ระดมฉากแอ็คชั่นมันส์ต่อเนื่องในรูปแบบ non-stop ไม่ให้หยุดหายใจ ให้สมกับเป็นหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ที่ทุกคนรอคอย เพราะงานนี้ สหมงคลฟิล์มฯ ระเบิดทุนสร้างกว่า 500 ล้านบาท กับ “ต้มยำกุ้ง 2-3D” ที่จะขาดหายไปไม่ได้โดยเด็ดขาดก็คือการโชว์แอ็คชั่นที่เน้นศิลปะการต่อสู้แบบสมจริง (Real Action Martial Arts) อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญ พันนา ฤทธิไกร สร้างสรรค์มากว่า 3 ทศวรรษ ก่อนที่จะกลายเป็นเทรนด์ฮิตไปทั่วโลก โดยพระเอกนักบู๊อย่าง “จา พนม” เพียงแต่ครั้งนี้พิเศษยิ่งกว่า เมื่อมีแอ็คชั่นหญิง เล่นจริงเจ็บจริงอย่าง จีจ้า ญาณิน มาเพิ่มระดับดีกรีความมันส์พร้อมด้วยการอิมพอร์ทไฟท์เตอร์ระดับพระกาฬจากฮอลลีวูดมาเป็นคู่ปรับคนสำคัญ
โดยซีนไฮไลท์สำคัญที่คอหนังบู๊จะต้องห้ามกระพริบตา นั่นคือการปะทะกันของ จีจ้า ฝาแฝด และจาพนม ที่ระดมหมัด เท้า เข่า ศอก จัดเต็มไม่มียั้งอัดใส่ MARRESE (มารีส) ไฟท์เตอร์ระดับพระกาฬ คู่ปรับจากฮอลลีวู้ด ซึ่งเป็นคิวบู๊พิเศษที่จัดหนักจัดเต็มโดย พันนา ฤทธิไกร และท็อป วีระพล ภูมาตย์ฝน ผู้ออกแบบฉากแอ็คชั่น จากไอเดีย และการกำกับแบบเหนือจินตนาการในรูปแบบ3มิติโดย ปรัชญา ปิ่นแก้ว กับการระดมประเคนหมัดใส่กันแบบไม่มียั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเสียงกำปั้นปะทะกล้ามเนื้อกันอย่างจังๆ เลยทีเดียว
“ครับผมเชื่อว่าคนอยากเห็นจีจ้า สู้กับจา พนม และก็รวมทั้งนักต่อสู้เก่งๆ หลายๆ คนซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมดเลยที่จีจ้าจะต้องรับมือ ในเรื่องนี้จีจ้าจะเป็นตัวละครที่มีการสะสมความแค้นมาซึ่งจะต้องมีการแสดงออกมาในแววตา และสถานการณ์ในฉากที่จีจ้าต้องสู้กับจา เป็นสิ่งที่จ้าจะต้องใส่เต็มที่ซึ่งดูจากการแสดงจีจ้าก็เต็มที่ แล้วทั้งคู่เองต่างมีความคุ้นเคยกันมาก่อนในชีวิตจริง เคยซ้อมกันมาก่อนแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาเข้าฉากนี้จ้าก็ไม่ยั้งใส่เต็มที่เลยซึ่งจาก็โอเค และในขณะเดียวกันจีจ้ายังต้องต่อสู้กับนักสู้ที่เป็นชาวต่างชาติอย่างมาริสในฉากนี้ด้วย สำหรับมาริสเป็นคนที่เร็วมาก น่ากลัวมาก อันตรายมาก ส่วนตัวจีจ้าจะต้องมีการต่อสู้ในลักษณะทีมเวิร์คของคู่แฝด ฉะนั้นการออกแบบฉากจะต้องออกแบบเป็นการต่อสู้ที่มีลักษณะพิเศษการทำ2คนให้เหมือนเป็นคนเดียวในการต่อสู้ซึ่งบางครั้งก็มีอาวุธมาช่วยด้วยซึ่งอาวุธของจีจ้ากับน้องจะต้องแตกต่างกัน แต่สิ่งที่หนักหน่วงที่สุด คือฉากการต่อสู้ในลักษณะ 3 เส้าในอู่ต่อเรือที่จะมีทั้งจาพนม,จีจ้าพร้อมแฝด และมาริสที่พันนากับท็อปออกแบบมา ซึ่งในฉากนี้บางครั้งเราก็ไม่สามารถไปบล็อกอะไรเขาได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเป็นฉากที่ต้องใช้การต่อสู้ที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัวด้วย แต่อย่างกรณีมาริสกับจีจ้าฉากที่เขาเข้าฉากกันมันก็หยุดไม่ได้ มารีสเป็นคนที่เร็วแล้วก็ต่อยแบบไม่ค่อยยั้ง แล้วจีจ้าก็ยังไงเขาก็เป็นผู้หญิง เฉพาะฉากนั้นที่เขาโดนมาริสอัดจะเห็นว่าอัดจริงๆ โดนๆแบบกระแทกกันจริงๆดูแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ทั้งๆ ที่ผมก็อยู่กับฉากแบบนี้มาเยอะ แต่ว่าอาจเป็นเพราะว่าความน่ากลัวของมาริส เขาเร็วมากดุดันตัวใหญ่มาก พอสู้กับจีจ้า เราก็เลยจะต้องให้จีจ้ามีอาวุธเป็นตัวช่วย และก็ตั้งจัดเต็มระดมอัดแบบไม่มียั้งเพื่อจะพยายามคว่ำผู้ชายทั้ง2คนนี้ให้ได้”
ทุ่มสุดตัวขนาดนี้หนุ่มๆก็อย่าลืมไปเอาใจช่วยเชียร์และให้กำลังใจ จา พนม, จีจ้าและมาริส 3 นักแสดงแอ็คชั่นที่มาร่วมสร้างปรากฎการณ์ความมันส์ของ “ต้มยำกุ้ง 2-3D” ถ่ายทอดความเป็นเรียลแอ็คชั่นในรูปแบบ 3 มิติอย่างเต็มรูปแบบ 23 ตุลาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์