นายพัทธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์นวัตกรรมดิจิตอลไลฟ์สไตล์ ที่จะนำความเพลิดเพลิน และคุณภาพมาสู่ชีวิต ด้วยปรัชญา “Because It’s Matters” เปิดเผยว่า ในปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีทองของเบ็นคิวอีกปี โดยเฉพาะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่กำลังจะมาถึง ในฐานะที่ “เบ็นคิว” เป็นหนึ่งในผู้นำตลาด Home Video Projector อยู่ในขณะนี้ หวังมุ่งสร้าง และยกระดับคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น เบ็นคิว จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ BenQ Full HD 3D Projector สำหรับการรับชมบนจอภาพได้กว้างขึ้น มีขนาดกะทัดรัดพักพาไปได้ทุกที่ เพื่อรับศึกฟุตบอลโลกโดยเฉพาะ
ปัจจุบัน เบ็นคิว มีสินค้าในกลุ่ม Home Video Projector ทั้งหมด 6 รุ่นด้วยกัน โดยเฉพาะรุ่นที่เป็น BenQ Full HD 3D Projector ไฮไลท์ ของเบ็นคิว คือ รุ่น W1070 Brilliant Video Performance ที่สามารถฉายภาพได้กว้างถึง 106 นิ้ว ที่ระยะ 2.69 เมตร และรุ่น MH680 Big Screen with Full HD ที่ให้ความสว่างสูงถึง 3,000 ANSL Lumens สามารถอ่านไฟล์จาก USB 1.07 Billion Colors New 3D โดยทั้ง 2 รุ่นนี้ มีอายุการทำงานของหลอดภาพที่ยาวนานถึง 5,000 ชั่วโมง จนสามารถชมได้ยาวนานถึงฟุตบอลโลกปี 2018 หรือนานกว่านั้นเลยทีเดียว
โดยกลยุทธ์ทางการตลาดของ BenQ ณ ปัจจุบันจะเน้นไปที่การทำโปรโมชั่น และการโฆษณาผ่านสื่อชนิดต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ เช่น Facebook, Google, Social Community & Webpage หลายๆ ด้าน เพื่อที่ส่งผ่านข้อมูลไปยัง End user โดยตรง รวมทั้งเปิดช่องทางการสื่อสารผ่านโลกออนไลน์ โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถพูดคุย สอบถาม ตลอดจนร่วมกิจกรรมกับทาง BenQ ได้ และได้โดยสะดวกและใกล้ชิดมากขึ้น
นายพัทธกร กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย และให้ผู้ใช้งานได้ สามารถใช้ Projector BenQ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงได้จัดกิจกรรมทางการตลาด Promotion World Cup เมื่อลูกค้าซื้อ Projector รุ่น W1070 ในราคา 41,900 บาท หรือ MH680 ในราคา 34,900 บาท รับทันที RS Sunbox สามารถรับชมและเพลิดเพลินไปกับการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ครบทั้ง 64 รอบการแข่งขัน ตามสโลแกนของ Promotion ที่ว่า “เปลี่ยนบ้านให้เป็นขอบสนามฟุตบอล”
สำหรับกลุ่มลูกค้าของเบ็นคิวในปัจจุบัน จะแบ่งออกตามกลุ่มใช้งานคือ กลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ Projector BenQ แบ่งออกตามกลุ่มการใช้งาน คือ กลุ่ม Business ก็จะเป็นพวก Data Projector ซึ่งไม่ได้เน้นแสงสีเสียงในเชิง Entertainment แต่จะมุ่งไปที่ความสว่าง และการแสดงผลภาพ เป็นหลัก และกลุ่ม Education จะเป็นรุ่นที่ support ฟังก์ชั่น interactive ซึ่งช่วยให้การเรียนการสอนเป็นไปอย่างสนุก น่าสนใจมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ห้องเรียนธรรมดากลายเป็นห้องเรียนอัจฉริยะ หรือ Smart Class room ได้อย่างง่ายดาย และกลุ่ม Home Video Projector สินค้าในกลุ่มนี้ จะค่อนข้างเน้นในเรื่องของ Entertain แสงสีเสียงต้องมา ใช้ง่าย สะดวกพกพา และที่สำคัญคือต้องสามารถฉายได้ในทุกที่ แม้อยู่ในพื้นที่จำกัด อย่างเช่น ห้องนั่งเล่นตามบ้าน หรือห้องในคอนโดซึ่งมักจะไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางมากนัก แต่ก็สามารถเปลี่ยนบ้านเป็นโรงภาพยนตร์ย่อมๆ ได้ในงบประมาณที่ไม่สูงมาก
“ในส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายของ BenQ ยังคงเป็นการขายผ่าน Dealer ต่างๆ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ และผ่านช่องทาง E-Commerce และสำหรับไตรมาสนี้ BenQ ได้ตั้งเป้าไว้ว่า เราจะเป็นเบอร์ 1 ในแง่ของยอดขายสำหรับสินค้าในกลุ่ม Home Video Projector ดังนั้น เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มากขึ้น เราจึงได้จัดทำ World Cup campaign ขึ้นเพื่อช่วยผลักดันยอดขาย โดยวางเป้าหมายในการเติบโตไว้ที่ 100% คิดเป็นร้อยละ 60 ของมูลค่าตลาดรวมในส่วนของ VDO Projector” นายพัทธกร กล่าว และว่า
“จากการสำรวจในปี 2013 Projector BenQ ติดอันดับอยู่ในกลุ่ม Top 3 โดยมี Market Share ที่ 11% ทว่าในระดับ World Wide Projector BenQ คือ อันดับ 1 ในกลุ่ม DLP Projector เลยทีเดียว และในปี 2557 นี้ BenQ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเน้นไปทาง Interactive Solution ซึ่งโดยมากจะถูกใช้ในแวดวงการศึกษา อย่างเช่น Project Smart Class room ต่างๆ โดยจะเปิดตัวในปลายไตรมาสนี้ คือ Projector รุ่น MX832ST และ MW824ST ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้จัดว่าเป็น Interactive Projector ที่เป็น Highlight ของปีนี้เลยทีเดียว
“ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาตลาด Projector ในครัวเรือนมีอัตราสูงขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากได้มีการเพิ่มเติมคุณสมบัติที่รองรับการใช้งานความบันเทิงเข้าไป ทั้งหลอดภาพที่มีอายุการใช้งานนานนับหมื่นชั่วโมง ตลอดจนราคาที่ปรับลดลงมาอยู่ในขั้นจับต้องได้ หรือถูกกว่าเมื่อเทียบกับทีวีจอยักษ์ทั้งหลาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นหลายๆ ครัวเรือน มี Mini Theater อยู่ภายในบ้าน และในเรื่องของการหาข้อมูลในการตัดสินใจ ในอดีตการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคจะขึ้นอยู่กับการให้ข้อมูลของร้านค้า และการทดสอบผลิตภัณฑ์เป็นหลัก แต่ ณ ปัจจุบัน การเข้าถึงด้วยข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทำได้อย่างง่ายๆ ทั้งที่เป็นสื่อเฉพาะทาง ตลอดจนสื่อออนไลน์ ผู้บริโภคปัจจุบันจึงนิยมที่จะหาข้อมูลเพื่อเลือกเฟ้นผลิตภัณฑ์ตามความต้องการก่อนการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นการส่งผลิตภัณฑ์ไป Review หรือทดสอบผลิตภัณฑ์ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Projector ยังคงเป็นสินค้าที่ต้องการทดลองสอบผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ เกือบ 100% ของผู้บริโภคก็จะต้องไปที่ร้านค้า เพื่อขอทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องก่อนอยู่ดี” นายพัทธกร กล่าวทิ้งท้าย