาโปเอย์รา (ศิลปะการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดจากบราซิล) ,เทควันโด้,นินจุสึ(วิชาการต่อสู้โบราณของญี่ปุ่น-วิชาการต่อสู้ของนินจา),ศิลปะการต่อสู้ของฟิลิปปินส์ฯลฯมีผลงานภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ในตำแหน่งACTION CO-ORDINATORในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องG.I. JOE ผลงานที่โดดเด่นคือเรื่อง WRONG SIDE OF TOWNโดยได้ร่วมแสดงกับ Rob Van Dam, Ja Rule และนักมวยปล้ำชื่อดังอย่าง Dave Bautista ล่าสุดรับบทผู้ร้ายที่เป็นคู่ปรับคนสำคัญของจาพนมในต้มยำกุ้ง2-3D
Twenty นักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่ที่อยู่ข้างกาย แอลซี เป็นทุกอย่างทั้งคนรักและนักฆ่า เธอถูกเรียกว่า 20 โดยการจัดอันดับความสามารถในการต่อสู้ของ แอล ซี ผู้ชุบชีวิตเธอขึ้นมาและหยิบยื่นความเป็นสุดยอดมือสังหารให้เพราะเชื่อมั่นว่าในเบื้องลึกของแววตาที่หนุ่มๆมิอาจมองข้าม เรือนร่างที่แสนเซ็กซี่ ล้วนแล้วแต่อัดแน่นไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความเป็นนักสู้ที่ฝั่งลึกอยู่ในตัวเธอและพร้อมที่จะแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธแห่งความคลั่งแค้นที่เตรียมถาโถมและเล่นงานทุกคนโดยไม่ลังเลโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชายทุกคนในโลกยกเว้นแอลซี
หญิง รฐา โพธิ์งาม ลูกสาวของน้อย โพธิ์งามตลกหญิงชื่อดังของเมืองไทย คือนักร้อง นักแสดงสาวมากความสามารถ ลูกไม้หล่นใต้ต้น เป็นที่รู้จัก โด่งดังและประสบความสำเร็จจากผลงานเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม ญา ญ่า ญิ๋ง และทำให้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงเมื่อ14ปีที่แล้ว หลังจากนั้นมีผลงานต่อเนื่องทั้งอัลบั้มเพลงและผลงานทางด้านการแสดงละครโทรทัศน์ ,ซี่รี่ส์และละครเวที จนกระทั่งในปีพ.ศ.2555 ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดเมื่อหม่อมน้อย มล.พันธุ์เทวนพ เทวกุลผกก.ชื่อดัง เลือกให้หญิงรฐามารับบทคุณบุญเลื่องในภาพยนตร์เรื่องจันดาราปฐมบทและจันดาราปัจฉิมบทจนสามารถคว้ารางวัลดาวรุ่งหญิงยอดเยี่ยมจากบทดังกล่าว และเป็นที่ฮือฮาอีกครั้งเมื่อได้รับเกียรติให้เดินพรมแดงในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ประเทศฝรั่งเศสในฐานะ1ในนักแสดงนำจากภาพยนตร์เรื่องONLY GOD FORGIVES ที่แสดงร่วมกับไรอัน กอสลิ่ง และมีผลงานดราม่าเข้มข้นอย่างนางฟ้าจากผลงานการกำกับของตั๊กบงกช ล่าสุดรับบทนักฆ่าสาวสุดเซ็กซี่หมายเลข20ในต้มยำกุ้ง2-3Dซึ่งเป็นการกลับมาร่วมงานกับปรัชญา ปิ่นแก้วที่ปั้นให้ญาญาญิ่งเป็นที่รู้จักอีกครั้งในรอบ14ปี
จาก “ต้มยำกุ้ง” สู่ “THE PROTECTOR” ถล่มBOX-OFFICE ฮอลลีวู้ดครองอันดับ1 ทั่วเอเชียและยุโรป คือความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ ของภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เป็นที่ยอมรับว่าความโดดเด่นอย่างถึงที่สุดในความเป็นภาพยนตร์ REAL ACTION MARTIAL ARTS ที่เน้นศิลปะการต่อสู้อย่างเต็มรูปแบบที่ทั้งสวยงาม หนักหน่วง รุนแรง ดุดัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่วงท่าของ “ทุ่ม-ทับ-จับ-หัก” จาก “มวยคชสาร” คือหัวใจสำคัญจากการผนึกกำลังการออกแบบควบคุมฉากการต่อสู้โดย “พันนา ฤทธิไกร” และถูกนำเสนอผ่านลีลาแอ็คชั่นซึ่งเป็นความสามารถเฉพาะตัวชนิดที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ของ“จาพนม ยีรัมย์” ภายใต้การกำกับภาพยนตร์แบบโชว์อานุภาพแบบถึงขีดสุดโดย “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” ทำให้“ต้มยำกุ้งภาคแรก” สามารถสร้างความตื่นตะลึงและสร้างความฮือฮาให้กับคอภาพยนตร์แอ็คชั่นไปทั่วโลกจนต้องมีการบันทึกในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ถึงสถิติความสำเร็จต่างๆที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศ และนานาประเทศทั่วโลกถึงกระแสต้มยำกุ้งฟีเวอร์อย่างที่ไม่เคยมีภาพยนตร์ไทยเรื่องใดสามารถทำได้มาก่อนในประวัติศาสตร์ตราบจนถึงปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการถล่มUS.BOX-OFFICEในอันดับ4 และขึ้นอันดับ 1 BOX-OFFICE ในหลายประเทศ ของเอเชีย อาทิ ฮ่องกง เกาหลี ฯลฯ และในอีกหลายประเทศทั้งทางทวีปอเมริกา, ยุโรป ทำรายได้จากทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใต้ชื่อภาษาอังกฤษ THE PROTECTOR ใน US. ฮอลลีวู้ด และ WARRIOR KING ใน UK.
“TYG2” ที่สุดแห่งภาพยนตร์ REAL ACTION ภาคต่อที่ไม่ใช่แค่คนไทยแต่ยังรวมไปถึงเหล่าบรรดาคอหนังแอ็คชั่นจากทั่วโลกที่เฝ้ารอคอย
จากกระแสความสำเร็จอันมหาศาลของ ต้มยำกุ้ง หรือ THE PROTECTOR กล่าวได้ว่าในรอบทศวรรษที่ผ่านมาไม่มีนักแสดงแอ็คชั่นฮีโร่คนใดในโลกที่ได้รับการยกย่อง กล่าวถึง อย่างที่เกิดขึ้นกับโทนี่ จา ขนาดเกิดเป็นกระแสแฟนคลับของโทนี่ จาฟีเวอร์ในแทบทุกประเทศจากทั่วโลก และเมื่อพูดถึงไอคอนหรือสิ่งทีเป็นสัญลักษณ์ของเมืองไทยแน่นอนว่านอกจากช้าง,ผัดไท ทุกคนล้วนต่างไม่ลืมชื่อของโทนี่ จา ต้องยอมรับว่าหลังจากความสำเร็จของ “องค์บาก” ภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลกเรื่องแรกที่ทำให้โลกรู้จักศิลปะการต่อสู้มวยไทย,ภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยและแอ็คชั่นฮีโร่จากเมืองไทย จนถึงวันนี้9ปีผ่านไปเมื่อลองพิมพ์ชื่อ ONGBAK ในGOOGLE SEARCH จะมีรายการค้นหาที่เกี่ยวข้องถึงเกือบ7ล้านรายการ แต่เมื่อพูดถึงความสำเร็จสูงสุดในประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์แอ็คชั่นจากประเทศไทยย่อมไม่พ้น “ต้มยำกุ้ง” และถ้าพูดถึงภาพยนตร์แอ็คชั่นภาคต่อที่พูดได้ว่าคนทั้งโลกรอคอยแน่นอนว่าต้องเป็น “ต้มยำกุ้ง2-3D” หลังจากใช้เวลานานถึง8ปีเต็ม(พ.ศ.2556) ถึงเวลาแล้ว “ต้มยำกุ้ง2-3D” จะปรากฎสู่สายตาผู้ชมภาพยนตร์ด้วยความยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีภาพยนตร์REAL ACTION MARTIAL ARTSของโลกเรื่องใดเคยทำได้มาก่อน
จาพนมผนึกกำลังจีจ้าญาณินพร้อมหม่ำ จ๊กม๊ก เปิดตัวแอ็คชั่นเซ็กซี่สตาร์หญิงคนใหม่ รฐา โพธิ์งาม กับครั้งแรกในการเผชิญหน้า2คู่ปรับสั่งตรงจากฮอลลีวู้ด RZA นักแสดง-แร็ปเปอร์ระดับโลก VS. MARRESE CRUMP ไฟท์เตอร์ระดับพระกาฬ พร้อมระดมเหล่าสุดยอดทีมแอ็คชั่นฮีโร่มือ1ของไทยและต่างชาติร่วมสร้างปรากฎการณ์ REAL ACTION MARTIAL ARTS ครั้งยิ่งใหญ่
“สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล” และ “บาแรมยู” พร้อมแล้วที่จะเปิดจินตนาการความมันส์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดกับภาพยนตร์ REAL ACTION MARTIAL ARTS ภาคต่อที่คนทั้งโลกรอคอย 8ปีเต็มพร้อมการกลับมาตอกย้ำขีดศักยภาพไร้ขีดจำกัดในความเป็นซูเปอร์สตาร์แอ็คชั่นฮีโร่ระดับโลกของ จา พนม ยีรัมย์ ผนึกกำลังแอ็คชั่นคูณสองคู่กันเป็นครั้งแรกบนแผ่นฟิล์มกับแอ็คชั่นฮีโร่หญิง จีจ้า ญาณิน ร่วมแท็คทีมทวีความเข้มข้นด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากซูเปอร์สตาร์ตลกอันดับ1ของเมืองไทย หม่ำ จ๊กม๊ก ตะลึงตากับ
การพลิกบทบาทครั้งสำคัญในชีวิตของหญิง รฐา โพธิ์งาม ผสมผสานเสน่ห์ความสวยอันตรายสุดร้ายกาจพร้อมความสามารถทางการต่อสู้กับการแสดงแอ็คชั่นเต็มตัวเป็นครั้งแรกบนแผ่นฟิล์ม ปะทะ2คู่ปรับคนสำคัญของจาพนมใน “ต้มยำกุ้ง2-3D”ที่ถูกส่งตรงมาจากฮอลลีวู้ด RZA โปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ดไอคอนดนตรีฮิปฮอประดับโลก,นักดนตรี,นักแต่งเพลง,มือเขียนบท,นักแสดง,ผู้กำกับภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ดผู้หลงใหลในศิลปะการต่อสู้รับบทผู้ร้ายคนสำคัญคู่ปรับของจา พนม และ MARRESE CRUMP นักแสดงจากฮอลลีวู้ดผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้หลากหลายชนิดที่ปรากฏอยู่บนโลกใบนี้รับบทนักฆ่าที่เก่งกาจที่สุดที่ส่งมาเพื่อจัดการจา พนมในต้มยำกุ้ง2โดยเฉพาะ พร้อมด้วยเหล่าไฟท์เตอร์นักสู้แอ็คชั่นมือ1ที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ในแขนงต่างๆทั้ง คาซู แพททริค แทงค์ แชมป์ศิลปะการต่อสู้Trickzจากฝรั่งเศส (จีจ้าดื้อสวยดุ,UNLEASHED,โคตรสู้โคตรโส,CHINESE ZODIAC) ,เดวิด อิสมาโลน (องค์บาก, ULTRA
VIOLET,THE MEDALLION) ,ทีมไฟท์ติ้งคลับจากBANGKOK KNOCKOUTโคตรสู้โคตรโส ซึ่งแต่ละคนล้วนต่างมีความสามารถเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป โดยถูกระดมมาร่วมปะทะความมันส์ในฐานะคู่ปรับกับจาพนม ยีรัมย์ และจีจ้า ญาณินโดยเฉพาะ
และเพื่อให้ “ต้มยำกุ้ง2 (TYG2-3D)” คือที่สุดแห่งการมาของอภิมหาความมันส์ของภาพยนตร์เรียลแอ็คชั่นเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดประจำปีพ.ศ.2556ที่คอหนังแอ็คชั่นจากทั่วโลกรอคอย เหล่าทีมงานและบุคลากรมือ1ผู้อยู่เบื้องหลังความอลังการของภาพยนตร์แอ็คชั่นทั่วฟ้าเมืองไทยถูกระดมมารวมตัวกันเพื่อการนี้ นำทีมโดยสุดยอดปรมาจารย์แอ็คชั่นคิวบู๊ พันนา ฤทธิไกร(องค์บาก,ต้มยำกุ้ง,เกิดมาลุย,โคตรสู้โคตรโส,ช็อคโกแลต ฯลฯ)รับหน้าที่ควบคุมฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ให้กับทุกๆฉากแอ็คชั่น ที่เกิดขึ้นในต้มยำกุ้ง2 พร้อมสร้าง
ความตื่นตะลึงและสร้างความเซอร์ไพรส์ช็อคความรู้สึกและเต็มไปด้วยความแปลกใหม่สุดท้าทายอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
พร้อมการแท็คทีมร่วมกันของ2ผู้กำกับแอ็คชั่นมือ1ของเมืองไทยอย่าง วีระพล ภูมาตย์ฝน (อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของจีจ้า ญาณิน รวมทั้งออกแบบและกำกับฉากแอ็คชั่นในช็อคโกแลต,จีจ้าดื้อสวยดุ และเป็นแอ็คชั่นสตันท์เพื่อนร่วมรุ่นของจา พนม) และสมใจ จันทร์มูลตรี(องค์บาก,บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม,7ประจัญบาน2,ส้มตำ,คนไฟบิน,จั๊กกะแหล๋น) มารับหน้าที่ในการออกแบบและกำกับฉากแอ็คชั่นการต่อสู้
ไม่เพียงเท่านั้นงานนี้ยังได้เหล่าทีมแอ็คชั่นสตันท์เสี่ยงตายมือดีที่สุดในทีมมวยไทยสตันท์ของพันนา ฤทธิไกรที่อยู่เบื้องหลังความมันส์ของฉากแอ็คชั่นต่างๆในภาพยนตร์แอ็คชั่นของไทยและฮอลลีวู้ด รวมทั้งเป็นผู้ถ่ายทอดและฝึกสอนความสามารถทางมวยไทยให้แองเจลิน่า โจลี่ได้โชว์ศักยภาพในความเป็นนางเอก
แอ็คชั่นมาแล้วใน SALT และ เซ้ง กวี ศิริคเณรัตน์ ผู้อยู่เบื้องหลังฉากแอ็คชั่นเสี่ยงตายในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอย่างRAMBO4,THE HANG OVER2) STUNT COORDINATOR ระดับฮอลลีวู้ดที่ทำให้แบรนด์ Thai Stuntmen สู่ระดับสากล มาร่วมเสริมทัพความยิ่งใหญ่ให้กับฉากแอ็คชั่นของต้มยำกุ้ง2 พูดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของปรัชญา ปิ่นแก้วเพื่อประกาศให้รู้ว่าทีมแอ็คชั่นไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่คือดรีมทีมของต้มยำกุ้งอย่างแท้จริง
“ทีมงานเบื้องหลังของเราถือได้ว่าเราได้มือดีอันดับ1ของประเทศไทยทั้งหมดมาร่วมกัน เริ่มตั้งแต่ พันนา,เซ้ง(กวี ศิริคเณรัตน์) มาจนถึงท็อปวีระพลนะครับ อย่างพันนาเราคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากเขาเป็นมือหนึ่งของเมืองไทยทำงานมาตั้งแต่องค์บาก เป็นผู้ให้กำเนิดจาพนม,จีจ้ามาจนถึงภาคนี้เราก็ระดมทีมงานทีมเดิมมาทำงานอีกครั้งหนึ่ง ส่วนท็อปเป็นมือหนึ่งของพันนา ผมได้ทำงานอย่างเต็มตัวกับท็อปในช็อกโกแลตซึ่งเราก็จะได้เห็นว่า ท็อปมีความสามารถเป็นที่ยอมรับว่าทำให้ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งคือจีจ้าที่มาเป็นนักสู้ที่โลดแล่นในภาพยนตร์ได้ชนิดที่ว่าครองใจคนดูไปแล้วทั่วโลก ส่วนเซ้งเป็นคนที่มีผลงานทั้งหนังไทยและหนังต่างประเทศ โดยเฉพาะหนังต่างประเทศ (อยู่เบื้องหลังฉากแอ็คชั่นเสี่ยงตายในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอย่างRAMBO4,THE HANG OVER2) มาร่วมเสริมทัพความยิ่งใหญ่ให้กับฉากแอ็คชั่นของต้มยำกุ้ง2-3D อย่างกรณีของเซ้งเขาจะถนัดการถ่ายทำประเภทเสี่ยงอันตรายทั้งในเรื่องของความเร็ว ความสูงต้องมีเครื่องมือสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นพิเศษฉากอันตรายเหล่านั้นต้องมีการออกแบบที่ถูกต้องเลือกใช้เครื่องมืออย่างเหมาะสมซึ่งในเรื่องนี้เซ้งทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีอย่างกรณีฉากที่จาพนมจะต้องกระโดดสะพานกาญจนาภิเษกซึ่งเป็นสะพานที่มีความสูงมากเราก็ออกแบบให้Saveที่สุดในการทำงาน นอกจากจะsaveที่สุดแล้วภาพจะต้องออกมาด้วยภาพที่หวือหวาที่สุดด้วยคือVisualออกมาต้องตรึงคนดูให้ได้ ซึ่งเซ้งก็ทำได้ดีมากๆและก็ปลอดภัยไม่มีใครบาดเจ็บ รวมทั้งเราจะต้องเห็นStuntทุกคนตกสะพานจริงๆตกไปพร้อมกับมอเตอร์ไซด์เป็นสิ่งที่ตกกันจริงๆไม่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วย และรวมไปถึงฉากรถดริฟท์เราก็ได้มือดริฟท์รถมือหนึ่งของไทยชื่อหนึ่งเขามีผลงานในการแข่งขันรถดริฟท์ที่เก่งที่สุดในประเทศไทยมีผลงานในหนังโฆษณาต่างประ เทศมาหลายเรื่องอยู่เหมือนกันซึ่งในเรื่องนี้เราต้องฝากชีวิตของจาพนมไว้บนหลังรถคือต้องมีการดริฟท์จริง ๆซึ่งจะผิดพลาดไม่ได้เลยเพราะเท่ากับอันตรายถึงชีวิตได้ ก็เป็นฉากที่ทีมงานทุกคนจะลุ้นมากที่สุดเพราะถือว่าเป็นฉากที่อันตรายที่สุดภาพที่ออกมาก็มีทั้งตื่นเต้นทั้งน่ากลัวสวยงาม รวมทั้งเหล่านักสู้นักแสดงแอ็คชั่นที่เคยร่วมงานกันมาหลายเรื่องอาทิ คาซู (พระเอกจีจ้าดื้อสวยดุ)รวมทั้งทีมStuntโคตรสู้โคตรโส เรามีการสู้กันท่ามกลางเปลวไฟที่เราdesignให้เกิดไฟขึ้น ทุกคนจะต้องมีไฟติดตามตัวสู้ไปไฟติดไปด้วย อันนั้นก็เป็นอันตรายอีกแบบ แต่ว่าทุกคนเป็นทีมที่ถือว่ามีความสามารถจริงๆ แล้วก็สามารถทำฉากอันตรายให้ทุกคนไม่มีใครเป็นอันตรายแม้แต่คนเดียว แต่ว่าภาพออกมาน่ากลัวมากฉากสู้กันกลางไฟคือทุกคนมีไฟติดที่ตามตัวตามเท้าด้วยเวลาเตะกันไฟก็ติดหน้าไปด้วยตัวจาพนมโดนด้วย ตัวนักต่อสู้ก็โดนกันด้วยคือโดนไฟกันจริงๆ เพราะฉะนั้นในหนังเรื่องนี้เราระดมเอามือหนึ่งทุกคนมาทำงานด้วยกันทุกคนทุ่มเทให้กับหนังเรื่องนี้ซึ่งเป็น3มิติของแอ็คชั่นไทยเรื่องแรก ก็เพื่อที่เราต้องการให้หนังออกมาเป็นที่ประทับใจคนดูมากที่สุด
THE FIRST 3D-REAL ACTION กับปรากฎการณ์ความมันส์ของ TYG2 NON-STOP หยุดทุกลมหายใจกับสารพัดแอ็คชั่นดีไซน์ พร้อมฉากเสี่ยงตายของ จาพนม ยีรัมย์
แต่สิ่งที่พูดได้ว่าคือการพลิกปรากฎการณ์ปฎิวัติรูปแบบของภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ถือได้ว่าเป็นสุดยอดความพิเศษซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ “ต้มยำกุ้ง2” ในครั้งนี้ซึ่งรับรองว่าไม่เพียงสร้างเอกลักษณ์ความโดดเด่นที่ถือได้ว่าแตกต่างและเป็นความแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน จนกล่าวได้ว่าการกลับมาครั้งนี้คือการเปิดประตูแห่งจินตนาการที่จะเกิดขึ้นในโลกภาพยนตร์แอ็คชั่น ณ พ.ศ.นี้ นั่นคือการนำเสนอภาพยนตร์เรื่องต้มยำกุ้ง2 ในรูปแบบของภาพยนตร์ 3D-REAL ACTION อย่างเต็มรูปแบบตลอดทั้งเรื่องเป็นครั้งแรกภายใต้โจทย์สำคัญที่ว่าทุกวินาทีแห่งความตื่นตาที่พร้อมปรากฎบนจอภาพยนตร์ล้วนผ่านการออก แบบมาเพื่อรองรับกับการผสมผสานระหว่างการดีไซน์ของทุกมุมกล้องในทุกมิติของภาพออกมาเพื่อรองรับกับทุกๆคิวของทุกๆฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ที่ผ่านออกแบบมาเพื่อหวังผลทางด้านภาพในความเป็นภาพยนตร์เรียลแอ็คชั่น3มิติที่สมบูรณ์แบบที่สุดตามความตั้งใจของเสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐบอสใหญ่แห่งค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลหลังจากที่สร้างมิติใหม่ให้คนทั้งโลกได้รู้จักแอ็คชั่นไทยอย่างองค์บากและต้มยำกุ้งมาแล้ว โดยงานนี้ปรัชญา ปิ่นแก้วเองที่เรียกได้ว่าเป็นผู้กำกับคนแรกของเมืองไทยที่เคยสร้างมิติใหม่ให้กับวงการเพลงด้วยการกำกับมิวสิควิดีโอสามมิติมาก่อนหน้านี้รวบรวมความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทั้งหมด ผสมผสานกับความเชี่ยวชาญในการกำกับภาพยนตร์เรียลแอ็คชั่นที่ตัวเองคุ้นเคยเป็นอย่างดีตั้งใจรวมไปถึงการร่วมงานกับจาพนมมาตลอด10ปี ตั้งใจให้ “ต้มยำกุ้ง2-3D” เป็นภาพยนตร์เรียลแอ็คชั่น3มิติที่สมบูรณ์ที่สุดให้สมกับที่คนทั้งโลกรอคอย
“การที่ตัดสินใจถ่ายทำเรื่องนี้เป็น3มิติ เป็นส่วนหนึ่งมาจากความชอบส่วนตัวด้วยที่ผมเป็นคนชอบดูหนัง3มิติอยู่แล้ว พอเรามีโอกาสทำแล้วด้วยความที่เป็นหนังแอ็คชั่นด้วย ผมว่ามันเหมาะสมเข้ากันกับภาพของ3มิติถ้าโดยส่วนตัวผมชอบดูหนัง3มิติที่ฉายในสวนสนุกนะ เพราะเป็นการสร้างงาน3มิติที่จงใจเล่นกับคนดู เล่นกับความรู้สึกอย่างเดียวเลย โดยที่เนื้อหานี่ไม่สำคัญเลย แต่ว่าพอเรามาทำอยู่ในภาพยนตร์ที่จำเป็นต้องมีการเล่าเรื่องด้วยมีเนื้อหาที่จะต้องสื่อสารกับคนดูด้วย เราจึงต้องมีการออกแบบโดยการใช้ฉาก3มิติที่จะเน้นที่จะเล่นกับคนดู หรือเล่นให้คนดูเกิดการตกใจคงต้องมีเป็นจังหวะๆบางครั้งเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นหมัดเท้าเข่าศอกต่างๆนาๆมันเอื้อต่อการที่เหมือนจะทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาจะถูกอันตรายจากการต่อสู้จากมือหมัดเท้าจากนักแสดงบนจอดอยู่แล้ว แต่ว่าเราต้องเลือกใช้ อย่างตอนผมถ่ายหนังที่เป็น2มิติปกติเวลาถึงฉากแอ็คชั่น เวลาจาพนมสู้เราไม่สามารถเอากล้องไปใกล้เขาได้เลย เพราะว่าการสู้เขาต้องไม่พะวงหรือระแวงกับการที่มีกล้องอยู่ใกล้ตัว เพราะฉะนั้นยิ่งกล้องอยู่ไกลเท่าไหร่ เขายิ่งแสดงได้ดีมากเท่านั้น แล้วพอเราทำเป็น3มิติ มันกลับกันการที่กล้องยิ่งใกล้ตัวเท่าไหร่ภาพ3มิติจะออกมาดีเท่านั้น เพราะฉะนั้นอันนี้มันจึงกลายเป็นอันตรายสำหรับนักแสดง และก็อันตรายต่อเครื่องไม้เครื่องมือด้วย เพราะฉะนั้นไอ้ตอนทำเป็นฉาก3มิติ เราจึงต้องเลือกใช้ให้ถูกจังหวะแล้วภาพที่ออกมาก็ทำให้ทุกคนทีมงานพอใจมาก คือเราจะได้เห็นคิวบู๊แบบจาพนมที่พอเราเอามาทำเป็น 3 มิติแล้ว มันกลายเป็นความแปลกใหม่ มันสวยงามมาก บางภาพระหว่างที่ถ่ายทำผมแทบจะรู้สึกเลยว่าภาพนี้มันน่าจะอยู่ในตัวอย่างหนังได้เลยคือเป็นจาพนมเข่าลอยมาและทิ่มมาข้างหน้าคนดูกันเลย พูดได้ว่าเป็นช็อตที่เรียกร้องความสนใจได้ดีมากๆ ก็เลยคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะสนุกซึ่งโดยส่วนตัวเราสนุกไปแล้วก็คิดว่าคนดูน่าจะสนุกตามไปด้วยไม่ยาก”
พร้อมกับงานโปรดักชั่นที่ทุ่มทุนมหาศาลมากกว่า500ล้านบาทให้ทุกๆฉากแอ็คชั่นในภาพยนตร์ยิ่งใหญ่อลังการเสี่ยงตายกว่าดุดันกว่าต้มยำกุ้งภาคแรกอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นการเนรมิตฉากไล่ล่า และ แอ็คชั่นการต่อสู้ระหว่างจาพนมกับมอเตอร์ไซค์แว๊นนับสิบคันบนดาดฟ้าหลังคาตึกที่เต็มไปด้วยความหวาด เสียวลุ้นระทึกอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนไม่ว่าจะเป็นคิวแอ็คชั่นที่สตันท์ต้องเสี่ยงกับหลังคาสังกะสีที่หวิดเฉือนคอในขณะที่มอเตอร์ไซค์ชนจาพนมจนได้รับบาดเจ็บในฉากดังกล่าว หรือคิวบู๊แอ็คชั่นการต่อสู้บนที่สูงที่มอเตอร์ไซค์จะต้องพุ่งชนจาพนมจนทะลุหลังคาลอย่ขึ้นไปกลางอากาศพร้อมกับเป็นคิวแอ็คชั่นที่จาพนมต้องฟันศอกใส่ผู้ร้ายจนตกจากที่สูงทั้งคนและมอเตอร์ไซค์หรือแม้แต่ฉากแอ็คชั่นดีไซน์ที่มอเตอร์ไซค์จะต้องพุ่งลอยข้ามจากดาดฟ้าตึกแห่งหนึ่งพุ่งไปชนตึกที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามรวมไปถึงการคิดค้นฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์แปลกใหม่ และท้าอันตรายอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นครั้งแรกกับการที่จาพนมจะต้องถูกเหวี่ยงตัวจากรถบรรทุกที่พุ่งชนสะพานกาญจนาภิเษกลอยข้ามออกไปจากตัวคอสะพาน
เหินดิ่งลงไปยังกลางแม่น้ำด้วยความสูงมากกว่าตึก20ชั้นโดยไม่ใช้ตัวแสดงแทน หรือการที่จะต้องเสี่ยงตายด้วยการเกาะบนหลังคารถยนต์ที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับดริฟท์หมุนตัว360องศาเพื่อสะบัดให้ จา พนม หลุดจากหลังคารถให้ได้ ซึ่งรวมเป็นฉากแอ็คชั่นNON-STOPที่มีความยาวถึง14.50นาทีเลยทีเดียว โดยใช้เวลาในการถ่ายทำนานถึง8เดือน งานนี้จาพนมพระเอกนักบู๊ที่ต้องมีส่วนร่วมสำคัญในการเสี่ยงชีวิตและ
ทุ่มสุดตัวในทุกๆฉากของต้มยำกุ้ง2-3D การันตีกับแฟนๆด้วยตัวเองเลยว่าถึงภาค2ของต้มยำกุ้งไม่ได้ไปถ่ายทำในต่างประเทศ แต่ยืนยันว่าการถ่ายทำทุกฉากในประเทศไทยล้วนอัดแน่นและถึงพร้อมไปด้วยภาพแอ็คชั่นสุดมันส์Non-Stopชนิดที่ว่าไม่ต้องให้หยุดหายใจกันเลยทีเดียว
“อย่างในต้มยำกุ้งภาคแรกที่เราได้ดูมีการไปถ่ายทำที่ซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย การถ่ายทำพูดได้ว่ามีความมันแบบสุดๆ พอมาในภาค2หลายคนมองว่าไม่ได้ถ่ายเมืองนอกอย่างนี้อลังการความมันส์จะลดลงรึเปล่าซึ่งผมต้องขอบอกว่าความมันส์นั้นไม่ได้ลดลงเลยมีแต่จะเพิ่มมากขึ้น เพราะพอเราตัดสินใจที่จะถ่ายทำในภาค2นี้ในเมืองไทย นั่นหมายความว่าแต่ละLOCATIONในเมืองไทยที่ถูกเลือกมาล้วนเอื้ออำนวยในการที่เราจะใส่ความเต็มที่ในการทำคิวแอ็คชั่นได้ถึงขีดสุดประกอบกับความหลากหลายของคิวแอ็คชั่นที่ดีที่สุดที่ถูกดีไซน์คิดค้นขึ้นมาสำหรับในภาค2 เพราะในภาคแรกเราถูกจำกัดในเรื่องของโลเกชั่นสถานที่ในการถ่ายทำทั้งซึ่งก็ไม่เอื้ออำนวยให้เราได้ถ่ายทำอย่างเต็มที่อย่างที่เราต้องการที่สุดรวมทั้งเขาเองมีกฎหมายข้อบังคับหลายๆอย่าง เขตหรือจุดของการถ่ายทำตามท้องถนนสถานที่สาธารณะ เราจะไปกระโดดตีลังกาทำข้าวของพังไม่ได้แต่ในต้มยำกุ้งภาค2 เมื่อเราถ่ายทำในประเทศไทยเราสามารถใส่ดีกรีความมันส์เพิ่มเข้าไป และทีมงานของพี่ปรัชญาเอง อาจารย์พันนาผู้สร้างสรรค์ผลงานDesignของฉากแอ็คชั่น ก็สามารถจินตนาการออกมาได้หมด แล้วยิ่งเราถ่ายทำกันในรูปแบบของภาพยนตร์3มิติ ทำให้เราสามารถเติมจินตนาการในความมันส์ได้ในทุกรูปแบบให้คนดูได้สัมผัสถึงความเป็น3มิติมากขึ้น
ประวัติ จาพนม ยีรัมย์
ซูเปอร์สตาร์แอ็คชั่นฮีโร่ชาวไทยที่หลงใหลในศิลปะการต่อสู้และเพื่อเดินตามความฝันที่จะเป็นแอ็คชั่นสตาร์เหมือนดั่งเฉินหลงฮีโร่ในดวงใจตั้งแต่อายุได้11ปี ตัดสินใจฝึกฝนท่วงท่าการต่อสู้แบบครูพักลักจำก่อนที่จะพบจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตเมื่อได้ดูหนัง “เกิดมาลุย” ผลงานมาสเตอร์พีซของพันนา ฤทธิไกร จนขอฝากตัวเป็นศิษย์เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตในกองถ่ายทำภาพยนตร์ตั้งแต่เป็นเด็กประจำกองถ่าย,เสิร์ฟน้ำ,ทำอาหาร,ยกอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำ อาทิ รีเฟล็กซ์ ,รางดอลลี่ ฯลฯไปพร้อมกับการเรียนรู้และฝึกฝนในสิ่งที่รักจากปรมาจารย์คิวบู๊ พร้อมบ่มเพาะความสามารถในศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบทั้ง เทควันโด้ มวยไทย กระบี่ กระบอง ยิมนาสติก และกีฬาทุกประเภทเมื่อตัดสินใจศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยพละศึกษาจังหวัดมหาสารคามตามคำแนะนำของพันนา จนได้มีโอกาสแสดงฝีมือในการเป็นสตันท์แมน และนักแสดงร่วมในภาพยนตร์หลายเรื่อง หลังจากนั้นได้ร่วมกับพันนา ฤทธิไกรทำโปรเจ็คต์เกี่ยวกับมวยไทยโดยรวบรวมเงินรายได้ทั้งหมดที่มีถ่ายทำด้วยฟิล์มภาพยนตร์ขึ้นมาเพื่อนำเสนอ “ปรัชญา ปิ่นแก้ว” โดยได้รับแรงสนับสนุนอย่างเต็มที่ของ “เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ” ประธานบริษัทสหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล จึงเป็นจุดเริ่มต้นและที่มาของ“องค์บาก”ภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยมาตรฐานโลกที่กลายเป็นตำนานในเวลาต่อมา ทำให้ชื่อของโทนี่ จา แจ้งเกิดและเป็นที่รู้จักในระดับโลก ปีพ.ศ. 2548 ไม่มีสิ่งใดจะฉุดรั้งความสำเร็จและภาพลักษณ์พระเอกแอ็คชั่นฮีโร่ขวัญใจคนทั้งโลกได้อีกต่อไปเมื่อ “ต้มยำกุ้ง” ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ให้เป็นภาพยนตร์ไทยที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในโลก และเป็นหนังไทยเรื่องเดียวที่ติดอันดับ4BOX-OFFICEของฮอลลีวู้ดอย่างที่ไม่เคยมีหนังไทยเรื่องใดทำได้มาก่อน
ปี 2551 รับรางวัลBEST ACTION ACTOR ท่ามกลางเหล่านักแสดงแอ็คชั่นระดับแถวหน้าของโลก อาทิ เฉินหลง,หยวนเปียว,ดอนนี่ เยน,เจ็ท ลี ฯลฯในงาน Martial Arts Global Celebrationประเทศจีน
ปี2551 และ2552 มีผลงานการแสดงและกำกับภาพยนตร์เรื่อง“องค์บากภาค2 และ3” ปี2556 มีโปรเจ็คต์ “จาVS.ดอล์ฟ” ภาพยนตร์แอ็คชั่นคอมมิดี้ที่แสดงและกำกับภาพยนตร์ซึ่งอยู่ในระหว่างการถ่ายทำ และที่กำลังจะเข้าฉาย “ต้มยำกุ้ง2-3D”
ประวัติพันนา ฤทธิไกร
ผู้ควบคุมฉากแอ็คชั่น “ต้มยำกุ้ง2-3D”
นักแสดง,ผู้กำกับภาพยนตร์,โปรดิวเซอร์,ผู้ออกแบบฉากแอ็คชั่นการต่อสู้ในระดับตำนานที่ได้รับการยกย่องให้เป็นปรมาจารย์ทางด้านแอ็คชั่นคิวบู๊ระดับแถวหน้าของเมืองไทยคร่ำหวอดอยู่ในวงการการภาพยนตร์มากว่า32ปี นอกจากไอคอนภาพลักษณ์ในความเป็น“นักแสดงเสี่ยงตายบ้าระห่ำ” และการคิดค้นออกแบบและกำกับคิวบู๊ด้วยตัวเองในสไตล์ “กล้าเสี่ยง ยอมตาย ทุ่มสุดตัว ”ที่ติดตัวซึ่งส่งผลให้ได้รับการยอมรับว่าคือต้นตำรับเรียลแอ็คชั่นจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักแสดง,ผู้กำกับ,คนทำหนังแทบทั้งวงการ รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานรวมกันมาอย่างยาวนานตลอด10ปีกับผู้กำกับภาพยนตร์อย่างปรัชญา ปิ่นแก้วและเป็นผู้ก่อตั้งทีมสตันท์แมนจนสร้างชื่อเสียงแจ้งเกิดในภาพยนตร์หลายร้อยหลายพันเรื่องทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ มีลูกศิษย์ลูกหาอย่างมากมาย รวมทั้งปลุกปั้นนักแสดงแอ็คชั่นทั้งราชา ราชินีนักบู๊แอ็คชั่นฮีโร่มากมาย อาทิ มล.สุรีย์วัล สุริยง ,โทนี่ จา พนมยีรัมย์,เดี่ยวชูพงษ์,จีจ้า ญาณิน ,นุ้ยเกศริน,ไฟท์ติ้งคลับฯลฯ และเป็นที่มาของสโลแกนอย่าง “ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทน” , “เล่นจริงเจ็บจริง” , “พระเอกแอ็คชั่นสตันท์เสี่ยงตาย” คือขุมกำลังสำคัญที่มีส่วนในการสร้างมาตรฐานภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยระดับโลกประสบความสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับ และสร้างชื่อเสียงโด่งดังไปในทุกประเทศทั่วโลกได้ตื่นตะลึง ทึ่งกับอานุภาพอันรุนแรงหนักหน่วงของแม่ไม้มวยไทย ลีลาและรูปแบบการดีไซน์ของคิวแอ็คชั่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยอย่าง องค์บาก,เกิดมาลุย,ต้มยำกุ้ง,ช็อคโกแลต,โคตรสู้โคตรโส ฯลฯ เกิดเป็นเทรนด์ของสไตล์แอ็คชั่นดีไซน์ที่มีอิทธิพลไปสู่ภาพยนตร์แอ็คชั่นต่างๆอีกหลายเรื่องทั่วโลกรวมทั้งภาพยนตร์แอ็คชั่นจากฮอลลีวู้ด
ประวัติ ปรัชญา ปิ่นแก้ว
ผู้กำกับภาพยนตร์ “ต้มยำกุ้ง2-3D”
ปรัชญา ปิ่นแก้ว นักเล่าเรื่อง,ครีเอทีฟ,อาร์ทไดเรคเตอร์,ผู้กำกับมิวสิควิดีโอมือรางวัล(เจ้าของรางวัลผู้กำกับมิวสิควิดีโอยอดเยี่ยมโทรทัศน์ทองคำ4ครั้งจากเพลงเก็บตะวัน-โดยอิทธิ พลางกูร,ลูกผู้ชาย-ฉัตรชัย เปล่งพานิช,กระจกร้าว-ไฮร็อค,ไวกว่าแสง-หรั่งร็อคเคสตร้า และเป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอสามมิติคนแรกของเมืองไทยผู้กำกับภาพยนตร์ไทย,โปรดิวเซอร์ระดับแนวหน้าของเมืองไทย ตลอดระยะเวลากว่า25ปีที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงไทยได้รับการยกย่องให้เป็นนักปั้นมือทอง เป็นผู้แจ้งเกิดให้กับเหล่านักแสดง,ศิลปิน,นักร้อง,ซูเปอร์สตาร์ระดับแถวหน้ารวมไปถึงเหล่าบุคคลากรระดับคุณภาพที่อยู่เบื้องหลังในทุกสาขาอาชีพของวงการบันเทิงไทยไม่ว่าจะเป็นวงการโทรทัศน์,เพลง,วิทยุ,แฟชั่น,ไอที,แอนิเมชั่น,โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ไม่เพียงเปิดโอกาสและสร้างผู้กำกับหน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในวงการภาพยนตร์อย่าง บัณฑิต ทองดี(มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟ.เอ็ม,พุ่มพวง),คงเดช จาตุรันต์รัศมี(สยิว,เฉิ่ม)หม่ำ จ๊กม๊ก(บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยาม,แหยมยโสธร),มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล(คนผีปีศาจ,รักแห่งสยาม) แต่ยังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่สามารถเปิดตลาดภาพยนตร์แอ็คชั่นไทยในตลาดภาพยนตร์ของโลกได้เป็นผลสำ เร็จจากสุดยอดงานกำกับภาพยนตร์แอ็คชั่นแห่งทศวรรษอย่างองค์บาก,ต้มยำกุ้ง,ช็อคโกแลต และทำให้โลกรู้จักซูเปอร์สตาร์แอ็คชั่นของเมืองไทยอย่างจาพนม ยีรัมย์,จีจ้าญาณิน,เดี่ยวชูพงษ์ ฯลฯ มีผลงานการกำกับภาพยนตร์ รองต๊ะแล่บแป๊บ,เกิดอีกทีต้องมีเธอ,องค์บาก,ต้มยำกุ้ง1,ช็อคโกแลต,ฝันหวานอายจูบ,THE KICK วอนโดนเตะ, และล่าสุดกำลังจะมีต้มยำกุ้ง2-3D