ข้ามฟ้าไปตะลุยถ่ายทำถึงอินเดียทั้งที ผู้กำกับ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” เลยขอปั้น “กุ๊ดดู กุมาร” เด็กอินเดียเป็นดาราหน้าใหม่แสดงนำใน “ปัญญาเรณู 3 ตอน รูปูรูปี” ซะเลยโดยทีมงานได้ลงพื้นที่ค้นหานักแสดงตามโรงเรียนต่างๆ กว่าสิบที่ในเมืองคยา และแคสติ้งเด็กอินเดียนับร้อยคน ซึ่งเด็กชายกุ๊ดดูโดดเด่นมาในมาดหวีผมเรียบแปล้ พร้อมส่งยิ้มกับสายตาหวานๆ อยู่ตลอดเวลา และเป็นเด็กคนเดียวที่กล้าแสดงออกมามากที่สุด ทีมงานให้ทำอะไรก็ทำ ไม่ว่าจะร้อง เล่น หรือเต้นรำ
“กุ๊ดดู กุมาร” เด็กชายชาวอินเดียวัย 11 ปี เรียนอยู่ที่โรงเรียน Panchashile Rublie ตั้งอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในเมืองคยา รัฐพิหาร ซึ่งเมืองนี้มีประชากรกว่า 100 ล้านคน โรงเรียนของกุ๊ดดู เป็นอาคารชั้นเดียวบริเวณโดยรอบร่มรื่นและเย็นสบาย มีห้องเรียนห้องเดียวไม่ใหญ่มากมายอะไร โรงเรียนมีนักเรียนอยู่ประมาณ 30-40 คน เด็กๆ เรียนรวมกันทั้งชายหญิง ส่วนบ้านของกุ๊ดดูอาศัยอยู่ร่วมกัน 5 คนคือ พ่อ แม่ พี่สาว และพี่ชายเป็นบ้านหลังเล็ก แต่ก็ดูดีกว่าอีกหลายหลังในหมูบ้านนั้น ลักษณะโดยทั่วไปของหมู่บ้านก็คล้ายหมู่บ้านตามชนบทของประเทศไทย บ้านของกุ๊ดดูอยู่ในฐานะปานกลาง ข้างในบ้านอยู่อย่างสบายๆ ไม่มีการตกแต่งอะไรมากนัก ทางเดินในบ้านเป็นซอกซอย แบ่งเป็นห้องๆ ห้องแรกที่เจอก็คือห้องครัว ห้องน้ำอยู่ด้านหน้าของตัวบ้าน ด้านหน้าไม่มีหลังคา ด้านในสุดของตัวบ้านเป็นห้องนอนมีหลังคาข้างในเย็นสบาย บ้านกุ๊ดดูแตกต่างจากบ้านหลังอื่นๆ คือมีห้องน้ำในบ้านและไม่เลี้ยงวัวในบ้าน ซึ่งคนอินเดียส่วนใหญ่จะเลี้ยงวัวไว้ในบ้าน และถ่ายหนักถ่ายเบากันกลางทุ่ง การตกแต่งทั้งหมดคุณพ่อกับคุณแม่ช่วยกัน ไม่มีห้องเป็นส่วนตัวทุกคนนอนรวมกัน ดูเป็นครอบครัวอบอุ่นและน่ารักครอบครัวหนึ่ง
ผู้กำกับฯ บิณฑ์ เผยว่า
“หลังจากที่ได้ร่วมงานกับ ‘กุ๊ดดู กุมาร’ เค้าเป็นเด็กที่แตกต่างจากเด็กอินเดียทั่วๆ ไปที่เคยเห็น เพราะเด็กอินเดียส่วนใหญ่ถ้าเจอคนต่างชาติ ก็มักจะแบมือขอเงินเรียกว่าคลานได้ก็ขอตังค์เป็นแล้ว (เมืองคยา เป็นเมืองหนึ่งที่กันดาร และจนมากในประเทศอินเดีย) คนอินเดียไม่ได้สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษกันทุกคน คนส่วนใหญ่มักสื่อสารด้วยภาษาอินเดีย แต่กุ๊ดดูเค้าสื่อสารกับทางทีมงานด้วยภาษาอังกฤษ ซึ่งก็บ่งบอกให้รู้ว่าเค้าได้รับการศึกษา และได้รับการอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่ และครู กับเพื่อนๆ นักแสดงเด็กไทย กุ๊ดดูก็จะใช้ภาษากาย ถึงจะรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่พวกเค้าก็สนิทกันเล่นกันได้โดยไม่ต้องใช้คำพูด ด้วยความที่กุ๊ดดูเป็นเด็กฉลาดและมีน้ำใจ เค้าจะรู้ว่าต้องคอยช่วยเหลือดูแลเพื่อนๆ เด็กไทยจากพวกแขกมุง การมาถ่ายทำครั้งนี้ทำให้เด็กๆ รู้ว่าถึงจะแตกต่างกันคนละภาษาแต่ก็เป็นเพื่อนกันได้ มันคือเรื่องจริงและชีวิตจริงที่เด็กๆ ได้สัมผัสและผมต้องการถ่ายทอดให้ผู้ชมได้เห็นกันครับ”
ติดตามชมมิตรภาพของเด็กๆ ที่แตกต่างกันทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรม และภาษา ได้ใน “ปัญญาเรณู 3 ตอน รูปูรูปี” ผลงานโกอินเตอร์สู่แดนภารตะของ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” พร้อมออกผจญภัย ต้อนรับปิดเทอมใหญ่ 7 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์