ตื่นเต้น ดีใจ แทนเด็กไทยที่จะได้ไปทำหน้าที่ “เพลย์เยอร์เอสคอร์ท” หรือจูงมือนักเตะลงสนาม ซึ่งช่วงหลังการแข่งขันกีฬาต่างๆ โดยเฉพาะฟุตบอลนิยมเปิดโอกาสให้เด็กๆ เยาวชนได้จูงมือนักเตะ ที่ชื่นชอบ นัยว่าจะได้สร้างแรงบันดาลใจ ช่วงหลังกลายเป็นธรรมเนียมที่เด็กทั่วโลกเฝ้ารอคอย ต่างคนต่างใฝ่ฝันอยากจูงมือนักเตะดังลงสนาม ซึ่งก็แน่นอนคงไม่มีแมทช์ไหนจะโดนใจเท่างานฟุตบอลโลกอีกแล้ว! โดยฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล จะมีเด็กไทยไปจูงมือนักเตะลงสนามกับเขาด้วย คือ สองหนูน้อยผู้ชนะเลิศในโครงการ แมคโดนัลด์ เพลย์เยอร์ เอสคอร์ท” (McDonald’s Player Escort) ฟาดฟันแข่งขันจนเสร็จสิ้น ท่ามกลางความยากสุดๆ เพราะมีเยาวชนส่งใบสมัครมาทั้งสิ้น 1,500 คน คัดเหลือ 30 คน และ 10 คน ที่สุดเฟ้นเหลือเพียงสองคนเท่านั้น!!!
โดยหนูน้อยที่กระโดดตัวลอยสุดๆ เพราะได้รับการตัดสินให้เป็นผู้ชนะเลิศทั้งสองคน ได้แก่ M 3 บลิงค์-ด.ญ.ชญาดา สุพุทธิพงศ์ สาวน้อยที่ชื่นชอบกีฬายิมนาสติกเป็นชีวิตจิตใจ นำการแสดงที่ผสมผสานระหว่างการเต้นและทักษะกีฬาด้านยิมนาสติกมาชนะใจกรรมการ ท่ามกลางเสียงปรบมือเกรียวกราว อีกคนคือ M 8 อับบาส-ด.ช.ชาญชวิน หมัดนุรักษ์ พกพาความน่ารัก สดใส สไตล์ขำและฮา มีมุขประมาณเปิดเดี่ยวไมโครโฟนได้ ไหวพริบปฏิภาณเป็นเลิศ ใครได้เห็นเป็นต้องบอกว่าฉลาดเกินวัยจริงๆ หลังการตัดสิน ทั้งสองเผยว่าดีใจสุดๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ เพราะเพื่อนๆ เก่งๆ กันทั้งนั้น
สองหนูน้อยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ต่างคนก็ต่างเชียร์กัน เพราะมีความสามารถโดดเด่นด้วยกันทั้งคู่ เริ่มจาก น้องบลิงค์ เผยว่า “ทีแรกก็ไม่มั่นใจ แต่ทุกคนที่เชียร์อยู่บอกว่า อยู่บนเวที แสดงความสามารเต็มที่ มีสมาธิกับการเล่น ไม่วอกแวก ไม่ต้องสนใจใคร ทำตัวสบายๆ ทีแรกหนูก็เกร็ง เพราะไม่ค่อยได้เต้นและโชว์ต่อหน้าคนเยอะๆ แต่พอสักพักก็ชินค่ะ เต้นไปเรื่อยๆ สนุกดี วิธีที่ทำให้ไม่อายคือส่งยิ้มให้กับคนที่มาเชียร์เราค่ะ”
บลิงค์อายุ 7 ปี อยู่โรงเรียนพระยาประเสริฐ ชั้น ป.2 ตอนเขียนจดหมายเข้ามาสมัคร เขียนด้วยตัวเอง บอกว่า “หนูชอบเล่นกีฬา หัดยิมนาสติกแต่อนุบาลสาม ใฝ่ฝันจะไต่ไปให้ถึงทีมชาติให้ได้ ตอนนี้ถนัดทั้งลูกบอล ริบบิ้น ค่ะ คิดว่าถ้าหนูชนะ ได้รับเลือก การไปทำหน้าที่ครั้งนี้ จะช่วยจุดประกายให้หนูมีพลัง ไม่ท้อเวลาฝึกซ้อม เพราะวันหนึ่งจะได้ไปแข่งโอลิมปิก หนูอยากได้รับโอกาส และคิดว่าจะทำให้หนูมีความตั้งใจในการฝึกซ้อมมากขึ้นแน่นอนค่ะ”
“พอผ่านรอบคัดเลือก ดีใจมาก ฝึกหนักเลย เพราะจะโชว์ยิมนาสติก โดยท่าไม้ตายที่กำลังฝึกคือ ฟิกแฟก หรือ ตีลังกาหลัง ทำได้แล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ ครูบอกต้องฝึกเยอะๆ” ท่าทางจะฝึกเยอะจริง เพราะแอบเห็นซิกแพคน้อยๆ ของน้องบลิงค์ด้วย ด้าน คุณแม่วัชรี สุพุทธิพงศ์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญเผยว่า คอยสังเกตลูกตลอดเวลาว่ามีความสามารถอะไร พยายามผลักดันให้เขาแสดงออก โชคดีว่าบลิงค์ชอบเล่นกีฬาและชัดเจนมากด้านยิมนาสติก จึงสนับสนุนให้เรียนและฝึกมาโดยตลอด โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียนเป็นประจำ นอกจากนั้นยังเพิ่มในเรื่องของสมาธิให้น้องด้วย กิจกรรมครอบครัวส่วนใหญ่จะพาไปทำบุญ “ทุก ๆ วันจะสอนลูกและบอกลูกอยู่สมอ ๆ ว่า คนเราแข่งอะไรแข่งได้ แต่แข่งบุญวาสนาแข่งกันไม่ได้ ในเมื่อเราเกิดมาวาสนาไม่ดีเหมือนคนอื่น นั้นหมายความว่า ชาติที่แล้วหรือกรรมเก่าที่เราทำไว้ส่งผลในชาตินี้เราจึงเกิดมาใช้กรรม บุญวาสนาในชาตินี้จึงไม่มีหรือมีน้อยกว่าคนอื่น สิ่งที่เราต้องทำคือ เราต้องดิ้นรนต่อสู้กับอุปสรรคด้วยความอดทน อดกลั้น และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องหมั่นสร้างความดี การรู้จักให้ แบ่งปัน ทุกวัน.”
สอนดีแบบนี้นี่เอง น้องบลิงค์ถึงน่ารัก สดใส และเก่งกาจสุดๆ
ด้านหนุ่มน้อยคนเก่ง M 8 อับบาส-ด.ช.ชาญชวิน หมัดนุรักษ์ อายุ 9 ปีโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ป.4 เขียนจดหมายมาสมัครว่า “ผมมีใจรักในการแสดง กล้าแสดงออก มั่นใจว่ามีคาแรคเตอร์และบุคลิกภาพโดดเด่น ทุกคนสามารถเห็นผมได้ชัดเจนตั้งแต่ไกล ดังนั้นจึงคิดว่าน่าจะได้เป็นตัวแทนในครั้งนี้ อีกอย่างผมก็ชอบเล่นกีฬา ที่ถนัดคือฟุตบอล, บาสเก็ตบอลครับ เล่นทุกเย็น การออกกำลังกายทำให้มีความสุขและสามารถทานอาหารได้มากขึ้นด้วย เพราะเหนื่อยมากๆ ครั้งนี้ดีใจ และมั่นใจ ทำเต็มที่ อยากบอกเพื่อนๆ ทุกคน ไม่ต้องเสียใจ เพราะจะไปเก็บบรรยากาศเอามาฝากเยอะๆ ครับ ส่วนทีมโปรดที่หมายตาแน่นอนคือบราซิล”
ถามบรรยากาศตอนแข่งขันเป็นยังไง หนุ่มน้อยตอบฉะฉาน “ตอนแข่ง สบายๆ เกร็งเป็นส่วนน้อยครับ พิธีกรถามว่ามาโชว์อะไร ผมไม่บอก ตอบว่าเดี๋ยวดูเลยดีกว่า แล้วผมก็โชว์ร้องเพลง เต้น และลีลาการเชียร์บอลโลกแบสนุก สุดมันส์ โดยที่บ้านผมชอบดูบอลมาก ตัวผมก็ชอบเล่น ทีแรกไม่ชอบเท่าไหร่ แต่แม่มารับช้า โรงเรียนสี่โมง มารับหกโมง เพราะอยากให้ผมออกกำลังกาย เป็นจุดเริ่มต้นให้เล่นบอลทุกวัน ต่อมาก็สนใจดูบอล และชื่นชอบ เนย์มาร์ หัวหอกแซมบ้า ของบาร์เซโลน่า เป็นพิเศษด้วย เข้าขั้นคลั่งรุนแรง ถามว่าทำไมถึงชอบ ผมเชื่อว่า ในตอนนี้คงไม่มีไครที่ไม่รู้จักเนร์มาร์ เพราะว่าเขาสุดยอด มกาๆ ลีลาการลากเลี้ยง การครองบอล และเท็คนิคที่แพรวพราวแล้ว นาร์มาร์มีอายุเพียง 20ปีเศษ เท่านั้นเอง ทำให้ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นหนึ่งในแข้งดาวโรจน์ที่น่าจับตามองที่สุดในโลก ฟุตบอลโลกที่จะมีถึงนี้ก็เป็นเหมือนบททดสอบอีกบทหนึ่งของเนร์มาร์ว่าดีพอที่จะพาทีมชาติบราซิลไปถึงแชมป์ได้หรือไม่ แต่ผมว่าได้แน่นอน”
พูดจาฉะฉานทุกคำ ถาม คุณแม่มาเรียม ดาเลาะกองเสล็ม ว่ามีเคล็ดลับเลี้ยงลูกอย่างไร คุณแม่ตอบว่า คุยกับเขาทุกเรื่อง อย่าปิดกั้น ให้เขาได้แสดงความคิดเห็นเต็มที่ เพียงแต่คอยสอดแทรกในสิ่งที่เป็นสาระถูกต้อง นอกจากนี้การปฏิสัมพันธ์กับผู้คนก็สำคัญ การที่เขาไม่อาย ไม่เขิน เกิดจากความเคยชิน เพราะได้พบปะผู้คนและแสดงออกกลางแจ้งผ่านเวทีต่างๆ ช่วยได้มากในเรื่องพัฒนาการของเด็ก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอุปนิสัยเด็กแต่ละคนด้วย ซึ่งหนุ่มน้อยอับบาส พื้นฐานเป็นคนช่างคิด ช่างพูด ช่างคุย สนุกสนาน อารมณ์ดี ชอบทำให้คนอื่นหัวเราอยู่แล้ว
ท้ายสุดกับคำถามเชิงลึก อยากจูงมือนักฟุตบอลคนไหนลงสนาม “น้องบลิงค์” กล่าวว่าอยากจูงมือ คริสเตียโน โรนัลโด ดาวเตะแข้งทองทีมชาติโปรตุเกส ปีกจอมสับของ รีล มาดริด ในศึกลา ลีกา สเปน เพราะหล่อ หน้าตาดี ชอบ แถมเก่ง ทำประตูได้มากที่สุด เป็นฮีโร่ประจำใจ ขณะที่ “น้องอับบาส” แน่นอนเผยว่าอยากมีโอกาสจูงมือ เนย์มาร์ ดา ซิลวา ซานโตส จูเนียร์ กองหน้าดาวโรจน์ทีมชาติบราซิล สังกัดสโมสรบาร์เซโลนา ซึ่งในการเล่นทีมชาติจะสวมเสื้อหมายเลข 10 ซึ่งเป็นเลขที่ชื่นชอบ ทั้งนี้ในรอบตอบคำถามว่าได้สิทธิพิเศษจะขออะไร อัมบาสยังแสดงเจตนารมณ์แน่วแน่ ว่าถ้าได้จูงใครก็แล้วแต่ ขอเปลี่ยนเป็นเนย์มาร์ได้มั๊ย เพราะเป็นโอกาสเดียวจริงๆ
ผู้ชนะที่ได้รับคัดเลือก 2 คนสุดท้าย จะได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ประเทศบราซิล พร้อมที่พัก อาหาร และยานพาหนะฟรีตลอดการเดินทาง 8 วัน 5 คืน สำหรับตนเองและผู้ปกครอง 1 ท่านแล้ว และได้ใกล้ชิดด้วยการจูงมือนักฟุตบอลลงสนามพิธีเปิดและปิด น้องบลิงค์ จะได้ไปจูงมือนักเตะในพิธีเปิด ในวันที่ 12 มิถุนายน 2557 และ น้องอัมบาส จะได้ไปจูงมือนักเตะในรอบชิง และพิธีปิดการแข่งขัน ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2557
แต่นักเตะที่ทั้งสองคนจะได้จูงมือนั้นเป็นใคร ต้องติดตาม!!!!