“โด่ง KPN” ชีวิตที่มาไกลเกินฝัน ย่างก้าวแรกบนเส้นทางสายบันเทิง

คอลัมน์ คุยกับดาว
เรื่อง / ภาพ – อนันต์ ธัญญ์รัตน์

กลายเป็นขวัญใจเหล่าบรรดาสาวเล็กสาวใหญ่ไปแล้ว เมื่อ ด่ง-ปิยณัฐ แดงพูนผล คว้าตำแหน่งรองนักร้องยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย อันดับ 2 จากเวทีประกวดร้องเพลงถ้วยพระราชทานชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย (เคพีเอ็น อวอร์ด ครั้งที่ 23) ถึงแม้เจ้าตัวจะพลาดตำแหน่งแชมป์ แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าชนะใจผู้ชมอย่างล้นหลาม

คุยกับดาวครั้งนี้ สนองตอบแฟนๆ ด้วยการคว้าหนุ่มหน้าหล่อคนนี้มาพูดคุยอัพเดทเรื่องงานและเรื่องความรักว่าหัวใจสี่ห้องของหนุ่มสุดหล่อคนนี้มีใครจับจองบ้างแล้วหรือยัง ว่าแล้วก็มาเปลือยกาย เอ๊ย…เปลือยใจหนุ่มโด่งกันเลยจร้าาา

เริ่มเข้าวงการยังไง?
โด่ง: เริ่มจากเข้ามาประกวด KPN ครับ ซึ่งรายการ KPN ก็เหมือนเป็นเส้นทางเข้าสู่วงการแล้วครับ

คิดยังไงกับวงการ?
โด่ง: ผมว่าวงการบันเทิงเป็นอะไรที่ท้าทายนะ เป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เราไม่เคยทำ เราอาจจะเคยเห็นนักแสดงหรือศิลปินคนอื่นอยู่ในทีวีเขาโชว์ความสามารถ ซึ่งเราก็แอบคิดลึกๆ ว่าเราก็อยากจะทำแบบนั้นบ้างเหมือนกัน

วางตัวเองบนเส้นทางบันเทิงยังไงบ้าง?
โด่ง: เป็นตัวของตัวเองครับ เพราะถ้าจะมีคนมารักเราชอบเราก็คงรักที่เราเป็นตัวเรานี่แหล่ะครับ

รับมือกับความไม่เป็นส่วนตัวยังไง?
โด่ง: ของผมก็ไม่ได้หนักครับ แต่ก็มีบ้าง เพราะถ้าเรามีระบบการจัดการที่ดีก็จะสามารถจัดการทุกอย่างได้ อีกอย่างแฟนคลับของผมก็เป็นแฟนคลับที่น่ารักครับ ไม่ได้ลุกล้ำเกินเลยความเป็นส่วนตัวของเรามาก ซึ่งก็ทำให้เราค่อยๆ ปรับไป ซึ่งพอลองปรับแล้วก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้รู้สึกว่าไม่มีความเป็นส่วนตัวขนาดนั้นครับ เรามีงานที่ต้องทำ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แค่นั้นเองครับ

มาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน KPN ได้ยังไง?
โด่ง: เป็นเหมือนการตกกระไดพลอยโจน คือเพื่อนผมเขามาสมัคร KPN ซึ่งเราก็ตามมาด้วย มาเป็นเพื่อนเขา เราก็คิดว่าไหนๆ ก็มาแล้วทั้งทีก็ลองดูสักหน่อยล่ะกัน ก็เข้ารอบมาแบบงงๆ เหมือนกัน

เล่าถึงการใช้ชีวิตในบ้านให้ฟังหน่อย ว่าช่วงเก็บตัวประทับใจอะไรบ้าง?
โด่ง: ประทับใจทั้งหมดครับ มันมีความเป็นกันเอง ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน รู้ความคิดของอีกฝ่าย จะคอยสอนกันว่าอะไรดีอะไรไม่ดี (มีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างไหม?) ก็มีบ้าง เป็นเรื่องปกติของคนไม่รู้จักกันแล้วมาอยู่ด้วยกัน ก็เหมือนลิ้นกับฟัน แต่สุดท้ายทุกคนก็เข้าใจกันและก็รักกันเหมือนเดิมครับ ส่วนคุณครูก็จะคอยสอนเรื่องร้องเพลง พี่ๆก็คอยช่วยดูแลเรา ซึ่งมันก็โอเค เป็นเหมือนอีกสังคมหนึ่งเลย

ตื่นเต้นไหมกับคอนเสิร์ตครั้งแรกในชีวิต?
โด่ง: ต้องบอกว่าตื่นเต้นมากครับ เพราะว่าเป็นคอนเสิร์ตแรกของเรา เราไม่เคยขึ้นที่ไหนมาก่อน และเป็นเวทีที่ใหญ่มากด้วย มีแต่ศิลปินดังๆ เท่านั้นที่จะได้ขึ้นแบบเวทีแบบนี้ ซึ่งพอมาขึ้นจริงๆ แล้วตื่นเต้นมาก พอมีเสียงแฟนคลับหรือเสียงคนดูก็ทำให้ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปอีก แต่เสียงคนดูก็มีข้อดีคือเขาคอยเชียร์เรา ก็เหมือนเป็นกำลังใจให้เราด้วยครับ

โชว์วีคไหนที่คิดว่าหนักใจสุด?
โด่ง: ก็ไม่ถึงกับหนักใจนะครับ สำหรับผมการด่านั้นถือว่าเป็นเรื่องดี มันทำให้เรารู้ว่าเรามีข้อเสียตรงไหน และก็ทำให้เราเอาข้อเสียตรงนั้นมาปรับปรุง และก็พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นครับ

จนถึงตอนนี้รู้สึกเสียใจบ้างไหมที่ไม่ได้ตำแหน่งชนะเลิศ?
โด่ง: ไม่เลยครับ ผมว่าตำแหน่งมันเลือกคนครับ แล้วก็เลือกสำหรับคนที่เหมาะสมจริงๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว น้ำหวาน หรือ ใครก็ตามที่ได้ไปก็โอเคหมดเลยครับ เพราะทุกคนเป็นเพื่อนกันยังรักกันเหมือนเดิมครับ

ร่วมงานกับเพื่อนและรุ่นพี่เป็นยังไงบ้าง?
โด่ง: รู้สึกดีใจครับ ถ้าเป็นเพื่อนก็รู้จักกันอยู่แล้วจะรู้สึกเฉยๆ ไม่มีอะไรมาก แต่ถ้าเป็นรุ่นพี่ตอนแรกก็จะเกร็งๆ อยู่ครับ แต่รุ่นพี่ทุกคนก็ใจดีมาก นิสัยดีมาก เป็นกันเอง ทำให้เราปรับตัวเข้าได้ง่าย ถ้าพี่เขามีอะไรก็คอยจะแนะนำเรา

ประทับใจรุ่นพี่คนไหนเป็นพิเศษ?
โด่ง: ก็มี 3 คนครับ พี่กู๊ด เป็นคนที่มีความสามารถมาก ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงหรือการพูด ซึ่งพี่เขาพูดเก่งมาก ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนทุกคนก็จะสนใจเขาหมด ผมก็คอยพยายามเรียนรู้จากเขา ส่วนพี่ไต้ฝุ่น ก็จะเป็นเรื่องการวางตัว เพราะว่าพี่ไต้ฝุ่นจะเป็นคนที่วางตัวเก่งมาก และก็เป็นคนที่นิสัยดีมากๆ ส่วนพี่บี้ ก็จะเป็นเรื่องการแสดง เพราะโชว์ของเขาสุดยอดมากจริงๆ

โดนหนักเลยว่าเสียงไม่ดี แล้วอย่างนี้จะเปลี่ยนบทบาทมาเป็นนักแสดงบ้างไหม?
โด่ง: เรื่องเสียงไม่ดีผมรู้ครับ แต่ก็คงต้องปรับ เพราะไม่มีใครเสียงดีมาตั้งแต่เกิด ก็ต้องเรียนรู้ ซึ่งตอนนี้ผมก็กำลังเรียนอยู่ครับ เรียนร้อง เรียนเต้น แต่เรื่องการแสดงก็มีสนใจบ้างครับ ตอนนี้ก็เรียนแอคติ้งอยู่ เพื่อที่จะพัฒนาไปต่อยอดในงานแสดงครับ (มุ่งจะเป็นนักร้องมืออาชีพหรือเปล่า?) เรามาประกวดเวที KPN ซึ่งเป็นเวทีประกวดร้องเพลง ก็ต้องคิดจะเป็นนักร้องอยู่แล้วครับ ส่วนเรื่องของงานอื่นๆ ในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง พิธีกร หรืออะไรก็ตาม ถ้ามีโอกาสก็เป็นอีกความท้าทายหนึ่งที่ควรจะทำครับ

พูดถึงเรื่องความรัก ตอนนี้มีคนรู้ใจหรือยัง?
โด่ง: ยังไม่มีครับ แต่ก็มีคุยกันบ้าง เป็นเรื่องปกติของผู้ชายครับ (คุยมานานแล้ว?) ผมก็คุยเรื่อยๆ แหล่ะครับ (ฮา) (มีสเป๊กในใจหรือเปล่า?) ผมเป็นคนที่ไม่มีสเป๊กครับ ขอแค่ว่าหน้าตาโอเค น่ารัก เพราะผมเป็นคนชอบคนน่ารักครับ นิสัยน่ารัก คุยกันรู้เรื่อง เข้าใจกัน แค่นี้ก็โอเคแล้วครับ (แล้วสาวเทคนิคการแพทย์ล่ะ?) ก็เป็นเพื่อนสนิทกันครับ สนิทกันตั้งแต่ตอนที่เป็นดาว-เดือนที่มหาวิทยาลัย (มีโอกาสจะพัฒนาความสัมพันธ์หรือเปล่า?) ตอนนี้คงต้องมุ่งที่งานก่อนครับ เรามาตรงจุดนี้แล้ว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์นั้นผมว่าเป็นเรื่องของอนาคตครับ (แสดงว่าตอนนี้โสด?) ใช่ครับ

เสน่ห์ของโด่งอยู่ตรงไหน?
โด่ง: ก็คงจะเป็นเรื่องนิสัยความเป็นกันเองครับ อาจจะเป็นเพราะว่าผมมาจากต่างจังหวัดด้วย เลยมีความขี้เกรงใจ คนที่เห็นก็จะสงสาร เอ็นดู ซะมากกว่าครับ

ถ้าจะแนะนำคนชื่อ โด่ง ให้คนอื่นได้รู้จัก?
โด่ง: ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า โด่ง ครับ ผมว่าคนเราไม่จำเป็นต้องแนะนำนะครับ ขอแค่แบบว่ามาคุยกัน มารู้จักกัน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นยังไง คิดยังไง (แล้วเราเป็นบุคคลสาธารณะ คนอื่นจะมาคุยยังไง?) เราเป็นบุคคลสาธารณะก็จริง แต่เราก็เป็นคนธรรมดา มีสิทธิที่จะมาคุยกับเราได้ เราก็คุยในระดับหนึ่ง ถ้าเขาเข้าใจเราจริง รู้จักเราจริง เขาต้องรู้ว่าเรามีหน้าที่อะไร ทำอะไร แล้วเขาควรจะวางตัวหรือคุยกับเราแบบไหน

ไอดอลในชีวิตของโด่งคือใคร?
โด่ง: คุณพ่อ เป็นแบบอย่างตั้งแต่แรกครับ ให้ผมเรียนรู้ชีวิตจนก้าวมาสู่ตรงจุดนี้ครับ

ถ้าไม่ได้ทำงานตรงนี้ อยากทำอะไรต่อ?
โด่ง: ผมอยากเปิดร้านเบเกอรี่ครับ ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นอะไรที่สนุกดี การที่คนมากินขนมหวานก็จะมีความสุข แค่เราเห็นคนกินมีความสุข เราก็มีความสุขแล้วครับ

วางแผนเรื่องการเรียนยังไง?
โด่ง: ตอนนี้ก็ดรอปไว้ก่อนครับ แต่ก็จะกลับไปเรียนแน่นอนครับ ยังไงก็ต้องเรียนให้จบครับ

ถ้าต้องกลับไปเรียนไกลถึงขอนแก่น จะมีผลกระทบกับเส้นทางในวงการหรือเปล่า?
โด่ง: ก็อาจจะมีครับ ด้วยระยะทางที่ไกลทำให้ไม่สะดวกต่อการทำงาน ตอนนี้ก็กำลังคุยกันอยู่ครับว่าช่วงนี้เป็นช่วงปิดอาเซียนจะมีเวลาประมาณ 8 เดือน ซึ่งตรงนี้เราก็จะมาทบทวนว่าเราจะทำยังไง จะเรียนรวดเดียวไหวไหม และงานจะเป็นยังไง อันนี้ก็ต้องดูกันต่อไปในอนาคต แต่ผู้ใหญ่ก็กำลังคุยกันอยู่ แต่ผมบอกไปแล้วว่าไม่ว่ายังไงผมก็จะไปเรียนครับ (มีโอกาสจะย้ายเข้ามาเรียนที่กทม.?) ผู้ใหญ่ก็มีเกริ่นไว้บ้างครับ ถ้าจะไปเรียนที่ขอนแก่นก็โอเค แต่ก็ต้องแบ่งเวลางานให้ด้วย อาจจะจบช้าหน่อยลงหน่วยกิตน้อยลง ซึ่งก็ต้องแบ่งสรรปันส่วนให้ดีครับ

อยากให้ฝากผลงานตัวเอง
โด่ง:
เรื่องงานเพลงต้องรอทางผู้ใหญ่ครับ ตอนนี้กำลังพัฒนาความสามารถของตัวเอง ซึ่งผมคิดว่าเมื่อถึงจุดที่เราพร้อมรับรองว่ามีแน่นอน ส่วนเรื่องงานแสดงก็กำลังแคสอยู่ครับ ตอนนี้ก็อยู่ที่บท ผมว่าบทนั้นเลือกคน ถ้าใช่จริงๆ ยังไงเราก็ต้องได้แสดงครับ ตอนนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของงานเดินแบบ ถ่ายนิตยสารซะมากกว่า ถ้าติดตาม Instagram ก็จะเห็นได้เลย ยังไงก็ฝากติดตามผลงานของโด่งด้วยนะครับ

นอกจากจะหล่อแล้วยังขยันแบบนี้ ก็อย่าลืมแบ่งเวลามาดูแลเพื่อนสนิทด้วยนะจ๊ะหนุ่มโด่ง…

ประวัติ
ชื่อ-สกุล: ปิยณัฐ แดงพูนผล
ชื่อเล่น: โด่ง
ฉายา: กูรูโด่ง
วันเดือนปีเกิด: 25 มกราคม พ.ศ. 2536
อายุ: 20 ปี
ส่วนสูง: 180 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 70 กิโลกรัม
การศึกษา: คณะวิทยาการจัดการ ปีที่ 3 มหาวิทยาลัยขอนแก่น
งานอดิเรก: ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม เล่นกีฬา
อาหารจานโปรด: ทานได้ทุกอย่าง
สีที่ชอบ: สีเขียวอ่อน ฟ้า ขาว และ ดำ
สัตว์เลี้ยงที่ชอบ: สุนัข
สัตว์เลี้ยงที่ไม่ชอบ: จิ้งจก ตุ๊กแก
ศิลปินในดวงใจ: แสตมป์-อภิวัชร์, สิงโต นำโชค, ไต้ฝุ่น/กู๊ด/บี้ KPN
เพลงรักที่ชอบ: มันคงเป็นความรัก
ผู้หญิงในอุดมคติ: น่ารัก เป็นกันเอง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่