“ไชลีน วูดลีย์” มารับบท “เฮเซล เกรซ แลนแคสเตอร์” นักแสดงสาวจากเรื่อง Divergent และ The Descendants เล่าว่าภาพยนตร์เรื่อง The Fault in Our Stars จะทำให้เธอประทับใจไปตราบนานเท่านาน “ถือเป็นเกียรติมากครั้งหนึ่งในชีวิตของฉันที่ได้มีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์นี้เลยค่ะ ทั้งภาพยนตร์และนิยายต่างเข้าไปสำรวจโลกที่มีพลังและเข้าถึงทุกคนได้ เรื่องนี้สอนฉันว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ และไม่ว่าเราจะมีชีวิตยาวนานหรือสั้นแค่ไหน นั่นคือช่วงเวลาสั้นๆ ที่มีความหมายมากที่สุด
“ฉันอยากได้บทมาก ฉันส่งอีเมล์หาจอห์น กรีนยาวมากว่า ฉันรักหนังสือมากแค่ไหน และฉันจะแสดงบทเฮเซลยังไง” วูดลีย์เล่าต่อว่า “พอฉันได้นั่งอยู่กับผู้บริหารสตูดิโอและผู้อำนวยการสร้างฯ ฉันพูดว่า ‘ให้ฉันเป็นผู้ช่วยกองถ่ายหรือนักแสดงสมทบก็ได้ ให้ฉันได้มีส่วนร่วมในเรื่องด้วยก็พอ!’”
โชคดีของวูดลีย์และผู้สร้างฯ เธอสามารถคว้าบทนี้ไปได้ บูนเล่าว่าต้องขอบคุณที่เธอมาออดิชั่นได้อย่างน่าตื่นเต้น “เราต้องดูนักแสดงหญิงเกือบ 150 คนสำหรับบทนี้ และผมก็พบในนั้นราว 50 คน เพียงแค่ 10-15 วินาทีที่ไชลีนมาออดิชั่น ผมรู้เลยว่าเธอนี่แหละเฮเซล เธอถือบทของเธอขึ้นมาและใช้แค่ดวงตาชำเลืองดูบทเท่านั้น ไชลีนมีดวงตาสีเขียวที่สื่อออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ และเธอใช้สายตาเก่งมาก เธอแสดงอารมณ์เก่งและถ่ายทอดรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ออกมาได้ ผมไม่รู้ว่าเธอทำได้ไง ราวกับมันเป็นเวทมนตร์เลย”
มุมมองของวูดลีย์ที่มีต่อเนื้อเรื่อง โทนเรื่อง และตัวละครต่างๆ สะท้อนถึงผู้กำกับฯ และผู้สร้างฯ ของเธอ “ภาพยนตร์เรื่อง The Fault in Our Stars เป็นเรื่องราวความรักของเด็กสองคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่ไม่ใช่เรื่องราวเกี่ยวกับโรคมะเร็ง” เธออธิบาย “ฉันรู้สึกอินไปกับเฮเซลและกัสมาก พวกเขามองเห็นหลายสิ่งที่พวกเราส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างวุ่นวายเกินกว่าที่จะมองเห็นมันได้”
วูดลีย์ต้องทุ่มเทอย่างหนักเพื่อถ่ายทอดลักษณะต่างๆ และความซับซ้อนในตัวเฮเซลออกมา
“ไชลีนเข้าใจเฮเซลได้ลึกซึ้งมาก” กรีนกล่าว “เธอมีความเป็นธรรมชาติ ตรงไปตรงมา และการแสดงที่ใช้จิตวิญญาณอย่างเปี่ยมล้ม ผมรู้สึกชื่นชมในการแสดงของเธอในตัวละครนี้มากครับ
“เฮเซลเป็นคนที่ชอบพูดจาเสียดสีและชอบเล่นมุกตลกร้าย” ผู้แต่งฯ เล่าต่อว่า “แต่เธอมีความน่ารักและคอยห่วงใยในผลลัพธ์จากโรคที่จะส่งผลต่อคนรอบตัว โดยเฉพาะพ่อแม่ของเฮเซล เธอไม่อยากให้เกิดสิ่งที่เฮเซลเรียกว่า ‘ระเบิด’ ซึ่งหมายถึงผู้ที่ตายแล้วสร้างความเจ็บปวดและความเสียหายขึ้น เธอเป็นพวกมังสวิรัติและบอกกับกัสว่า ‘ฉันอยากลดจำนวนคนตายลง’ เธอมีความกล้าหาญที่น่ายกย่องมาก”
นอกจากการถ่ายทอดลักษณะหลายอย่างในตัวเฮเซลแล้ว วูดลีย์ยังต้องแสดงข้อกำหนดที่เธอมีทางด้านร่างกายออกมาด้วย สิ่งสำคัญที่ติดอยู่กับเธอคือท่อที่สอดเข้าไปในร่างกาย ซึ่งเป็นท่อยืดหยุ่นได้ที่ต่อเข้ากับถังออกซิเจน และการศึกษาข้อมูลของวูดลีย์ก็มีความสำคัญอีกครั้ง “ฉันได้พบกับหลายคนที่ต้องอาศัยออกซิเจน มีคนหนึ่งเล่าว่ามันรู้สึกเหมือนต้องหายใจผ่านหลอด’” เธอกล่าว
ไม่มีคำอธิฐานใดจะเป็นของขัวญที่ดีไปกว่า…”เราจะมีกันและกันไปจนนิรันดร์”
“The Fault in Our Stars – ดาวบันดาล”
24 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น
https://www.facebook.com/FaultinOurStarsThailand