เพราะความสำเร็จของ The Father อีกทั้งชื่อเสียงที่สั่งสมไว้จากวงการละครเวที ทำให้นักแสดงหลายคนอยากร่วมงานกับ ฟลอเรียน เซลเลอร์ นักเขียนบทและผู้กำกับชาวฝรั่งเศสผู้นี้ นั่นจึงเป็นเหตุให้ The Son งานชิ้นใหม่ของเขา กวาดเอานักแสดงฝีมือจัดจ้านมาประชันบทบาทกันมากมาย ลอรา เดิร์น นักแสดงรางวัลออสการ์ ที่มารับบทเด่นใน The Son เล่าว่า “บทเรื่องนี้ได้เปิดเผยแง่มุมของชีวิตในแบบที่แทบไม่เคยเจอจากเรื่องไหนมาก่อน บทบาทนี้จึงเป็นเหมือนของขวัญชิ้นงามสำหรับนักแสดงอย่างฉัน ฉันตื่นเต้นและหวาดกลัวที่จะได้เล่นบทนี้” เดิร์น ต้องเล่นบทแม่ที่ไม่รู้จะรับมือกับลูกชายวัยรุ่นของตัวเองอย่างไรดี เมื่อเด็กหนุ่มเกิดความคิดว่า “ไม่อยากทำอะไรเลยในชีวิต” เธอจึงต้องบากหน้ากลับไปหาอดีตสามี (ที่รับบทโดย ฮิว แจ็กแมน) เพื่อขอความช่วยเหลือ นั่นคือจุดเริ่มเรื่องของ The Son ฮิว แจ็กแมน เป็นตัวแสดงหลักของเรื่อง เขาเป็นคนอีเมลไปหาเซลเลอร์เอง เพื่อเสนอตัวมารับบทนำ “ผมต้องการเล่นบทที่ท้าทายนี้มากๆ ผมคิดว่าบทหนังเรื่องนี้ท้าทายการรับรู้ของพวกเราทุกคน มันเป็นประเด็นที่ใหม่และมนุษย์เรายังไม่แน่ใจว่าควรรับมืออย่างไร ผมจึงอยากมีส่วนร่วมกับงานชิ้นนี้ เพราะอยากเข้าไปสำรวจและสร้างการพูดคุยไปพร้อมกับผู้ชม” ทางด้าน วาเนสซา เคอร์บี นักแสดงหญิงที่เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว และฟลอเรียน เซลเลอร์ยกย่องว่า “เป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงชาวอังกฤษที่เก่งที่สุดในปัจจุบัน” เคอร์บีบอกว่า เธอตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้มาอยู่ในหนังเรื่อง The Son “มันเป็นบทที่ท้าทายและซับซ้อน บทของฉันคือแม่มือใหม่ เธอต้องรับมือกับการเลี้ยงลูก แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ต้องจัดการกับลูกติดของสามี ซึ่งกำลังเป็นวัยรุ่นและเข้ากับเธอไม่ได้เลย”  เคอร์บีทำให้บทสมทบนี้โดดเด่นอย่างมากจนนักวิจารณ์พากันชมเปาะหลังจากรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลหนังเวนิซ รวมถึงนักแสดงสมทบรุ่นใหญ่อีกคนที่กลายมาเป็นขวัญใจผู้ชม แม้จะออกมาเพียงไม่กี่นาที นั่นก็คือ แอนโธนี ฮอปกินส์  ฟลอเรียน เซลเลอร์บอกว่า เขาตั้งใจส่งบทไปเพื่อขอความเห็นจากฮอปกินส์ แต่ไม่นึกมาก่อนว่า ฮอปกินส์จะมาเล่นด้วย “ผมโล่งใจที่สุดท้ายแอนโธนีมารับบทสมทบนี้ เขาทำให้งานของผมง่ายขึ้นมากเลย” The Son ประสบความสำเร็จอย่างสูงตอนเป็นละครเวที สร้างปรากฏการณ์ “ละครจบ-คนไม่จบ” จนฮือฮา และฉบับภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉายก็คงได้รับปฏิกิริยาคล้ายๆ กัน   เตรียมรับชมการแสดงแบบจัดเต็ม ดราม่าแบบเข้มข้น และประเด็นอ่อนไหวที่จะกระชากใจทุกคนได้ใน The Son เริ่ม 26 มกราคมนี้เป็นต้นไป ที่โรงภาพยนตร์ House สามย่านเท่านั้น โรงภาพยนตร์ House สามย่าน ตั้งอยู่ชั้น 5 สามย่านมิตรทาวน์ (แยกสามย่าน) เดินทางง่ายๆ ด้วยรถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีสามย่าน ติดตามรอบฉายด้วยการโหลดแอปพลิเคชัน House Cinema หรือทางเพจเฟซบุ๊ก facebook.com/HouseSamyan หรือทางเว็บไซต์ housesamyan.com 

อิซาแบลล์ อูแปร์ ไปร่วมงานฉายหนัง The Son ในกรุงปารีส ซึ่งบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ของที่นั่นจัดฉายให้สมาชิกผู้มีสิทธิลงคะแนนโหวตออสการ์ (ที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส) ได้ดู ข่าวเล่าว่า หนังเรื่องนี้ทำให้นักแสดงสาวรุ่นใหญ่อย่างอูแปร์ตะลึงงันเลยทีเดียว “ฮิว แจ็กแมนยอดเยี่ยมมากจริงๆ” อูแปร์ให้ความเห็น “หนังเรื่องนี้อาจจะชื่อว่า The Son แต่คนดูได้เห็นความเปลี่ยนแปลงภายในจิตใจของตัวละครของพ่ออย่างละเอียดและน่าสะพรึงกลัวมาก ยอดเยี่ยมมากๆ” อิซาแบลล์ อูแปร์ เคยร่วมงานกับผู้กำกับ ฟลอเรียน เซลเลอร์มาก่อน ในละครเวทีเรื่อง The Mother ซึ่งออกแสดงในนิวยอร์กเมื่อปี 2019 เธอเล่าว่า บทของเซลเลอร์นั้นโดดเด่นมากอยู่แล้ว แต่แจ็กแมนทำให้ The Son ยิ่งทรงพลังขึ้นไปอีก “ฟลอเรียนเป็นอัจฉริยะสำหรับฉัน เขามักจะเขียนบทที่มาจากเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน เรื่องที่ทุกคนเข้าใจได้ แล้วก็ขุดลึกไปยังก้นบึ้งของความรู้สึกนั้นได้อย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย” อูแปร์ยังชมอีกว่า “บทของพ่อก็ไม่ต่างจากลูกชายของเขาสักเท่าไหร่ ฮิว แจ็กแมนทำให้รู้สึกว่า ตัวพ่อเองก็ไร้ทางออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่เขาเล่นกับแอนโธนี ฮอปกินส์นั้น การแสดงของเขาแข็งแรงมากจนทำให้คนดูสามารถเชื่อมโยงได้ว่า เกิดอะไรขึ้นในอดีต และมันส่งผลต่อปัจจุบัน รวมถึงอนาคตอย่างไร” ฟลอเรียน เซลเลอร์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ตอนแรกเขาไม่ได้นึกถึงฮิว แจ็กแมนเลย และเป็นแจ็กแมนเองด้วยซ้ำที่เป็นคนอีเมลมาเสนอตัวเล่นบทนี้ หลังจากนัดคุยกัน เซลเลอร์ก็ตัดสินใจเลือกแจ็กแมนมาเล่นบทพ่อใน The Son “ผมสัมผัสบางอย่างในตัวเขาได้ เขาเข้าอกเข้าใจบทและตัวละครตัวนี้โดยที่ผมแทบไม่ต้องอธิบายเลย” แน่นอน อิซาแบลล์ อูแปร์ เคยดูละครเวที The Son มาแล้ว (และรู้เรื่องราวทั้งหมด) “แต่ฉบับภาพยนตร์ก็ยังสะเทือนใจมาก และชวนหวาดหวั่นยิ่งกว่าเดิม เพราะมันชวนให้นึกย้อนมาถึงตัวเราเอง” The Son ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในแง่บวกและแง่ลบถึงประเด็นที่ค่อนข้างอ่อนไหวทั้งเรื่องโรคซึมเศร้า และปัญหาการทำร้ายตัวเองในวัยรุ่น โดยหนังนำเสนออย่างตรงไปตรงมา ไม่ปลอบประโลม เพื่อต้องการสร้างบทสนทนาขึ้นในสังคมอย่างจริงจัง The Son จะเข้าฉายที่โรงภาพยนตร์ House สามย่านตั้งแต่ 26 มกราคมนี้เป็นต้นไป คอหนังที่ต้องการสัมผัสหนังดราม่าเข้มๆ ไม่ควรพลาด