คอลัมน์ คุยกับดาว
เรื่อง – อนันต์ ธัญญ์รัตน์
ไม่ใช่เฉพาะคู่ขวัญพระนางเท่านั้นที่จะถูกใจผู้คน แต่ด้วยเคมีที่เข้ากันของคู่ซี๊พี่น้อง อย่าง “ไวท์-ณวัชร์ พุ่มโพธิ์งาม” และ “กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง” ก็ติดโผคู่แซบขวัญใจแฟนๆ จนได้ฉายาว่า “คู่จิ้นห้างแตก” ที่ไม่ว่าจะขยับตัวไปไหนหรือทำอะไรก็ต้องมีแฟนคลับนับร้อยชีวิตตามแห่แหนให้กำลังใจอย่างล้นหลาม ซึ่งการจับเข่าคุยในบทสัมภาษณ์นี้ “คุยกับดาว” คอนเฟิร์มว่าคู่นี้ซี๊ย่ำปึ้กกันแน่นอน
ไม่ใช่ครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือนที่ผมรู้สึกตัวเล็ก เป็นความรู้สึกเล็กจ้อยที่คับคั่งไปด้วยความรู้สึกที่แน่นอกอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้เคลื่อนตัวเองมายืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มแฟนคลับขนาดใหญ่ของพวกเขาสองคน ผมกับไวท์และกัปตันเปรียบเสมือนญาติห่างๆ ที่นานๆ จะโคจรมาพบกัน แม้จะเคยได้ยินกิตติศัพท์ว่าเป็นคู่จิ้นชาย-ชาย ที่หนุ่มสาวน้อยใหญ่ต่างพากันคลั่งไคล้มากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ แต่ผมก็ไม่ค่อยได้ให้โอกาสตัวเองมาพบเจอพวกเขาสองคนสักเท่าไหร่
“เจอกันครั้งแรกเป็นการที่ไปแคสติ้งครั้งที่ 3 พี่เค้าให้ลองถ่ายรูปคู่กันดูครับ ก็รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอพี่ไวท์ครั้งแรก ก็มีกลัวๆ นิดหน่อย” กัปตันพูดถึงความรู้สึกครั้งแรกที่เจอหน้าไวท์ “ไม่รู้จะกลัวอะไรนักหนา ไม่ต้องกลัวหรอก” ไวท์รีบเสริม
ตั้งแต่พวกเขาก้าวมายืนข้างๆ ผมในตอนนี้ ผมก็รับรู้ได้ถึงอะไรหลายอย่างเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความน่ารัก ขี้เล่น รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความสดใสที่พวกเขาพกมาอย่างเต็มเปี่ยม แม้ไวท์และกัปตันจะมีสิ่งเหล่านั้น แต่สองหนุ่มบอกกับผมว่าพวกเขามีฉายาที่แตกต่างกันออกไป
“ผมจะเรียกว่า กัป เฉยๆ เพราะชื่อกัปตันมันยาว” “ผมก็จะเรียกว่าพี่ไวท์เฉยๆ ครับ พี่ไวท์ปกตินี่แหล่ะ (หัวเราะ)”
กัปตันยิ้มร่าตลอดเวลาการสนทนา แม้เขาจะยังพูดไม่ค่อยชัด แต่รอยยิ้มที่ส่งมาให้อย่างเป็นกันเองบวกกับความทะเล้นและลูกอ้อนที่หยอดมาเป็นระยะ ช่วยเปลี่ยนรูปลักษณ์จากวัยรุ่นชายวัย16ปี เป็นหนุ่มน้อยวัยเยาว์ที่น่าทะนุถนอมเสียนี่กระไร ไม่แปลกใจเลยถ้าชายหนุ่มมาดคุณชายอย่างไวท์จะเอ็นดูน้องชายคนนี้
“กัปตันเป็นคนนิสัยดี รักสุขภาพ เป็นน้องที่โอเคเลยครับ” “พี่ไวท์ก็เป็นคนน่ารักมากๆ ครับ ถ้าได้สนิทกัน อยู่ด้วยกันบ่อยๆ จะรู้ว่าเป็นคนที่น่ารัก รักน้อง ช่วยเหลือน้องตลอดครับ”
“ไม่เคยโกรธกันนะครับ เพราะเรารักกัน (หัวเราะ)” กัปตันเปรยขึ้นมา ในขณะที่เรากำลังสนทนากันในเรื่องทั่วๆ ไป ไวท์ส่งยิ้มน้อยๆ แทนคำตอบกลับไป ในขณะที่หัวสมองผมก็ขบคิดว่าภาษากายที่ผมเห็นเมื่อสักครู่นี้คืออะไร ผมคงไม่สามารถหาคำตอบได้ แต่ผมรู้สึกได้ว่าคงมีแต่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้
การฟังพวกเขาหยอกกันไปมา ด้วยบทสนทนาที่สร้างจินตนาการได้เหลือคณานับ และอากัปกิริยาที่ทั้งสองแสดงออกมาให้เห็นเหล่านั้น ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังโลดแล่นไปอยู่ในฉากที่พวกเขาเล่นด้วยกันในละครซีรีส์ สร้างความรู้สึกคล้ายกับการเป็นปลาทองตัวน้อยที่เวียนว่ายอยู่ในโถแก้วใบใหญ่ เป็นความเพลิดเพลินที่ประหลาดล้ำ แต่ผมต้องหยุดความคิดเหล่านั้นลงเสียก่อน เมื่อทราบว่าทั้งสองคนเคยนอนร่วมเตียงเดียวกันมาแล้ว ถ้าจะไม่ถามถึงภารกิจบนเตียงของกันและกันก็คงจะผิดแปลกไปเสียหน่อย เพราะเชื่อว่าบรรดาเหล่าปลาทองทั้งหลายคงรอฟังคำตอบนี้อยู่
ไวท์ “กัปตันหลับก่อนตลอดครับ”
กัปตัน “พี่ไวท์ชอบนอนถอดเสื้อ ใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียว เดินเพ่นพ่านอยู่ในห้อง (หัวเราะ)”
ไวท์ “กัปตันก็อาบน้ำไม่ล็อคห้องน้ำด้วยครับ”
กัปตัน “ก็มันล็อคไม่ได้อ่ะ (หัวเราะ)”
พวกเขาไม่มีท่าทีเขินอายแต่อย่างใด ความเขินหาใช่สาระสำคัญในตอนนี้ ท่ามกลางเสียงหัวเราะของกัปตัน บอกเป็นนัยว่าเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย ซึ่งทำให้ผมสะดวกใจที่จะค้นตัวตนของพวกเขาต่อไป
ไวท์ “กัปตันตื่นก่อนทุกครั้งเลยครับ เพราะผมจะบอกให้กัปตันตื่นก่อน น้องก็จะตื่นไปอาบน้ำ (หัวเราะ)”
กัปตัน “แต่พี่ไวท์ไม่ยอมตื่น กอดเตียงแน่นเลย ต้องให้ปลุกตลอด (หัวเราะ)”
ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองคนเดียวหรือเปล่า แต่เมื่อไวท์และกัปตันมาอยู่เคียงข้างกัน ความเป็นคู่ของพวกเขาชัดเจนมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาเสียอีก ไวท์ไม่ใช่ส่วนเกิน กัปตันไม่ใช่ส่วนเหลือ แต่พวกเขาทั้งสองต่างคือส่วนเสริมซึ่งกันและกัน เหมือนจิ๊กซอว์ที่ต่อจนครบสมบูรณ์ทำให้ภาพงดงามยิ่งขึ้น
“ก็เป็นเพราะว่าละครเรื่องนี้เป็นละครที่ทุกคนตั้งใจเล่น ทำให้ผลงานออกมาดีครับ คนถึงชอบกันครับ” ไวท์เล่า “ก็ต้องขอบคุณพี่เห็ดผู้แต่งนิยาย ที่ทำให้คู่จิ้นในตำนานได้มาอยู่ตรงนี้ และก็ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่คอยสนับสนุนกันอยู่ตลอดครับ” กัปตันเสริมต่อ
ณ ตอนนี้ภาพที่เห็นอาจจะยังไม่ใช่สิ่งที่เป็นอยู่ แต่สิ่งที่พวกเขาคอยพร่ำบอกอยู่เสมอก็คือ เวลา เพื่อให้กายใจได้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นและเป็นเครื่องพิสูจน์ความสัมพันธ์ของพวกเขา
“ก็ต้องรอดูกันไปก่อน อยากให้ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบ (หัวเราะ)” กัปตันกล่าว
ท่ามกลางความสับสนและไม่มั่นใจในอนาคตของทั้งคู่ ความหลงใหลอันร้อนแรงและหอมหวานของแฟนคลับที่คอยผลักให้ทั้งสองก้าวข้ามสายสัมพันธ์บางๆ ที่เรียกว่าพี่น้อง ณ ตรงจุดนี้ผมเริ่มอยากรู้เสียแล้วว่าพวกเขาทั้งสองจะมีอะไรอยากเม้าท์ถึงกันไหม
“ไม่มีนะ” ไวท์นิ่งนาน “พี่ไวท์เป็นคนอ่อนไหวง่ายครับ จากพ่อแม่นิดหน่อยก็น้ำตาไหลพรากแล้วฮะ (หัวเราะ)” กัปตันเสริม
หลังจากที่การสนทนาเดินทางมาได้พักใหญ่ผมสังเกตเห็นใบหน้าของไวท์ที่ค่อนข้างอิดโรยลงไปบ้างแล้ว แต่ความร่าเริงของกัปตันไม่ได้ลดลงไปจากเดิมเลย แถมดูจะมากขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำไป อะไรที่ทำให้เขาสดใสได้มากมายถึงเพียงนี้ คำตอบนับไม่ถ้วนต่างทะยอยผุดขึ้นในความคิดของผมราวกับดอกเห็ด แต่ความคิดของผมต้องหยุดชะงักลงเพราะเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน ไวท์ที่แลดูอิดโรยหายไปจากสายตาของผมเสียแล้ว เหลือแต่ไวท์ที่ตอนนี้กลับมาสดใสดังเดิมหลังจากที่โดนกัปตันป้อนลูกหยอกใส่ ราวกับแสงตะวันที่สาดส่องเข้ามาท่ามกลางหมู่ไม้ที่เริ่มแห้งเหี่ยว หรือจะเป็นเพราะเสน่ห์ของกัปตันที่ช่วยเยียวยาจิตใจของไวท์กันนะ
“ผมชอบพี่ไวท์ตรงที่พี่เขาคอยให้คำแนะนำ เหมือนมีความเป็นผู้ใหญ่มากๆ คอยให้คำแนะนำน้องคนนี้อยู่ตลอดเลย” “เวลากัปตันมีปัญหาอะไรก็จะมาปรึกษาผม เราเป็นผู้ใหญ่ก็เลยให้แต่สิ่งที่ดีกับน้องครับ”
ความคิดของผมล่องลอยไป ภาพอบอุ่นของพวกเขาสองคนหวนขึ้นมาปะติดปะต่อกัน โดยที่ผมไม่อาจล่วงรู้เลยว่า กาลเวลาข้างหน้า ภาพในอนาคตของพวกเขาสองคนก็ยังคงอวลอุ่นเช่นเดียวกับวันนี้ที่กำลังจะผ่านพ้นไปหรือไม่ ผมอยากให้พวกเขายังคงจำความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กันในวันนี้ แต่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าขอได้อยากขออะไรอีกฝ่าย
“ขอให้เป็นน้องที่น่ารักอย่างนี้ตลอดไปนะ” แล้วกัปตันล่ะ? ผมถามต่อ “ขอให้เป็นพี่ที่ดูแลน้องคนนี้ คอยให้กำลังใจน้อง และอยู่เคียงข้างน้องไปตลอดครับ”
กัปตันทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มที่มีความหมายเกินคำพูดของเขา รอยยิ้มนั้นผมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของเขาที่มีต่อไวท์ จนผมเริ่มจะสัมผัสได้กับความรู้สึกที่เรียกว่า “อ่อย”
ติดตามชมเรื่องราวอัพเดทของศิลปินได้ที่ คอลัมน์: คุยกับดาว น้องๆ คนไหนที่อยากอัพเดทเรื่องราวของศิลปินดาราสุดที่รักของคุณแบบนี้ ส่งมาได้ที่ startalk@prsociety.net หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.prsociety.net และ www.facebook.com/PRSocietyNews