การศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand: ENZ) ระบุ จำนวนนักเรียนไทยที่เลือกศึกษาต่อและเรียนภาษาอังกฤษในประเทศนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในงานนิทรรศการการศึกษาต่อนิวซีแลนด์ซึ่งจัดขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้ กรานท์ แมคเฟอร์สัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของการศึกษานิวซีแลนด์ กล่าวว่า นักเรียนไทยที่ยื่นขอวีซ่านักเรียนครั้งแรกเพื่อไปศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์ ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2557 (มกราคม – กรกฎาคม) มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายแมคเฟอร์สันกล่าวว่า “การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักเรียนไทยที่สนใจไปศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การเสริมทักษะภาษาอังกฤษก่อนการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษายังช่วยให้นักเรียนประสบความสำเร็จในการเรียนและการประกอบอาชีพในอนาคตอีกด้วย”
รูเบน เลฟเวอร์มอร์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ไทยและนิวซีแลนด์มีความสัมพันธ์ด้านการศึกษาอย่างแน่นแฟ้น โดยจำนวนนักศึกษาไทยที่ศึกษาต่อในนิวซีแลนด์มีจำนวนมากที่สุดเมื่อเทียบกับนักศึกษาจากประเทศอื่นๆ ในอาเซียน และในปีหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างนิวซีแลนด์กับอาเซียนจะครบรอบ 40 ปี เรามีแผนจะจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย เพื่อเฉลิมฉลองวาระพิเศษนี้”
ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2557 นักเรียนไทยร้อยละ 48 ที่เดินทางมาศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์เป็นครั้งแรกได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนในสถาบันการศึกษาเอกชน ซึ่งหลายแห่งเปิดสอนภาษาอังกฤษด้วย ส่วนอีกร้อยละ 38 ของนักเรียนไทยรายใหม่ได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยม และส่วนที่เหลือได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัย (ร้อยละ 11) และวิทยาลัยโปลีเทคนิค (ร้อยละ 3)
นายแมคเฟอร์สันกล่าวเสริมว่า “การศึกษานิวซีแลนด์ยินดีและพร้อมต้อนรับนักเรียนไทยกว่า 3,000 คนที่จะเข้าศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์ในปีนี้ ด้วยระบบการศึกษาที่เน้นสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ ที่สำคัญ นิวซีแลนด์ยังเป็นประเทศแรกในโลกที่มีนโยบายดูแลสวัสดิภาพของนักเรียนต่างชาติ (Code of Pastoral Care) ซึ่งทุกสถาบันต้องลงนามและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเมื่อรับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียน”
“ระบบการศึกษาของนิวซีแลนด์มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับโลก ผมจึงอยากประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนไทยเลือกสถาบันการศึกษาในนิวซีแลนด์เป็นจุดหมายในการศึกษาต่อมากขึ้น มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ของนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับใน 2014 QS World University Rankings Top-550 และหลักสูตรระดับมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งของนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับใน Top-50 QS Subject เช่น หลักสูตรวิศวกรรมโยธาและโครงสร้างของมหาวิทยาลัยแคนเทอร์เบอรี่ (Canterbury University) อยู่ในอันดับที่สูงกว่าหลักสูตรเดียวกันของมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลกอย่างออกซ์ฟอร์ด (Oxford) คอร์เนล (Cornell) หรือโมนาช (Monash)” นายแมคเฟอร์สันกล่าวปิดท้าย
การศึกษานิวซีแลนด์ตั้งเป้าจะดึงดูดนักศึกษาจากอาเซียน รวมถึงนักศึกษาไทย ให้เข้าศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์มากขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2560 ผู้สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอกาสทางการศึกษาต่อในประเทศนิวซีแลนด์ได้ที่ http://www.studyinnewzealand.com/fair/thailand/