หลังจากที่ส่งละครเย็นตำนาน “โก๊ะ” ลงจอ จนเรียกเรตติ้งให้กับช่อง 7 สีแบบถล่มทลายไปแล้ว ค่ายโคลีเซี่ยม อินเตอร์ กรุ๊ป ซึ่งมีหญิงเก่งและแกร่งของวงการอย่าง พรพิมล มั่นฤทัย เป็นผู้คุมบังเหียน ก็ขอส่งท้ายความสุขของปีนี้ให้แฟนๆละครหลังข่าว ได้สนุกกับละครแอ็คชั่นมันครบรสเรื่อง “เสือสมิง” โดยฝีมือของ ทองก้อน ศรีทับทิม ผู้กำกับเจ้าเก่า ที่เป็นคู่บารมีเคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานหลายปี
“เสือสมิง” สร้างจากบทประพันธ์ของ “ตะวัน ส่องหล้า” เขียนบทโทรทัศน์โดย “ภูมิ พญาไฟ” เป็นเรื่องราวของพี่น้องสองคน ที่ชีวิตในชาติปัจจุบัน ต้องกลับไปโยงใยกับอดีตชาติของตัวเองเมื่อ 800 ปีก่อน เพราะพ่อต้องการจะเป็นใหญ่เป็นโตในแผ่นดิน โดยไม่นึกถึงชีวิตของลูกว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งๆที่ลูกสาวก็มีตำแหน่งเป็นพระมเหสีของพระราชา จึงพยายามโค่นล้มราชบัลลังก์เพื่อความเป็นใหญ่ของตัวเอง โดยมีลูกชายคนเล็กร่วมมือด้วย ในที่สุดลูกทั้งสองคนก็ต้องโทษประหาร 7 ชั่วโคตรตายในกองเพลิงแต่พ่อหนีไปได้ ด้วยดวงจิตของพ่อยังมีความอาฆาตแค้นและมีคาถาอาคม จึงรอวันที่จะกลับมาล้างแค้นถึงแม้จะต้องรอกี่ร้อยปีก็ตาม
เพราะเนื้อเรื่องเป็นละครย้อนชาติอดีตหลายร้อยปี และชาติปัจจุบันเมื่อ 50 ปีก่อน ทำให้โลเกชั่นในการถ่ายทำค่อนข้างที่จะเป็นปัญหาไม่ใช่น้อย เพราะต้องพยายามหลบเลี่ยงสิ่งที่ทันสมัยของยุคนี้ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ทางผู้กำกับจึงต้องยกกองไปปักหลักถ่ายทำที่ อ.ลาดหญ้า, อ.ไทรโยค และ อ.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีเป็นส่วนใหญ่ เพราะยังมีความเป็นธรรมชาติของป่าเขาลำเนาไพร และยังมีโลเกชั่นใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็นในละครเรื่องไหนมาก่อน พร้อมทั้งสร้างฉากบ้างฉากขึ้นมาใหม่เพื่อความเหมาะสม อย่างเช่นฉากหมู่บ้านของชุมเสือและอีกหลายฉาก
สำหรับบทบาทของ “จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ในเรื่องนี้รับบทเป็น “ชะเวมะรัต” และ “กินรี” สาวสองชาติกำเนิด ซึ่งจะแตกต่างจากทุกเรื่องที่ผ่านมา เพราะเธอเพิ่งจะมีโอกาสได้เล่นละครย้อนยุคอย่างจริงๆ เป็นเรื่องแรก และยังต้องรับบทเป็นผีฟ้าหน้าทอง ที่มีการร่ายรำก่อนการรักษาผู้คน ที่สำคัญเธอยังต้องรับหน้าที่ “เจ๊ดัน” ให้พระเอกหน้าเข้มอนาคตไกล “เอส-กันตพงศ์ บำรุงรักษ์” ขึ้นแท่นเป็นพระเอกหลังข่าวเรื่องแรกอีกด้วย งานนี้ทำเอาหนุ่มเอสถึงกับเป็นปลื้ม ที่ผู้ใหญ่ช่อง 7 สีมอบโอกาสที่ดีให้โชว์ฝีมืออย่างเต็มที่นั่นเอง
ทางด้านนักร้อง-นักแสดง “นัท-ณัฎฐ์ ทิวไผ่งาม” แห่งบ้านเอเอฟ ก็ได้พลิกบทบาทครั้งยิ่งใหญ่ให้กับตัวเอง โดยรับบทเป็นกบฎของแผ่นดินในชาติอดีต พอมาเกิดใหม่ในชาติปัจจุบัน จึงกลายเป็นคนหน้าตาอัปลักษณ์และเป็นใบ้ ถือว่าเป็นบทบาทใหม่ที่ท้าทายความสามารถของตัวเองอย่างมาก ที่สำคัญบรรดาแฟนคลับที่เคยเห็นแต่หน้าหล่อๆของหนุ่มนัท จะรับได้หรือไม่กับใบหน้าที่เปลี่ยนไป แม้แต่เจ้าตัวยังรู้สึกหวั่นใจไม่น้อย เพราะตอนนี้กลายเป็นนักร้องอินเตอร์ที่ประเทศเกาหลีไปแล้วนั่นเอง
หนุ่มนัทเผยความในใจให้ฟังว่า “เรื่องนี้ผมเล่นเป็น 2 ตัวละคร คือเล่นเป็นตัวละครอดีตชาติกับชาติปัจจุบัน แต่ที่ผมกังวลมากคือชาติปัจจุบันที่เล่นเป็นพะอู จะเป็นคนที่น่าสงสาร เป็นเด็กที่มีปัญหา นอกจากหน้าตาอัปลักษณ์แล้ว ยังเป็นใบ้และต้องใส่ฟันเหยินอีก แต่ชาติที่แล้วจะเป็นชายหนุ่มรูปงามที่นิสัยไม่ดี พอมาเกิดชาตินี้เหมือนเรามีกรรมติดตามมา ที่ผมรับเล่นเรื่องเพราะว่าบทมันท้าทายมาก ถ้าเราสามารถละทิ้งการห่วงหล่อไปได้ และสามารถอยู่กับตัวละครตัวนี้ได้ เราก็จะพัฒนาการแสดงไปได้อีกขั้นหนึ่ง แต่ถ้าเราเป็นักร้องเราก็จะห่วงหล่อใช่มั้ยครับ แต่การเป็นนักแสดงเราต้องเข้าไปอยู่ในตัวละครตัวนั้นให้ได้ครับ” หนุ่มนัทพูดทิ้งท้ายเอาไว้
ทางด้าน จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ พูดถึงบทบาทใหม่ว่า “ตอนแรกก็รู้สึกหนักใจเพราะเราต้องเล่นเป็น 2 พาร์ท มีพาร์ทอดีตกับปัจจุบัน อย่างพาร์ทปัจจุบันก็เป็นปัจจุบันพีเรียดประมาณ 50 ปีก่อน ไม่ใช่ปัจจุบันแบบสมัยใหม่ ที่จั่นหนักใจคือในเรื่องต้องเป็นร่างทรงของผีฟ้าหน้าทอง ที่จะต้องมีการรำด้วย และไม่ใช่รำไทยที่สวยงาม แต่จะเป็นการรำแบบพม่า ทีแรกก็กังวลว่าเราจะทำได้มั้ย ก็เลยมีการคุยกันก่อน ทางอาก้อนผู้กำกับก็บอกว่าจะมีครูมาสอนให้ แต่จั่นก็จะขอให้ครูไปสอนให้ที่บ้าน จั่นใช้เวลาเรียนจนมั่นใจจึงพร้อมถ่ายทำค่ะ ตัวจั่นเองชอบพาร์ทอดีตเพราะได้แต่งตัวสวย แต่ว่าหนักหัว(หัวเราะ) เพราะต้องใส่ชฏาด้วย แต่ด้วยอากาศมันร้อน เสื้อผ้าที่เราใส่ก็จะรู้สึกคัน ที่ชอบพาร์ทอดีตเพราะเป็นอะไรที่เราไม่ค่อยได้เห็น อย่างเราเป็นคนดูเราก็อยากจะเห็นอะไรที่เราไม่ค่อยได้เห็น ตัวจั่นเองไม่เคยเล่นบทที่เป็นอดีตอย่างนี้มาก่อน เรื่องของภาษาพูดเราก็จะไม่ได้พูดแบบคนธรรมดา บางคำเราต้องมานั่งคิดที่หน้ากอง ว่าเขาจะใช้กันหรือเปล่าในยุคนั้น แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ”
สำหรับ เอส-กันตพงศ์ พระเอกหลังข่าวคนใหม่เผยว่า “พอรู้ว่าจะได้เล่นเรื่องนี้ผมรู้สึกหนักใจว่าเราต้องเล่นบู๊ เพราะก่อนหน้านั้นผมเพิ่งหมอนรองกระดูกเคลื่อน แต่พอมาเล่นจริงผมแทบไม่ได้บู๊เลย แต่คนอื่นเขาบู๊กันกระจายเลย พอเราไม่ได้บู๊ก็รู้สึกหนักใจอีก จนผมต้องไปขอผู้กำกับว่าผมอยากจะบู๊บ้าง ทางผู้กำกับเขาก็จัดให้ทันทีเลย เป็นฉากที่ไปตามจับเสือกัน พอตัดมาอีกฉากภราดรถูกเสือตบสลบไม่ได้บู๊อีก ทีแรกคิดว่าเล่นเสือสมิงพระเอกต้องได้บู๊แบบเท่มาก ที่ไหนได้ไม่ได้บู๊เลยครับ แต่ผมอยากจะบอกว่าดูละครเรื่องนี้ เหมือนคุณได้ดูละครถึง 5 เรื่องในเวลาเดียวกัน อย่างบทของผมก็จะมีพาร์ทของการเป็นกษัตริย์ในชาติอดีต เรื่องมันก็จะไปลิงค์กับภราดรชาตอปัจจุบัน กินรีก็จะเป็นผีฟ้าหน้าทอง รักษาโรคภัยไข้เจ็บให้ประชาชน อีกฝั่งก็จะมีที่เป็นเสือสมิง แล้วก็มีฝั่งของเสือที่เป็นชุมโจร แล้วก็มีฝั่งของพี่ธันญ์ที่เป็นตำรวจไล่ล่าโจรอีก ผมอยากให้ทุกคนติดตามชมละครเรื่อง “เสือสมิง” กันด้วยครับ”…จะน่าดูอย่างที่หนุ่มเอสว่าไว้หรือไม่ต้องรอชม
เรื่องย่อ เสือสมิง
ภราดร(กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) หมอหนุ่มถูกย้ายมาประจำอนามัยเล็กๆ ที่ชายแดนภาคเหนือ อนามัยแห่งนี้มี ระริน(อมีนา พินิจ) กับ เดือน(ตั้งโอ๋ เพ็งพารา) เป็นพยาบาล และมี ประเดิม(อิทธิกร สาธุธรรม) คนพื้นเพป็นคนขับรถ วันหนึ่งภราดรออกพื้นที่และผ่านหมู่บ้านสาง ขณะนั้นมีพิธีกลืนบาป หรือการรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ตามความเชื่อของชาวบ้าน โดยมีแม่ผีฟ้าหน้าทองเป็นผู้ประกอบพิธี แต่ภายใต้หน้ากากทอง คือใบหน้าที่สวยงามของ กินรี(อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ผู้สืบทอดการรักษามาจากบรรพบุรุษ โดยมี แม่หมอ(ปนัดดา โกมารทัต) กับ พะอู(ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม) น้องชายผู้มีใบหน้าอัปลักษณ์ และ มะค่า(อะวิสา ทิวไผ่งาม) เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นผู้ช่วย
ภราดรแวะเข้าไปดูพิธีกลืนบาป ประเดิมจึงแนะนำให้รู้จัก ผู้ใหญ่สน(อมต อินทานนท์) พร้อมทั้ง หมวดสมรักษ์(ธันญ์ ธนากร) และ จ่าชิต(ชาติชาย งามสรรพ์) ซึ่งนำกำลังเข้ามาในพื้นที่ เพราะสืบทราบมาว่าพวก เสือใจ(เอก รังสิโรจน์)กำลังจะผ่านมาทางนี้ เวลานั้นเสือใจกับ เสือทศ(ธนายง ว่องตระกูล) ลูกเลี้ยงได้พา เสือเข้ม(ธิติวัฒน์ ธนวัฒน์ภัทร์กุล)ลูกน้องที่ถูกพิษจากลูกดอกปลอมตัวมารักษาด้วย การรักษาเป็นไปอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะทุกคนหายจากอาการป่วยเป็นปลิดทิ้ง จนภราดรไม่อยากเชื่อว่าเป็นไปได้ กินรีเสียพลังในการรักษาไปมากจนเป็นลมล้มพับ ภราดรรีบเข้าไปช่วยด้วยสัญชาติญาณของหมอ แล้วถอดหน้ากากของกินรีออกโดยพลการ ใบหน้าใต้หน้ากากทำให้ภราดรหลงรักกินรีทันที แต่ภราดรกลับทำสิ่งที่ผิดมหันต์คือทำหน้ากากตกลงพื้น แม่หมอตกใจมาก เพราะมีคำทำนายมาแต่ครั้งโบราณว่า หากหน้ากากทองตกลงพื้นดิน จะเกิดอาเพทครั้งยิ่งใหญ่
เมื่อ 800 ปีก่อน บาเยงโบ(ภราดรในปัจจุบัน) เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่มีมเหสีชื่อ ชะเวมะรัต(กินรีในปัจจุบัน) และมีพระสนมชื่อ อิรวดี(ธาราทิพย์ ดรุณพัฒน์) ชะเวมะรัตเป็นลูกสาวของมหาราชครู งะดินเด(สุเชาว์ พงษ์วิไล) และมีน้องชายชื่อ ชะเวโบ (พะอูในปัจจุบัน) งะดินเดเป็นจอมขมังเวทย์ที่มีอาคมแก่กล้า และกำลังคิดก่อการแย่งชิงราชบัลลังก์ โดยมีชะเวโบและพระสนมร่วมแผนการด้วย สุดท้ายพระสนมถูกงะดินเดวางยา ชะเวโบถูกบาเยงโบจับได้ว่าคิดทรยศ จึงถูกสั่งประหารชีวิตด้วยการเผา ชะเวมะรัตตัดสินใจเดินเข้ากองเพลิงตายตามน้องชาย เพื่อรักษากฎมณเฑียรบาล ถึงแม้เธอจะไม่รู้เรื่องก็ตาม ทำให้บาเยงโบเสียใจมาก ส่วนงะดินเดหนีไปได้และรอวันกลับมาแก้แค้น จึงรักษาร่างและดวงจิตของตัวเองไว้ด้วยวิชาอาคม
การที่หน้ากากทองตกพื้น ทำให้งะดินเดกลับมาแก้แค้น ด้วยการสังหารพะอู ซึ่งในชาตินี้เป็นลูกจ่าชิต ที่พะอูมาเป็นน้องชายของกินรี เพราะตอนที่พะอูยังเป็นเด็กถูกเสือสมิง ที่งะดินเดใช้คาถาครอบงำ เข้ามาทำร้ายพร้อมกับแม่ จ่าชิตจึงออกตามล่าเสือสมิง เพราะคิดว่าลูกชายตายตามเมียไปด้วย บังเอิญแม่หมอผ่านมาพบจึงนำพะอูไปเลี้ยงดู จ่าชิตดีใจมากเมื่อรู้ความจริงจากแม่หมอว่าพะอูเป็นลูก แต่ต้องเสียใจเมื่อมารู้ภายหลังว่าพะอูเป็นเสือสมิง เพราะถูกอำนาจของงะดินเดครอบงำมาตั้งแต่เด็ก และถูกงะดินเดฆ่าเพื่อเอาหัวใจ เพื่อให้ตัวเองมีพลังอำนาจมากขึ้น ถึงแม้ในอดีตชาติพะอูจะเป็นลูกของตัวเองก็ตาม
ระรินเป็นลูกสาว เสี่ยรงค์(ธนา สินประสาธน์) เจ้าของปางไม้ แต่เบื้องหลังค้ายาเสพติด ระรินหลงรักภราดร ถึงแม้จะรู้ว่าภราดรกับกินรีรักกัน จึงคิดหาทางที่จะทำให้ภราดรมาเป็นของตน โดยตัดสินใจให้ อองไชย(ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง) พรานล่าเสือสมิง ลูกน้องเสี่ยรงค์ทำเสน่ห์ ภราดรจึงหันมาสนใจระริน สร้างความแปลกใจให้ทุกคน สมรักษ์นำทีมออกตามล่าเสือใจ ระหว่างทางโดนเสือสมิงเล่นงาน แต่รอดไปได้เพราะตกลงไปในน้ำ และได้รับความช่วยเหลือจาก จงใจ(จิลล์ โรเจอร์) ลูกสาวของเสือใจ แต่จงใจไม่อยากให้พ่อรู้เรื่องนี้ จึงพาสมรักษ์ไปซ่อนที่บ้านของ แวว(ภารดี อยู่ผาสุข) แม่ของ แก้ว(เกวลี ศรีกาญจน์) กับ หิน(ณัฐพัชร สายชุม) และรักษาจนหาย จงใจเกิดมาก็อยู่แต่ในชุมเสือ เมื่อพบสมรักษ์จึงหลงรักอย่างหมดใจ ทั้งที่เสือทศก็หมายปองเธออยู่ ในที่สุดเสือใจก็จับได้ แต่ก็ยอมปล่อยสมรักษ์ไปโดยไม่ทำอะไร เพราะเขาดูออกว่าจงใจกับสมรักษ์ชอบกัน ที่สำคัญจ่าชิตลูกน้องสมรักษ์เป็นเพื่อนของเขา จึงสร้างความไม่พอใจให้กับเสือทศมาก
เสือทศหักหลังเสือใจ ด้วยการพาลูกน้องจำนวนหนึ่ง มาค้ายาเสพติดกับเสี่ยรงค์ ที่เคยมีอดีตแค้นกับเสือใจ เสือทศนำศักดา(จรัญ งามดี) นายตำรวจลูกน้องเสี่ยรงค์มาทลายชุมโจร ผลก็คือชุมเสือถูกทำลายล้างจนหมดสิ้น แต่เสือใจได้รับการช่วยเหลือ จากสมรักษ์และจ่าชิตหนีไปได้ ขณะที่เสี่ยรงค์จับจงใจไปขังเอาไว้ที่ปางไม้ และต้องการจะข่มขืนจงใจเป็นเมีย แต่เสือใจบุกไปช่วยพร้อมบอกความจริงว่า จงใจคือลูกสาวเสี่ยรงค์ที่เกิดจากจันทร์แก้ว เมียของเสี่ยรงค์ที่เสือใจฉุดไปเมื่อ 20 ปีก่อนอองไชยตามล่าเสือสมิง จนได้พบกับกายทิพย์ของงะดินเดจึงเกิดการต่อสู้กัน อองไชยสู้ไม่ได้แถมยังถูกงะดินเด แย่งหัวใจเสือสมิงทั้ง 11 ดวง ที่เขาอุตส่าห์ตามล่ามันมาชั่วชีวิต ทำให้อองไชยแค้นใจ และหาทางกำจัดงะดินเดให้ได้
เสี่ยรงค์เป็นนักสะสมของโบราณ เขามีรูปปั้นของบาเยงโบ ซึ่งอองไชยค้นพบว่ามีปริศนาลายแทงจากรูปปั้นนั้น ทำให้เขาเชื่อว่าที่สุสานฝังศพของบาเยงโบ มีดาบอาญาสิทธิ์ที่สามารถทำลายงะดินเดได้ นอกจากนี้ยังมีสมบัติมหาศาล จึงคิดที่จะไปเอาสมบัติกัน การเริ่มต้นล่าสมบัติจึงเริ่มต้นขึ้น โดยอองไชได้รูปปั้นชะเวมะรัตจากแม่หมอ ที่ถูกงะดินเดสังหารไปด้วย กลุ่มเสี่ยรงค์เดินทางไปหาสมบัติ โดยให้ศักดาบังคับสมรักษ์ซึ่งชำนาญพื้นที่นำทาง
ภราดรได้เดินทางไปกับระรินด้วย เพราะยังหลงเสน่ห์ของระริน กินรีรู้เรื่องนี้จึงเดินทางไปกับกลุ่มจ่าชิตเพื่อจะช่วยภราดร เมื่อทุกคนเดินทางไปถึงสุสาน ระรินจะฆ่ากินรี แต่ภราดรมาช่วยเอาไว้ และบอกว่าตัวเองหายจากมนต์เสน่ห์นานแล้ว เพราะเสือใจช่วยแก้อาถรรพ์ให้ และที่ต้องแกล้งทำเป็นหลงเสน่ห์ระริน เพราะจ่าชิตขอร้องให้ช่วยเหลือราชการ เพื่อหาหลักฐานจับกุมเสี่ยรงค์ เมื่อทุกคนเข้าไปในถ้ำ งะดินเดปรากฏตัวขึ้น จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น งะดินเดสังหารอองไชยกับระริน ส่วนภราดรบาดเจ็บหนัก แต่ใช้ดาบของบาเยงโบสังหารงะดินเดได้สำเร็จ ระหว่างนั้นถ้ำถล่มทุกคนต้องรีบหนี เสือทศจะฆ่าสมรักษ์ แต่พลาดท่าถูกฆ่าเสียเอง เพราะเสือใจตามมาช่วยสมรักษ์ไว้ทัน กลุ่มเสี่ยรงค์ก็หักหลังกันเอง
ความรักข้ามพบข้ามชาติของกินรี….ต้องเจอกับการพลัดพรากอีกครั้ง เมื่อภราดรทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายในถ้ำ กินรีจะตัดสินใจอย่างไร!!!! ติดตามหาคำตอบเรื่องนี้ได้ ในละครเรื่อง “เสือสมิง” ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 7 สี เริ่มเสาร์ที่ 15 ธันวาคม เป็นต้นไป.