“เหตุการณ์ครั้งนั้นบริษัทส่งจดหมายให้ออกจากงานโทษฐานทำให้บริษัทเสียชื่อเสียง พอตกงานก็เริ่มขายของเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้มีรายได้แต่ทำไม่นานก็มีคนจำได้ทำให้รู้สึกอาย ไม่อยากเจอหน้าใคร เริ่มเก็บตัว พี่สาวต้องลาออกจากงานมาดูแลแม่ เงินเก็บที่มีอยู่ใช้จนหมด เลยตัดสินใจสมัครงานใหม่ จนมีบริษัทแห่งหนึ่งตัดสินใจรับเข้าทำงาน แต่แล้วก็เปลี่ยนใจไม่รับเพราะรู้ว่าเราโดนข่มขืน ในวันที่ไม่มีงาน ไม่มีเงินเคยไปขอข้าววัดกิน ขอสังฆทาน แล้วคำถามก็เกิดขึ้นในใจว่าตัวเองจบ ป.โท เงินเดือน 4-5 หมื่นทำไมต้องเจอเรื่องแบบนี้ ตัวเองเคยเป็นอาสามูลนิธิไม่เคยทำร้ายใคร แต่รู้สึกเหมือนโดนสังคมทำร้าย สาเหตุที่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศเพราะเป็นช่วงที่ตัวเองมีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง เอามีดกรีดนิ้วตัวเองแล้วมองเลือดหยดไปเรื่อยๆ กลางคืนก็เดินออกไปนอกบ้านโดยไม่รู้ตัว ทุกคนต้องคอยดูแล หลายอย่างประดังเข้ามาจนรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระให้พี่น้อง เหมือนไม่มีที่ให้อยู่ 13ปีกับชีวิตใหม่ในต่างประเทศแรกๆ ลำบากเพราะไม่รู้ภาษา พยายามหางานทำ สุดท้ายก็ได้ข่าวว่าที่สถานฑูตมีการฝึกอบรมอาชีพฟรี เลยมาเรียนนวดแผนไทย ทำให้กลายเป็นอาชีพจนถึงทุกวันนี้ การนวดช่วยด้านจิตใจทำให้มีสมาธิมากขึ้น
ครั้งที่ทราบข่าวน้องแก้มมันเหมือนเหตุการณ์เมื่อ 13 ปีก่อนย้อนกลับมา รู้สึกแย่มาก ช็อกและหมดสติ พอฟื้นขึ้นมาตัดสินใจพิมพ์จดหมายเปิดผนึกถึง คสช.เพราะต้องการสื่อสารถึงคนไทยว่าถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะทำอะไรสักอย่างเพื่อให้สังคมนี้มีความปลอดภัยมากขึ้น ไม่ต้องคอยระแวงว่า ใคร คือรายต่อไป”
ติดตามชมเรื่องราวที่จะเป็นทั้ง อุทาหรณ์ และ ภาพสะท้อนของสังคม พร้อมแรงบันดาลใจของการใช้ชีวิตตราบใดที่ “หัวใจยังเต้น” ของผุ้หญิงคนนี้ได้…ในรายการ “เจาะใจ” วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม เวลา 22.25 น. ทางททบ.5 พร้อมอัพเดทความเคลื่อนไหวของรายการได้ที่ www.facebook.com/Johjai และ http://www.johjai1991.com