“สร้างไทยให้เป็นไทย ต้องจริงใจและจริงจัง บ้านเมืองจะเรืองพลัง ต้องเพิ่มพลังให้พลเมือง ต้องลดความเหลื่อมล้ำ ต้องเป็นธรรมในทุกเรื่อง ขจัดมารกินบ้านเมือง ไล่มอดแมงพวกแมงโกง..”
นี่เป็นส่วนหนึ่งในเพลง “เพิ่มพลังพลเมือง” ที่ประพันธ์โดย อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เพื่อต้องการปลุกและปลูกจิตสำนึกสังคมให้ตื่นตัวกับการเป็นพลเมือง ซึ่งอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้บอกว่า การเป็นพลเมืองที่มีพลังในสังคมนี้นั้น พลเมืองจะต้องมีอำนาจต่อรองมากขึ้นเพราะ คำว่า พลเมือง แปลว่า คนที่มีกำลังเป็นกำลังของเมือง ส่วน พล หรือ พละ นั้นแปลว่ากำลัง ฉะนั้นกำลังเมืองเป็นส่วนที่ประชาชนที่มีคุณภาพสามารถที่จะพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญ ให้มีความปกติสุขได้ เราต้องเพิ่มกำลัง เพิ่มความสำคัญของประชาชนเป็นหลัก …ทุกวันนี้สังคมให้ความสำคัญกับประชาชนน้อยไป เช่นเดียวกับประชาธิปไตยที่ต้องมีตัวเอกเป็นประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา ประชาขนถูกฉ้อฉลอำนาจ ช่วงชิงอำนาจกัน ประชนชนไม่เคยได้มีบทบาทเลย…
“เพลงเพิ่มพลังพลเมือง” จึงถูกประพันธ์ขึ้นมาและเมื่อได้ แอ๊ด คาราบาว หรือยืนยง โอภากุล มาร้องนั้นเชื่อว่าด้วยพลังที่มีอยู่ในตัวศิลปินเมื่อได้ถูกสื่อสารออกมาเชื่อว่า เมื่อมีคนได้ฟังน่าจะเกิดความน่าสนใจ หันมาตระหนัก สำนึกถึงพลังของพลเมืองหรือพลังของประชาชน ตระหนักสำนึกในอำนาจของตัวเองก็จะสามารถมาดูแลผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเดินไปด้วยกันและเรามีอำนาจต่อรองในทางความเข้มแข็งของประชาชนมากขึ้น” อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เล่า
ด้านแอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล ในฐานะผู้ขับร้อง และเรียบเรียงทำนองเพลง “เพิ่มพลังพลเมือง” บอกว่า ผมท้อแท้แต่จริงๆ แล้วไม่ท้อ เพราะยังมีความหวัง พอได้มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งเพื่อร่วมเป็นพลังพลเมือง ด้วยการร้องและใส่ทำนองให้เพลงที่ อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์เป็นผู้แต่งเนื้อที่เป็นกวี เนื้อหาน่าสนใจ ผมเอาด้วย!! “ผมเอาด้วยกับการเปลี่ยนแปลงให้บ้านเมืองมันดีขึ้น เพราะถ้าขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้มีแต่พวกมอดแมงต่างๆ ที่มันกินบ้านกินเมือง แล้วบ้านเมืองเราจะเป็นอย่างไร ลูกหลานเราจะอยู่กันอย่างไร ถ้าอยากเห็นประชาธิปไตย เราต้องสร้างตั้งแต่วันนี้ เพราะถ้าถึงวันนั้นเมื่อไร ผมเอาด้วย”